เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยสำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล Redmi Note 10 Series ปล่อยออกมาพร้อมกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ Redmi Note 10 (ตัวที่เรากำลังจะรีวิว) และ Redmi Note 10Pro
Redmi Note 10 เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Pebble White และ Lake Green ในความจุ 2 ขนาด ได้แก่
ความจุ RAM 4GB + ROM 64 GB ราคา 4,999 บาท โดยวางจำหน่ายเฉพาะบน Lazada ระหว่างวันที่ 19 – 29 มีนาคม และทุกช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมเป็นต้นไป
ความจุ RAM 6GB + ROM 128 GB ราคา 5,999 บาท วางจำหน่าย ที่ Mi Stores, ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์
จุดเด่นของ Redmi Note 10 มากับสเปคที่คุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย โดยตัวเริ่มต้น 4/64 GB ราคาเพียงแค่ 4,999 บาท และตัวที่ผมกำลังจะรีวิวคือ 6/128GB ราคา 5,999 บาท สเปคทุกอย่างเหมือนกันครับ ต่างกันแค่หน่วยความจำเท่านั้น เดี๋ยวเราไปดูว่าจะคุ้มค่าน่าใช้งานมากน้อยขนาดไหน ไปชมพร้อมๆกันได้เลย
SPEC Redmi Note 10
หน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 678
GPU Adreno 612
RAM 4/6 GB
ROM UFS 2.2 64 / 128 GB รองรับ MicroSD Card
Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 48+8+2+2 ล้านพิกเซล
ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค
ป้องกันละอองน้ำ กันฝุ่นระดับ IP53
ลำโพงคู่สเตอริโอ Dual speakers / รองรับการเล่นไฟล์ Hi-Res Audio (ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม.)
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W.
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบครันครับ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้ว
ตัวเครื่อง Redmi Note 10
Adapter รองรับชาร์จเร็ว 33W
สาย USB-C
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Redmi Note 10 มากับหน้าจอแบบ DotDisplay ชนิดของพาแนลจอแบบ AMOLED (เป็นรุ่นแรกของซีรี่ย์ Redmi Note ที่ใช้จอแบบ AMOLED) ขนาดหน้าจอ 6.43 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล 409 PPI ค่าขอบเขตสี DCI-P3 ค่าความสว่างสูงสุด 1,100 nits
สเปคหน้าจอให้มาดีมากๆครับ ทำให้การแสดงผลหน้าจอสวยงาม เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นต่างๆ สามารถชม netflix ความละเอียด FullHD ได้ด้วย แจ่มมาก
สามารถปรับโทนสีหน้าจอเองได้เพื่อเหมาะสำหรับการใช้งานแต่ละเหตุการณ์ รวมไปถึงโหมดถนอมสายตาและโหมดกลางคืนก็มีมาให้ปรับใช้งานเช่นกัน สำหรับเรื่องการแสดงผลหน้าจอในเรทราคานี้ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยครับไม่มีหัก
ตรงจุดหน้าจอหรือ DotDisplay จะมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถัดขึ้นไปจะเป้นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดแสงและถัดขอบหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / USB-C และลำโพงตัวเครื่อง
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม POWER / ตรงปุ่ม power จะฝังเซ็นเซอร์เพื่อสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยครับ เพราะรุ่นนี้ตำแหน่งสแกนนิ้วจะอยู่ด้านข้างตัวเครื่องนั้นเอง
ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวน / IR เพื่อใช้เป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า และลำโพงตัวเครื่องเพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับ Dual speakers เสียงชัดเจนดี มิติเสียงดีมากเมื่อใช้เล่นเกมหรือดูหนัง
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของช่องถาดซิมการ์ด / ถาดซิมแบบ 3 สล็อต รองรับ 2 nano SIM + 1 microSD Card
ฝาหลังตัวเครื่องเน้นความโค้งแบบ 3D วัสดุเป็นพลาสติกเคลือบผิวเงา สีที่ผมรีวิวคือสี Onyx GrayPebble โดยด้านหลังจะมีกล้องทั้งหมด 4 เลนสืและไฟแฟลช LED วงในกรอบเดียวกัน กล้องนูนขึ้นจากตัวเครื่องเพียง 1 มม.เท่านั้น ถัดลงมาจะมีโลโก้ของ Redmi
