สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 26
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าฝ่ายหญิงภาระเยอะเลยไม่อยากแต่งหรอก
เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นแต่ก็ยังรักกันดีจนถึงขึ้นจะแต่งงาน
ประเด็นที่คุณอยู่ๆเกิดลังเลไม่อยากแต่ง
น่าจะมาจากช่วงนี้ห่างแฟน ได้ไปเที่ยวกลางคืนได้ไปเจอคนใหม่ๆสังคมใหม่ๆมากกว่า
ถ้าใจไม่อยากแต่งแล้วก็บอกเขาไปตรงๆ
เลิกกันไปดีๆ ไม่ใช่รอมีคนใหม่ละไปหาข้ออ้างนู่นนี่ไปเลิกกับเขา
เราว่าถ้าแบบนี้มันไม่แฟร์และไม่แมนเท่าไหร่
เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นแต่ก็ยังรักกันดีจนถึงขึ้นจะแต่งงาน
ประเด็นที่คุณอยู่ๆเกิดลังเลไม่อยากแต่ง
น่าจะมาจากช่วงนี้ห่างแฟน ได้ไปเที่ยวกลางคืนได้ไปเจอคนใหม่ๆสังคมใหม่ๆมากกว่า
ถ้าใจไม่อยากแต่งแล้วก็บอกเขาไปตรงๆ
เลิกกันไปดีๆ ไม่ใช่รอมีคนใหม่ละไปหาข้ออ้างนู่นนี่ไปเลิกกับเขา
เราว่าถ้าแบบนี้มันไม่แฟร์และไม่แมนเท่าไหร่
ความคิดเห็นที่ 19
ตอนคบเป็นแฟน จะโฟกัสแค่คน 2 คนรักกัน
แต่พอแต่งงาน เป็นสามีกัน จะไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คนอีกต่อไป
จะมีตัวละครอื่น คือ คนในครอบครัวเพิ่มเข้ามา
อยู่ที่ว่า ทั้งเราและแฟน จะบริหารจัดการคนในครอบครัว (เดิม) ได้แค่ไหน
เจอครอบครัวแฟนดี ก็ถือว่าโชคดีไป
ถ้าเจอไม่ดี และรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ถอยมาตั้งหลักก่อน
แต่พอแต่งงาน เป็นสามีกัน จะไม่ใช่แค่เรื่องของคน 2 คนอีกต่อไป
จะมีตัวละครอื่น คือ คนในครอบครัวเพิ่มเข้ามา
อยู่ที่ว่า ทั้งเราและแฟน จะบริหารจัดการคนในครอบครัว (เดิม) ได้แค่ไหน
เจอครอบครัวแฟนดี ก็ถือว่าโชคดีไป
ถ้าเจอไม่ดี และรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ถอยมาตั้งหลักก่อน
ความคิดเห็นที่ 25
ทำงานราชการยังไง แค่พิมพ์ภาษาไทยยังไม่ถูกต้อง เวลาทำหนังสือราชการต่างๆ ไม่โดนกลับมาแก้บ้างหรอ 😩
ส่วนเรื่องแต่งงาน พอคุณเจอปัญหาก็ฝ่อไปหมด เพราะมองเห็นอนาคตแล้วว่าต้องเจอภาระใหญ่ ที่เกิดจากฝ่ายหญิง คุณเลยไม่อยากหลวมตัวไปคอยแก้ปัญหาให้ฝ่ายหญิงด้วย เข้าใจได้ เพราะต่างฝ่ายก็อยากตั้งตัว สร้างอนาคต แต่มาเจอฝ่ายหญิงพ่วงปัญหาทางบ้าน เลยไม่อยากหลวมตัวเข้าไปด้วย
ดังนั้นก็ควรดูใจกันไปก่อน ไม่โทษฝ่ายชายหรอก พอเจอปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ ซึ่งตัวเองไม่ได้เป็นคนสร้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่เราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่ถ้าไม่อยากแต่ง ควรปฏิเสธให้เร็วกว่านี้ ฝ่ายหญิงเขาเสียความรู้สึก
