แนะนำไอเทม Top5 ที่ควรมีติดบ้าน แบบฉบับ Head to Toe

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
สวัสดีค่า 
 
มาเจอกันในกระทู้แบบนี้แน่นอนแหล่ะ มีไอเทมมาป้ายยากัน 
เรียกว่าเป็นไอเทมที่เราแนะนำในต้นปี 2564 นี้แล้วกัน 
จริงๆก็เป็นตัวเดิม ๆ ที่เค้าได้มีการปรับสูตรใหม่ ปรับแพคเกจใหม่นั่นแหล่ะ พอกลับมาใช้อีกครั้งก็คือยังคงรักและอยากบอกต่อกันอีกเหมือนเคย 
 
ช่วงหลัง ๆ มานี้ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ทำให้เราแต่งหน้าน้อยลง เริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลผิวมากขึ้น รู้สึกว่าเมื่อผิวเราดี มันทำให้ดูน่ามองเพิ่มมากขึ้น การแต่งหน้าก็คือเหมือนช่วยเสริมบุคลิกเราเลยอยากให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเองกันตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเนอะ  
 
  
 
นี่ก็คือไอเทม Top5 ของเราที่อยากมาแนะนำกันในต้นปีนี้แหล่ะ บอกเลยว่าราคาน่าคบหา คุณภาพแน่น ๆ เลย 
 
มาเริ่มดูแต่ละตัวกันเลยนะ 
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 
เราทำเป็นเวอร์ชั่นวีดีโอไว้ด้วยค่ะ ใครที่ขี้เกียจอ่านก็กดดูวีดีโอโลด 
แต่ถ้าใครขี้เกียจกด ก็เลื่อนอ่านข้างล่าง ๆ เลยย 👇👇👇 
 
 
 
  
 
Milk Shake - Whipped Cream (Leave-in foam) 
(990 THB) 
 
มาเริ่มต้นที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผมกันก่อนเลย ขอออกตัวก่อนว่า ปกติเราเป็นคนขี้เกียจดูแลผมมาก ผมจะค่อนข้างเสียง่ายมากๆ ไปร้านทำผมแต่ละครั้งจะโดนช่างดุตลอด จนอ่ะ โดนช่างทำผมร้านประจำป้ายยามากับมูสบำรุงผมตัวนี้ เค้าเป็นคือทรีทเมนท์บำรุงเส้นผมแบบไม่ต้องล้างออก ที่อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 90% มีสารสกัดจากโปรตีนม ช่วยเติมเนื้อผม บำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก และปรับโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น ให้ผมเงา นุ่ม จัดทรงง่าย ดูมีเนื้อผมมากขึ้นโดยไม่ทำให้ผมลีบแบน ช่วยให้ความชุ่มชื้น ปกป้องสีผมและกรองรังสียูวี 
 
 
 
ขวดเค้าจะเหมือนขวดวิปครีมเลย บีบออกมาก็เป็นมูสเหมือนบีบวิปครีมเลย 5555 กลิ่นหอมมากก หอมเหมือนขนมเลย น่ากินมาก 5555555 ซึ่งตัวนี้ใช้ง่ายมากก เราเองจะใช้หลังจากสระผมเสร็จ แล้วเช็ดหมาดๆ บีบมูสออกมา 1 ปั๊ม แล้วชะโลมบริเวณปลายผม แล้วก็ไดร์จัดทรงตามปกติของเราเลยค่ะ 
 
เค้าจะช่วยทำให้ผมจัดทรงง่ายขึ้นนะ เราว่าทำให้ผมหลังไดร์ดูเงางาม สุขภาพดีขึ้นด้วย อันนี้ชอบมาก ตอนไปซื้อที่ร้านบอกว่าสามารถใช้กับตังได้ด้วยนะคะ เค้าให้ความชุ่มชื้นผิวด้วย ตรงบริเวณไหนที่ด้านๆ แห้งๆ สามารถใช้ได้เลย ไม่เหนียว เราเองเคยลองครั้งนึง ก็เวิร์คจริง ไม่เหนียวผิว แต่ก็ไม่ใช้กับตัวอ่ะ เปลือง 5555555 เอามาใช้กับผมเวิร์คกว่ามากก ที่สำคัญกลิ่นหอมติดผมไปทั้งวันเลย คนที่ผมเสีย ผมแห้ง เราแนะนำเลยๆๆ 
 
