"ป๋า" รับ ใช้สัญชาติญาณเลือกแข้งสู่ทัพ "ผี" & "ป๋า" รับทำใจยากมาก แจ้งนักเตะโรยรา-ดาวรุ่ง ต้องหาทีมใหม่

"ป๋า" รับ ใช้สัญชาติญาณเลือกแข้งสู่ทัพ "ผี"

แบบนี้ถึงบอกก็คงลอกกันไม่ได้เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าใช้สัญชาติญาณในการเลือกเซ็นนักเตะ รวมทั้งเผยว่าชอบนักเตะที่มีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับแข้งพรสวรรค์
 
ยอดกุนซือชาวสก็อตดึงนักเตะมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ร่วม 100 กว่าราย ตลอดช่วง 27 ปีที่กุมบังเหียน

ความสำเร็จที่มากมายของเขา เป็นผลมาจากการเลือกสรรและซื้อขายนักเตะที่เฉียบคม ซึ่งทำให้เราได้เห็นแข้งระดับโลกหลายรายในสีเสื้อของ "ปีศาจแดง"

เฟอร์กูสัน เคยดึงมาแล้วทั้งนักเตะที่โดดเด่นอย่าง เอริค คันโตน่า และเพชรในตมที่ยังไม่ถูกเจียระไนอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ รวมทั้งยังเป็นคนที่ให้โอกาสคลาสออฟ 92 ได้ขึ้นชุดใหญ่

ท่านเซอร์ เผยเว็บไซต์ของ ยูไนเต็ด ว่าเขาใช้สัญชาติญาณเป็นหลักในการเลือกเซ็นนักเตะ

"ผมเชื่อในสัญชาติญาณ ผมมีสัญชาติญาณที่เฉียบคมเรื่องนักเตะ รวมถึงสัญชาติญาณที่ยอดเยี่ยมในการมองว่านักเตะคนไหนที่น่าซื้อบ้าง" เขากล่าว

"เมื่อมองไปที่นักเตะผมก็รู้ได้เลย ผมเห็นถึงลักษณะที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาเบอร์ดีน หรือ เซนต์ เมียร์เรน"

"ผมเห็นสิ่งนั้นจากนักเตะบางคนที่ผมตามดู สัญชาติญาณมันสำคัญมากๆ และบางครั้งผมก็ใช้สัญชาติญาณในการจัดทีมด้วยเช่นกัน"

"เมื่อเราเล่นกับทีมใดทีมหนึ่ง ผมก็จะมีสัญชาติญาณบอกว่า 'เราจะไม่ใช้นักเตะคนนี้ แต่จะใช้นักเตะคนนี้แทน'"

"ผมไม่อาจพูดว่ามันเป็นญาณหยั่งรู้ แต่มันคือสัญชาติญาณ"

นอกจากนี้ เฟอร์กูสัน ยังยอมรับว่าไม่ได้เลือกดึงเฉพาะนักเตะพรสวรรค์มาร่วมทีมเท่านั้น แต่ยังเลือกนักเตะที่มีความมุ่งมั่น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาฝีเท้า

"นักเตะบางคนที่ผมเคยคุมก็เป็นนักฟุตบอลโดยธรรมชาติ ที่มาพร้อมพรสวรรค์" เขากล่าวต่อ

"แต่ก็มีนักเตะอีกประเภทที่มีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับผม ที่แม้จะไม่ใช่นักเตะที่ดีที่สุด แต่พวกเขาก็ทำให้ตัวเองกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดได้ เพราะพวกเขาก็มีของซ่อนอยู่ในตัว"



cr : www.soccersuck.com

"ป๋า" รับทำใจยากมาก แจ้งนักเตะโรยรา-ดาวรุ่ง ต้องหาทีมใหม่

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยถึงสิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานของเขา นั่นคือการต้องแจ้งนักเตะที่รับใช้ทีมมานานว่าถึงเวลาที่ต้องแยกทางกัน

ผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ที่คุมทัพในโอลด์ แทรฟฟอร์ด 26 ปีและเปี่ยมไปด้วยความสำเร็จ รำลึกช่วงเวลาของเขากับ "ปีศาจแดง" โดยได้ตอบคำถามต่าง ๆ ก่อนการเปิดตัวหนังสารคดี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน: ไม่มีวันยอมแพ้ (Sir Alex Ferguson: Never Give In)

เฟอร์กูสัน ถูกถามถึงเรื่องที่เขาเสียใจในช่วงเวลาที่ทำงานให้ยูไนเต็ด โดยเขาเล่าถึงเหล่ากองหลังของทีมในช่วงยุคปี 1990

"มันต้องมีเรื่องที่เราเสียใจอยู่เสมอละ แต่ประเด็นคือต้องมองไปข้างหน้าเสมอ พรุ่งนี้มันคือวันใหม่ ผมทำแบบนี้ตลอดเวลาพวกเราเป็นฝ่ายแพ้ วันถัดไปมันจะดีขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลย

"แต่ในแง่ของความเสียใจเหรอ... ทีมปี 1994 ที่ผมมี แผงแบ็คโฟร์เริ่มโรยราไปพร้อมกัน นั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับผู้จัดการทีม เพราะว่านักเตะพวกนั้นวิเศษกับผมมาก

"พาร์คเกอร์, บรูซ, พัลลิสเตอร์, เออร์วิน: สุดยอดนักเตะทั้งนั้น

"พวกเขามอบเวลา 9 หรือ 10 ปี ซึ่งหลักฐานมันอยู่ในสนามมาเสมอ พวกเขามองไม่เห็น ผมมองเห็น ปัญหาสำหรับผมคือ 'ฉันจะทำอย่างไรกับมัน?'

