แม่โทรขอเงินบ่อยมากๆ ขอลูกทุกๆคน จนทุกคนไม่พร้อมจะให้ถือว่าบาปไหม??

ขออนุญาตอธิบายเบื้องต้นนะคะ
คือพวกเรามีพี่น้องทั้งหมด 5 คน ลูกสาว 3 ลูกชาย 2
โดยที่ลูกคนที่ 1,3 โตและมีครอบครัว (มีลูกแล้ว) ส่วนลูกคนที่ 2 ติดคุก ส่วนลูกคนที่ 4 ทำงานไม่มีครอบครัว และคนที่ 5 อยู่ในวัยเรียน

พวกเราโตมาโดยเป็นลูกแม่เดียวกันแต่คนละพ่อหมด ซึ่งพวกเราก็ถูกเลี้ยงมาโดยคุณตาและคุณยาย (ซึ่งไม่ใช่คุณตาและคุณยายแท้ๆ)
ช่วงระยะที่เริ่มโตกันมาก็เจอคุณแม่ คอยโทรมากดดันให้เป็นไปตามสิ่งที่แม่คาดหวัง ให้ไปทำงานนะ หาเงินเก็บเงิน และซื้อบ้านเป็นของตัวเอง
พอเราซึ่งเป็นพี่คนโต ออกมาก็พยายามเป็นในแบบที่แม่ต้องการ เพราะไม่อยากให้แม่ไปกดดันน้องๆ พอเราเริ่มมีบ้านแรกๆแม่ก็ยินดีปรีดา

แต่พอระยะหลังๆ แม่เริ่มขอเงินเราและน้องใช้หนักมา อาจจะเพราะผลพวงมาจาก พ่อเลี้ยงคนก่อน (พ่อน้องคนที่ 5) เป็นมะเร็งเสียไปเมื่อ 4 ปีก่อน
ช่วงนั้น แม่เราจะไม่ได้ทำงาน และอยู่บ้านเฉยๆ (ซึ่งโดยปกติ ตั้งแต่โตมา เราแทบจะไม่เคยเห็นแม่ได้ทำงานเป็นจริงเป็นจังสักครั้ง เคยมีไปลองขายของ ก็กลับมาบ่นว่าไม่ไปทำแล้ว ปวดขา ((แม่เราแอบอ้วน)) ซึ่งก็เสมือนหนึ่งว่า มีสามีใหม่ ก็จะให้สามีเลี้ยงทุกคน ทุกครั้ง) แต่พอมามีสามีใหม่คนปัจจุบัน
ก็ทำงานรับเหมา แต่ก็ไปเสมือนนอนเฝ้าสามีเฉยๆ ไม่ได้หยิบจับทำอะไร เพราะสามีใหม่แม่ ออกจะหวงแม่

ซึ่งหลังๆมา งานที่สามีใหม่และแม่ไปทำก็ไม่เคยจะมีรายได้เหลือพอใช้เลยในแต่ละเดือน และมักจะโทรมาขอเงินเรา ทั้งยังใช้วิธีกดดันลูกๆทุกคนว่า ไม่มีใครเลี้ยงเขาเลยสักคน อีกทั้งยังขอเงินลูกๆไปเพื่อผ่อนดาว์นรถกระบะป้ายเเดง เพราะว่าต้องเอาไปใช้ทำงาน (ซึ่งเราก็เข้าใจ)
โดยยืมน้องสาวคนที่ 4 ไปประมาณ 3 หมื่น แต่ก็ไม่ได้จ่ายคืนให้น้องสาวเราเลย ทำให้น้องสาวเราเลยไม่อยากให้เงินแม่อีก อีกทั้งยังเคยขอให้น้องสาวเราเปิดร้านขายของชำให้ ก็หมดไปหลักหมื่น ซึ่งพอระยะไม่มีลูกค้า แม่ก็บอกขายไม่ได้เลยขายของในร้านทิ้ง เหลือเงินจากการขายอุปกรณ์มาไม่ถึง 3 พัน (เราเคยซื้อตู้เย็นแช่ของให้แม่ 7 พันกว่าบาท แต่แม่ขายต่อเขาไป 1000 ซึ่งเราช็อคไปเลย)

