[ธุรกิจฟุตบอล101] รายรับกับรายจ่ายของสโมสรฟุตบอล

ดูกราฟตามลิ้งค์นี้นะครับ https://www.bbc.com/sport/football/68713522
ถ้าทำไมถึงใช้ข้อมูลฤดูกาล 2022-23 ก็เพราะ 2023-24 ยังปล่อยออกมาไม่ครบ

สรุปก่อน
เลสเตอร์ มีปัญหาการเงินเพราะพวกเขาไม่คุมค่าแรงนักเตะ ค่าแรงนักเตะของพวกเขาคิดเป็น 116 เปอร์เซ็นต์ของรายได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนี้เกิดจากการเข้าซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของ "ตระกูลเกลเซอร์" ในปี 2005
เริ่มแรกยอดหนี้คือ 550 ล้านปอนด์ในปี 2005 จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2023-24 เหลือ 515.7 ล้านปอนด์
ที่ผ่านมา "สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" จ่ายแค่ดอกเบี้ยกับเงินต้นไปเล็กน้อยเท่านั้น
ในแต่ละฤดูกาล  "สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"  ต้องจ่าย
ดอกเบี้ยเงินกู้ ฤดูกาลละ 20-40 ล้านปอนด์
เงินปันผล 32 ล้านปอนด์ (อ้างอิงฤดูกาล 2021-22) ให้ตระกูลเกลเซอร์
สรุป  "สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"  เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ 50 ล้านปอนด์ เป็นอย่างต่ำต่อฤดูกาล

จากปี 2014-2023 สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินซื้อผู้เล่นไป 1,196.6 ล้านปอนด์เป็นอันดับ 1 ไม่แปลกที่จะติดลบ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายได้จากผู้สนับสนุนเยอะมาก

ลิเวอร์พูล FSG บริหารแบบระมัดระวังตลอด และพยายามเพิ่มรายได้ให้สโมสร 14 ฤดูกาล ขาดทุน 8 กำไร 6  บาร์เซโลน่า คือลูกค้ารายใหญ่มากช่วงต้น
รายละเอียดในสปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กราฟ 1 สรุปรายได้รวม
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 713 ล้านปอนด์
อันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 648 ล้านปอนด์
อันดับ 3 ลิเวอร์พูล 594 ล้านปอนด์

กราฟ 2 รายได้
รายได้ของสโมสรฟุตบอลมาจาก 3 ส่วน
1. ค่าตั๋วเข้าชม
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 136 ล้านปอนด์
อันดับ 2 สเปอร์ส 118 ล้านปอนด์
อันดับ 3 อาร์เซน่อล 103 ล้านปอนด์
อันดับ 4 ลิเวอร์พูล 80 ล้านปอนด์

2. ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 299 ล้านปอนด์
อันดับ 2 ลิเวอร์พูล 242 ล้านปอนด์
อันดับ 3 เชลซี 226 ล้านปอนด์
อันดับ 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 209 ล้านปอนด์

3. ค่าผู้สนับสนุนทางธุรกิจ (ค่าอกเสื้อ, ค่าใช้สโมสรไปโฆษณา)
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 341 ล้านปอนด์
อันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 303 ล้านปอนด์
อันดับ 3 ลิเวอร์พูล 272 ล้านปอนด์

กราฟ 3 ค่าเหนี่อยนักเตะ
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 423 ล้านปอนด์
อันดับ 2 เชลซี 404 ล้านปอนด์
อันดับ 3 ลิเวอร์พูล 372 ล้านปอนด์
อันดับ 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 331 ล้านปอนด์
อันดับ 7 เลสเตอร์เกิน 200 ล้านปอนด์

กราฟ 4 ค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 196,000 ปอนด์ต่อคน
อันดับ 2 เชลซี 187,000 ปอนด์ต่อคน
อันดับ 3 ลิเวอร์พูล 173, 000 ปอนด์ต่อคน
อันดับ 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 154,000 ปอนด์ต่อคน
อันดับ 8 เลสเตอร์ 88,000 ปอนด์ต่อคน

กราฟ 5 ค่าเหนื่อยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 1 เลสเตอร์ 116  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 2 ฟอเรสต์ 94  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 3 เอฟเวอร์ตัน 92  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 4 แอสตัน วิลล่า 82  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 13 ลิเวอร์พูล 63  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 15 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 59  เปอร์เซ็นต์ของรายได้
อันดับ 17 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 51  เปอร์เซ็นต์ของรายได้

กราฟ 6 หนี้ผ่อนชำระค่าตัวนักเตะ
อันดับ 1 เชลซี 205 ล้านปอนด์
อันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 152 ล้านปอนด์
อันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 145 ล้านปอนด์
อันดับ 4 อาร์เซน่อล 139 ล้านปอนด์
อันดับ 6 ลิเวอร์พูล 108 ล้านปอนด์

กราฟ 7 กำไร/ขาดทุนก่อนจ่ายภาษี
อันดับ 1 ไบรท์ตัน 133 ล้านปอนด์
อันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 80 ล้านปอนด์
อันดับ 3 บอร์นมัธ 44 ล้านปอนด์

กราฟ 8 กำไร/ขาดทุนก่อนคิดมูลค่าซื้อขายนักเตะ
เบรนท์ฟอร์ด กำไร 4 ล้านปอนด์ทีมเดียว อีก 19 ทีมขาดทุน

กราฟ 9 กำไร/ขาดทุนซื้อขายนักเตะ
อันดับ 1 ไปรท์ตัน  กำไร 82 ล้านปอนด์
อันดับ 2 เลสเตอร์  กำไร 51 ล้านปอนด์
อันดับ 19 อาร์เซน่อล ขาดทุน 230 ล้านปอนด์
อันดับ 20 เชลซี ขาดทุน 542 ล้านปอนด์

กราฟ 10 ค่าใช้จ่ายที่ลงทุนในผู้เล่นของฤดูกาล 2022/23
อันดับ 1 เชลซี 1,117 ล้านปอนด์
อันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1,077 ล้านปอนด์
อันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 990 ล้านปอนด์
อันดับ 4 ลิเวอร์พูล 787 ล้านปอนด์
อันดับ 5 อาร์เซน่อล 774 ล้านปอนด์
อันดับ 6 สเปอร์ส 512 ล้านปอนด์

อันดับทีมที่ใช้เงินมากที่สุดตั้งแต่ปี 2014-2023
อันดับ 1  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1,196.6 ล้านปอนด์
อันดับ 2 เชลซี 885.5 ล้านปอนด์
อันดับ 3 PSG 865.8 ล้านปอนด์
อันดับ 4 อาร์เซน่อล 746.9 ล้านปอนด์
อันดับ 5  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 733.8 ล้านปอนด์
อันดับ 12 ลิเวอร์พูล 395.3 ล้านปอนด์
อันดับ 18 บาเยิร์น มิวนิค 294.1 ล้านปอนด์
อันดับ 19 รีล มาดริด 277.6 ล้านปอนด์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่