"ผมจัดการให้พวกเขาได้ย้ายทีม พวกเขาทำได้ดีในเรื่องนี้นะ แต่การแจ้งให้พวกเขารู้นี่มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ"

เฟอร์กูสัน ยอมรับว่ากรณีที่คล้ายกัน ซึ่งอาจจะย่ำแย่กว่าคือความรู้สึกที่เขาต้องบอกให้นักเตะดาวรุ่งรู้ว่า พวกเขาไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมได้และต้องย้ายออกไป

"มันเป็นเรื่องที่เหมือนกันเวลาที่คุณต้องปล่อยนักเตะดาวรุ่งออกไป กระบวนการคือโค้ชเยาวชนและคนที่เป็นคนจัดการเรื่องสวัสดิภาพจะเข้ามากับนักเตะที่ต้องปล่อยออกจากทีม พวกเขาอายุสัก 17-18 ปี

"แนวทางที่พวกเราทำคือพยายามหาทีมให้พวกเขา พยายามหาต้นสังกัดใหม่แล้วบอกพวกเขาว่า 'พวกเราขอโทษที่ต้องทำแบบนี้' มันเป็นเรื่องที่แย่มากเลย

"มันเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด การต้องปล่อยดาวรุ่งออกไปน่ะ ความใฝ่ฝันและความหวังรวมทั้งความปรารถนาทั้งหมดที่จะได้เล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่อหน้าแฟนบอล 75,000 คนและผ่านเข้าไปเตะรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์

"นั่นคือความฝันของเด็ก ๆ ทุกคนที่เข้ามาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคุณพรากสิ่งนั้นไปจากเขา มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก ๆ นะ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย ผมเกลียดความรู้สึกนี้มาก"



cr : www.soccersuck.com

รุดเผยหนึ่งในวิธีที่เฟอร์กี้ใช้ปลุกใจตน

รุด ฟาน นิสเตลรอย ระบุ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยปลุกใจตนสมัยที่อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการตั้งใจทำให้ตนอดมีลุ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีกในซีซั่นแรกกับทีม หลังจากที่ ฟาน นิสเตลรอย เคยทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำกับ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาล 2001-02

รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตยอดกองหน้าชาวดัตช์ เปิดเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งใจทำให้ตนหมดโอกาสลุ้นเป็นดาวซัลโวของศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2001-02 เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้กับตน

 อดีตแข้งคนดังย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาร่วมงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2001 ซึ่งแค่ซีซั่นแรกกับทีมเขาก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดจนทำประตูในลีกได้ถึง 23 ลูก จนทำให้ซีซั่นนั้นเขาเป็นรองดาวซัลโวสูงสุดของลีกร่วมกับ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซงเบงค์ และ อลัน เชียเรอร์ โดยที่ทั้ง 3 คนยิงได้น้อยกว่า เธียร์รี่ อองรี แค่ลูกเดียว

ถึงกระนั้น ในนัดสุดท้ายของซีซั่น 2001-02 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก 0-0 นั้น ฟาน นิสเตลรอย ไม่มีชื่ออยู่ในทีมจนทำให้อดมีลุ้นทำประตูเพิ่ม ขณะที่ในฤดูกาลดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เพียงอันดับ 3 ในลีกเท่านั้น

ฟาน นิสเตลรอย กล่าวตอนไปออกรายการของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า "เจ้านายตั้งใจไม่ใช้งานฉันในนัดสุดท้ายของฤดูกาล เขาบอกกับฉันว่า -นายจะไม่มีทางได้ลุ้นรางวัลรองเท้าทองคำหรอกนะ นี่เราแห้วแชมป์ลีกกันนะไอ้ลูกชาย นายจะไม่ได้ลุ้นรางวัลนี้-"

"เขาตั้งใจให้ฉันไปดูเกมบนอัฒจันทร์ เขาไม่ใส่ชื่อฉันเป็นตัวสำรองด้วยซ้ำ ฉันไม่มีแม้กระทั่งความหวังว่าอาจจะถูกส่งลงเล่นด้วยซ้ำ! ตอนนั้นฉันอยู่บนอัฒจันทร์และคิดว่านี่เป็นเกมที่ฉันน่าจะทำประตูได้สักหน่อย มันเป็นเกมที่ฉันน่าจะยิงได้สัก 1 ลูก!"

"แต่จังหวะนั้นน่ะมันกลายเป็นว่าเขาทำให้ฉันเฉียบขาดมากขึ้น ฤดูกาลนั้นเราไม่ได้แชมป์ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำมันเลยเป็นเหมือนการส่งข้อความให้ฉันแบบอ้อมๆ ว่า -จริงอยู่ว่าประตูของนายช่วยเราได้ในหลายนัด แต่นายต้องทำให้ทีมได้แชมป์ด้วย- นั่นคือข้อความของเขา ตอนที่เขาให้ฉันไปดูเกมบนอัฒจันทร์น่ะฉันก็เข้าใจทันทีเลยว่ามันเหมือนกับว่าตอนนี้ฉันเริ่มฤดูกาลใหม่แล้ว"

"เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้านายพูดบางอย่างมันก็จะถือว่ามีความชัดเจนดีอยู่แล้ว เขาก็แค่อธิบายให้ฉันฟังแบบนั้นเท่านั้น ตอนนั้นฉันนั่งดูเกมโดยที่เช็กไปด้วยว่า เธียร์รี่ อองรี ทำประตูได้รึเปล่า เขาอยากให้ฉันมีความฮึกเหมิสำหรับการลงเล่นฤดูกาลหน้า ตอนนั้นมันทำให้ฉันอยากไล่ตาม เธียร์รี่ ให้ได้"



cr : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่