ไม่รวมอีกทั้งหยิบย่อยขอเราอาทิตย์นี้ 500 พออีก 10 นาทีโทรขอน้องสาว 3 พัน เว้นไป 2 วัน ก็โทรมาใหม่ ขอเเเบบเดิม อ้างว่า ไม่มีเงินกินข้าวบ้าง ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถไปหางานบ้าน หลังๆ เรากับน้องสาวเจอหลายเหตุการณ์ต่างๆที่แม่ขอบ่อย ทั้งจ่ายค่าบ้าน ค่างวดรถ รถจะโดนยึด น้องไม่มีค่าเทอม ไม่มีเงินกินข้าวบ้าง ได้แต่ละครั้งจากเราก็ไม่เยอะ (เรายอมรับว่าเราไม่ได้มีเงินเหลือเยอะพอ ให้แม่ได้ทีละ 200-300 บ้าง บางทีก็ได้ 500-1000 บาท
แต่ทุกครั้งที่แม่ขอเราก็พยายามให้ จนมีอยู่ครั้งนึง เราไม่มีเงินให้แม่เลย จนเอาแหวนทองจากที่แฟนซื้อให้ไปจำนำ แล้วแม่บอกจะคืน ก็คือไม่มีคืน จนทุกวันนี้ได้จ่ายแค่ดอกเบี้ยกับโรงจำนำ และก็ทะเลาะกับแฟน เพราะแฟนเราบอกมันคือของที่เขาให้เราชิ้นเดียวที่เขามี เพราะแฟนเราก็ไม่ได้มีเงินเยอะเช่นกัน แต่มันเป็นสิ่งของที่เขาพยายามหาให้) ส่วนน้องสาวเขาก็โดนครั้งละ 1000-2000 บาท หนักสุด ก็ 5000-10000 บาท

แต่หลังๆน้องสาวเราก็บอกว่า ให้แม่ไม่ไหวแล้ว เราเลยอยากรู้ว่า ถ้าต่อไป เราช่วยแม่หรือเลี้ยงแม่ไม่ไหวจริงๆ ทั้งน้องเราและตัวเราเองจะถือว่าบาปไหม

เพราะเรารู้สึกว่า เราถูกเลี้ยงมาจากตาและยาย พวกเรายอมรับ ว่าเรารักตาและยายมากกว่า อยากหาเงินให้ตากับยายมากกว่า
ทั้งๆที่ท่านไม่เคยขอ มีแต่ให้พวกเราตลอด แต่เราก็ให้ตากับยายทุกครั้งที่มีโอกาส (ยิ่งน้องสาวเรา เลี้ยงตาและยาย จ่ายเป็นรายเดือน อีกทั้งยังส่งค่าบ้านที่ตาและยายอยู่รวมถึงค่าน้ำไฟ และให้รายเดือนอีก (น้องสาวเราเก่งมาก)
ส่วนเรานั้น จะให้เมื่อมีโอกาสเพราะเราเองก็ไม่ได้มีเงินเดือนเยอะเท่าน้องสาว เรายังต้องผ่อนบ้าน รถ และลูกอีก1 คน แต่ก็พยายามหาให้เท่าที่มี

เราเลยอยากรู้ ถ้าเป็นแบบนี้ เราและน้องๆ จะถือว่าบาปไหม เรากับน้องสาวควรทำอย่างไรดี เพราะตอนนี้ แม่โทรมาบอก เขามายึดรถแล้ว เพราะไม่มีเงินส่ง ต้องเอาไปจ่าย 9x,xxx บาท ซึ่งเรากับน้องก็ไม่มีเงินมากพอให้เขาขนาดนั้น
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณมีความเกรงกลัวต่อผลของบาป (โอตตัปปะ) เป็นเรื่องที่ดี จิตใจคุณมีคุณธรรมสูงแบบเทวดา

คุณและน้องสาว ได้ดูแล ตายาย ที่เลี้ยงดูมา / ช่วยเหลือแม่สุดกำลังที่มี นับว่าเป็นลูกยอดกตัญญู
ให้รักษา คุณงามความดีตรงนี้ไว้ โดยการหมั่นระลึกถึง กระแสน้ำใจ ยามคุณโอนให้แม่
มันคือ ความไม่อยากปฏิเสธ ไม่อยากให้แม่เสียใจ ไม่อยากให้แม่ลำบาก ...

