นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ไปญี่ปุ่น มีใครคิดถึงญี่ปุ่นกันบ้างไหมคะ หวังว่าเราคงจะได้กลับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกครั้งในเร็ววันนี้เนอะ และถ้าใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ล่ะก็ .. วันนี้เรามีพิกัด และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชิซุโอกะมาฝากกัน เมืองนี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มตาเลยนะ ทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวและมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุดให้เราได้ไปสัมผัส ที่สำคัญยังเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะมาจากนาโกย่าหรือโตเกียว เอาไว้เปิดประเทศอีกทีเมื่อไร ปักหมุดเมืองชิซุโอกะไว้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน ตามมาดูกันเลยค่า
พาเที่ยวโดย
Easy&Save :
https://easyandsave.com/article/selfdrive-shizuoka/
Wendy Tour :
https://www.wendytour-th.com/Shizuoka%20Self%20Drive%204%20day.html
JTB :
https://www.jtbthailand.com/th/model-course-%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80/
การเดินทางในชิซุโอกะ
ทริปนี้เราจะชวนมาเช่ารถขับเที่ยวกันค่ะ เพราะขับรถเที่ยวญี่ปุ่นนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แถมอิสระและเข้าถึงจุดท่องเที่ยวได้สะดวกกว่า สามารถเช่ารถขับจากสนามบิน Chubu Centrair ของเมืองนาโกย่ามาชิซุโอกะได้เลย มาดูขั้นตอนแบบง่ายๆ กันค่ะ
1. ต้องมีใบขับขี่สากล และพาสปอร์ต
2. ขณะที่ทำการจองต้องเลือกวันเช่า สถานที่รับและวันคืน สถานที่คืนรถ
3. เลือกประเภทรถยนต์ ขนาด (รถยนต์บางขนาดอาจจะต้องใช้ใบขับขี่ที่พิเศษกว่าใบขับขี่สากลธรรมดา กรุณาเช็คข้อมูลโดยสามารถสอบถามไปยังบริษัทรถเช่าได้)
4. หากต้องการอุปกรณ์เสริม เช่น ETC, คาร์ซีทเพื่อเด็กหรืออื่นๆ กรุณาสอบถามข้อมูลล่วงหน้า
5. สถานที่เช่า และสถานที่คืนรถต่างพื้นที่ควรเช็คจุดคืนล่วงหน้า
สำหรับบริษัทเช่ารถในญี่ปุ่นนั้นก็จะมีให้เลือกหลายบริษัท แต่เราเลือกใช้บริการของ NIPPON Rent-A-Car เพราะอุ่นใจในการบริการค่ะ เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารัก มีการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ก่อนส่งมอบรถ เช่น วิธีการติดต่อเจ้าหน้าที่ยามฉุกเฉิน วิธีการคืนรถ การใช้บัตรอีทีซี รวมไปถึงการเติมน้ำมัน
หากใครสนใจเช่ารถกับ NIPPON Rent-A-Car สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >
https://www.nrgroup-global.com/th/ เว็บไซต์มีภาษาไทยด้วย หายห่วงเลยล่ะค่ะ
1. ไร่ชา Obuchi Sasaba
ชิซุโอกะได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไร่ชาที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นเลยนะคะ ฉะนั้นมาถึงถิ่นชาทั้งที ต้องแวะมาถ่ายรูปกับมุมฮิตที่ Obuchi Sasaba หรือจุดชมวิวอันสุดแสนอลังการที่มีไร่ชาเป็นฉากหน้า และภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังซะหน่อย! ที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ควรเดินลุยไร่ชาบริเวณที่ไม่ใช่ทางเดินหลักนะคะ ถ้ามาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้ที่จุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อมาได้เลย จุดถ่ายรูปไม่ไกลจากจุดจอดรถ แนะนำว่าควรมาเป็นอย่างยิ่ง เพราะสวยมาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองชิซุโอกะก็ว่าได้ค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/kU9X2gzwEztF2AAT7
