Samsung ประเทศไทยนั้นได้เปิดตัว Galaxy S21 Ultra 5G ในประเทศไทยกันไปเรียบร้อย แต่แน่นอนว่าด้วยสเปกในไทยนั้นทุกๆครั้งจะได้ EXYNOS เป็นหน่วยประมวลผลทุกครั้งครับ แต่ในตลาดต่างประเทศอื่นๆนั้นอย่างที่ทราบกันดีจะได้ใช้งาน SNAPDRAGON 888 เป็นหน่วยประมวลผลที่หลายๆคนน่าจะชื่นชอบกันครับ ทางเราเลยขอจัดตัว S21 Ultra 5G ในสเปกมาพรีวิวกันซะหน่อยก่อนจะไปอ่านรีวิวเต็มๆกันแน่นอนว่าสเปคอื่นๆนั้นไม่ได้แตกต่างกับตัว EXYNOS เลยแต่การเปลี่ยนหน่วยประมวลผลมาใช้งาน SNAPDRAGON นั้นก็จะส่งผลในหลายๆเรื่องทั้งการจัดการความร้อน การประหยัดแบต หรือแม้แต่เป็นการใช้งานเวลาเล่นเกม ถ่ายรูปทุกอย่างล้วนมีความแตกต่าง
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 888 พร้อมกับ GPU Adreno 660 ใช้งาน RAM 12GB STORAGE 256 GB มาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้วความละเอียด Quad HD+ ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz ตัวเครื่องมาพร้อมเซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ Ultrasonic ใหญ่กว่าเดิม 70% ภายใต้หน้าจอ และรันบนระบบปฏิบัติการ OneUI 3.1 ที่ครอบอยู่บน Android 11 ที่รองรับบริการของ Samsung ไม่ว่าจะเป็น Bixby, Samsung Health และ Samsung Pay พร้อมโมดูลกล้องหลังแบบใหม่ที่มีการตัดแบบ Contour ที่ดูเข้ากับตัวเครื่องโลหะด้านหลังอย่างไร้รอยต่อ โดยกล้องหลังมีจำนวน 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 108MP + กล้อง ultra-wide 12MP + กล้องเทเล 10MP + กล้อง Periscope 10MP รวมทั้งเซนเซอร์ ToF 3D ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 40MP และสามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 8K มาพร้อม Ultra-wideband capabilities (UWB) ที่สามารถใช้ปลดล็อกรถยนต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจรถ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AR finder ที่สามารถปล่อยข้อความเสมือน (virtual message) ที่สามารถบอกผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน Galaxy คนอื่นให้ช่วยค้นหาของหายได้ด้วย ตัวเครื่องกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 25W และชาร์จเร็วไร้สาย 15W รวมทั้งฟีเจอร์ PowerShare แบบไร้สายที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ได้
SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA 5G ใช้งาน SNAPDRAGON 888 มาพร้อมกับ RAM 12 GB STORAGE 256GB เป็นเครื่องหิ้วราคา ณ ตอนรีวิว อยู่ที่ 35,000 บาทไทยครับ
UNBOX
ตัวกล่องอย่างที่ Samsung ได้แจ้งไปนั้นจะเป็นการลดทรัพยากรทั้งหมดทำให้ไม่มีการแถมหัวชาร์จ Adaptor รวมถึง หูฟัง และ เคสมาให้อีกแล้วครับ ทำให้ตัวกล่องนั้นบางลงและลดการใช้วัสดุทั้งหลายได้ดีมากขึ้น ตามรอย Apple
- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S21 Ultra 5G
- สาย USB-C ไป USB-C
- คู่มือ
- ฟิล์มกันรอย ติดตั้งมาให้แล้วบนหน้าจอแบบพลาสติก
DESIGN