ส่วนเรื่องแต่งงาน พอคุณเจอปัญหาก็ฝ่อไปหมด เพราะมองเห็นอนาคตแล้วว่าต้องเจอภาระใหญ่ ที่เกิดจากฝ่ายหญิง คุณเลยไม่อยากหลวมตัวไปคอยแก้ปัญหาให้ฝ่ายหญิงด้วย เข้าใจได้ เพราะต่างฝ่ายก็อยากตั้งตัว สร้างอนาคต แต่มาเจอฝ่ายหญิงพ่วงปัญหาทางบ้าน เลยไม่อยากหลวมตัวเข้าไปด้วย
ดังนั้นก็ควรดูใจกันไปก่อน ไม่โทษฝ่ายชายหรอก พอเจอปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ ซึ่งตัวเองไม่ได้เป็นคนสร้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่เราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่ถ้าไม่อยากแต่ง ควรปฏิเสธให้เร็วกว่านี้ ฝ่ายหญิงเขาเสียความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 22
คุยกับฝ่ายหญิง บอกความรู้สึกจริงๆของคุณให้เธอรู้ซะ จะเลื่อนหรือจะยกเลิกไปก่อนก็ลองตัดสินใจดูค่ะ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นคุณก็รับผิดชอบซะ เพราะคุณเป็นฝ่ายผิดสัญญากับเธอ ในเมื่อใจมันไม่อยากอย่าดันทุรังค่ะ ไม่งั้นแต่งไปก็อาจจะอยู่กันได้ไม่นาน สงสารแฟนคุณนะคะ แต่ก็ยังดีกว่าแต่งแล้วสุดท้ายคุณก็ทิ้งเธอ เพราะดูแล้วปัญหาเดียวตอนนี้คือคุณได้ลองใช้ชีวิตโสดแล้วติดใจ ส่วนข้ออ้างอื่นๆนั้นคุณน่าจะรู้มาก่อนจะตัดสินใจแต่งแล้ว...เพราะงั้นคงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ยังไม่อยากแต่ง
ความคิดเห็นที่ 2
ยังไงคุณก็ต้องแต่ง ถ้าคุณปฏิเสธการแต่งงาน คุณก็จะได้เลิกกับเธอ และก่อนที่จะเลิกกันคุณคงโดนทางญาติฝ่ายหญิงต่อว่าเข้าให้ด้วย
กินข้าวแล้วต้องรู้จักล้างจาน ทำอะไรก็ต้องให้มีความรับผิดชอบ ความรัก การแต่งงาน ความรับผิดชอบ ทุกเรื่องมันดำเนินไปด้วยกันจนกลายเป็นเรื่องเดียวกัน จะอยู่ไปเรื่อยๆโดยไม่แต่งงานฝ่ายหญิงก็คงไม่เอาด้วย ไม่งั้นพวกคุณก็คงไม่คิดเรื่องการแต่งงานกันขึ้นมาหรอกถูกมั้ย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในตอนนี้มันก็แค่ความรู้สึกที่ยังไร้แก่นสาร อย่าให้ความรู้สึกมามีผลกับชีวิตมากขนาดนั้น ถ้าเสียหายตัดสินใจผิดพลาดขึ้นมาแล้วมันย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้
กินข้าวแล้วต้องรู้จักล้างจาน ทำอะไรก็ต้องให้มีความรับผิดชอบ ความรัก การแต่งงาน ความรับผิดชอบ ทุกเรื่องมันดำเนินไปด้วยกันจนกลายเป็นเรื่องเดียวกัน จะอยู่ไปเรื่อยๆโดยไม่แต่งงานฝ่ายหญิงก็คงไม่เอาด้วย ไม่งั้นพวกคุณก็คงไม่คิดเรื่องการแต่งงานกันขึ้นมาหรอกถูกมั้ย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในตอนนี้มันก็แค่ความรู้สึกที่ยังไร้แก่นสาร อย่าให้ความรู้สึกมามีผลกับชีวิตมากขนาดนั้น ถ้าเสียหายตัดสินใจผิดพลาดขึ้นมาแล้วมันย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