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://www.city.fuji.shizuoka.jp/machi/c0504/rn2ola000000dvpa.html
2. ริวบุนจิ โนะซากุระ (龍厳淵の桜並木)
พิกัดนี้เป็นอีกจุดที่ช่างภาพญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิกันค่ะ คิดว่าคงมีหลายคนเคยเห็นผ่านตากันบ้างกับภาพแม่น้ำอุรุอิ (Urui River) และภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหงานเป็นฉากหลัง โดยฤดูกาลและช่วงเวลาที่แนะนำ คือ ฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานจะมีดอกนะโนะฮานะเบ่งบานสีเหลืองสะพรั่งตัดกับสีชมพูของดอกซากุระ สวยตรึงตาตรึงใจมากๆ แนะนำให้เดินทางไปถึงก่อนเที่ยงนะคะ จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ง่ายกว่า เพราะช่วงบ่ายมักจะมีเมฆบังค่ะ
พิกัดและรายละเอียดเพิ่มเติม :
https://sp.jorudan.co.jp/hanami/spot_653.html
3. สวน Iwamotoyama (岩本山公園)
หากใครมาเที่ยวชิซุโอกะช่วงฤดูใบไม้ผลิยามซากุระผลิบาน อีกหนึ่งพิกัดที่เราอยากแนะนำคือที่นี่เลยค่ะ Iwamotoyama Park เป็นสวนที่มีซากุระปลูกเรียงรายอยู่มากมายหลายร้อยต้น ช่วงเวลาที่ซากุระออกดอกพร้อมกันจะสวยงามสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน เดินชมซากุระจนเมื่อย ที่บริเวณท้ายสวนก็จะมีคาเฟ่ไว้ให้พักขา จิบชา กาแฟด้วย เป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่ชอบดอกไม้ค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/wJEteD1xafYtRW9s9
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://www.fuji-kousya.jp/park/
4. จุดพักรถทางด่วน Michi no eki Fujikawarakuza
จะดีแค่ไหน ถ้าเราได้นั่งมองภูเขาไฟฟูจิจากบนชิงช้าสวรรค์! ใครอยากมีโมเมนต์แบบนั้น แนะนำให้ขับรถมาแวะที่จุดพักรถบนทางด่วน Michi no eki Fujikawarakuza เลยค่ะ บริเวณด้านหลังตรง Fuji Sky View จะมีชิงช้าสวรรค์ซึ่งสามารถมองเห็นฟูจิซังได้ ราคาเพียงคนละ 700 เยนเท่านั้น แต่ถ้าไปช่วงต้นปีแบบนี้ เขาจะแง้มหน้าต่างของชิงช้าสวรรค์ไว้ อาจจะหนาวนิดหน่อย แนะนำให้ติดเสื้อกันหนาวไปด้วย อุ่นทั้งใจ อุ่นทั้งกายค่า
พิกัด :
https://goo.gl/maps/X8QLncoPkfkLcQfUA
รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://www.fujikawarakuza.co.jp/
5. ศาลเจ้า Fuji Hongu Sengen Taisha
ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงกู เซ็นเก็น ไทชะ มีอายุมากกว่า 1,200 ปี เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อผู้แสวงบุญ ตามประวัติแล้วสถานที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระงับการปะทุของภูเขาไฟฟูจิค่ะ ฉะนั้นคนญี่ปุ่นจึงให้ความเคารพศาลเจ้าแห่งนี้มาก บริเวณด้านข้างของศาลเจ้าจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถเอาขวดน้ำมาตักน้ำในลำธารกลับบ้านได้ เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชิมได้ แต่ไม่แนะนำให้ชิมเยอะ จิบพอเป็นพิธีก็พอค่ะ ถ้าใครมาช่วงฤดูใบไม้ผลิจะต้องตกหลุมรักที่นี่มากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะมีแนวต้นซากุระสวยงามเหมือนรูปวาดเลยล่ะค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/K1Ke4c9nofgTFSE1A
รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://fuji-hongu.or.jp/sengen/
6. Mt. Fuji World Heritage Centre, Shizuoka (静岡県富士山世界遺産センター)
พิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ภูเขาไฟ ไม่ว่าจะเป็น พืช สัตว์ และหินลาวาต่างๆ ไฮไลท์คือสถาปัตยกรรมซึ่งออกแบบได้อย่างสวยงาม หากสังเกตดีๆ ตัวอาคารจะเป็นภูเขาไฟฟูจิซังแบบกลับหัวค่ะ โดยวัสดุทั้งหมดที่ใช้สร้างอาหารนี้นำมาจากเชิงภูเขาไฟฟูจิด้วยนะคะ ถ้าใครชอบถ่ายรูป แนะนำให้มาตั้งกล้องด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะได้ภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนน้ำ ดูสวยงามแปลกตามากทีเดียว
พิกัด :
https://goo.gl/maps/tjGV52CYEWnqKf2s9
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://mtfuji-whc.jp/
7. Nihondaira Yume Terrace (日本平夢テラス)
อีกหนึ่งจุดชมวิวน้องใหม่แห่งเมืองชิซุโอกะซึ่งเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน ประมาณเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018 แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มตา ตัวอาคารนั้นออกแบบสวยงาม มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของนิฮอนไดระ ส่วนชั้นสองเป็นคาเฟ่ และชั้นสามเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นฟูจิซังสุดอลังการได้แบบไม่เหมือนใคร เพราะจะเห็นมิโฮะโนะมัตสึบาระเหนืออ่าวซูรุกะโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง!
ที่พิเศษก็คือเขามีหอดูดาวด้วยนะคะ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่หลายมุม ถ้าใครแวะไปดูดอกซากุระบานที่คาวาสุก็สามารถแวะมาเที่ยวที่นี่ต่อได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากคาวาสุและศาลเจ้าโทโชคุค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/UbSX18mvnKNwZ58r8
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://nihondaira-yume-terrace.jp/
8. ชายฝั่ง และป่าสนมิโฮะโนะมัตซึบาระ (三保松原)
อีกหนึ่งมุมที่สายอันซีนไม่ควรพลาด! ที่นี่เราจะได้ถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิคู่กับหาดทรายสีดำของอ่าวสึรุกะ (Suruga) สามารถมาเดินเล่นชมชายหาดได้เพลินๆ แต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิหรือเปล่า ถ้าใครมาแล้วน้องฟูจิขี้อายอยู่ ก็แวะไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สวนสนซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ชายหาดได้ เรียกว่ามาที่เดียวได้เที่ยวถึงสองฟีลเลย
พิกัด :
https://goo.gl/maps/GgTz5waVQbS7QqBK9
รายละเอียดเพิ่มเติม :
https://miho-no-matsubara.jp/
9. น้ำตกชิราอิโตะ(白糸の滝)
หนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงามอลังการติดโผน้ำตกสวยที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังได้อีกด้วย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมของโลกด้วยนะคะ โดยน้ำตกแห่งนี้มีแหล่งน้ำมาจากภูเขาไฟฟูจิ เมื่อไหลมาถึงก็จะแยกสายน้ำออกเป็นหลายร้อยเส้น มองดูแล้วเหมือนเส้นด้ายสีขาว เป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่า Shiraito (白糸) ที่แปลว่าด้ายสีขาวนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมในถ้ำซึ่งเคยเกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นมาด้วยค่ะ จึงทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธาว่าเป็นสถานที่ชำระล้างจิตใจ รวมถึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของผู้แสวงบุญ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนญี่ปุ่นหลายคนใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิตเลยล่ะค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/MxZXteLcG8cGZLRq9
รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://www.city.fujinomiya.lg.jp/kankou/llti2b00000018ez.html
10. ชิราอิโตะโรสการ์เด้นท์ (白糸バラ園)
เดินทางต่อมาจากน้ำตกชิราอิโตะเพียง 5 นาที ก็จะเจอกับสวนดอกไม้ที่ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ มีดอกไม้มากมายหลายชนิดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ ดอกคอสมอส ฯลฯ ใครที่ชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ แวะถ่ายรูปกับน้ำตกเสร็จแล้วอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับดอกไม้ที่นี่ด้วยนะคะ ไม่เสียค่าเข้าชมค่า
พิกัด :
https://goo.gl/maps/hXa26inLzHsazdi68
รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://www.city.fujinomiya.lg.jp/municipal_government/llti2b000000233h.html
11. ทะเลสาบสีฟ้า กับ สะพานเรนโบว์ (奥大井レインボーブリッジ)
เส้นทางของรถจักรไอน้ำสาย Oigawa ซึ่งวิ่งเลียบหุบเขาของแม่น้ำโออิกาวะข้ามสะพานสีแดงที่เรียกกันว่า Rainbow Bridge หรือสะพานสายรุ้ง เราสามารถขับรถมาจอดแล้วแวะมาถ่ายรูปทะเลสาบสีมรกตกับทางรถไฟได้ จะมีคาเฟ่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ สามารถเดินไปได้นะคะ มีคนเดินไปเหมือนกัน แต่ทริปนี้ เราขอถ่ายรูปอยู่บนยอดตรงนี้ก่อน รอบหน้าไม่พลาดแน่ๆ ค่ะ
พิกัด :
https://goo.gl/maps/ephXbEphGSGrgckV9
รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://oigawa-railway.co.jp/okuohi2017
12. Yume no Tsuri Bashi (奥寸又峡 夢のつり橋)
ขออนุญาตแปลชื่อสถานที่เป็นภาษาไทยแบบวอลต์ดิสนีย์หน่อยๆ ว่า “สะพานแขวนแห่งความฝัน” เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคนจริงๆ ค่ะ สำหรับคนไทยอาจจะยังไม่คุ้นตานัก แต่คนญี่ปุ่นหลายคนต้องยอมยกให้เป็นหนึ่งใน Bucket List เลยนะ ที่นี่คือสุดจริงๆ โดยเฉพาะสะพานแขวนข้ามทะเลสาบสีมรกตซึ่งตั้งอยู่ในเมืองออนเซนเล็กๆ และจะสวยพีคมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับรองว่าสวยตะลึงจนต้องร้องอุทานออกมาแบบไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงเพิ่งรู้จักที่นี่!
พิกัด :
https://goo.gl/maps/u24EVGdReCrU14Fs9
[BR] รวมพลคนคิดถึงญี่ปุ่น! ไปขับรถเที่ยว 28 มุมสวยใน "ชิสุโอกะ" กัน
นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ไปญี่ปุ่น มีใครคิดถึงญี่ปุ่นกันบ้างไหมคะ หวังว่าเราคงจะได้กลับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกครั้งในเร็ววันนี้เนอะ และถ้าใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ล่ะก็ .. วันนี้เรามีพิกัด และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชิซุโอกะมาฝากกัน เมืองนี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มตาเลยนะ ทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวและมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุดให้เราได้ไปสัมผัส ที่สำคัญยังเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะมาจากนาโกย่าหรือโตเกียว เอาไว้เปิดประเทศอีกทีเมื่อไร ปักหมุดเมืองชิซุโอกะไว้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน ตามมาดูกันเลยค่า
พาเที่ยวโดย
Easy&Save : https://easyandsave.com/article/selfdrive-shizuoka/
Wendy Tour : https://www.wendytour-th.com/Shizuoka%20Self%20Drive%204%20day.html
JTB : https://www.jtbthailand.com/th/model-course-%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80/
การเดินทางในชิซุโอกะ