คุณให้หมดตัว กระทั่งแหวนทองชิ้นเดียวที่แฟนซื้อให้ ก็เอาไปจำนำ ให้แม่
วันใดจะคิดว่าตนเองบาป ให้ระลึกถึงกระแสน้ำใจตรงนี้ไว้

มาวันนี้ แม่กำลังจะถูกยึดรถ ต้องการเกือบแสน
ถ้าคุณ และ น้องสาวมี เราเชื่อว่าคงหาให้แม่อีก ... แต่ในเมื่อ หาเท่าไหร่ ก็ไม่มีแล้ว
ขอให้วางใจ อุเบกขา (คือ ยอมรับในกฏของกรรม แม่ออกรถมา แม่ผ่อนไม่ไหว ย่อมต้องถูกเขายึดคืน)

ถ้าแม่โทรมาขอ ไม่มีเงินกินข้าว เราว่าคุณพอให้ได้ อย่างที่เคยให้ ร้อยสองร้อย พอได้อิ่ม
ที่เงินจมหาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเอาไปลงทุนที่ผิดพลาดของแม่เองมากกว่า
(ซึ่งก็อาจไม่ใช่ความผิดของแม่ทั้งหมด ใครอยากจะเจ๊งล่ะเนาะ ย่อมวาดฝันอยากได้กำไรทั้งนั้น)

เพื่อให้คุณสบายใจ
คุณมีกตัญญู มีเมตตา กรุณาแล้ว คุณต้องเพิ่มอุเบกขาในใจคุณด้วยค่ะ

หากแม่จะด่าว่า หรือตัดพ้อ ที่ไม่ได้จำนวนเงินตามขอ
ก็ให้คุณทำใจเอาหูทวนลมไป  แม่ก็คน ที่มีกิเลสคนหนึ่ง โลภะ โทสะ ก็ยังมีปกติ
แม้ให้เงินท่านเต็มที่แบบเคยไม่ได้ แต่คุณสามารถให้อภัย (ไม่ถือสา) ท่านได้เต็มที่ ได้บุญเยอะด้วยค่ะ

เม่าฝึกจิต
ความคิดเห็นที่ 3
คุณเป็นคนฝึกแม่ ให้กลายเป็นแบบนี้เอง
นั่นคือ   โทรมาขอ  ทุกครั้ง  จะได้เงินเสมอ  

สิ่งที่ต้องทำ  คือ  ไม่ให้  

กฏของชีวิต  อ่อนแอ ก็ต้องแพ้เกมชีวิต
แม่ ไม่ได้ทำตัวเป็นแม่
และคุณ กำลังทำให้สามีเสียใจ  หากินก็ลำบากแล้ว  กลับบ้านมาเจอเมีย  เครียดเรื่องแม่ยายร้องขอเงินตลอด   มันเครียดนะ  คุณรู้ไหม  ถ้าสามีออกไปจากชีวิตคุณไปเมื่อไหร่
คุณคิดว่า แม่แบบนี้จะช่วยอะไรคุณได้ไหม
ความคิดเห็นที่ 4
ทำไมแม่ต้องโทรมาขอคะ ไม่ได้ตกลงไว้เหรอ ว่าจะให้เดือนละเท่าไหร่
ลองตกลงว่าให้ได้แค่เดือนละ xxx บาทนะ สิคะ แม่จะได้มั่นใจว่ามีเงินเดือนใช้ และจะได้ไม่โทรมาขอบ่อยๆ
จะให้ดีก็บอกพี่น้องทุกคนด้วยว่าให้เป็นรายเดือนกับแม่ เฉลี่ยๆกันออก น่าจะไม่ลำบากมากนะคะมีกันตั้งหลายคน
ความคิดเห็นที่ 6
แม่คุณนี่แบบ...เอาตรงๆเป็นคนที่ไม่มีคุณภาพเลย
เป็นคนประเภทที่ เรามองว่าขาดผู้ชายไม่ได้และไร้ความรับผิดชอบ
แต่เธอก็โชคดีมากที่มีลูกที่ดีอย่างคุณ หรืออย่างน้องๆคุณน่ะ
ต้องยกความดีความชอบให้ตาและยายที่อบรมสั่งสอนพวกคุณมาอย่างดี
น่าสงสารตายาย ที่ต้องแบกภาระเลี้ยงดูผลผลิตจากลูกตัวเองมาช้านาน
ท่านคือผู้มีพระคุณ ซึ่งคุณคิดถูกแล้วล่ะ ส่วนแม่คุณ...

ถ้าคุณไม่ให้เงินเธอทุกครั้งที่ร้องขอมันไม่บาปหรอก เธอไม่ได้รับผิดชอบคุณด้วยซ้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่