สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เงินในบัญชีเกิน 500000 ไม่รู้คนคิดนโยบายออกมาได้อย่างไร
1.ส่งเสริมให้คนไม่ออมเงินในรูปเงินฝาก
2.คนที่ต้องทำธุรกรรมเงินฝากแทนญาติพี่น้องที่ใช้ internet banking ไม่เป็น หรือไม่อยากใช้เพราะกลัวโดน fishing ต่างๆ ก็เอาเงินมารวมไว้เช่นกัน
3. คนที่ลงทุนส่วนใหญ่เงินฝากออมทรัพย์จะไม่ค่อยมี แต่เงินในพอร์ตและกองทุนรวมกันกลับหลายสิบล้านกลับได้รับเงิน
ไม่แปลกใจกับนโยบายต่างๆที่ออกมา ขนาดแค่การแจกเงินให้ทั่วถึงยังแจกไม่เป็น
1.ส่งเสริมให้คนไม่ออมเงินในรูปเงินฝาก
2.คนที่ต้องทำธุรกรรมเงินฝากแทนญาติพี่น้องที่ใช้ internet banking ไม่เป็น หรือไม่อยากใช้เพราะกลัวโดน fishing ต่างๆ ก็เอาเงินมารวมไว้เช่นกัน
3. คนที่ลงทุนส่วนใหญ่เงินฝากออมทรัพย์จะไม่ค่อยมี แต่เงินในพอร์ตและกองทุนรวมกันกลับหลายสิบล้านกลับได้รับเงิน
ไม่แปลกใจกับนโยบายต่างๆที่ออกมา ขนาดแค่การแจกเงินให้ทั่วถึงยังแจกไม่เป็น
สมาชิกหมายเลข 5628004 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1142689 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4646218 ถูกใจ, iamdyu ถูกใจ, rad devil ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3899723 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1170793 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6274610 ถูกใจ, BONGKOCH.SP ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1076123 ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 15
คือรัฐบาลมีตัวเลขแต่ละคนในมืออยู่แล้ว รวมถึงคนที่เคยลงทะเบียนอยู่แล้ว (ข้อมูลอาจะไม่ถูกต้อง 100% ต้องขออภัย )
ถ้าดูตามนี้จะเห็นว่า
1. เพราะพยายามแจกแบบมีเงื่อนไข ทำให้บางคนได้รับซ้ำๆ (คนในกลุ่มเดียวกันบางคนได้รับแค่ครั้งเดียว)
2. คนที่ไม่ได้อะไรเลยคือคน 1.85 ล้านคนจาก 45.08 ล้านคน ซึ่งคือคนที่ถูกกรองออกจากเงินเยียวยาทุกกรณี
3. แต่คนบางกลุ่มกลับไม่ต้องตรวจสอบเรื่องเงินเก็บ เช่น กลุ่มอาชีพอิสระ เกษตรกร
4. ถ้าเอางบทั้งหมดที่เยียวยาหารด้วยจำนวนคนที่อายุมากกว่า 18 จะได้รับคนละ 15,000 โดยที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลลงทะเบียน หรือลำบากผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ไม่มี smart phone ผู้ที่ไม่มีเน็ตใช้ etc.