ทริปนี้เราจะชวนมาเช่ารถขับเที่ยวกันค่ะ เพราะขับรถเที่ยวญี่ปุ่นนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แถมอิสระและเข้าถึงจุดท่องเที่ยวได้สะดวกกว่า สามารถเช่ารถขับจากสนามบิน Chubu Centrair ของเมืองนาโกย่ามาชิซุโอกะได้เลย มาดูขั้นตอนแบบง่ายๆ กันค่ะ
1. ต้องมีใบขับขี่สากล และพาสปอร์ต
2. ขณะที่ทำการจองต้องเลือกวันเช่า สถานที่รับและวันคืน สถานที่คืนรถ
3. เลือกประเภทรถยนต์ ขนาด (รถยนต์บางขนาดอาจจะต้องใช้ใบขับขี่ที่พิเศษกว่าใบขับขี่สากลธรรมดา กรุณาเช็คข้อมูลโดยสามารถสอบถามไปยังบริษัทรถเช่าได้)
4. หากต้องการอุปกรณ์เสริม เช่น ETC, คาร์ซีทเพื่อเด็กหรืออื่นๆ กรุณาสอบถามข้อมูลล่วงหน้า
5. สถานที่เช่า และสถานที่คืนรถต่างพื้นที่ควรเช็คจุดคืนล่วงหน้า
สำหรับบริษัทเช่ารถในญี่ปุ่นนั้นก็จะมีให้เลือกหลายบริษัท แต่เราเลือกใช้บริการของ NIPPON Rent-A-Car เพราะอุ่นใจในการบริการค่ะ เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารัก มีการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ก่อนส่งมอบรถ เช่น วิธีการติดต่อเจ้าหน้าที่ยามฉุกเฉิน วิธีการคืนรถ การใช้บัตรอีทีซี รวมไปถึงการเติมน้ำมัน
หากใครสนใจเช่ารถกับ NIPPON Rent-A-Car สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ > https://www.nrgroup-global.com/th/ เว็บไซต์มีภาษาไทยด้วย หายห่วงเลยล่ะค่ะ
1. ไร่ชา Obuchi Sasaba
ชิซุโอกะได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งไร่ชาที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นเลยนะคะ ฉะนั้นมาถึงถิ่นชาทั้งที ต้องแวะมาถ่ายรูปกับมุมฮิตที่ Obuchi Sasaba หรือจุดชมวิวอันสุดแสนอลังการที่มีไร่ชาเป็นฉากหน้า และภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังซะหน่อย! ที่สำคัญที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ควรเดินลุยไร่ชาบริเวณที่ไม่ใช่ทางเดินหลักนะคะ ถ้ามาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้ที่จุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อมาได้เลย จุดถ่ายรูปไม่ไกลจากจุดจอดรถ แนะนำว่าควรมาเป็นอย่างยิ่ง เพราะสวยมาก เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองชิซุโอกะก็ว่าได้ค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/kU9X2gzwEztF2AAT7
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.city.fuji.shizuoka.jp/machi/c0504/rn2ola000000dvpa.html
2. ริวบุนจิ โนะซากุระ (龍厳淵の桜並木)
พิกัดนี้เป็นอีกจุดที่ช่างภาพญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิกันค่ะ คิดว่าคงมีหลายคนเคยเห็นผ่านตากันบ้างกับภาพแม่น้ำอุรุอิ (Urui River) และภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหงานเป็นฉากหลัง โดยฤดูกาลและช่วงเวลาที่แนะนำ คือ ฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานจะมีดอกนะโนะฮานะเบ่งบานสีเหลืองสะพรั่งตัดกับสีชมพูของดอกซากุระ สวยตรึงตาตรึงใจมากๆ แนะนำให้เดินทางไปถึงก่อนเที่ยงนะคะ จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ง่ายกว่า เพราะช่วงบ่ายมักจะมีเมฆบังค่ะ
พิกัดและรายละเอียดเพิ่มเติม : https://sp.jorudan.co.jp/hanami/spot_653.html
3. สวน Iwamotoyama (岩本山公園)
หากใครมาเที่ยวชิซุโอกะช่วงฤดูใบไม้ผลิยามซากุระผลิบาน อีกหนึ่งพิกัดที่เราอยากแนะนำคือที่นี่เลยค่ะ Iwamotoyama Park เป็นสวนที่มีซากุระปลูกเรียงรายอยู่มากมายหลายร้อยต้น ช่วงเวลาที่ซากุระออกดอกพร้อมกันจะสวยงามสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน เดินชมซากุระจนเมื่อย ที่บริเวณท้ายสวนก็จะมีคาเฟ่ไว้ให้พักขา จิบชา กาแฟด้วย เป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่ชอบดอกไม้ค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/wJEteD1xafYtRW9s9
