ขอวิธีรับมือกับพ่อแม่ 🙏🏻🙏🏻 ที่อาจจะเข้าสู่วัยทอง หรือเลยวัยทองไปแล้ว

สวัสดีคะ เพื่อนชาวพันทิพ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา 
เราไม่รู้จะปรึกษาใคร เราอายุ 26 ปีคะ แม่เราเสียตั้งแต่เรายังเด็ก ฉะนั้นเราจึงอยู่กับพ่อ 2 คน ‼️

ขอท้าวความก่อน ตั้งแต่แม่เราเสีย เราอยู่กับป้าและย่าตั้งแต่เด็กและเป็นคนเลี้ยงดูมาตลอด พ่อทำงานอยู่ที่กทม
จนช่วงวัยมัธยมอยากจะใช้ชีวิตเมืองกรุง จึงขอมาอยู่กับพ่อแล้วเรียนที่นี่

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่อยู่กับพ่อ พ่อเป็นคนใจดีมาก ไม่เคยตีเรา ไม่เคยว่าเราเลย
ตั้งแต่ เค้าตกงาน เพราะเพื่อนเค้าทรยศกันเรื่องเงินประมาณนี้แหละ 
พ่อก็เลยเก็บตัวเงียบคนเดียว ไม่รับสายใคร ไม่ติดต่อใครเลย อยากติดต่อใครเดี๋ยวติดต่อเอง
มีแต่เราที่อยู่กับเค้าและคุยด้วย นอกนั้นเค้าไม่คุยเลยรวมถึงญาติพี่น้อง มีงานตรุษจีน รวมญาติต่างๆ เค้าก็ไม่ไป
เหตุผล คิดว่า น่าจะรับไม่ได้ที่ตัวเองตกงาน ซึ่งเค้าตกงานตั้งแต่ช่วง เราอยู่ประมาณ ม.ปลาย
ซึ่งตอนนั้นพ่อเราน่าจะอายุประมาณ 53-54 ปี ไปสมัครงานที่ไหนก็ทำงานอยู่เดือนเดียวก็ออก
ก็เลยไม่ได้ทำงานเลยย ฉะนั้นเงินทั้งหมดที่จับจ่ายใช้สอยแต่ละวัน ป้าเราจะดูแลทั้งหมด

ช่วงระหว่างนั้น ด้วยความที่เราใช้เงินไม่พอ อยากซื้อเสื้อผ้า หรืออะไรก็ตามเหมือนเพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้
จะขอเค้าทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอมเหมือนเพื่อน พ่อเราก็จะห้ามไม่ให้เราทำ เพราะ กลัวเราเหนื่อย ทำไม่ได้หรอก
สุดท้ายเราก็ไม่เคยทำเลย ทำอย่างเก่งมากสุดก็คือ รับงานเป็นวันๆไปแบบแอบทำฟรีแลนซ์วันเดียวอะไรแบบนี้ ออกบูธ แต่ไม่ได้บอกเค้าว่าไปทำงาน

ช่วงระยะเวลานั้น พ่อเรากับเราก็มีตะวาดกันบ้าง แต่ตอนนั้นด้วยความเด็กก็เลยไม่ได้เถียงหรืออะไร
และก็จำรายละเอียดไม่ได้ด้วยว่าทะเลาะอะไรกัน แต่ที่รู้ๆเวลาพ่ออารมณ์ร้ายก็จะพูดหยาบๆคาย ซึ่งปกติบ้านเราจะไม่พูดกัน

จนเราเข้ามหาวิทยาลัย เรากับเพื่อนก็หุ้นกันขายของออนไลน์ 
พ่อเรามักจะดับฝันเราตลอด ว่าจะขายได้หรอ ใครจะซื้อ ประมาณนี้ อย่าขายเลยตั้งใจเรียนดีกว่า
จนสุดท้ายก็เจ๊งไม่ได้ขายของ เพราะติดเรื่องเรียน สอบด้วยไม่มีเวลา รวมถึงเจ้าที่ผลิตเค้าก็ปิดกิจการ
หลังจากนั้น เราจบปี 4 เราก็ทำงานเลย ทำงานเป็นพนงต้อนรับโรงแรม
พ่อมักจะพูดเสมอว่า อย่าไปจริงจังกับมันมาก แค่ทำเล่นๆสุดท้ายก็ต้องลาออกอยู่ดี ยังไงก็ออกไปรับราชการ🧐🧐
บางทีก็ให้เราหยุดงานบ้าง ไม่ต้องไปหรอกประมาณนี้ -.-

พ่อเรามักจะตีกรอบและวางแผนอนาคตให้เราเสมอ คงคิดว่าไม่อยากให้เราเจอปัญหาแบบเค้าอีก
สุดท้ายทำงานครบ 1 ปี พ่อก็บีบบังคับให้เราออกจากงานโรงแรมเพื่อที่จะอ่านหนังสือสอบ กพ ซึ่งเราก็เป็นคนตามใจคือยังไงก็ได้ ก็เลยโอเคออก
ช่วงระยะเวลา 3 เดือน เราไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน เราเครียดมาก บางทีเราก็มักร้องไห้กับตัวเองว่าทำไมชีวิตเราล้มเหลวแบบนี้
สุดท้าย เราก็เลยบอกพ่อว่าจะขอทำงานไปก่อน อย่างน้อยก็ได้เงิน รอผลจากการสอบ กพ. ด้วย