งานออกแบบนั้นการวางกล้องยังคงไว้มุมซ้ายบนเช่นเดิมแต่มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบส่วนของโมดูลตัวกล้องใหม่ทั้งหมดมีความนูนน้อยลงกว่าเดิมแต่ก็มีการออกแบบให้มีความโค้งมนแปลกตามากขึ้น กล้องหลังมาพร้อมกับ 5 รูหลักๆที่จะเป็น เซนเซอร์ TOF 3D ด้วยเช่นกัน และยังคงมีความใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม และยังมีเลนส์ Periscope ใส่เข้ามาให้ในเลนส์ล่างสุด แต่จะอยู่ในกรอบวงหลมเช่นเดิมแบบเดียวกับ Note 20 ก่อนหน้านี้ครับ วัสดุฝาหลังเป็นกระจกด้านเล่นแสงสวยงามและตรงโมดูลกล้องเป็นวัสดุเงินด้านทั้งหมดก็ถือว่าดูแปลกตามากกว่ารุ่นก่อนๆอยู่นะ ส่วนความหนา และ หนัก ต้องเข้าใจกันในเรื่องของทั้งสเปก แบต กล้องที่กินพื้นที่ทำให้ตัวเครื่องแอบหนักไปนิดๆ
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ เจาะรูเช่นเดิม เป็นกล้องหน้าตรงกลางพร้อมกับใช้งาน หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้วความละเอียด Quad HD+ ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz และมีขอบหน้าจอที่บางมากขึ้นกว่าเดิมทั้งในด้านหน้าขอบบน และ ขอบล่างของตัวเครื่องครับ
ขอบด้านล่างของ S21 Ultra 5G นั้นเราจะเห็นปุ่มควบคุมทั้งหมด ที่สามารถใช้งานแบบ GESTURE ได้และขอบที่บางมากกว่าตัวก่อน แต่ยังไงนั้นขอบล่างก็จะไม่ได้บางเท่ากับขอบข้างๆ หรือขอบด้านบนเท่าไรเป็นปกติของตัวเครื่อง
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นขอบบางที่ใกล้เคียงกับขอบข้างๆพร้อมกับกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางในความละเอียด 40MP f2.2 และมาพร้อมกับ ลำโพง และ เซนเซอร์ต่างๆนั้นจะใส่เข้ามาตรงขอบด้านบนทั้งหมดเลยนั้นเอง
ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นเราจะเห็นว่า มาพร้อมกับลำโพงตัวหลัก และ รู USB-C 3.1 และ รูไมค์ รวมถึงถาดซิม ที่ครั้งนี้ไม่สามารถเพิ่ม Micro-SD ได้แล้ว และขอบเครื่องนั้นจะเป็นวัสดุเงาทั้งหมดเป็นคล้ายๆกับโครเมี่ยมสวยงามครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นหนาขึ้นจากบอดี้ และครั้งนี้เหมือนจะพยายามให้งานออกแบบนั้นเป็นชิ้นเดียวกันจากส่วนของเครื่อง เลยทำให้มุมขวานั้นขอบเครื่องจะหนาขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เป็น Unibody มากขึ้นนั้นเองครับ
ขอบเครื่องในด้านขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมทั้งหมด ทั้งการเพิ่ม ลด เสียง และ ปุ่ม Power ของตัวเครื่อง และมีความบางพอสมควร แต่ส่วนกล้องนั้นจะเป็นการใช้งานขึ้นรูปชิ้นเดียวกันทั้งหมดก็ถือว่ามีความแข็งแรงมากขึ้น
ในด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่าถ้าหากไม่ได้มองไปที่เลนส์กล้องนั้นถือว่ามีความบางระดับนึง แต่ในฝั่งนี้จะไม่มีปุ่มหรือถาดซิมอะไรครับ และมีเพียงขีดเสา สัญญาณเท่านั้น และตัวเครื่องก็รองรับการใช้งาน 5G ในไทยเรียบร้อย
ในด้านฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่า สีเงิน (Phantom Silver) นั้นจะเน้นไปที่ขอบเครื่องสีเงินเป็นหลัก แต่ฝาหลังนั้นจะเป็นแบบกระจกด้านที่มีการเล่นสีสันเมื่อเจอแสงเล็กน้อยทำให้จะออกอมฟ้า หรือ ว่าม่วงไปบ้างในหลายๆสภาพแสง และ โลโก้ยังคงใส่เข้ามาอยู่ในด้านล่างตัวเครื่อง และ สแกนนิ้วนั้นแน่นอนว่าเรือธงไปใช้งานบนหน้าจอทั้งหมดครับ แน่นอนว่ารุ่นนี้แม้จะรองรับการใช้งานปากกา S-Pen แต่ก็ยังไม่มีการแถมหรือที่เสียบแบบในตระกูล Note ครับผม