 
 
 
SENKA Perfect Whip 
(179 THB/ 120g) 
 
มาถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้ากันบ้าง เรียกว่าน้องเค้าเป็นวิปโฟมล้างหน้าในตำนานที่หลาย ๆ คนมีติดบ้านเอาไว้  
เราก็เป็นหนึ่งในนั้น คุ้นหน้าคุ้นตากันดี้ดีกับวิปโฟมล้างหน้าหลอดสีน้ำเงินอันโด่งดังจากญี่ปุ่น น้องมาในโฉมใหม่  
แพคเกจจิ้งใหม่เราว่าดูดี ดูสวย เตะตา ถึงจะรูปโฉมใหม่ แต่คุณภาพยังแน่นเหมือนเดิม สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแม้กระทั่งฝุ่นเล็ก ๆ หรือมลภาวะเลยทีเดียวซึ่งตอบโจทย์กับสภาพอากาศบ้านเรามาก ๆ ที่นอกจากจะมีฝุ่นจิ๋วอย่าง PM 2.5 แล้ว  
ยังมีมลภาวะ สิ่งสกปรกต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเหล่านี้คือสาเหตุหนึ่งของหน้าเป็นสิว ผิวหมองคล้ำเลยแหละ  
  

 
 
เราเองชอบความเป็นวิปโฟมของเค้ามาก ๆ บีบเนื้อโฟมออกมานิดเดียวก็สามารถตีฟองได้นุ่มฟูใหญ่เต็มเลย  
ฟองคือนุ่มมาก แบบมาก ๆ เวลาล้างหน้าก็คือฟินมาก ๆ ๆ ๆ อันนี้เค้ามีมอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ผสมมาด้วย เพราะฉะนั้นหลังล้างหน้าจะรู้สึกว่าหน้านุ่ม  
ไม่แห้งตึง ชุ่มชื่นขึ้นด้วย เป็นฟิลลิ่งที่รู้สึกหน้าสะอาด สดชื่นมาก 
 
เราชอบใช้หลอดนี้ล้างหน้าเช้า - เย็นเลยค่ะ รู้สึกว่าช่วยในเรื่องทำความสะอาดผิวได้ดีมาก เราไม่ค่อยเป็นสิวอุดตัน ไม่ใช่แค่เรานะที่ชอบ อันนี้แฟนเราก็ชอบใช้ด้วยเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าถึงฮอตฮิตมาก ๆ   
เพราะเค้าดีกับผิว ดี๊ดีต่อใจจริง ๆ นี่แหละ 
 
ราคาก็น่ารักมาก หาซื้อง่ายมากด้วยเช่นกัน แล้วหลอดอย่างใหญ่อ่ะ ใช้ได้คุ้มมาก ใครยังไม่เคยลอง 
 ลองเปิดใจใช้ดูน๊า เราแนะนำเลย เวิร์คมากจริง 😊 
 
 
 
 
SKINPLANTS Rosehip oil 
( 15 ml 540 THB ,30 ml 850 THB ) 
 
มากันที่หมวดการบำรุงผิวหน้ากันบ้าง ตัวนี้เป็นออยล์ที่เราเคยรีวิวไปเมื่อนานมากแล้ว ซึ่งก็ยังรักน้องเค้าอยู่ อยากมาแนะนำกันเพราะว่าตอนนี้ เค้าทำแพคเกจใหม่ออกมาได้น่าใช้อีกแล้ววว ซึ่งสาวๆหลายๆคนอาจจะกลัวการใช้ออยล์ เราอยากให้เปิดใจจริงๆค่ะ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนหน้ามัน เราว่าการใช้ออยล์เค้าทำให้น้ำมันในผิวเราสมดุลขึ้น หน้ามันลดลงด้วย แต่ก็อยากให้เลือกออยล์ที่คุณภาพดีด้วยนะ อย่างน้ำมันของแบรนด์สกินแพลนส์เนี่ย เค้าจะคัดเฉพาะน้ำมันโรสฮิปบีบเย็น ผสานวิตามินอีธรรมชาติ เพื่อเพิ่มคุณค่าและทรงประสิทธิภาพในการบำรุงให้ได้มากที่สุด เรียกได้ว่าคัดเฉพาะเกรดที่ดีที่สุด แพงที่สุดเป็นพรีเมี่ยมออร์แกนิคส์ที่ดีที่สุดจากชิลี​เลยจ้า  
 