ขนาดตัวเครื่องถือว่าเล็กและบางเบามากๆ ขนาดตัวเครื่อง 160.46x74.5x8.29 มม. น้ำหนัก 178.8 กรัม (ขนาดตัวเครื่องเมื่อถือใช้งาน)
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 10 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 ใหม่ล่าสุด หน้าตาเมนู การตั้งค่าและ UI เน้นใช้งานง่ายดูสบายตาและมีธีมไว้ให้เปลี่ยนใช้งานเช่นเดิม สามารถโคลนแอปได้เผื่อต้องการใช้งาน 2 user ครับ และจะมีโหมดการใช้งานง่าย เผื่อซื้อให้น้องๆหรือญาติผู้ใหญ่ใช้งาน เพราะราคาตัวเครื่องไม่ได้สูงมากนัก
ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Note 10 เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 678 / GPU Adreno 612 ถือว่าแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการเล่นเกม
ด้านหน่วยความจำ(รุ่นที่รีวิว) RAM 6 GB / ROM UFS2.2 ขนาด 128 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 256 GB
สำหรับการเล่นเกมจะมีฟังก์ชั่น Game Terbo เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องขณะเล่นเกมรวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆ ทดสอบเล่น ROV เปิด 60fps ได้สบายๆครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.45 โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง / AI Beautify / โหมดแนวตั้ง AI พร้อมโบเก้และการควบคุมระยะชัดลึก สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p 30fps
หน้าตาเมนูกล้องหน้า
ภาพถ่ายจากกล้องหน้า Redmi Note 10 โหมด AUTO
โหมดบุคคลปรับหน้าชัดหลังละลาย
ปรับฟิลเตอร์จากตัวกล้อง
กล้องหลัง 4 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้
เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.79 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2”
เลนส์กล้องมุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
เลนส์วัดความติ้นลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง Redmi Note 10 โหมด AUTO และ Ultra Wide
โหมดบุคคลแบบปรับหน้าชัดหลังละลายและปรับฟิวเตอร์ภายในตัวเครื่อง
ภาพถ่ายโหมด AUTO
โหมดกลางคืน
แบตเตอรี่
Redmi Note 10 ให้แบตเตอรี่มาที่ 5000mAh เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการใช้งานหนึ่งวันครับ เช้าถึงก่อนนอนสบายๆไม่ต้องกังวลเรื่องนำออกไปใช้งานนอกบ้าน และรุ่นนี้รองรับชาร์จเร็วสูงถึง 33W น่าจะเร็วสุดแล้วในเรทราคาพอๆกัน (ในกล่องแถมที่ชาร์จแบบ 33W มาให้พร้อมใช้งาน)
สรุป
Redmi Note 10 กับค่าตัวเริ่มต้นไม่ถึงห้าพันบาท ให้สเปคมาโครตคุ้มเลยครับจัดเต็มในทุกๆด้านจริงๆ หน้าจอแสดงผลได้สวยงามพร้อมลำโพงคู่ กล้องถ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ใช้งานได้ยาวนานกับแบต 5000mAh และมีชาร์จเร็วถึง 33W ต้องบอกว่า คุ้มสุดและสุดคุ้มจริงๆ
[SR] รีวิว Redmi Note 10 สเปคสุดคุ้ม ราคาเริ่มต้นไม่ถึงห้าพันบาท
เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยสำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล Redmi Note 10 Series ปล่อยออกมาพร้อมกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ Redmi Note 10 (ตัวที่เรากำลังจะรีวิว) และ Redmi Note 10Pro
Redmi Note 10 เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Pebble White และ Lake Green ในความจุ 2 ขนาด ได้แก่
ความจุ RAM 6GB + ROM 128 GB ราคา 5,999 บาท วางจำหน่าย ที่ Mi Stores, ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์
SPEC Redmi Note 10
หน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 678
GPU Adreno 612
RAM 4/6 GB
ROM UFS 2.2 64 / 128 GB รองรับ MicroSD Card
Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 48+8+2+2 ล้านพิกเซล
ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค
ป้องกันละอองน้ำ กันฝุ่นระดับ IP53
ลำโพงคู่สเตอริโอ Dual speakers / รองรับการเล่นไฟล์ Hi-Res Audio (ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม.)
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W.
