ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 6
เขียนแบบเว่อร์ ทำให้คนตื่นจริงครับ เหมือน fake news ทั้งหลาย
มือถือดาวเทียม เข้าอาคารก็หาย ล้มมากี่รายแล้วล่ะ
ถ้าอยากขยายฐานลูกค้าส่วนนี้จริง ตรงข้ามว่า ต้องมาจับมือ ทำสัญญากับค่ายมือถือท้องถิ่นรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายแต่ละประเทศ เพื่อให้ใช้ได้ต่อเนื่อง
แต่ก็จะแย่งฐานลูกค้าเน็ตบ้านไปได้จริง
เป้าหมายของ starlink ไม่ใช่อุปกรณ์เคลื่อนที่คือพวกมือถือ ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เป็นเน็ตบ้านครับ ต้องมี user terminal ภาษาปกติ คือเป็นจานเล็กและกล่อง เหมือนเน็ตบ้าน หรือเคเบิ้ลทีวี
อันนี้ เห็นบางข่าวออกมา ในการออกแบบจานบางรุ่นอาจออกมาภายหลัง ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จขนาดไหน
ผมนี้ คิดถีงวัดบ้านเราแถวปทุมเลยครับ 555
มารายละเอียด ข้อเท็จจริงเพิ่มหน่อย ไปเอาแบบมโนแบบข่าว... เพื่อจะได้พิจาณาข้อดีข้อเสียได้เอง
พูดแบบให้เข้าใจง่าย ๆ มันก็คือ ดาวเทียมผ่านเน็ตจานเล็ก แบบ IPSTAR เวอร์ชั่นดีกว่านั่นเอง
สัญญาณจะดีกว่า ทนฝนกว่า เพราะดาวเทียมเก่า ระยะ 3.7 หมื่น กม. และเทคโนโลยีเกือบ 20 ปีไปแล้ว
ส่วนดาวเทียมรุ่นนี้ วงโคจรระยะต่ำถึงต่ำมาก ที่ขอไว้มีตั้งแต่ระยะหน่วยพันกม. อนาคตจะหลักร้อยกม. มาเสริมอีก
ดาวเทียมเก่าแบบเก่า ทำงานแบบดวงเดียวตัวใครตัวมัน ส่วนโครงการนี้ดาวเทียมเป็นเครื่อข่ายในอวกาศ จับย้ายไปมาหลายดวงได้
เมื่อยิงขึ้นไปแล้ว (ยิงทีละ 60 ดวง) ดาวเทียมพวกนี้ จะเชื่อมโยงยิงหากันด้วยไมโครเวฟเลเซอร์ เพื่อเชื่อมกันเป็นเครือข่ายที่ว่า
คล้ายกับสถานีมือถือภาคพื้นดิน ที่มีไมโครเวฟและไฟเบอร์ ส่งต่อสัญญาณหากันได้ เมื่อพบว่าสัญญาณอีกดวงแย่ ก็ไปจับดวงอื่นได้
ต่างจากระบบเก่า สถานียิงไปกลับจากสถานีควบคุมภาคพื้นดินเท่านั้น ลูกค้าจับดวงเดียวค้างไว้... สัญญาณหาย ก็คือหาย
(ภาษาสถานีมือถือเรียกว่า coverage ภาษาดาวเทียมเรียก footprint... แต่นั่นคืออนาคต เมื่อดาวเทียมเยอะและมุมรับส่งได้กว้างขึ้น จากดาวเทียมถี่ยิงมาจากอวกาศกับยิงขึ้นจากลูกค้ากลับไปในอวกาศ สัญญาณดาวเทียมครอบคุลม มาคล้องกันได้แบบสถานีมือถือ... ระยะแรกจึงอาจยังไม่ได้ตามนี้ )
ที่ได้รับการอนุมัติ จาก FCC หรือกสทช. สหรัฐ 1.2 หมื่นดวง
ถ้านายทุนเห็นด้วย ยิงไปเรื่อย ๆ และประสบผลสำเร็จทางการตลาดด้วย จะยิงไปอีก ที่ FCC พิจารณา แผนงานที่ขอไป เป็นกว่า 4 หมื่นดวง
แต่มีความล้มเหลว ยิงไปแล้วไม่ทำงาน อยู่ประมาณที่ 2% เมื่อตอนยิงไปพันกว่าดวง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันบนเป็นแค่ concept
รูปจริงที่ยิงขึ้นไป แต่ละชุด 60 ดวง ก่อนไปกระจายในอวกาศ... จากทวิตเตอร์ป๋ามัสค์เอง
https://twitter.com/elonmusk/status/1127388838362378241
ทีนี้ ในการขายไปหาลูกค้าทั่วโลกจริง....
