แต่งงานมา 28 ปีแล้วอยากเลิกกับสามี

ดิฉันมีปัญหาอยากปรึกษาค่ะ ตอนนี้ดิฉันอายุ 52 สามีอายุ 74 แต่งงานกันมา 28 ปีแล้ว สามีจบปริญญาเอกส่วนดิฉันปริญญาตรี  ตั้งแต่แต่งงานมาดิฉันทำงานสร้างครอบครัวด้วยตัวเอง สามีไม่ค่อยได้ช่วยเลย หลายปีมานี้สามีไม่ได้ทำงานแล้วดิฉันทำงานคนเดียว เราสองคนยึดมั่นและเคร่งครัดในศาสนาและปฏิบัติดีมาโดยตลอด หลายปีมานี้สามีดิฉันสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน เฉื่อยชาและเชื่องช้า เมื่อ 3 ปีก่อนดิฉันพบว่าสามีแอบเป็นหนี้บัตรเครดิต 1,200,000 บาท ต้องเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องผ่อนจ่ายให้ แต่นั่นก็ไม่เท่าไหร่ แต่ที่ดิฉันรับไม่ได้คือเมื่อปีที่แล้วดิฉันพบว่าสามีชอบแอบไปดูเว็บลามกอนาจารซึ่งทำให้ดิฉันเสียความรู้สึกมากเพราะตลอดเวลาดิฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่เคร่งศาสนาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด เขาได้สัญญากับดิฉันว่าจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้ แต่เมื่อเร็วๆนี้ดิฉันก็ได้พบว่าเขาก็ยังแอบไปดูเว็บลามกอยู่แถมยังมีการแชทข้อความคุยกับสาวๆโดยใช้คำพูดต่ำๆซึ่งผิดกับภาพลักษณ์ตัวตนของเขาที่ดิฉันคิดไว้มาโดยตลอด ตอนนี้ดิฉันเครียดและคิดหนักมาก ผิดหวังในตัวของเขาที่ไม่ใช่คนดีและสะอาดทั้งกายใจอย่างที่เคยคิด ดิฉันกำลังตัดสินใจว่าจะขอหย่าขาดจากเขาแม้ว่าจะต้องแบ่งสินสมรสที่เป็นเงินจากการทำงานของดิฉันให้เขาก็ตาม ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงของเขาก็ปล่อยให้เขาดูแลตัวเองไปตามยถากรรม ดิฉันขอคำปรึกษาจากผู้รู้ทุกท่านค่ะว่าดิฉันคิดถูกหรือไม่และควรทำอย่างไร กรุณาให้คำปรึกษาแนะนำดิฉันด้วย ดิฉันใช้ชีวิตที่ต่างประเทศมา 28 ปีแล้ว ขอขอบคุณทุกคำแนะนำมา ณ ที่นี้ค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
มันจะไม่ดูเหมือนพอเค้าแก่และป่วยก็หาข้ออ้างทิ้งหนีเอาตัวรอดเหรอครับ คนรักกันจริงๆที่ไหนจะเลิกกันได้ง่ายขนาดนั้นตั้ง 28 ปี มีแต่คนหมดรักปัดความรับผิดชอบหรือเปล่าที่จะทิ้งคนแก่ได้โดยไม่รู้สึกผิดอะไร คำว่าปล่อยตามยถากรรมคนใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานพูดแบบนั้นมันดูใจดำเกินไปมั๊ย สาวใกล้เบญจเพสมาแต่งหนุ่มใหญ่วัย46 จะเป็นสาวน้อยน่ารักของลุงอย่างเดียวหรือไร ตอนนี้ผลัดกันบ้างมีปัญหาก็พยามหาทางแก้ไขก่อนดีมั๊ย มาทิ้งกันตอนวัยนี้สภาพร่างกายแบบนี้น่าหดหู่ใจ หรือรักแท้ไม่มีในโลก
ความคิดเห็นที่ 20
เป็นครั้งแรกที่ผมจะออกความเห็นแนะนำ ผู้มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า  ยิ้ม

อย่างที่มีบางท่านได้ บอกแล้วว่า เป็นไปได้สูงว่าอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา รักษา Parkinson
เช่นข้อ 5 และ ข้อ 6 ตามนี้อ่ะครับ  