สุดท้ายที่ลงทะเบียนไปก็ใช้เฉพาะครั้งๆไป รอบหน้าก็ให้ลงทะเบียนใหม่ ด้วยเหตุผลเดิมๆคือ เพราะเงินไม่เพียงพอ ข้อมูลไม่อัพเดต (มีคนตาย มีคนเปลี่ยนอาชีพ มีคนเกิดใหม่ มีคนอายุเกิน 18 มีคนกลายเป็นผุ้สูงอายุเพิ่มขึ้น)
ถ้าหากเอาทะเบียนราษฎ์มาตั้งแล้วให้ ปชช มาค้นหาข้อมูลตัวเองเพื่อกดยืนยันหรือแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมจะง่ายกว่าเยอะ ส่วนคนที่ไม่สามารถทำได้ก็ให้ผู้นำท้องถิ่นรวบรวมข้อมูลมาอัพเดตหรือช่วยตรวจสอบแทน
ถ้าดูตามนี้จะเห็นว่า
1. เพราะพยายามแจกแบบมีเงื่อนไข ทำให้บางคนได้รับซ้ำๆ (คนในกลุ่มเดียวกันบางคนได้รับแค่ครั้งเดียว)
2. คนที่ไม่ได้อะไรเลยคือคน 1.85 ล้านคนจาก 45.08 ล้านคน ซึ่งคือคนที่ถูกกรองออกจากเงินเยียวยาทุกกรณี
3. แต่คนบางกลุ่มกลับไม่ต้องตรวจสอบเรื่องเงินเก็บ เช่น กลุ่มอาชีพอิสระ เกษตรกร
4. ถ้าเอางบทั้งหมดที่เยียวยาหารด้วยจำนวนคนที่อายุมากกว่า 18 จะได้รับคนละ 15,000 โดยที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลลงทะเบียน หรือลำบากผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ไม่มี smart phone ผู้ที่ไม่มีเน็ตใช้ etc.
สุดท้ายที่ลงทะเบียนไปก็ใช้เฉพาะครั้งๆไป รอบหน้าก็ให้ลงทะเบียนใหม่ ด้วยเหตุผลเดิมๆคือ เพราะเงินไม่เพียงพอ ข้อมูลไม่อัพเดต (มีคนตาย มีคนเปลี่ยนอาชีพ มีคนเกิดใหม่ มีคนอายุเกิน 18 มีคนกลายเป็นผุ้สูงอายุเพิ่มขึ้น)
ถ้าหากเอาทะเบียนราษฎ์มาตั้งแล้วให้ ปชช มาค้นหาข้อมูลตัวเองเพื่อกดยืนยันหรือแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมจะง่ายกว่าเยอะ ส่วนคนที่ไม่สามารถทำได้ก็ให้ผู้นำท้องถิ่นรวบรวมข้อมูลมาอัพเดตหรือช่วยตรวจสอบแทน
สมาชิกหมายเลข 1142689 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5680921 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2132721 ถูกใจ, Fortress ถูกใจ, zealottan ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าทางรัฐเขายอมให้แต่ละคนมานั่งชี้แจงที่มาที่ไปของเงินแบบนี้กันทุกเคส คงไม่ต้องทำงานทำการกันพอดีครับ
ใครจะเป็นคนตัดสินละครับ ว่าที่ จขกท. ชี้แจงมาเป็นความจริง จะให้มานั่งพิสูจน์พยานบุคคล พยานแวดล้อม เอกสาร อะไรกันให้วุ่นวายอีกหรือ
ใครจะเป็นคนตัดสินละครับ ว่าที่ จขกท. ชี้แจงมาเป็นความจริง จะให้มานั่งพิสูจน์พยานบุคคล พยานแวดล้อม เอกสาร อะไรกันให้วุ่นวายอีกหรือ
วันสุขแล้ว ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6140712 ถูกใจ, พ่อแมวอ้วน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2964456 ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 707102 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2363856 ถูกใจ, Disaster Magnet ถูกใจ, CyberBiz ถูกใจ, ต่อเวลา ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ม.33 เรารักกันถ้าครอบครัวพ่อแม่พี่น้องเค้าเอาเงินมาฝากในบัญชีเราทำให้เกิน500000บาท นี่เค้าให้ชี้แจงได้ไหมครับ
เนื่องจากใช้แอฟไม่เป็น ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ยอดเงินของเราเกิน500,000บาท แบบนี้สามารถเรียกร้องที่จเราจะรับเงิน4000บาท ได้ไหมครับ
เช็คสิทธิแล้วในเวป ' ไม่ได้สิทธิ '