ต่อเนื่องจากที่พ่อเราเสียไป เราเหลือแม่กับเราแค่สองคน แต่มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง เราเรียนจบปริญญาตรีแล้วค่ะ แต่แม่ยังกดดันเราทุกทาง เราพยายามจะหางานทำระหว่างรอวุฒิออก ซึ่งเราได้งานนะเงินเดือน 15000เราสัมภาษณ์งานผ่าน คอนเฟิร์มเขาว่าจะเริ่มงาน แต่แม่กลับไปให้ไปจะให้อยู่แต่กับเขา เราอึดอัดมากค่ะ คนรอบข้างบอกให้อดทนให้เห็นใจแม่ เพราะแม่มีโรคประจำตัว มีไรให้คุยกับแม่ แต่การคุยกับแม่สำหรับเรามันไม่ใช่เรื่องง่าย แม่ไม่เคยรับฟังเราเลย มีแต่ด่า ซ้ำเติม ไม่ให้ออกไปไหน ซึ่งมันเป็น, บบนี้ตั้งแต่เราอยู่ ม.4 จนเราเรียนจบปริญญาตรีสงกรานต์เพื่อนชวนเราไปเล่นแม่ก็ไม่ให้ไป เราจะขอไปไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้ ตั้งแต่เราอยู่กับแม่มาคำปลอบจากแม่เราไม่เคยได้ เกรดเราตก แม่ก็ซ้ำเติม เราทำวิจัยพลาดแม่ก็ด่าเราโง่ มีคำนึ่งตอนเราทะเลาะกับแม่ แม่พูดมาว่า "กูนึกถึงตอนกูคลอดมาแล้วกูเจ็บ กูเลยไม่อยากพูดดีกับ" ซึ่งคำนี้มันนานมากแล้ว แต้เรายังจำไม่ลืม
พอเรามีแฟน แม่ก็ปิดกั้น ไม่เคยเปิดใจ มองเราในแง่ร้ายทุกเรื่อง แม่บอกกับคนอื่นเสมอว่าเรามีอะไรไม่เคยจะบอก ไม่เคยจะปรึกษา ซึ่งเพราแม่เป็นแบบนี้ เราเลยเลือกที่จะสบายใจกับคนอื่นมากกว่าเขา
***เราขออธิบายก่อนนะว่าพ่อเราเสียด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ วันที่พ่อเสียเราเป็นคนขึ้นรถมูลนิธิไปกับพ่อเพื่อนำพ่อไปส่ง รพ. ซึ่งตอนนั้นเราก็มีแผลด้วยเพราะเราอยู่ในรถกับพ่อ พอได้วันสองวันอาการพ่อเริ่มแย่เราเฝ้าพ่อไม่ห่าง ซึ่งพ่อมีประกันอุบัติเหตุเป็นเงินที่เยอะพอสมควร แต่แล้วครอบครัวเราก็ไม่ได้เงินก้อนนั้น เพราะว่าหมอวินิจฉัยว่าพ่อไม่ได้เสียเพราะอุบัติเหตุ ซึ่งเหตุการณ์นั้น ทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าแม่ไม่ใช่แม่ แม่เอาแต่โทษเราว่าทำไมบอกหมอไม่ละเอียด ว่าเหตุมันเกิดยังไง ซึ่งเราตอนนั้นก็แย่พออยู่แล้ว ในใจตอนนั้นคือ แม่ไม่ใช่ความอบอุ่นของเราอีกต่อไป พอหลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยกลับมาหาแม่ พอเจอก็ไม่อยากอยู่ด้วย กลายเป็นว่าเราอึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับเขา
จนตอนนี้เราเรียนจบ ย้ายของจากหอมาอยู่กับเขา แต่เรากับรู้สึกว่าเซฟโซนของเราไม่ใช่ครอบครัว เราอยู่คนเดียวเราสบายใจกว่าต้องมาโดนแม่พูดทำร้ายจิตใจ เรากลับคิดว่าเราแค่อยากทำงานส่งเงินให้เขา เราไม่ได้อยากอยู่กับเรา เราเข้าใจว่าเขาเป็นห่วง แต่การห่วงของเขามันบีบรัดเราเกินไป เราเสียโอกาส ประสบการณ์จากการทำงาน จากเพื่อน เพียงเพราะคำว่าเป็นห่วงของเขาที่มากเกินไป เขาไม่เคยฟังเหตุผลเรา เขาเอาแต่เหตุผลเขา พอเราจะอธิบาย จะพูดบ้าง เขาบอกเราว่า "เป็นแค่ลูก ไม่มีสิทธิ์จะพูด ขนาดแม่กู กูยังถีบมาแล้ว ก็อิแค่ลูก" เราอึดอัดมากๆ เวลากิจวัตรประจำวันของเรา เขาก็จะบ่น ให้ไปอาบน้ำเข้านอน เป็นแบบนี้จนเราเรียนจบปริญญาตรี เรารู้สึกเราเหมือนหุ่นเชิดเขามากกว่าเป็นลูก เขาอย่างที่เชิดเราไปทางไหนก็ได้ โดยไม่สนความรู้สึกเรา
เราอยากรู้ว่าหากเราจะหนีออกจากบ้าน ไปตามทางของเรามันจะแย่จะผิดไหม เราอยากเริ่มชีวิตใหม่ ต่อให้มันลำบากโดยที่ไม่มีเขาเราก็จะสู้ ในหัวเราตอนนี้มีแต่คำว่า หนีเหอะที่นี้มันคือคุก ถ้าเราได้งานเราจะส่งให้เขาแต่เราจะไม่กลับมาให้เขาขังเราอีก
เราอยากหนีออกจากบ้านมากเลยค่ะ!!