พ่อเราสุดท้ายก็ยอมให้ทำ และ เราก็ได้ที่ทำงานใหม่ 
ช่วงนั้นเราก็แฮปปี้กับการทำงาน จนกระทั่งเกือบจะครบ1 ปี พ่อมีแพลนจะต้องผ่าตัดตา และไม่มีคนดูแล
เราจึงจำเป็นต้องออกมา แต่ช่วงระยะเวลานั้นเราก็เริ่มเบื่องานตรงนี้แล้วด้วย เราจึงวางแผน ทำธุรกิจออนไลน์ในช่วงที่เราออกจากงาน
พอเราออกมาพ่อผ่าตัดตาเรียบร้อย

ระหว่างพักฟื้น พ่ออยากกลับไปอยู่ตจว อยู่กับป้า เราก็โอเค ให้แฟนเราไปส่ง
พออยู่ได้ 3 วัน พ่อเราก็กลับมาบ้านทันที ให้เพิ่อนเค้าขับรถมาส่ง น่าจะอยู่ไม่ได้ 
เพราะพ่อกับป้าจะใช้ชีวิตคนละสไตล์กัน ป้าจะเป็นคนใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ไม่รีบ เรื่อยๆ พ่อเราจะเป็นสไตล์ต้องทันที จะเอาทันที
ซึ่งฟังปัญหาจากทั้งสองฝั่งเล่า มันเป็นปัญหาเล็กน้อยมาก คือป้าเราใช้เครื่องซักผ้า แต่พ่อเราหิวข้าว จะเวฟข้าว แต่ป้าบอกให้รอซักผ้าให้เสร็จก่อน กลัวไฟฟ้าใช้ร่วมกัน อาจจะลัดวงจรประมาณนี้ คาดว่าพ่อน่าจะโมโหหิว ไม่พอใจเลยให้เพื่อนมารับกลับบ้านที่กรุงเทพเลย

หลังจากนั้นเมื่อหาหมอเสร็จ พอก็กลับไปอยู่กับป้า อีกรอบ
อยู่ได้ เดือนนึงก็ทะเลาะกันเรื่องปัญหาเล็กน้อยมากๆ อย่างเช่น ป้าบอกยานวดของพ่อกลิ่นฉุน ทำให้ป้าเวียนหัว ใช้อันนี้แทนมั้ย?
พ่อเราไม่พอใจ จึงเดินขึ้นชั้นบนไปเลย ไม่ลงมาอีกเลย  😤😤😤

ผ่านไปสักปลายเดือน พ่อก็ทะเลาะกับป้าอีก แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร พ่อบอกอยู่ด้วยแล้วไม่สบายใจ
จึงกลับมาที่บ้านกรุงเทพอีกครั้ง 

ครั้งนี้กลับมา ผ่านไปได้ 1-2 วัน เราเห็นพ่อจะถอดพัดลมติดผนัง ซึ่งต้องใช้เก้าอี้ปีนขึ้นไป
เราเลยอาสาว่า มาเดี๋ยวถอดให้ เราเลยถอด แต่บังเอิญ เราจับตัวพัดลมไม่เป็นทำให้โดนหนีบนิ้ว เราเลยบอกพ่อว่ารับหน่อยๆ
อยู่ดีพ่อก็โมโห บอกว่า บอกแล้วไงว่าให้ทำเอง

สักพักก็เดินมาบอกเราว่า รู้นะว่าแฟนแกไม่พอใจที่พ่อกลับมา เรานี่งงเลย 
แฟนเราไม่ได้ทำอะไรเลย สบายๆ ไม่ได้คิดอะไร เหมือนเค้าคิดไปเอง
เราก็เลยบอก พ่อเราว่าไม่มีใครเค้าว่าเลย -.-

หลังจากนั้น 2-3 วัน พ่อเราก็มีอาการไม่คุยกับเรา ถามอะไรก็ไม่ตอบ 
เราก็งง ไปทำอะไรผิดอีก เหนื่อยแล้วนะ 
หลังจากนั้นผ่านไป ก็กลับมาคุยตามปกติ 😂😂

จนกระทั่งวันนี้ เขามีนัดหาหมอ เราก็ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัว กำลังจะออกไป 
เราเห็นว่าพ่อเราตาไม่ค่อยดี เราก็กำลังจะเรียกแกร้บนั่งไปกัน
เค้าก็บอกจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน 
เรา : ไมไม่นั่งแกร้บ สบายๆละ 
พ่อ : ไมไม่นั่งรถไฟฟ้าละ เหตุผลคืออะไร
เรา : ก็บอก ค่ามันเท่ากัน นั่งรถไฟ กว่าจะเดิน กว่าจะต้องนั่งรถออกไปรถไฟฟ้าอีกก็ค่าเท่ากัน แล้วตัวเองก็มองไม่ค่อยเห็นด้วย 
พ่อ : กูไปคนเดียวก็ได้วะ ทำเ_ียอะไร ไม่รู้จักฐานะตนเอง 
เรา : เอ้า ก็อยากให้นั่งสบายๆไง ค่ารถเดี๋ยวออกให้ ตัดผ่านบัตร

(ปกติก็นั่งแกร้บไปกันทุกครั้งเวลาไปหาหมอ ปัจจุบันเราก็ทำงานขายของออนไลน์ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน)
พ่อไม่ฟัง เดินออกไปเลย 
ปล่อยเรา ยืนอึ้งเลย 

ซึ่งเหตุการณ์นี้เราไม่รู้จะทำไงต่อเลย เพราะปกติพ่อเราไม่พูดคำหยาบ หรือนี่คืออาการของคนวัยทอง
หรือเป็นอาการที่ฮอโมนหลั่งสารไม่ดีออกมา รบกวนปรึกษาและข้อวิธีการแก้ปัญหาหน่อยค้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่