ตัวกล้องนั้นมาพร้อมกับ กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HM3, OIS และ กล้อง Ultra Wide 120° 12MP (f/2.2) รวมถึง กล้องเทเล 10MP รองรับ OIS สามารถซูมได้ 3x และ ตัว กล้อง Periscope 10MP สามารถซูมได้ 10x, ซูมแบบ Space Zoom ได้ 100x, เซนเซอร์ Laser autofocus, ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่ายวีดีโอ 8K ได้ที่ 30fps รวมถึง มีการใส่ เซนเซอร์ ToF3D มาให้ด้วยเช่นกันครับตัวนี้
SPEC
- หน้าจอ Dynamic Infinity-O-Edge AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว (3200 x 1440พิกเซล) Quad HD+, 515 PPI, รีเฟรชเรทแบบ Adaptive 120Hz (ปรับอัตโนมัติ 10~120Hz), ความสว่างสูงสุด 1500nits, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิบประมวลผล Snapdragon 888 5nm / Samsung Exynos 2100
- RAM LPDDR5 12GB/16GB + ความจำ 128GB/256GB/512GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1
- กล้องหลัง
* กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HM3, OIS
* กล้อง Ultra Wide 120° 12MP (f/2.2)
* กล้องเทเล 10MP รองรับ OIS สามารถซูมได้ 3x
* กล้อง Periscope 10MP สามารถซูมได้ 10x, ซูมแบบ Space Zoom ได้ 100x, เซนเซอร์ Laser autofocus, ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่ายวิดิโอ 8K ได้ที่ 30fps
* เซนเซอร์ ToF3D
* แฟลช LED
- กล้องหน้า 40MP (f/2.2)
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น (มาตรฐาน IP68)
- ขนาดตัวเครื่อง: 165.1 x 75.6 x 8.9มม. ; น้ำหนัก: 228 กรัม
- รองรับ 5G SA/NSA, 4G VoLTE, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.1, UWB, GPS + GLONASS, NFC, MST
- USB 3.1
- แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 25W, ชาร์จไร้สาย Qi 15W
SCREEN
หน้าจอทาง S21 Ultra 5G นั้นยังคงรองรับการใช้งานได้ดี แน่นอนว่าแบรนด์นี้ยังคงขึ้นชื่อเรื่องของหน้าจอครับคุณภาพสูงและมีความสวยงามรวมถึงลื่นไหลมากถึง 120Hz อีกทั้งในรุ่นนี้ก็สามารถปรับได้ในความละเอียดสูงแล้วเช่นกัน หน้าจอมาพร้อมกับ หน้าจอ Dynamic Infinity-O-Edge AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว (3200 x 1440พิกเซล) Quad HD+, 515 PPI, รีเฟรชเรทแบบ Adaptive 120Hz (ปรับอัตโนมัติ 10~120Hz), ความสว่างสูงสุด 1500nits, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus ซึ่งเป็นรหัสสูงสุดของกระจกในตอนนี้มีความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เยอะมากครับ หน้าจอนั้นถือว่ามุมมองต่อการใช้งาน การสู้แสงนั้นรองรับได้สบายๆในการใช้งานทั้งกลางแจ้งแล้วก็กลางคืนสามารถหรี่ได้เยอะมากเช่นกัน ส่วนติดนิ้วอะไรนั้นไม่มีปัญหาครับ การสแกนนิ้วนั้นใหญ่มากขึ้นต่อพื้นที่การใช้งาน และ หน้าจอมีฟิล์มติดตั้งมาให้เรียบร้อยครับ ส่วนคุณภาพสีถือว่าดีอันดับต้นๆในตอนนี้เลย
ANTUTU
Snapdragon 888 มาพร้อมกับ RAM 12 GB และ เป็นสเปกที่แตกต่างกับของประเทศไทยครับแน่นอนว่าส่วนตัวเองนั้นใช้งาน Snapdragon 888 ถือว่ายังคงไว้ใจได้และเป็นค่ายนี้ทำออกมาได้ดีครับ ทำให้คะแนนนั้นทำได้ 611120 คะแนน ก็ถือว่าเร็วแรงเอาเรื่องครับสำหรับ Snapdragon ส่วนเรื่องของอุณหภูมินั้นจะประมาณ 42 องศาถือว่ายังคงควบคุมความร้อนได้ดีเลยนะ และ การใช้งานในเรื่องของ เล่นเกม Snapdragon ก็ทำออกมาได้ประทับใจ
[CR] พรีวิว Samsung Galaxy S21 Ultra 5G โมเดล Snapdragon 888 สเปกที่ลงตัว !
