ปัจจุบันผมปวารณาตนเองถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด รวมถึงการรักษาพรหมวิหาร 4 นอกจากการฝึกกรรมฐานตอนเช้า - ก่อนนอน ตลอดเวลาผมยังหมั่นภาวนา "พุทโธๆ" หรือ "นิพพานๆ" พร้อมกำหนดลมหายใจระหว่างวันตลอดเวลาที่มีโอกาส ที่นึกได้ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ
แต่ผมยังติดอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นข้อเดียวใน "นิวรณ์" นั่นคือ "กามฉันทะ" ครับ ผมยังมีความรู้สึกด้านนี้อยู่ และหาทางปลดปล่อยบ้างเป็นครั้งคราว แต่ถือว่าลดน้อยลงมากแล้วจากแต่ก่อน คือ ประมาณอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพราะเกิดจากการกรรมฐานนานๆ บ่อยครั้ง แต่ในเวลาที่ผมปฏิบิติกรรมฐาน ผมจะไม่มีความรู้สึกตรงนี้อยู่เลยแม้แต่น้อย
แต่แค่สงสัยครับว่า
"กามฉันทะ" ในระดับที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ จะส่งผลทำให้ผมไม่สามารถพัฒนาฌานได้มากขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ครับ?
และถ้าผมต้องการที่จะพัฒนาฌานของตนเองให้ไกลกว่านี้ ผมต้องสลัดความรู้สึกทางกามอารมณ์ออกไปชนิด 100% เลยไหมครับ?
ขอบคุณมากครับ
"กามฉันทะ" มีส่วนทำให้ไม่ได้รับความก้าวหน้าในการฝึกกรรมฐานไหมครับ
แต่ผมยังติดอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นข้อเดียวใน "นิวรณ์" นั่นคือ "กามฉันทะ" ครับ ผมยังมีความรู้สึกด้านนี้อยู่ และหาทางปลดปล่อยบ้างเป็นครั้งคราว แต่ถือว่าลดน้อยลงมากแล้วจากแต่ก่อน คือ ประมาณอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพราะเกิดจากการกรรมฐานนานๆ บ่อยครั้ง แต่ในเวลาที่ผมปฏิบิติกรรมฐาน ผมจะไม่มีความรู้สึกตรงนี้อยู่เลยแม้แต่น้อย
แต่แค่สงสัยครับว่า
"กามฉันทะ" ในระดับที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ จะส่งผลทำให้ผมไม่สามารถพัฒนาฌานได้มากขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ครับ?
และถ้าผมต้องการที่จะพัฒนาฌานของตนเองให้ไกลกว่านี้ ผมต้องสลัดความรู้สึกทางกามอารมณ์ออกไปชนิด 100% เลยไหมครับ?
ขอบคุณมากครับ