ถ้าจะประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ทำสัญญากับผู้ให้บริการรายใดของแต่ละท้องถิ่น ถึงยังไงต้องขออนุญาต กับ regulator แต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค เลี่ยงไม่ได้
ไม่งั้นจะเป็นแบบคห. 1 ว่า เพราะการยิงต่อ ๆ กันถ้าไม่ลงภาคพื้นดินเลยไปโผล่ที่อเมริกาอย่างเดียว ก็จะสัญญาณหน่วง latency บานเบอะแน่
คิดง่าย ๆ แบบไม่ต้องรู้จักเทคโนโลยีอะไรมากนักก็ยังเข้าใจได้เลย
ก็แบบที่เราเล่น pantip ที่ server อยู่ในไทย แต่สัญญาณจากหลังคาบ้านยิงไปหาดาวเทียม ยิงขึ้นฟ้าต่อ ๆ ไปไม่รู้กี่ดวง ไปลงสถานีภาคพื้นดินที่อเมริกาข้ามโลกไปนู่น แล้วลงสถานีพื้นดินกว่าจะผ่านเคเบิ้ลใต้น้ำมา server เดินทางมาถึงไทย
แล้วด้านตรงข้าม ก็เหมือนกัน จาก server ในไทย ผ่านเคเบิ้ลใต้น้ำไปอเมริกา เพื่อกลับไปสถานีดาวเทียมอีก กว่าจะผ่านดาวเทียมหลาย ๆ ๆ ๆ ดวงจะส่งกลับลงมาหาเราหลังคาบ้านเราได้... กลับไปกลับมาอยู่นั่นแหละ
ผลคือก็จะได้เน็ตเต่าแทน
ดังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องทางกฎระเบียบ/กฎหมายแค่นั้น แต่ทางเทคนิคด้วย ที่ต้องมีสถานีภาคพื้นดิน ในการไม่ให้สัญญาณแย่...
แต่อาจจะไม่ลงสถานี gateway ทุกประเทศ หรือถ้าไม่พอใจ ถ้าถูกขัดขวาง ก็ไปลงประเทศเพื่อนบ้านได้
ตัวอย่างเช่น ให้บริการสปป. ลาว กัมพูชา ลูกค้าน้อย หรือไม่แน่ใจกับเสถียรภาพเมียนมาร์ อาจตั้ง gateway ที่แค่ไทยได้
หรือถ้าไม่พอใจไทย ก็ไปตั้งมาเลเซีย หรือสิงคโปร์
ให้สัญญาณมันผ่าน fiber บ้าง
ตอนนี้คิดถึงได้แค่เล่นเน็ตกับ server อเมริกา
มา edit เพิ่มรูปการทำงานอีกหน่อย และเขียนปอลิงห้อยท้ายนิด
เพิ่มข้อดีข้อเสียละเอียดกว่าที่เคยเขียน พยายามเลี่ยงตัวเลขการคำนวณหรือคำยาก ๆ
ที่ผ่านมา เห็นคนเข้าใจผิดเยอะ ทั้งเรื่องการทำงาน และมักมองข้ามการที่ต้องมาร่วมมือกับท้องถิ่น
ถ้าจะมองเห็นในแง่ดี คนดูแลงานของผู้ให้บริการด้านนี้ผ่านมาอ่าน แทนที่จะมองเป็นคู่แข่ง ก็รีบไปจีบเป็นพันธมิตรซะ
และข้างล่างสุด ไม่ได้เขียนแบบชี้โพรงให้กระรอกให้หนีไประเทศอื่น แต่เผื่อมีคนทำงาน regulator มาอ่าน ที่ผมว่าน่าจะเข้าใจการทำงานพวกนี้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไปตึงเกินไป เขามีทางออก หนีไปประเทศอื่นได้ แทนที่ประชาชนบ้านเราจะมีทางเลือกหลากหลายกันให้เลือกมากขึ้น อาจต้องไป route ผ่านพวกพ่อค้าอย่างสิงคโปร์ (อีกแล้วเหรอ)
ส่วนใครที่ชอบอ่านการคำนวณทางเทคนิค... เอาจากกระทู้เก่ามาแปะเพิ่มให้
ซ่อนไว้ละกัน เพราะคนที่สนใจ ถึงขั้นคำนวณ น่าจะจำนวนน้อยกว่า และโชว์ไว้ อาจมีนเกินไป แต่เผื่อไว้อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มือถือดาวเทียม เข้าอาคารก็หาย ล้มมากี่รายแล้วล่ะ
ถ้าอยากขยายฐานลูกค้าส่วนนี้จริง ตรงข้ามว่า ต้องมาจับมือ ทำสัญญากับค่ายมือถือท้องถิ่นรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายแต่ละประเทศ เพื่อให้ใช้ได้ต่อเนื่อง
แต่ก็จะแย่งฐานลูกค้าเน็ตบ้านไปได้จริง
เป้าหมายของ starlink ไม่ใช่อุปกรณ์เคลื่อนที่คือพวกมือถือ ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เป็นเน็ตบ้านครับ ต้องมี user terminal ภาษาปกติ คือเป็นจานเล็กและกล่อง เหมือนเน็ตบ้าน หรือเคเบิ้ลทีวี
อันนี้ เห็นบางข่าวออกมา ในการออกแบบจานบางรุ่นอาจออกมาภายหลัง ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จขนาดไหน
ผมนี้ คิดถีงวัดบ้านเราแถวปทุมเลยครับ 555
มารายละเอียด ข้อเท็จจริงเพิ่มหน่อย ไปเอาแบบมโนแบบข่าว... เพื่อจะได้พิจาณาข้อดีข้อเสียได้เอง
พูดแบบให้เข้าใจง่าย ๆ มันก็คือ ดาวเทียมผ่านเน็ตจานเล็ก แบบ IPSTAR เวอร์ชั่นดีกว่านั่นเอง
สัญญาณจะดีกว่า ทนฝนกว่า เพราะดาวเทียมเก่า ระยะ 3.7 หมื่น กม. และเทคโนโลยีเกือบ 20 ปีไปแล้ว
ส่วนดาวเทียมรุ่นนี้ วงโคจรระยะต่ำถึงต่ำมาก ที่ขอไว้มีตั้งแต่ระยะหน่วยพันกม. อนาคตจะหลักร้อยกม. มาเสริมอีก
ดาวเทียมเก่าแบบเก่า ทำงานแบบดวงเดียวตัวใครตัวมัน ส่วนโครงการนี้ดาวเทียมเป็นเครื่อข่ายในอวกาศ จับย้ายไปมาหลายดวงได้
เมื่อยิงขึ้นไปแล้ว (ยิงทีละ 60 ดวง) ดาวเทียมพวกนี้ จะเชื่อมโยงยิงหากันด้วยไมโครเวฟเลเซอร์ เพื่อเชื่อมกันเป็นเครือข่ายที่ว่า
คล้ายกับสถานีมือถือภาคพื้นดิน ที่มีไมโครเวฟและไฟเบอร์ ส่งต่อสัญญาณหากันได้ เมื่อพบว่าสัญญาณอีกดวงแย่ ก็ไปจับดวงอื่นได้
ต่างจากระบบเก่า สถานียิงไปกลับจากสถานีควบคุมภาคพื้นดินเท่านั้น ลูกค้าจับดวงเดียวค้างไว้... สัญญาณหาย ก็คือหาย
(ภาษาสถานีมือถือเรียกว่า coverage ภาษาดาวเทียมเรียก footprint... แต่นั่นคืออนาคต เมื่อดาวเทียมเยอะและมุมรับส่งได้กว้างขึ้น จากดาวเทียมถี่ยิงมาจากอวกาศกับยิงขึ้นจากลูกค้ากลับไปในอวกาศ สัญญาณดาวเทียมครอบคุลม มาคล้องกันได้แบบสถานีมือถือ... ระยะแรกจึงอาจยังไม่ได้ตามนี้ )
ที่ได้รับการอนุมัติ จาก FCC หรือกสทช. สหรัฐ 1.2 หมื่นดวง
ถ้านายทุนเห็นด้วย ยิงไปเรื่อย ๆ และประสบผลสำเร็จทางการตลาดด้วย จะยิงไปอีก ที่ FCC พิจารณา แผนงานที่ขอไป เป็นกว่า 4 หมื่นดวง
แต่มีความล้มเหลว ยิงไปแล้วไม่ทำงาน อยู่ประมาณที่ 2% เมื่อตอนยิงไปพันกว่าดวง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันบนเป็นแค่ concept
รูปจริงที่ยิงขึ้นไป แต่ละชุด 60 ดวง ก่อนไปกระจายในอวกาศ... จากทวิตเตอร์ป๋ามัสค์เอง
https://twitter.com/elonmusk/status/1127388838362378241
ทีนี้ ในการขายไปหาลูกค้าทั่วโลกจริง....
ถ้าจะประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ทำสัญญากับผู้ให้บริการรายใดของแต่ละท้องถิ่น ถึงยังไงต้องขออนุญาต กับ regulator แต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาค เลี่ยงไม่ได้
ไม่งั้นจะเป็นแบบคห. 1 ว่า เพราะการยิงต่อ ๆ กันถ้าไม่ลงภาคพื้นดินเลยไปโผล่ที่อเมริกาอย่างเดียว ก็จะสัญญาณหน่วง latency บานเบอะแน่
คิดง่าย ๆ แบบไม่ต้องรู้จักเทคโนโลยีอะไรมากนักก็ยังเข้าใจได้เลย
ก็แบบที่เราเล่น pantip ที่ server อยู่ในไทย แต่สัญญาณจากหลังคาบ้านยิงไปหาดาวเทียม ยิงขึ้นฟ้าต่อ ๆ ไปไม่รู้กี่ดวง ไปลงสถานีภาคพื้นดินที่อเมริกาข้ามโลกไปนู่น แล้วลงสถานีพื้นดินกว่าจะผ่านเคเบิ้ลใต้น้ำมา server เดินทางมาถึงไทย
แล้วด้านตรงข้าม ก็เหมือนกัน จาก server ในไทย ผ่านเคเบิ้ลใต้น้ำไปอเมริกา เพื่อกลับไปสถานีดาวเทียมอีก กว่าจะผ่านดาวเทียมหลาย ๆ ๆ ๆ ดวงจะส่งกลับลงมาหาเราหลังคาบ้านเราได้... กลับไปกลับมาอยู่นั่นแหละ
ผลคือก็จะได้เน็ตเต่าแทน
ดังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องทางกฎระเบียบ/กฎหมายแค่นั้น แต่ทางเทคนิคด้วย ที่ต้องมีสถานีภาคพื้นดิน ในการไม่ให้สัญญาณแย่...
แต่อาจจะไม่ลงสถานี gateway ทุกประเทศ หรือถ้าไม่พอใจ ถ้าถูกขัดขวาง ก็ไปลงประเทศเพื่อนบ้านได้
ตัวอย่างเช่น ให้บริการสปป. ลาว กัมพูชา ลูกค้าน้อย หรือไม่แน่ใจกับเสถียรภาพเมียนมาร์ อาจตั้ง gateway ที่แค่ไทยได้
หรือถ้าไม่พอใจไทย ก็ไปตั้งมาเลเซีย หรือสิงคโปร์
ให้สัญญาณมันผ่าน fiber บ้าง
ตอนนี้คิดถึงได้แค่เล่นเน็ตกับ server อเมริกา
มา edit เพิ่มรูปการทำงานอีกหน่อย และเขียนปอลิงห้อยท้ายนิด
เพิ่มข้อดีข้อเสียละเอียดกว่าที่เคยเขียน พยายามเลี่ยงตัวเลขการคำนวณหรือคำยาก ๆ
ที่ผ่านมา เห็นคนเข้าใจผิดเยอะ ทั้งเรื่องการทำงาน และมักมองข้ามการที่ต้องมาร่วมมือกับท้องถิ่น
ถ้าจะมองเห็นในแง่ดี คนดูแลงานของผู้ให้บริการด้านนี้ผ่านมาอ่าน แทนที่จะมองเป็นคู่แข่ง ก็รีบไปจีบเป็นพันธมิตรซะ
และข้างล่างสุด ไม่ได้เขียนแบบชี้โพรงให้กระรอกให้หนีไประเทศอื่น แต่เผื่อมีคนทำงาน regulator มาอ่าน ที่ผมว่าน่าจะเข้าใจการทำงานพวกนี้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าไปตึงเกินไป เขามีทางออก หนีไปประเทศอื่นได้ แทนที่ประชาชนบ้านเราจะมีทางเลือกหลากหลายกันให้เลือกมากขึ้น อาจต้องไป route ผ่านพวกพ่อค้าอย่างสิงคโปร์ (อีกแล้วเหรอ)
ส่วนใครที่ชอบอ่านการคำนวณทางเทคนิค... เอาจากกระทู้เก่ามาแปะเพิ่มให้
ซ่อนไว้ละกัน เพราะคนที่สนใจ ถึงขั้นคำนวณ น่าจะจำนวนน้อยกว่า และโชว์ไว้ อาจมีนเกินไป แต่เผื่อไว้อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
ข่าว ‘อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมกับการชะลอซื้อมือถือ’เชื่อถือได้แค่ไหนครับ?