Samsung ประเทศไทยนั้นได้เปิดตัว Galaxy S21 Ultra 5G ในประเทศไทยกันไปเรียบร้อย แต่แน่นอนว่าด้วยสเปกในไทยนั้นทุกๆครั้งจะได้ EXYNOS เป็นหน่วยประมวลผลทุกครั้งครับ แต่ในตลาดต่างประเทศอื่นๆนั้นอย่างที่ทราบกันดีจะได้ใช้งาน SNAPDRAGON 888 เป็นหน่วยประมวลผลที่หลายๆคนน่าจะชื่นชอบกันครับ ทางเราเลยขอจัดตัว S21 Ultra 5G ในสเปกมาพรีวิวกันซะหน่อยก่อนจะไปอ่านรีวิวเต็มๆกันแน่นอนว่าสเปคอื่นๆนั้นไม่ได้แตกต่างกับตัว EXYNOS เลยแต่การเปลี่ยนหน่วยประมวลผลมาใช้งาน SNAPDRAGON นั้นก็จะส่งผลในหลายๆเรื่องทั้งการจัดการความร้อน การประหยัดแบต หรือแม้แต่เป็นการใช้งานเวลาเล่นเกม ถ่ายรูปทุกอย่างล้วนมีความแตกต่าง
Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ภายในตัวเครื่องใช้ชิบ Snapdragon 888 พร้อมกับ GPU Adreno 660 ใช้งาน RAM 12GB STORAGE 256 GB มาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้วความละเอียด Quad HD+ ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz ตัวเครื่องมาพร้อมเซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ Ultrasonic ใหญ่กว่าเดิม 70% ภายใต้หน้าจอ และรันบนระบบปฏิบัติการ OneUI 3.1 ที่ครอบอยู่บน Android 11 ที่รองรับบริการของ Samsung ไม่ว่าจะเป็น Bixby, Samsung Health และ Samsung Pay พร้อมโมดูลกล้องหลังแบบใหม่ที่มีการตัดแบบ Contour ที่ดูเข้ากับตัวเครื่องโลหะด้านหลังอย่างไร้รอยต่อ โดยกล้องหลังมีจำนวน 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 108MP + กล้อง ultra-wide 12MP + กล้องเทเล 10MP + กล้อง Periscope 10MP รวมทั้งเซนเซอร์ ToF 3D ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 40MP และสามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 8K มาพร้อม Ultra-wideband capabilities (UWB) ที่สามารถใช้ปลดล็อกรถยนต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจรถ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AR finder ที่สามารถปล่อยข้อความเสมือน (virtual message) ที่สามารถบอกผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน Galaxy คนอื่นให้ช่วยค้นหาของหายได้ด้วย ตัวเครื่องกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 25W และชาร์จเร็วไร้สาย 15W รวมทั้งฟีเจอร์ PowerShare แบบไร้สายที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ได้
SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA 5G ใช้งาน SNAPDRAGON 888 มาพร้อมกับ RAM 12 GB STORAGE 256GB เป็นเครื่องหิ้วราคา ณ ตอนรีวิว อยู่ที่ 35,000 บาทไทยครับ
UNBOX
ตัวกล่องอย่างที่ Samsung ได้แจ้งไปนั้นจะเป็นการลดทรัพยากรทั้งหมดทำให้ไม่มีการแถมหัวชาร์จ Adaptor รวมถึง หูฟัง และ เคสมาให้อีกแล้วครับ ทำให้ตัวกล่องนั้นบางลงและลดการใช้วัสดุทั้งหลายได้ดีมากขึ้น ตามรอย Apple
- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S21 Ultra 5G
- สาย USB-C ไป USB-C
- คู่มือ
- ฟิล์มกันรอย ติดตั้งมาให้แล้วบนหน้าจอแบบพลาสติก
DESIGN