พอเรามีแฟน แม่ก็ปิดกั้น ไม่เคยเปิดใจ มองเราในแง่ร้ายทุกเรื่อง แม่บอกกับคนอื่นเสมอว่าเรามีอะไรไม่เคยจะบอก ไม่เคยจะปรึกษา ซึ่งเพราแม่เป็นแบบนี้ เราเลยเลือกที่จะสบายใจกับคนอื่นมากกว่าเขา
***เราขออธิบายก่อนนะว่าพ่อเราเสียด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ วันที่พ่อเสียเราเป็นคนขึ้นรถมูลนิธิไปกับพ่อเพื่อนำพ่อไปส่ง รพ. ซึ่งตอนนั้นเราก็มีแผลด้วยเพราะเราอยู่ในรถกับพ่อ พอได้วันสองวันอาการพ่อเริ่มแย่เราเฝ้าพ่อไม่ห่าง ซึ่งพ่อมีประกันอุบัติเหตุเป็นเงินที่เยอะพอสมควร แต่แล้วครอบครัวเราก็ไม่ได้เงินก้อนนั้น เพราะว่าหมอวินิจฉัยว่าพ่อไม่ได้เสียเพราะอุบัติเหตุ ซึ่งเหตุการณ์นั้น ทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าแม่ไม่ใช่แม่ แม่เอาแต่โทษเราว่าทำไมบอกหมอไม่ละเอียด ว่าเหตุมันเกิดยังไง ซึ่งเราตอนนั้นก็แย่พออยู่แล้ว ในใจตอนนั้นคือ แม่ไม่ใช่ความอบอุ่นของเราอีกต่อไป พอหลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยกลับมาหาแม่ พอเจอก็ไม่อยากอยู่ด้วย กลายเป็นว่าเราอึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับเขา
จนตอนนี้เราเรียนจบ ย้ายของจากหอมาอยู่กับเขา แต่เรากับรู้สึกว่าเซฟโซนของเราไม่ใช่ครอบครัว เราอยู่คนเดียวเราสบายใจกว่าต้องมาโดนแม่พูดทำร้ายจิตใจ เรากลับคิดว่าเราแค่อยากทำงานส่งเงินให้เขา เราไม่ได้อยากอยู่กับเรา เราเข้าใจว่าเขาเป็นห่วง แต่การห่วงของเขามันบีบรัดเราเกินไป เราเสียโอกาส ประสบการณ์จากการทำงาน จากเพื่อน เพียงเพราะคำว่าเป็นห่วงของเขาที่มากเกินไป เขาไม่เคยฟังเหตุผลเรา เขาเอาแต่เหตุผลเขา พอเราจะอธิบาย จะพูดบ้าง เขาบอกเราว่า "เป็นแค่ลูก ไม่มีสิทธิ์จะพูด ขนาดแม่กู กูยังถีบมาแล้ว ก็อิแค่ลูก" เราอึดอัดมากๆ เวลากิจวัตรประจำวันของเรา เขาก็จะบ่น ให้ไปอาบน้ำเข้านอน เป็นแบบนี้จนเราเรียนจบปริญญาตรี เรารู้สึกเราเหมือนหุ่นเชิดเขามากกว่าเป็นลูก เขาอย่างที่เชิดเราไปทางไหนก็ได้ โดยไม่สนความรู้สึกเรา
เราอยากรู้ว่าหากเราจะหนีออกจากบ้าน ไปตามทางของเรามันจะแย่จะผิดไหม เราอยากเริ่มชีวิตใหม่ ต่อให้มันลำบากโดยที่ไม่มีเขาเราก็จะสู้ ในหัวเราตอนนี้มีแต่คำว่า หนีเหอะที่นี้มันคือคุก ถ้าเราได้งานเราจะส่งให้เขาแต่เราจะไม่กลับมาให้เขาขังเราอีก