เกาะช้างอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากเท่าไร ใช้เวลาซักสามวันสองคืนจะกำลังดีค่ะ ข้ามเรือไปก็ไม่ไกล เอารถขึ้นเรือข้ามไปขับต่อบนเกาะได้ ธรรมชาติยังดีอยู่ และมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างนะคะ ไปดำน้ำก็สวยดี 

เราข้ามเรือที่อ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ การมาทริปนี้เราไม่แพลนว่าจะทำกิจกรรมอะไรมาก อยากมาพักทะเลแบบสบายๆ ไม่เหนื่อย 

เราพักที่เกาะช้างคืนแรกที่ Mercure Koh Chang Hideaway ค่ะ มาถึงที่นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว วันรุ่งขึ้นก็ต้องรีบออกไปดำน้ำแต่เช้าอีก เลยไม่ค่อยได้เดินดูบริเวณอื่นๆ ภายในโรงแรมเท่าไร ได้เห็นแต่ภายในห้องพัก ซึ่งสวยดีค่ะ เราชอบการตกแต่งห้องพักของที่นี่

ต่อมาวันรุ่งขึ้นก็มาดำน้ำค่ะ น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไปฝนตกทุกวันเลยค่ะ ในแต่ละวันจะมีช่วงฟ้าใสให้แป๊ปเดียว ตอนเราไปดำน้ำฝนก็ตกเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน เราเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมา นี่เป็นการไปดำน้ำครั้งแรกของเราเลยค่ะ เหนื่อยมากกว่าที่คิดเยอะ เรือที่พาไปมีจุดให้ดำน้ำทั้งหมด 3 จุด เราได้ลงไปดำแค่จุดเดียวเท่านั้นเอง เหนื่อยค่ะ 😅

หลังจากกลับจากดำน้ำ เราก็เปลี่ยนมาพักที่ Centara Koh Chang Tropicana Resort อยู่ที่นี่แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ ฝนตกทั้งวัน ได้แต่อาศัยช่วงเวลาที่ฝนไม่ตกออกมาเดินเล่นภายในบริเวณโรงแรม ซึ่งสวยมากๆ เลยค่ะ

อาหารก็ทานในโรงแรมเช่นกันค่ะ จะออกไปข้างนอกก็ขี้เกียจ เพราะฝนนี่แหล่ะ ปกติเราจะไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอาหารเท่าไร แต่ว่าครั้งนี้เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกให้ถ่ายเอาไว้ เลยมีรูปอาหารของโรงแรมมาให้ดูด้วยค่ะ ที่เห็นทั้งหมดนี่ ทานกันแค่สามคนเองนะคะ 😅

และที่พักสุดท้ายของทริปเกาะช้าง The Emerald Cove Koh Chang โรงแรมนี้กว้างมากๆ ค่ะ เราเดินเล่นอยู่ภายในโรงแรมซะส่วนใหญ่เช่นกัน สระว่ายน้ำที่นี่ก็ใหญ่มาก ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่โรงแรมเพิ่งกลับมาเปิดหลังจากต้องปิดไปเพราะโควิด เลยไม่ค่อยมีคนมาพักเท่าไร ทำให้เงียบสงบมากค่ะ

จบแล้วค่ะ ทริปเกาะช้างแบบขี้เกียจๆ ของเรา หวังว่าจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ได้บ้างนะคะ