งานออกแบบนั้นการวางกล้องยังคงไว้มุมซ้ายบนเช่นเดิมแต่มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบส่วนของโมดูลตัวกล้องใหม่ทั้งหมดมีความนูนน้อยลงกว่าเดิมแต่ก็มีการออกแบบให้มีความโค้งมนแปลกตามากขึ้น กล้องหลังมาพร้อมกับ 5 รูหลักๆที่จะเป็น เซนเซอร์ TOF 3D ด้วยเช่นกัน และยังคงมีความใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม และยังมีเลนส์ Periscope ใส่เข้ามาให้ในเลนส์ล่างสุด แต่จะอยู่ในกรอบวงหลมเช่นเดิมแบบเดียวกับ Note 20 ก่อนหน้านี้ครับ วัสดุฝาหลังเป็นกระจกด้านเล่นแสงสวยงามและตรงโมดูลกล้องเป็นวัสดุเงินด้านทั้งหมดก็ถือว่าดูแปลกตามากกว่ารุ่นก่อนๆอยู่นะ ส่วนความหนา และ หนัก ต้องเข้าใจกันในเรื่องของทั้งสเปก แบต กล้องที่กินพื้นที่ทำให้ตัวเครื่องแอบหนักไปนิดๆ
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ เจาะรูเช่นเดิม เป็นกล้องหน้าตรงกลางพร้อมกับใช้งาน หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O Display ขนาด 6.8 นิ้วความละเอียด Quad HD+ ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติตั้งแต่ 10-120Hz และมีขอบหน้าจอที่บางมากขึ้นกว่าเดิมทั้งในด้านหน้าขอบบน และ ขอบล่างของตัวเครื่องครับ
ขอบด้านล่างของ S21 Ultra 5G นั้นเราจะเห็นปุ่มควบคุมทั้งหมด ที่สามารถใช้งานแบบ GESTURE ได้และขอบที่บางมากกว่าตัวก่อน แต่ยังไงนั้นขอบล่างก็จะไม่ได้บางเท่ากับขอบข้างๆ หรือขอบด้านบนเท่าไรเป็นปกติของตัวเครื่อง
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นขอบบางที่ใกล้เคียงกับขอบข้างๆพร้อมกับกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางในความละเอียด 40MP f2.2 และมาพร้อมกับ ลำโพง และ เซนเซอร์ต่างๆนั้นจะใส่เข้ามาตรงขอบด้านบนทั้งหมดเลยนั้นเอง
ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นเราจะเห็นว่า มาพร้อมกับลำโพงตัวหลัก และ รู USB-C 3.1 และ รูไมค์ รวมถึงถาดซิม ที่ครั้งนี้ไม่สามารถเพิ่ม Micro-SD ได้แล้ว และขอบเครื่องนั้นจะเป็นวัสดุเงาทั้งหมดเป็นคล้ายๆกับโครเมี่ยมสวยงามครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นหนาขึ้นจากบอดี้ และครั้งนี้เหมือนจะพยายามให้งานออกแบบนั้นเป็นชิ้นเดียวกันจากส่วนของเครื่อง เลยทำให้มุมขวานั้นขอบเครื่องจะหนาขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เป็น Unibody มากขึ้นนั้นเองครับ
ขอบเครื่องในด้านขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมทั้งหมด ทั้งการเพิ่ม ลด เสียง และ ปุ่ม Power ของตัวเครื่อง และมีความบางพอสมควร แต่ส่วนกล้องนั้นจะเป็นการใช้งานขึ้นรูปชิ้นเดียวกันทั้งหมดก็ถือว่ามีความแข็งแรงมากขึ้น
ในด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่าถ้าหากไม่ได้มองไปที่เลนส์กล้องนั้นถือว่ามีความบางระดับนึง แต่ในฝั่งนี้จะไม่มีปุ่มหรือถาดซิมอะไรครับ และมีเพียงขีดเสา สัญญาณเท่านั้น และตัวเครื่องก็รองรับการใช้งาน 5G ในไทยเรียบร้อย
ในด้านฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่า สีเงิน (Phantom Silver) นั้นจะเน้นไปที่ขอบเครื่องสีเงินเป็นหลัก แต่ฝาหลังนั้นจะเป็นแบบกระจกด้านที่มีการเล่นสีสันเมื่อเจอแสงเล็กน้อยทำให้จะออกอมฟ้า หรือ ว่าม่วงไปบ้างในหลายๆสภาพแสง และ โลโก้ยังคงใส่เข้ามาอยู่ในด้านล่างตัวเครื่อง และ สแกนนิ้วนั้นแน่นอนว่าเรือธงไปใช้งานบนหน้าจอทั้งหมดครับ แน่นอนว่ารุ่นนี้แม้จะรองรับการใช้งานปากกา S-Pen แต่ก็ยังไม่มีการแถมหรือที่เสียบแบบในตระกูล Note ครับผม