นอกจากนี้แล้วนะคะทุกคนเค้ายังได้รับการรับรองจากสถาบัน USDA organic ตั้งแต่ขบวนการปลูกและสกัดเลยทีเดียวค่ะ ทั้งนี้สกินแพลนส์ยังไม่สกัดสีและกลิ่นเพื่อให้ทรงคุณค่าครบถ้วนมากที่สุด ​ 
 
  
 
แพคเกจเค้าก็จะเป็นลักษณะของ Dropper ค่ะ ใช้ง่าย ครั้งนึงใช้ประมาณ 2 หยดก็คือพอดีแล้ว เนื้อจะเป็นสีส้มๆน้ำตาลๆ กลิ่นก็จะค่อนข้างธรรมชาตินิดนึง เพราะไม่สกัดสีสกัดกลิ่นเพื่อคงคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน ใครไม่ชอบหรือทนไม่ได้เรื่องกลิ่นของน้ำมันธรรมชาติสามารถผ่านตัวนี้ได้เลย แต่ส่วนตัวเราไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอยู่แล้ว สบายมาก แรกๆก็รู้สึกว่าไม่ชิน ใช้ทุกวันก็ชินค่า 
 
วิธีใช้ของเราคือหยดออยล์ออกมาประมาณ 2 หยด จากนั้นวอร์มให้อุ่นๆที่ฝ่ามือ แล้วค่อยๆกดลงบนหน้าและคอ เราจะใช้หลังลงสกินแคร์เสร็จ เพื่อเป็นการล็อคตัวสกินแคร์ทั้งหมดที่เราทาลงไปค่ะ 
ขอบอกอีกอย่างว่า ตัวนี้ไม่ได้แค่หน้าได้อย่างเดียวเด้ออ ใครจะใช้ผสมกับโลชั่นทาผิวก็ได้แหล่ะ เอามาทาบริเวณที่ผิวแห้งหรือแตกลาย ได้หมดเลย เพราะเค้ามีส่วนผสมของ Vitamin E ด้วย แล้วเป็นวิตามินอีจากธรรมชาติอีก ซึ่งวิตามินอีจะช่วยดูดซับ ป้องกันแสงแดด ป้องกันเซลล์ผิวเสียหาย และยังคงคุณค่าวิตามินได้อย่างครบถ้วนค่ะ 
 
 
 
เราใช้ต่อเนื่องเราว่าตัวนี้ช่วยชะลอเรื่องริ้วรอยได้เลยนะ ใครที่กังวลเรื่องริ้วรอยแรกเริ่มลองเปิดใจใช้ดู เวิร์คมากค่ะ รอยดำสิว ปรับผิวให้กระจ่างใส อันนี้ก็ช่วยได้ เรียกได้ว่าเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์เลยแหล่ะ สำหรับเรา ^^ 
 
 
  
 
NIVEA Oil in Lotion Rose & Argan Oil 
( 400 ml 169 THB ) 
 
มาที่บำรุงผิวกายกันบ้างค่า ใครเป็นสายผิวแห้งจัดๆแบบเราแต่ไม่ค่อยชอบทาโลชั่นเพราะว่าเกลียดการเหนียวหนึบ เราแนะนำตัวนี้เลย เค้าเป็นโลชั่นที่ผสานออยล์บำรุงผิว ทำให้บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก ตัวความที่เป็นรูปแบบของ Oil in Lotion ก็จะทำให้ซึมเข้าผิวได้เร็วมากขึ้น โดยที่ไม่เหนอะหนะผิว แล้วที่สำคัญคือตัวนี้ที่เราชอบเค้ามีสารสารแอนตี้-ออกซิแดนท์ด้วย ก็จะช่วยให้ผิวดูนุ่มนวลอ่อนเยาว์  เค้าเคลมมาเลยว่าตัวนี้จะให้ความชุ่มชื้นยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว 
 