เมื่อยาที่ว่า ทำให้ผู้ป่วย จิตใจสับสน เพ้อๆ ลอยๆ  ก็อาจถูก กิเลส และแรงกระตุ้นทางธรรมชาติ เข้าเล่นงาน โดยง่าย
และทำให้เกิดเรื่องที่ว่าขึ้น  หากพิจารณาความผิดด้วยหลักเหตุผลและเมตตาธรรมแล้ว ก็พอจะถือได้ว่า กระทำไปโดยประมาท ขาดสติ
ไม่ได้มีเจตนา ก็อยู่ที่คุณพี่ว่าเป็นไปได้มั้ย ที่ให้อภัย และทำใจยอมรับว่า สามีเรานั้น อาจจะไม่สามารถปฏิบัติตนได้เคร่งครัด สมบูรณ์
เหมือนกับก่อนที่จะ แกเจ็บป่วยแล้ว และอาจมีข้อบกพร่องบ้าง

ผมเข้าใจดีว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก

แต่ด้วยความเคารพนะครับ  ถ้าเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา. สมมติว่า เป็นเราเองที่ป่วย และไปติดพนัน หรือ sex hobbies ขึ้นมาแทน
เราจะอยากให้คู่ชีวิต ยังคงรัก และเมตตา ห่วงใยดูแลเราอยู่มั้ย

สุดท้ายผมขอเอาใจช่วย และไม่ว่าพี่จะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร  ก็ขอให้ผ่าน สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยดีโดยเร็วนะครับ  ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 8
พฤติกรรมอาจมาจากผลข้างเคียงของยาพาร์กินสันหรือเปล่าคะ เคยดูคลิปและอ่าน คนเป็นโรคนี้ บางคนติดการพนัน บางคนก็หมกมุ่นทางเพศ บางคนนำเงินทั้งหมดของครอบครัวไปใช้หมดเลย ในขวดยายังมีบอกผลข้างเคียงติดการพนันเลยค่ะ เหมือนว่าผลข้างเคียงทำให้ประสิทธิภาพของความยับยั้งชั่งใจลดลงค่ะ

แต่จริงๆก็อยู่ที่จิตใจของผู้ป่วยด้วยแหละ อาจจะต้องลองปรึกษาแพทย์ แล้วก็ดูว่าในอดีตก่อนจะเป็นโรคเขาเป็นคนแบบไหน เอามาตัดสินใจอีกที คนเป็นโรคนี้ถ้าอาการหนักมา ดูแลตัวเองยากค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ พอดีมีคนใกล้ชิดเป็นโรคนี้ แล้วเขามีพฤติกรรมที่ทำให้คนรอบข้างทุกข์ใจมากเลยค่ะ ห้ามไม่ได้เลย ทั้งนี้ก็แล้วแต่จิตใจคนด้วย
ความคิดเห็นที่ 11
อยู่ด้วยกันมานานแถมตอนนี้สุขภาพฝ่ายช่ายก็แย่ น่าจะสมองด้วย
คุณตั้งความหวังในตัวฝ่ายช่ายสูงไปค่ะ
การที่เขาดูเวปโป้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรถ้าแค่ดู
ที่บอกว่าเขาแช็ตกับใครนั้นถ้าแค่แช็ตไม่เคยพบกันก็ยังคุยกันได้อยู่นะว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
แก่ขนาดนั้นแล้วเป็นเราเราคงไม่คิดอะไรเรื่องแช็ตเรื่องดูเวปโป้
แต่ถ้คุณมองหาแต่เรื่องแย่ๆของเขาก็คงทางใครทางมันค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
อายุเขาปูนนี้แล้ว ต่อให้ไม่ได้ผิดหวัง จากความเป็นศาสนิกที่สะอาด
คุณก็ยังตัองผิดหวัง จากการเป็นเฒ่าชราตัณหากลับของเขาอยู่ดีค่ะ

เวลาในชีวิต ก็ไม่รู้จะเหลือกันอีกเท่าไหร่
หากต้องตื่นมาทุกเช้า แล้วพบกับความขยะแขยง แหนงหน่าย แทนที่จะเป็นความนับถือ .. อบอุ่นใจ .. ห่วงใยกัน
แบบนี้อยู่คนเดียว ให้จิตใจปลอดโปร่งไม่ดีกว่าหรือคะ ?

28 ปี ยาวนานพอที่จะทำให้สองใจ ผูกพันแน่นเหนียว
หรืออาจจะ นานเกินไป จนทำให้ชินชา เป็นของตายที่ไม่รู้สึกเห็นค่าอะไรอีก

ตัดสินใจ ไปตามที่หัวใจตัวเองต้องการ ได้เลยค่ะ
หากจะห่วงใยในฐานะเพื่อนมนุษย์ ก็แวะเวียนมาดูแลเขาบ้างตามโอกาสจะอำนวย ก็น่าจะพอค่ะ
flower
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่