ตัวกล้องนั้นมาพร้อมกับ กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HM3, OIS และ กล้อง Ultra Wide 120° 12MP (f/2.2) รวมถึง กล้องเทเล 10MP รองรับ OIS สามารถซูมได้ 3x และ ตัว กล้อง Periscope 10MP สามารถซูมได้ 10x, ซูมแบบ Space Zoom ได้ 100x, เซนเซอร์ Laser autofocus, ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่ายวีดีโอ 8K ได้ที่ 30fps รวมถึง มีการใส่ เซนเซอร์ ToF3D มาให้ด้วยเช่นกันครับตัวนี้
SPEC
- หน้าจอ Dynamic Infinity-O-Edge AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว (3200 x 1440พิกเซล) Quad HD+, 515 PPI, รีเฟรชเรทแบบ Adaptive 120Hz (ปรับอัตโนมัติ 10~120Hz), ความสว่างสูงสุด 1500nits, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิบประมวลผล Snapdragon 888 5nm / Samsung Exynos 2100
- RAM LPDDR5 12GB/16GB + ความจำ 128GB/256GB/512GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย One UI 3.1
- กล้องหลัง
* กล้องตัวหลัก 108MP (f/1.8) ที่ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HM3, OIS
* กล้อง Ultra Wide 120° 12MP (f/2.2)
* กล้องเทเล 10MP รองรับ OIS สามารถซูมได้ 3x
* กล้อง Periscope 10MP สามารถซูมได้ 10x, ซูมแบบ Space Zoom ได้ 100x, เซนเซอร์ Laser autofocus, ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ที่ 60fps, ถ่ายวิดิโอ 8K ได้ที่ 30fps
* เซนเซอร์ ToF3D
* แฟลช LED
- กล้องหน้า 40MP (f/2.2)
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น (มาตรฐาน IP68)
- ขนาดตัวเครื่อง: 165.1 x 75.6 x 8.9มม. ; น้ำหนัก: 228 กรัม
- รองรับ 5G SA/NSA, 4G VoLTE, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.1, UWB, GPS + GLONASS, NFC, MST
- USB 3.1
- แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 25W, ชาร์จไร้สาย Qi 15W
SCREEN
หน้าจอทาง S21 Ultra 5G นั้นยังคงรองรับการใช้งานได้ดี แน่นอนว่าแบรนด์นี้ยังคงขึ้นชื่อเรื่องของหน้าจอครับคุณภาพสูงและมีความสวยงามรวมถึงลื่นไหลมากถึง 120Hz อีกทั้งในรุ่นนี้ก็สามารถปรับได้ในความละเอียดสูงแล้วเช่นกัน หน้าจอมาพร้อมกับ หน้าจอ Dynamic Infinity-O-Edge AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว (3200 x 1440พิกเซล) Quad HD+, 515 PPI, รีเฟรชเรทแบบ Adaptive 120Hz (ปรับอัตโนมัติ 10~120Hz), ความสว่างสูงสุด 1500nits, ใช้กระจก Gorilla Glass Victus ซึ่งเป็นรหัสสูงสุดของกระจกในตอนนี้มีความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เยอะมากครับ หน้าจอนั้นถือว่ามุมมองต่อการใช้งาน การสู้แสงนั้นรองรับได้สบายๆในการใช้งานทั้งกลางแจ้งแล้วก็กลางคืนสามารถหรี่ได้เยอะมากเช่นกัน ส่วนติดนิ้วอะไรนั้นไม่มีปัญหาครับ การสแกนนิ้วนั้นใหญ่มากขึ้นต่อพื้นที่การใช้งาน และ หน้าจอมีฟิล์มติดตั้งมาให้เรียบร้อยครับ ส่วนคุณภาพสีถือว่าดีอันดับต้นๆในตอนนี้เลย
ANTUTU
Snapdragon 888 มาพร้อมกับ RAM 12 GB และ เป็นสเปกที่แตกต่างกับของประเทศไทยครับแน่นอนว่าส่วนตัวเองนั้นใช้งาน Snapdragon 888 ถือว่ายังคงไว้ใจได้และเป็นค่ายนี้ทำออกมาได้ดีครับ ทำให้คะแนนนั้นทำได้ 611120 คะแนน ก็ถือว่าเร็วแรงเอาเรื่องครับสำหรับ Snapdragon ส่วนเรื่องของอุณหภูมินั้นจะประมาณ 42 องศาถือว่ายังคงควบคุมความร้อนได้ดีเลยนะ และ การใช้งานในเรื่องของ เล่นเกม Snapdragon ก็ทำออกมาได้ประทับใจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้