ใกล้ถึงวันแต่งงานแล้ว อีกไม่กี่เดือน ทำไมรู้สึกไม่อยากแต่ง
ตัวผมเองเป็นคนภาคเหนือ อาชีพรับราชการ แฟนผมเป็นคนอีสาร ครับ พูดถึงว่าหมดรักไหม ไม่หมดครับความรักยังมีเหมือนเดิน เนื่องจากแฟนผมเรียนจบแล้วมาทำงานอยู่กับผมเลย ที่ กทม. เราอยู่ด้วยกันตลอด แทบจะไม่เคยห่างกันเลย
ส่วนที่คิดว่าไม่อยากแต่งตอนนี้เพราะทางบ้านแฟนเหมือนแฟนเป็นเสาหลักให้ทางครอบครัวเค้า และญาติเค้าด้วย เพราะระหว่างแฟนเรียนยุที่บ้านก่ว่งเรียนไม่ไหว ทางญาติมีส่วนช่วยส่งเรียนด้วย ผมเลยคิดว่าถ้าแต่งปุ๊บแฟนมายุด้วย แล้วมีลูกเต้าในอนาคต จะมีภาวะเพิ่มมากขึ้นไหม เพราะที่บ้านแฟน พ่อเเม่ไม่ทำอะไรเลย พ่อก่ติดเหล้า
ส่วนนึ่งผมได้มาใช่ชีวิตคนเดียวได้เที่ยวกลางคืน ได้สนุกกับเพื่อน เพราะที่ผ่านมาผมเสร็จจากงานก่เข้าบ้านไม่คิดเที่ยวไหนเลย เลยคิดว่าตัวเองอยากใช่ชีวิตโสด อีก
หนี้สินทางบ้านแฟนเป็นคนส่งให้หมด พร้อมส่งเงินให้เเม่เค้าใช่อีกรายเดือน ส่วนที่มำให้คิดมาคือเรื่องภาระทางบ้านเค้าครับ ถ้าเราสร้างครอบครัวอีก เราจะมีภาระเพิ่มขึ้นและครอบครัวที่เราสร้าง จะขัดสนไหม
งานแต่ง จองสถานทีแล้ว จองวันถ่ายพรี weddingแล้ว จองแบล็คดรอปในงานแล้ว จองโต๊ะจีนเครื่องเสียงหมอลำเรียบร้อยแล้ว
อีกเรื่องคือแฟนทำงานเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ จบมาถ้าอยู่บ้านแฟนน่าจะได้บรรจุราชการแล้ว เพราะเพื่อนๆได้บรรจุกันหมดแล้ว แต่แฟนเลือกมาทำเอกชน เพื่อที่จะมายุกับผม ผมเลยคิดหนัก ทั้งรัก ทั้งคิดถึงอนาคต ว่าจะเป็นแบบไหน เครียดมากครับ
(ขอขอบคุณทุกคอมเม้นครับ🙏🏻🙏🏻🙏🏻)
สุดท้ายนี้ผมเลือกแล้ว เค้าเลือกที่จะมาอยู่กับผมแล้ว ผมจะไม่เอาความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้มาตัดสินอีก
คนเราเกิดมาต้องสู้อยู่ ไม่ว่าปัญหาอะไรที่จะเจอข้างหน้าผมกับแฟนจะจับมือกันให้แน่น
(ตั้งแต่คบกันมาแฟนผมไม่เคยนอกใจ เปนคนไม่เที่ยงกลางคืน เกิดมาเคยกินเหล้าครั้งเดียวตอนเรียนจบ เป็นคนคิดบวก เค้าสู้ดิ้นรนมาแต่เด็ก เรียกเก่ง ชิงทุนเรียนต่อ ทั้งที่บ้านไม่มีคนค่อยสนับสนุน
สุดท้ายนี้ผมคิดดีแล้วครับจับมือกันเดินต่อไป
(เรื่องส่งเงินให้ทางบ้านแฟน เป็นเงินแฟนหมดไม่กระทบเงินผมครับ แต่บ้างครั้งแฟนก็บ่นเป็นทุกข์ เพราะทางบ้านไม่เคยรับรู้ความทุกข์ของแฟนเลย โทรมาเมื่อตอนมีเรื่องเงิน เรื่องอื่นที่ปรึกษาได้แหนมักจะเลือกปรึกษากับทางญาติแทนเพราะโตมากับญาติซะส่วนใหญ่ ก็เพราะคำว่ากตัญญูนั้นแหละครับ)