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบครันครับ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้ว
ตัวเครื่อง Redmi Note 10
Adapter รองรับชาร์จเร็ว 33W
สาย USB-C
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Redmi Note 10 มากับหน้าจอแบบ DotDisplay ชนิดของพาแนลจอแบบ AMOLED (เป็นรุ่นแรกของซีรี่ย์ Redmi Note ที่ใช้จอแบบ AMOLED) ขนาดหน้าจอ 6.43 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล 409 PPI ค่าขอบเขตสี DCI-P3 ค่าความสว่างสูงสุด 1,100 nits
สเปคหน้าจอให้มาดีมากๆครับ ทำให้การแสดงผลหน้าจอสวยงาม เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นต่างๆ สามารถชม netflix ความละเอียด FullHD ได้ด้วย แจ่มมาก
สามารถปรับโทนสีหน้าจอเองได้เพื่อเหมาะสำหรับการใช้งานแต่ละเหตุการณ์ รวมไปถึงโหมดถนอมสายตาและโหมดกลางคืนก็มีมาให้ปรับใช้งานเช่นกัน สำหรับเรื่องการแสดงผลหน้าจอในเรทราคานี้ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยครับไม่มีหัก
ตรงจุดหน้าจอหรือ DotDisplay จะมีกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถัดขึ้นไปจะเป้นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดแสงและถัดขอบหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของลำโพงสนทนา
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. / ไมค์สนทนา / USB-C และลำโพงตัวเครื่อง
ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม POWER / ตรงปุ่ม power จะฝังเซ็นเซอร์เพื่อสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยครับ เพราะรุ่นนี้ตำแหน่งสแกนนิ้วจะอยู่ด้านข้างตัวเครื่องนั้นเอง
ด้านบนจะมีไมค์ตัดเสียงรบกวน / IR เพื่อใช้เป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า และลำโพงตัวเครื่องเพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับ Dual speakers เสียงชัดเจนดี มิติเสียงดีมากเมื่อใช้เล่นเกมหรือดูหนัง
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของช่องถาดซิมการ์ด / ถาดซิมแบบ 3 สล็อต รองรับ 2 nano SIM + 1 microSD Card
ฝาหลังตัวเครื่องเน้นความโค้งแบบ 3D วัสดุเป็นพลาสติกเคลือบผิวเงา สีที่ผมรีวิวคือสี Onyx GrayPebble โดยด้านหลังจะมีกล้องทั้งหมด 4 เลนสืและไฟแฟลช LED วงในกรอบเดียวกัน กล้องนูนขึ้นจากตัวเครื่องเพียง 1 มม.เท่านั้น ถัดลงมาจะมีโลโก้ของ Redmi
ขนาดตัวเครื่องถือว่าเล็กและบางเบามากๆ ขนาดตัวเครื่อง 160.46x74.5x8.29 มม. น้ำหนัก 178.8 กรัม (ขนาดตัวเครื่องเมื่อถือใช้งาน)
ระบบปฏิบัติการ
Redmi Note 10 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12 ใหม่ล่าสุด หน้าตาเมนู การตั้งค่าและ UI เน้นใช้งานง่ายดูสบายตาและมีธีมไว้ให้เปลี่ยนใช้งานเช่นเดิม สามารถโคลนแอปได้เผื่อต้องการใช้งาน 2 user ครับ และจะมีโหมดการใช้งานง่าย เผื่อซื้อให้น้องๆหรือญาติผู้ใหญ่ใช้งาน เพราะราคาตัวเครื่องไม่ได้สูงมากนัก
ประสิทธิภาพการทำงาน
Redmi Note 10 เลือกใช้ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 678 / GPU Adreno 612 ถือว่าแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการเล่นเกม
ด้านหน่วยความจำ(รุ่นที่รีวิว) RAM 6 GB / ROM UFS2.2 ขนาด 128 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 256 GB
สำหรับการเล่นเกมจะมีฟังก์ชั่น Game Terbo เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องขณะเล่นเกมรวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆ ทดสอบเล่น ROV เปิด 60fps ได้สบายๆครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.45 โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง / AI Beautify / โหมดแนวตั้ง AI พร้อมโบเก้และการควบคุมระยะชัดลึก สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p 30fps
หน้าตาเมนูกล้องหน้า
ภาพถ่ายจากกล้องหน้า Redmi Note 10 โหมด AUTO
โหมดบุคคลปรับหน้าชัดหลังละลาย
ปรับฟิลเตอร์จากตัวกล้อง
กล้องหลัง 4 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้
เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.79 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2”
เลนส์กล้องมุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
เลนส์วัดความติ้นลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง Redmi Note 10 โหมด AUTO และ Ultra Wide
โหมดบุคคลแบบปรับหน้าชัดหลังละลายและปรับฟิวเตอร์ภายในตัวเครื่อง
ภาพถ่ายโหมด AUTO
โหมดกลางคืน
แบตเตอรี่
Redmi Note 10 ให้แบตเตอรี่มาที่ 5000mAh เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการใช้งานหนึ่งวันครับ เช้าถึงก่อนนอนสบายๆไม่ต้องกังวลเรื่องนำออกไปใช้งานนอกบ้าน และรุ่นนี้รองรับชาร์จเร็วสูงถึง 33W น่าจะเร็วสุดแล้วในเรทราคาพอๆกัน (ในกล่องแถมที่ชาร์จแบบ 33W มาให้พร้อมใช้งาน)
สรุป
Redmi Note 10 กับค่าตัวเริ่มต้นไม่ถึงห้าพันบาท ให้สเปคมาโครตคุ้มเลยครับจัดเต็มในทุกๆด้านจริงๆ หน้าจอแสดงผลได้สวยงามพร้อมลำโพงคู่ กล้องถ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ใช้งานได้ยาวนานกับแบต 5000mAh และมีชาร์จเร็วถึง 33W ต้องบอกว่า คุ้มสุดและสุดคุ้มจริงๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้