ไม่มีใครผิดครับ

ทัศนคติและค่านิยมไม่เหมือนกัน

งงหลายๆคห.
ทำไมคิดว่าอยู่ก่อนแต่งมันต้องมีอะไรกัน
ผมกับแฟนเก่าก็ทดลองอยู่ก่อนแต่งด้วยกัน ตกลงกันว่าจะไม่มีอะไรกัน หลักๆคือไม่อยากแต่งไปแล้วเกิดปัญหานั่นแหล่ะ

แล้วอีกประเด็นก็สงสัยว่า ทำไมผู้หญิงกับผู้ชายมีอะไรกัน ถึงมองว่าเสียตัวฟรีอย่างที่บางคห.กล่าวไว้
จะเสียตัวมันต้องได้อะไรด้วยเหรอ ทำไมถึงฟรีไม่ได้?
แล้วสิ่งที่ถามหาว่าไม่ฟรีนี่คืออะไร ไม่พ้นเงินใช่หรือไม่?
เพราะอันที่จริงการมีอะไรกันของคนคบกันเนี่ย ไม่มีคำว่าฟรีหรอก
ฝ่ายชายต้องจีบ ต้องพาไปกินข้าว ดูหนัง ฯลฯ สารพัดกว่าจะได้คบ แค่นี้ก็ไม่ฟรีแล้ว
หรือถ้าไม่มองเรื่องตัวเงิน การที่จะมีอะไรกันมันก็ต้องมีการเอาอกเอาใจก่อนอยู่แล้ว คงไม่มีคู่ไหนผู้ชายบอกว่าอยากมีอะไรก็ยอมทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรให้เลยหรอก

เอาจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมแล้วกัน แฟนจขกท.อาจจะเป็นแบบเดียวกันก็ได้
กับแฟนเก่าคนหนึ่งที่เลิกกันไป เหมือนมันมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่ทำให้คิดว่าผมควรทดลองอยู่ด้วยกันจริงๆจังๆก่อน
ผลออกมาคือ มีพฤติกรรมบางอย่างที่รับไม่ได้จริงๆ และก็เลิกกันไป
ถ้าผมทำอย่างที่หลายๆคห.นี้ตัดสินว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ผมว่าชีวิตผมตอนนี้คงเหมือนตกนรกทั้งเป็นไปแล้ว

เลิกไปเลยค่ะ ถ้าเขายื่นคำขาดแบบนี้มา ไปเอาค่านิยมอยู่ก่อนแต่งมาตัดสิน มาใช้กับทุกคนไม่ได้ค่ะ  ครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน

จริงอยู่หลายคู่ คบกันนาน ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยกัน 24ชม. พอแต่งปุ๊บเลิกปั๊บ เพราะปรับจูนข้อเสียกันไม่ได้

หลายคู่ อยู่ด้วยกันก่อนแต่งมานาน พอแต่งปุ๊บลายเก่าออก เลิกปั๊บ แบบนี้ก็มีอยู่เยอะ

คุณและเขาคบกันมา 6 ปี ถ้ามั่นใจว่าสามารถรับมือข้อเสียกันและกันได้ อยู่/ไม่อยู่กาอนแต่ง ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ

ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวจัง ตัวเองยังไม่พร้อมจะดูแล แต่จะให้คนอื่นไปอยู่ด้วย

ถ้าพร้อมดูแลให้มาขอแต่ง จดทะเบียนเป็นเรื่องเป็นราว

ไปอยู่ด้วยกันเฉย ๆ ก็เสียตัวฟรีสิ จะทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีอะไรผูกมัด

ทัศนคติแบบนี้ถ้าเขาจะขอเลิกก็เลิก หาใหม่ได้  บางทีอาจจะคิดว่าทำไมไม่เลิกตั้งนานแล้ว