ศาสนาพุทธ ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ครับ

ตามหัวข้อนะครับ จากที่ฟังครูอาจาร์สอนแต่ละเรื่อง วิธีการปฏิบัติที่หลากหลายไม่เหมือนกัน ทำไมครูอาจารย์แต่ละท่านถึงสอนไม่เหมือนกันละครับ ทั้งๆที่เป็นเรื่องเดียวกันแท้ๆ หรือเรื่องที่น่าจะต้องเหมือนกันแท้ๆ ทำไมแต่ละท่านสอนไม่เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างนะครับ
       จีวรพระ : ทำไมสีไม่เหมือนกันครับ ทั้งๆที่สีไม่น่าจะต่างกันขนาดนั้น แต่ที่เห็นๆ สีแตกต่างกันมากครับ มีหลากหลายสีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล ที่แปลกสุดๆ คือสีดำครับ และตัวอย่างอีกเรื่องคือ
       การนั่งสมาธิครับ : ตรูอาจารย์บางท่านบอกให้ท่อง พุทโธ บางท่านก็บอกให้ท่องยุบพอง บ้าง ทำไมแตกต่างกันเช่นนี้ครับ

ผมมานั่งๆคิดดูนะครับ ทั้งๆที่ศาสนาพุทธ มีศาสดาคนเดียวก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ทำไมลูกศิษย์ของท่านสอนไม่เหมือนกันละครับ หรือพระพุทธเจ้าพูดแต่ละครั้งไม่เหมือนกันหรอครับ หรือยังไงครับ ผมสับสนไปหมดแล้วครับ ยิ่งคนละประเทศกันยิ่งคนละคำสอนเข้าไปใหญ่ครับ อีกอย่างนะครับ ทำไมถึงมีหลายนิกายครับ นิกายมีแยกออกมาได้ยังไงครับ ทั้งๆที่พระพุทธเจ้ามีแค่องค์เดียวครับ

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยนะครับ
*************************************************************************************************************************************************************

และขอต่อครับ เป็นคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติครับ 
คือการนั่งสมาธิของผมจะนั้งคิดเรื่องธรรมมะครับ ส่วนมากจะคิดแค่เรื่องความไม่เที่ยง กับความไม่มีตัวตนครับ และเอาไปจับกับเรื่องอื่นๆ เช่น ขันธ์5ไม่เที่ยง ขันธ์ 5 ไม่ใช่ของเรา พอคิดเสร็จก็จะรู้สึกว่าตัวเองเห็นจริงตามนั้น แล้วก็จะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่คิดจบ แล้วก็นั่งสาธิรู้ลมหายใจ(ตอนนี้ไม่ได้ท่องอะไรครับ เพราะเคยลองท่องหลายๆอย่างแล้ว มีจังหวะนึงที่รู้สึกว่าตัวเองนิ่งแล้ว แล้วลืมท่องก็รู้ตัวกล่ับมาท่อง หลังจากนั้นตัวเองไม่นิ่งเลย ผมก็เลยรู้แค่ลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวครับ ปล่อยให้ร่างกายมันทำงานไป ไม่ต้องไปบังคับมัน) ทำแบบนี้ทำถูกไหมครับ หรือแบบนี้เป็นการคิดฟุ้งซ่านหรือป่าวครับ 

และผมเอาเรื่องไม่มีตัวตนไปจับกับการให้ทาน เริ่มแรกที่คิดนะครับ คือไปเห็นข่าวๆนึงเกี่ยวกับขอทานที่เอาเงินที่ัตัวเองขอทานไปกินเหล้าครับ จากนั้นคนที่ให้ทานก็รู้สึกโกรธ ทำร้ายร่างกายขอทานคนนั้นครับ แล้วผมก็มานั่งคิดว่าเพราะเรายึดถือในการให้ทานเราเลยรู้สึกไม่พอใจกับขอทานคนนั้น ผมแล้วก็นั่งคิดไปอีกว่าแล้วให้ทานแบบไหนละที่เราไม่ยึดถือในทาน จนได้ออกมาว่าให้ทานก็แค่ให้ๆไปให้แล้วมึความสุขใจครับ แต่ก็คิดๆๆต่อไปอีกว่าถ้าให้ไปแล้วไม่มีความสุขละ แล้วอะไรที่เรียกว่าให้แบบไม่ยึดถือ ก็คิดไปคิดมาจนคิดได้ว่าเราจะให้ทานเพราะคิดว่าทานนี้ไม่ใช่ของเราจะแบ่งทรัพหรือท่านนี้ให้ท่านทั้งหลายโดยไม่มีความเบียดเบียนตน แบบนี้ถูกไหมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่