สวัสดีค่ะ รบกวนปรึกษาท่านผู้รู้ค่ะ
เนื่องจากเราสมัครฟิตเนสรายเดือนไว้ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งแถวคอนโด
โดยปกติแล้วหากตัดด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่าย 2,300 บาท
แต่เราไม่มีบัตรเครดิต เลยต้องใช้วิธีชำระหน้าเคาเตอร์ด้วยเงินสดหรือโอนจ่าย จำนวน 2,500 บาททุกเดือน ซึ่งแพงกว่าเพราะเซลล์ให้เหตุผลว่า
เพราะเราไม่มีหลักประกัน เลยต้องชาร์ตเพิ่มอีก 200 ซึ่งเราก็โอเค จ่ายตรงเวลามาตลอด 4 เดือน
แต่เมื่อเดือนธันวาคม 2020 เราไม่ได้เล่นเลย เพราะย้ายที่อยู่ บวกกับช่วงนี้มีโควิทระบาดอีกระรอก 2
ทำให้เมื่อต้นปี 2021 ฟิตเนสปิดทำการไป จนมาเปิดอีกที 1-2 เดือนให้หลัง
แล้วเราก็ไม่ได้ไปเล่นอีกเลย และไม่ได้จ่ายรายเดือนตั้งแต่รอบเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
จนกระทั่งมีพนักงานโทรทวงหนี้ค่ะ บอกว่าเราไม่ได้จ่ายมา 3 เดือน เป็นยอด 7,500
และไม่ได้แจ้ง Drop off ด้วย ซึ่งจะมีค่า Drop off เดือนละ 500 บาท
เขาก็คำนวนมาเสร็จสรรพเป็นยอด 8,500 ที่จะต้องจ่ายทั้งหมด
แต่ทีนี้เราแจ้งไปว่า เราไม่ทราบว่าจะต้องแจ้ง Drop off เพื่อยุติการจ่ายรายเดือนชั่วคราวสองเดือน
เพราะครั้งแรกที่มีคนโทรมาแจ้งเมื่อเดือนก่อนเขาก็ไม่ได้บอกอะไรเลยค่ะ
และยอด 8,500 เราไม่สะดวกจ่ายแน่ๆ
เขาเลยแนะนำมาว่า หลังจากนี้ คุณลูกค้ามาจ่ายรายเดือนตามปกติ 2,500 แล้วก็ทยอยจ่ายที่ค้างชำระเดือนละ 1,000 ก็ได้
นั่นเท่ากับว่าเราจะต้องรายเดือน 3,500 ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
แต่ประเด็นคือ เราไม่ได้ไปเล่นแล้วค่ะ
1. เพราะงานยุ่ง
2. ย้ายที่อยู่ด้วย ทำให้ไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนที่อยู่ตรงข้ามกับฟิตเนสเลย
ทีนี้เมื่อวันก่อน เราเลยทำตามคำแนะนำของพนักงานคือจ่ายเงิน 3,500 ไปให้บริษัทเพื่อทำการยุติการใช้ชั่วคราวค่ะ
(เป็นค่าบริการ 1 เดือน + DropOff 1,000)
แต่ก็ยังเหลืออีก 7,500 ที่ค้างจ่ายอยู่
อยากถามว่า เราควรจะทำยังไงดีคะ ในเคสนี้เราจะโดนฟ้องหรือเปล่า
หรือเราจะมีประวัติเสียที่ไหนหรือเปล่าหากไม่จ่ายเลย รบกวนด้วยค่ะ
ปล. เคยสอบถามไปแล้วว่าถ้าเปลี่ยนมาเป็นสัญญา 6 เดือน เราต้องจ่ายเดือนละ 2,900 แทน ซึ่งแพงมากค่ะเลยคิดว่าไม่โอเค
ไม่ได้จ่ายฟิตเนสรายเดือนเพราะไม่ได้ไปเล่นเลยตั้งแต่ก่อนปิดโควิทรอบ 2
เนื่องจากเราสมัครฟิตเนสรายเดือนไว้ที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งแถวคอนโด
โดยปกติแล้วหากตัดด้วยบัตรเครดิตจะต้องจ่าย 2,300 บาท
แต่เราไม่มีบัตรเครดิต เลยต้องใช้วิธีชำระหน้าเคาเตอร์ด้วยเงินสดหรือโอนจ่าย จำนวน 2,500 บาททุกเดือน ซึ่งแพงกว่าเพราะเซลล์ให้เหตุผลว่า
เพราะเราไม่มีหลักประกัน เลยต้องชาร์ตเพิ่มอีก 200 ซึ่งเราก็โอเค จ่ายตรงเวลามาตลอด 4 เดือน
แต่เมื่อเดือนธันวาคม 2020 เราไม่ได้เล่นเลย เพราะย้ายที่อยู่ บวกกับช่วงนี้มีโควิทระบาดอีกระรอก 2
ทำให้เมื่อต้นปี 2021 ฟิตเนสปิดทำการไป จนมาเปิดอีกที 1-2 เดือนให้หลัง
แล้วเราก็ไม่ได้ไปเล่นอีกเลย และไม่ได้จ่ายรายเดือนตั้งแต่รอบเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
จนกระทั่งมีพนักงานโทรทวงหนี้ค่ะ บอกว่าเราไม่ได้จ่ายมา 3 เดือน เป็นยอด 7,500
และไม่ได้แจ้ง Drop off ด้วย ซึ่งจะมีค่า Drop off เดือนละ 500 บาท
เขาก็คำนวนมาเสร็จสรรพเป็นยอด 8,500 ที่จะต้องจ่ายทั้งหมด
แต่ทีนี้เราแจ้งไปว่า เราไม่ทราบว่าจะต้องแจ้ง Drop off เพื่อยุติการจ่ายรายเดือนชั่วคราวสองเดือน
เพราะครั้งแรกที่มีคนโทรมาแจ้งเมื่อเดือนก่อนเขาก็ไม่ได้บอกอะไรเลยค่ะ
และยอด 8,500 เราไม่สะดวกจ่ายแน่ๆ
เขาเลยแนะนำมาว่า หลังจากนี้ คุณลูกค้ามาจ่ายรายเดือนตามปกติ 2,500 แล้วก็ทยอยจ่ายที่ค้างชำระเดือนละ 1,000 ก็ได้
นั่นเท่ากับว่าเราจะต้องรายเดือน 3,500 ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
แต่ประเด็นคือ เราไม่ได้ไปเล่นแล้วค่ะ
1. เพราะงานยุ่ง
2. ย้ายที่อยู่ด้วย ทำให้ไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนที่อยู่ตรงข้ามกับฟิตเนสเลย
ทีนี้เมื่อวันก่อน เราเลยทำตามคำแนะนำของพนักงานคือจ่ายเงิน 3,500 ไปให้บริษัทเพื่อทำการยุติการใช้ชั่วคราวค่ะ
(เป็นค่าบริการ 1 เดือน + DropOff 1,000)
แต่ก็ยังเหลืออีก 7,500 ที่ค้างจ่ายอยู่
อยากถามว่า เราควรจะทำยังไงดีคะ ในเคสนี้เราจะโดนฟ้องหรือเปล่า
หรือเราจะมีประวัติเสียที่ไหนหรือเปล่าหากไม่จ่ายเลย รบกวนด้วยค่ะ
ปล. เคยสอบถามไปแล้วว่าถ้าเปลี่ยนมาเป็นสัญญา 6 เดือน เราต้องจ่ายเดือนละ 2,900 แทน ซึ่งแพงมากค่ะเลยคิดว่าไม่โอเค