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.fuji-kousya.jp/park/
4. จุดพักรถทางด่วน Michi no eki Fujikawarakuza
จะดีแค่ไหน ถ้าเราได้นั่งมองภูเขาไฟฟูจิจากบนชิงช้าสวรรค์! ใครอยากมีโมเมนต์แบบนั้น แนะนำให้ขับรถมาแวะที่จุดพักรถบนทางด่วน Michi no eki Fujikawarakuza เลยค่ะ บริเวณด้านหลังตรง Fuji Sky View จะมีชิงช้าสวรรค์ซึ่งสามารถมองเห็นฟูจิซังได้ ราคาเพียงคนละ 700 เยนเท่านั้น แต่ถ้าไปช่วงต้นปีแบบนี้ เขาจะแง้มหน้าต่างของชิงช้าสวรรค์ไว้ อาจจะหนาวนิดหน่อย แนะนำให้ติดเสื้อกันหนาวไปด้วย อุ่นทั้งใจ อุ่นทั้งกายค่า
พิกัด : https://goo.gl/maps/X8QLncoPkfkLcQfUA
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.fujikawarakuza.co.jp/
5. ศาลเจ้า Fuji Hongu Sengen Taisha
ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงกู เซ็นเก็น ไทชะ มีอายุมากกว่า 1,200 ปี เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญต่อผู้แสวงบุญ ตามประวัติแล้วสถานที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อระงับการปะทุของภูเขาไฟฟูจิค่ะ ฉะนั้นคนญี่ปุ่นจึงให้ความเคารพศาลเจ้าแห่งนี้มาก บริเวณด้านข้างของศาลเจ้าจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถเอาขวดน้ำมาตักน้ำในลำธารกลับบ้านได้ เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชิมได้ แต่ไม่แนะนำให้ชิมเยอะ จิบพอเป็นพิธีก็พอค่ะ ถ้าใครมาช่วงฤดูใบไม้ผลิจะต้องตกหลุมรักที่นี่มากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะมีแนวต้นซากุระสวยงามเหมือนรูปวาดเลยล่ะค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/K1Ke4c9nofgTFSE1A
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://fuji-hongu.or.jp/sengen/
6. Mt. Fuji World Heritage Centre, Shizuoka (静岡県富士山世界遺産センター)
พิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของภูเขาไฟฟูจิ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ภูเขาไฟ ไม่ว่าจะเป็น พืช สัตว์ และหินลาวาต่างๆ ไฮไลท์คือสถาปัตยกรรมซึ่งออกแบบได้อย่างสวยงาม หากสังเกตดีๆ ตัวอาคารจะเป็นภูเขาไฟฟูจิซังแบบกลับหัวค่ะ โดยวัสดุทั้งหมดที่ใช้สร้างอาหารนี้นำมาจากเชิงภูเขาไฟฟูจิด้วยนะคะ ถ้าใครชอบถ่ายรูป แนะนำให้มาตั้งกล้องด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะได้ภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนน้ำ ดูสวยงามแปลกตามากทีเดียว
พิกัด : https://goo.gl/maps/tjGV52CYEWnqKf2s9
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://mtfuji-whc.jp/
7. Nihondaira Yume Terrace (日本平夢テラス)
อีกหนึ่งจุดชมวิวน้องใหม่แห่งเมืองชิซุโอกะซึ่งเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน ประมาณเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2018 แต่กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มตา ตัวอาคารนั้นออกแบบสวยงาม มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของนิฮอนไดระ ส่วนชั้นสองเป็นคาเฟ่ และชั้นสามเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นฟูจิซังสุดอลังการได้แบบไม่เหมือนใคร เพราะจะเห็นมิโฮะโนะมัตสึบาระเหนืออ่าวซูรุกะโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง!