'ฟังทางนี้ มือถือที่ยังไม่พัง ให้ชลอซื้อเครื่องใหม่ในปี 2022
Satellite Cellulars หรือโทรศัพท์มือถือผ่านดาวเทียม กำลังจะมาฆ่าค่ายมือถือต่าง ๆ !!! ??? 😲😲😲
นับจากปี 2022 ไป ค่าย SpaceX ของลีออน มัสค์ เศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า ( Tesla ) จะเปิดให้บริการ โทรทัพท์มือถือผ่านดาวเทียม ( Satellite Cellular ) ที่ชื่อสตาร์ลิงค์ ( Starlinks ) มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก ความเร็วระดับมากกว่า 6G ที่ไม่ต้องพึ่งค่ายมือถือใด ๆ อีกต่อไป โดยคิดค่าบริการปีละครั้ง ในราคาที่ถูกมาก ๆ แค่ ประมาณปีละ $99 เรียกว่า ใช้ฟรีตลอดทั้งปี ที่สำคัญที่สุดคือ สัญญาณดีทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน เมือง ในป่า หรือในหุบเขา !!
ปีหน้า ค่ายมือถือทุกค่าย ที่มีอยู่ทั่วโลก เตรียมตัวเจ้งได้ ถ้าไม่รีบปรับตัว !!!
เพราะ WiFi จะส่งตรงจากดาวเทียม ไม่ตรงจากค่ายมือถือ จากเสาสัญญาณโทรศัพท์ เหมือนในปัจจุบัน ทำให้สัญญาณรวดเร็วมาก ไวกว่าระบบ 6G !!!
ปี 2022 เป็นต้นไป Satellite Cellular จะเข้ามาเขี่ยค่ายมือถือทั้งหมดที่มีอยู่ เหมือน iPhone เกิดมาฆ่า
Nokia , Motorola และ อีกหลาย ๆ เจ้า ที่ปรับตัวไม่ทัน !!
นึกออกมั้ยครับ เหมือนเราไม่เคยโทรหากันผ่านเบอร์มือถือเลยในปัจจุบัน แค่มี WiFi เราก็ติดต่อกันได้แล้ว ผ่านไลน์ ผ่านเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และอื่น ๆ สะดวกมาก แทบจะไม่ต้องพึ่งค่ายมือถือเลย ถ้ามี WiFi ครอบคลุมทุกพื้นที่ !!
ค่ายมือถือต่าง ๆ จะทะยอยปิดตัวลง ถ้าไม่ปรับตัว เหมือนผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้าน ที่ปัจจุบันนี้ แทบจะไม่มีใครใช้บริการอีกเลย ยกเว้นบริษัทใหญ่ ๆ และสถานที่ราชการ !!
ในอนาคต โทรศัพท์มือถือ จะมีแค่โหมด WiFi และ WiFi Calling เท่านั้น เพราะเราจะสื่อสารกันผ่านช่องทาง WiFi calling และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ดังกล่าวข้างต้น !!
สิ่งที่เราทุกคนจะได้รับ นอกจากคลื่นสัญญาณ ( WiFi ) ที่รวดเร็วมาก ๆ แล้ว เรายังจะประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกมากในแต่ละเดือน 😲 !!
ต้องบอกว่า โลกแห่งเทคโนโลยี ไม่เคยหยุดนิ่งเลยจริง ๆ !! ✌️😃'
เรียนถามผู้รู้หน่อยครับ
ขอขอบพระคุณมาเป็นการล่วงหน้าครับ