  
  
 
นีเวีย ออยล์ อิน โลชั่นเนื้อเค้าจะเป็นเนื้อโลชั่นที่ไม่หนักผิวค่ะ กลิ่นหอมมากก แล้วซึมเข้าผิวได้ดีมากก เราว่าเหมาะกับคนผิวแห้งที่ไม่ชอบความเหนอะมากๆ ส่วนตัวเราใช้แล้วอินมากก รู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น จากผิวที่มันสากๆ ก็คือดีขึ้นเลย เราว่าตัวนี้เราชอบกว่าแบรนด์อื่นที่ใช้มาอีกนะ ด้วยราคาที่น่ารักกว่าด้วย แล้วซึมเข้าผิวได้ดีกว่าด้วย ขอเรียกว่าเป็นโลชั่นน้ำหอมเลย ใช้แล้วนอกจากจะผิวนุ่มแล้ว ผิมหอมด้วยย คุ้มค่าเกินราคาจริงอันนี้ ควรมีติดบ้านๆๆ 
 
 
 
  
Innisfree special care mask foot  
(120 THB) 
 
มาจบกันที่เท้าบ้างค่า ขอบอกเลยว่าของมันต้องมีเลยจริงๆอันนี้ เป็นผู้หญิงจะส้นเท้าแตก หนังเท้าเหี่ยวไม่ได้นะ! เราก็โดนป้ายยามาอีกทีนึง ช่วงหลังมานี้ใส่รองเท้าแตะบ่อยมาก ส้นเท้าเริ่มสากและแตกแล้ว เลยต้องกลับมาดูแลเท้าอีกครั้งนึง อย่างนึงที่ช่วยเราได้เสมอเลยคือการมาส์กเท้า เราเองชอบของ Innisfree มาก เพราะเค้าผสมผสานคุณสมบัติของสมุนไพร จำนวน 7 ชนิด ช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มให้กับผิวเท้า รวมทั้งช่วยฟื้นฟูรอยแผลอักเสบ กำจัดแบคทีเรีย และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเท้าที่เหนื่อยล้าจากการใช้งานอย่างหนักได้อีกด้วย 
 
เค้าจะมาในรูปแบบของถุงเท้าค่ะ ที่มีเนื้อเซรั่มบำรุงอยู่ข้างใน เวลาใช้ก็คือสวมเป็นถุงเท้าไปเลย ที่ชอบก็คือเวลาใช้แล้ว สามารถเดินได้อ่ะ ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องนอนนิ่งอยู่บนเตียงเท่านั้น มันไม่เลอะจ้าาา อันนี้เลยชอบมากๆเลย ส่วนมากเราจะใช้ตอนก่อนนอนค่ะ เวลามาส์กเสร็จก็จะได้นอนไปเลย เท้าจะได้ไม่เลอะด้วย  
 
ส่วนตัวเราว่าอันนี้ช่วยให้ผิวเท้านุ่มขึ้นได้จริง สาวๆต้องมีไว้นะ อย่าปล่อยให้ส้นเท้าแตกเลย ไม่งามๆๆ 
 
 
 
เย้ ๆๆ ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันนี้คือ Top5 ที่เราอยากจะแนะนำในช่วงต้นปีนี้เลย เรียกว่าเป็นไอเทมพื้นฐานที่สาว ๆ น่าจะมีติดบ้านไว้เลยแหล่ะ ราคาแต่ละตัวไม่แรงมาก แต่คุณภาพแรงมากจ้า เราคัดมาให้เท่านี้ก่อน เอาไว้ซักกลาง ๆ ปี จะมารวบรวมไอเทมแบบนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ดูกันอีกแล้วกันนะคะ 
 
สำกรับวันนี้ใครได้เคยใช้ตัวไหน หรือไปตำตัวไหนมาตามบ้าง อย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันนะคะ 
สวัสดีค่ะ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่