ที่พิเศษก็คือเขามีหอดูดาวด้วยนะคะ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่หลายมุม ถ้าใครแวะไปดูดอกซากุระบานที่คาวาสุก็สามารถแวะมาเที่ยวที่นี่ต่อได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากคาวาสุและศาลเจ้าโทโชคุค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/UbSX18mvnKNwZ58r8
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://nihondaira-yume-terrace.jp/
8. ชายฝั่ง และป่าสนมิโฮะโนะมัตซึบาระ (三保松原)
อีกหนึ่งมุมที่สายอันซีนไม่ควรพลาด! ที่นี่เราจะได้ถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิคู่กับหาดทรายสีดำของอ่าวสึรุกะ (Suruga) สามารถมาเดินเล่นชมชายหาดได้เพลินๆ แต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิหรือเปล่า ถ้าใครมาแล้วน้องฟูจิขี้อายอยู่ ก็แวะไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สวนสนซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ชายหาดได้ เรียกว่ามาที่เดียวได้เที่ยวถึงสองฟีลเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/GgTz5waVQbS7QqBK9
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://miho-no-matsubara.jp/
9. น้ำตกชิราอิโตะ(白糸の滝)
หนึ่งในน้ำตกที่มีความสวยงามอลังการติดโผน้ำตกสวยที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังได้อีกด้วย ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมของโลกด้วยนะคะ โดยน้ำตกแห่งนี้มีแหล่งน้ำมาจากภูเขาไฟฟูจิ เมื่อไหลมาถึงก็จะแยกสายน้ำออกเป็นหลายร้อยเส้น มองดูแล้วเหมือนเส้นด้ายสีขาว เป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่า Shiraito (白糸) ที่แปลว่าด้ายสีขาวนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมในถ้ำซึ่งเคยเกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นมาด้วยค่ะ จึงทำให้ผู้คนเกิดความศรัทธาว่าเป็นสถานที่ชำระล้างจิตใจ รวมถึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของผู้แสวงบุญ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนญี่ปุ่นหลายคนใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิตเลยล่ะค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/MxZXteLcG8cGZLRq9
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.city.fujinomiya.lg.jp/kankou/llti2b00000018ez.html
10. ชิราอิโตะโรสการ์เด้นท์ (白糸バラ園)
เดินทางต่อมาจากน้ำตกชิราอิโตะเพียง 5 นาที ก็จะเจอกับสวนดอกไม้ที่ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลค่ะ มีดอกไม้มากมายหลายชนิดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ดอกกุหลาบ ดอกคอสมอส ฯลฯ ใครที่ชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ แวะถ่ายรูปกับน้ำตกเสร็จแล้วอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับดอกไม้ที่นี่ด้วยนะคะ ไม่เสียค่าเข้าชมค่า
พิกัด : https://goo.gl/maps/hXa26inLzHsazdi68
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.city.fujinomiya.lg.jp/municipal_government/llti2b000000233h.html
11. ทะเลสาบสีฟ้า กับ สะพานเรนโบว์ (奥大井レインボーブリッジ)
เส้นทางของรถจักรไอน้ำสาย Oigawa ซึ่งวิ่งเลียบหุบเขาของแม่น้ำโออิกาวะข้ามสะพานสีแดงที่เรียกกันว่า Rainbow Bridge หรือสะพานสายรุ้ง เราสามารถขับรถมาจอดแล้วแวะมาถ่ายรูปทะเลสาบสีมรกตกับทางรถไฟได้ จะมีคาเฟ่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ สามารถเดินไปได้นะคะ มีคนเดินไปเหมือนกัน แต่ทริปนี้ เราขอถ่ายรูปอยู่บนยอดตรงนี้ก่อน รอบหน้าไม่พลาดแน่ๆ ค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/ephXbEphGSGrgckV9
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://oigawa-railway.co.jp/okuohi2017
12. Yume no Tsuri Bashi (奥寸又峡 夢のつり橋)
ขออนุญาตแปลชื่อสถานที่เป็นภาษาไทยแบบวอลต์ดิสนีย์หน่อยๆ ว่า “สะพานแขวนแห่งความฝัน” เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคนจริงๆ ค่ะ สำหรับคนไทยอาจจะยังไม่คุ้นตานัก แต่คนญี่ปุ่นหลายคนต้องยอมยกให้เป็นหนึ่งใน Bucket List เลยนะ ที่นี่คือสุดจริงๆ โดยเฉพาะสะพานแขวนข้ามทะเลสาบสีมรกตซึ่งตั้งอยู่ในเมืองออนเซนเล็กๆ และจะสวยพีคมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รับรองว่าสวยตะลึงจนต้องร้องอุทานออกมาแบบไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงเพิ่งรู้จักที่นี่!
พิกัด : https://goo.gl/maps/u24EVGdReCrU14Fs9
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน