[คำเตือน : มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน!!]
Focus
👉 Odyssey และ Iliad เชื่อว่าถูกประพันธ์โดยกวีนามว่า
'โฮเมอร์’ เมื่อ 700 ปี ก่อน คริสตกาล
👉 ลักษณะการเล่าเรื่องจะเป็นการเล่าแบบย้อนหลัง
👉 เป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมคลาสสิกที่ควรอ่านสักครั้งในชีวิต!
14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรัก ที่แวดล้อมไปด้วยสีสันของดอกกุหลาบ กล่องของขวัญสีชมพู และคู่รักที่เดินจับมือถือแขนกันอย่างหวานชื่น
วันนี้ผมเลยจะมาบอกเล่าอีกตำนานของความรักสุดคลาสสิกที่ไม่ได้หวือหวาตระการตา แต่ก็ต้องอดทนต้องรอคอยเกือบ 2 ทศวรรษ!! กับราชินีเพเนโลเป พระชายาแห่งโอดิสซุส ในวรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง Odyssey (โอดิสซี)
‘โอดิสซี’ คือเรื่องราวภาคต่อจาก
‘อิเลียด’ ว่าด้วยการผจญภัยของโอดิสซุส กษัตรย์แห่งเกาะอิธกะหลังเสร็จศึกสงครามกรุงทรอย ที่รบกันยาวนาน กว่า 10 ปี แต่มีเพียงโอดิสซุสและบรรดาผู้ติดตามของเขาที่ได้กระทำการบางอย่าง จนทำให้เทพแห่งมหาสมุทรโพไซดอน สาปส่งพวกเขาให้ไม่มีวันได้กลับสู่มาตุภูมิ
ซึ่งระหว่างนั้นเองโอดิสซุสก็ต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมนานัปการ ทั้งความทุกข์ทรมานจากความหิวโหย เหล่ามิตรสหายที่ล้มหายตายจาก และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ประหนึ่งว่าเขาเป็นชายที่โชคร้ายที่สุดในโลก
แต่ที่ต้องทนทุกข์ไม่แพ้กันกับโอดิสซุสเลยก็คือราชินีเพเนโลเปที่ต้องอดทนสุดหัวใจ เพื่อรอคอยสามีที่ไม่มีวันได้ล่วงรู้ว่าจะพานพบกับชะตากรรมเยี่ยงไร ในท้องทะเลที่มีคลื่นสมุทรคลุ้มคลั่งปานสัตว์อสูร พร้อมทั้งรับมือกับเหล่าเจ้าผู้หมายปองตัวของนาง ที่กล่าวว่าจาดูหมิ่นหยาบคาย และเข้ามาจัดงานรื่นเริงในพระราชวังของโอดิสซุสอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
นางต้องเก็บกลั้นความคับแค้นใจนี้ แสดงให้คนอื่นๆ เห็นว่าตนยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แม้สามีจะไม่อยู่ก็ตาม และเมื่อถึงคราวหมดหน้าที่ประจำวัน เพเนโลเปก็มักจะแอบร้องไห้ในห้องบรรทมถึงโอดิสซุส ภัสดาผู้เป็นที่รัก กระนั้นทั้งตัวของนาง และเทเลมาคุสผู้เป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ก็ยังได้รับความเมตตาจากเทพีอาเธน่า ซึ่งมักจะจำแลงกายเป็นมนุษย์ค่อยให้ความช่วยเหลืออยู่เป็นระยะๆ
🔴 ศรีภรรยาเพเนโลเป้กับค่านิยมสองมาตราฐานในสังคมกรีกโบราณ
***สปอยเนื้อหาบางส่วน***
ในช่วงกลางเรื่องนั้นจะมีเหตุการณ์หนึ่งที่
เซอร์ซี แม่มดสาวสุดเซ็กซี่ ได้พบกับกลุ่มของโอดิสซุสบนเกาะ ทว่าบริวารของเขากลับถูกยั่วยวนโดยเซอร์ซีและบรรดาคนรับใช้ของนางให้เข้ามากินอาหารและเสพสุขกันในที่พำนัก จากนั้นนางก็สาปให้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นหมู
เมื่อโอดิสซุสทราบเรื่องราวทั้งหมดจากนายทหารที่รอดจากมนต์สะกด ก็ได้รีบเดินกร่างเข้าไปหานางในวังทันที เนื่องจากโอดิสซุสมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ทำให้นางเปลี่ยนกลยุทธ์หันมาใช้เลือนร่าง ล่อให้โอดิสซุสมากับนาง
โอดิสซุสใช้อุบายยื่นข้อเสนอว่า หากเปลี่ยนคนของเขาให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจะยอมเข้าไปหานางในห้องนอน ซึ่งแน่นอนว่านางยอมรับเงื่อนไข จากนั้นโอดิสซุสก็เสพสุขกับนางบนเกาะไปอีกเป็นปีๆ
ซึ่งหากจะว่ากันในมุมมองของปัจจุบัน นี่ก็คือการคบชู้สู่สาวดีๆ นั่นเอง แต่โฮเมอร์ผู้ประพันธ์อาจจะมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใดๆ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด 2 มาตราฐานในสังคมกรีกโบราณ หรือพูดอีกอย่างก็คือการสร้างค่านิยมว่าผู้หญิงต้องรักและซื่อสัตย์ต่อสามีเพียงฝ่ายเดียว
ในขณะที่ฝ่ายชายออกไปรบข้างนอก และสามารถมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิดแต่อย่างใด จากนั้นตัดฉากกลับมาที่พระราชวังบนเกาะอิธกะ เพเนโลเปศรีภรรยาหาได้เชื้อเชิญ หรือคบหากับชายใดที่หมายปองนาง แม้ว่าเหล่าชายอาจหาญบางคนจะมีรูปลักษณ์สง่างาม ชาติกำเนิดดีเยี่ยม หรือเป็นพ่อค้าเศรษฐีจากแว่นแคว้นอื่น ก็มิอาจเปลี่ยนใจนางได้
หลังจากที่เวลาผ่านล่วงเลยไป 1 ปี กว่าๆ โอดิสซุสตัดสินใจว่าพอแล้ว เพราะจุดหมายของเขามีเพียงเพเนโลปเท่านั้น พอมาถึงตรงจุดนี้จะเห็นได้ว่า โฮเมอร์พยายามเตือนสติผู้อ่านว่า โอดิสซุสก็เป็นผู้ชายเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ เขาควรทำหน้าที่สามีและกษัตริย์ต่อเพเพโลเป หากเขาอยู่ที่นี่นาน เป้าหมายที่วาดหวังไว้แต่แรกก็จะค่อยๆ จางหายไปเช่นกัน
แม้ว่าการตัดสินใจของโอดิสซุสที่ว่า ‘พอแล้วนั้น’ จะหมายความว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะอยู่เสวยสุขกับเซอร์ซีหรือจะกลับไปหาเพเนโลเปได้อยู่ดี ในขณะที่เพเนโลเปมีโอกาสหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดจะมีคนอื่น
🔴 เรื่องราวความรักและภักดี
ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้คู่รักคู่นี้โดดเด่นจนผมต้องขอหยิบยกมากล่าวในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้นั่นก็คือ ความไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทั้งของโอดิสซุสและเพเนโลเป แม้บางคราความหวังอาจดูริบหรี่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยให้โอกาสเพียงเล็กน้อยนี้หลุดมือไป
โอดิสซุสมีโอกาสที่จะเสวยสุขไปชั่วชีวิตได้ง่ายๆ แต่เขาก็เลือกที่จะกลับไปหาเพเนโลเป (แม้จะมีความสัมพันธ์กับแม่มดสาวเซอร์ซีไปแล้วก็ตาม) เช่นเดียวกันกับเพเนโลเปในการรอคอยการกลับมาของสามีผู้เป็นที่รักยิ่งอย่างไม่ลดละ แม้วันคืนจะยาวนานผ่านไปถึง 20 ปี ไม่ว่าผู้คนจะกล่าวว่าเขาได้ตายไปแล้ว เธอก็จะรอเพื่อเขา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหรือผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรเธอก็จะรอ
เคยมีคำกล่าวโบราณไว้ว่า
“ความรักที่ดีเริ่มต้นจากความซื่อสัตย์และภักดีเสมอ”
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองได้สวมกอดกันอย่างมีความสุข หลังจากต้องห่างหายกันไปถึง 2 ทศวรรษ!! และพวกเขาจะยังคงมีความรักให้เรื่อยไป จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
รักแท้ (ไม่) แพ้ระยะทาง : เพเนโลเปกับ 2 ทศวรรษการรอคอย ในมหากาพย์การผจญภัย Odyssey
👉 Odyssey และ Iliad เชื่อว่าถูกประพันธ์โดยกวีนามว่า 'โฮเมอร์’ เมื่อ 700 ปี ก่อน คริสตกาล
👉 ลักษณะการเล่าเรื่องจะเป็นการเล่าแบบย้อนหลัง
👉 เป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมคลาสสิกที่ควรอ่านสักครั้งในชีวิต!
14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรัก ที่แวดล้อมไปด้วยสีสันของดอกกุหลาบ กล่องของขวัญสีชมพู และคู่รักที่เดินจับมือถือแขนกันอย่างหวานชื่น
วันนี้ผมเลยจะมาบอกเล่าอีกตำนานของความรักสุดคลาสสิกที่ไม่ได้หวือหวาตระการตา แต่ก็ต้องอดทนต้องรอคอยเกือบ 2 ทศวรรษ!! กับราชินีเพเนโลเป พระชายาแห่งโอดิสซุส ในวรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง Odyssey (โอดิสซี)
‘โอดิสซี’ คือเรื่องราวภาคต่อจาก ‘อิเลียด’ ว่าด้วยการผจญภัยของโอดิสซุส กษัตรย์แห่งเกาะอิธกะหลังเสร็จศึกสงครามกรุงทรอย ที่รบกันยาวนาน กว่า 10 ปี แต่มีเพียงโอดิสซุสและบรรดาผู้ติดตามของเขาที่ได้กระทำการบางอย่าง จนทำให้เทพแห่งมหาสมุทรโพไซดอน สาปส่งพวกเขาให้ไม่มีวันได้กลับสู่มาตุภูมิ
ซึ่งระหว่างนั้นเองโอดิสซุสก็ต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมนานัปการ ทั้งความทุกข์ทรมานจากความหิวโหย เหล่ามิตรสหายที่ล้มหายตายจาก และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ประหนึ่งว่าเขาเป็นชายที่โชคร้ายที่สุดในโลก
แต่ที่ต้องทนทุกข์ไม่แพ้กันกับโอดิสซุสเลยก็คือราชินีเพเนโลเปที่ต้องอดทนสุดหัวใจ เพื่อรอคอยสามีที่ไม่มีวันได้ล่วงรู้ว่าจะพานพบกับชะตากรรมเยี่ยงไร ในท้องทะเลที่มีคลื่นสมุทรคลุ้มคลั่งปานสัตว์อสูร พร้อมทั้งรับมือกับเหล่าเจ้าผู้หมายปองตัวของนาง ที่กล่าวว่าจาดูหมิ่นหยาบคาย และเข้ามาจัดงานรื่นเริงในพระราชวังของโอดิสซุสอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
นางต้องเก็บกลั้นความคับแค้นใจนี้ แสดงให้คนอื่นๆ เห็นว่าตนยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แม้สามีจะไม่อยู่ก็ตาม และเมื่อถึงคราวหมดหน้าที่ประจำวัน เพเนโลเปก็มักจะแอบร้องไห้ในห้องบรรทมถึงโอดิสซุส ภัสดาผู้เป็นที่รัก กระนั้นทั้งตัวของนาง และเทเลมาคุสผู้เป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ก็ยังได้รับความเมตตาจากเทพีอาเธน่า ซึ่งมักจะจำแลงกายเป็นมนุษย์ค่อยให้ความช่วยเหลืออยู่เป็นระยะๆ
🔴 ศรีภรรยาเพเนโลเป้กับค่านิยมสองมาตราฐานในสังคมกรีกโบราณ
***สปอยเนื้อหาบางส่วน***
ในช่วงกลางเรื่องนั้นจะมีเหตุการณ์หนึ่งที่ เซอร์ซี แม่มดสาวสุดเซ็กซี่ ได้พบกับกลุ่มของโอดิสซุสบนเกาะ ทว่าบริวารของเขากลับถูกยั่วยวนโดยเซอร์ซีและบรรดาคนรับใช้ของนางให้เข้ามากินอาหารและเสพสุขกันในที่พำนัก จากนั้นนางก็สาปให้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นหมู
เมื่อโอดิสซุสทราบเรื่องราวทั้งหมดจากนายทหารที่รอดจากมนต์สะกด ก็ได้รีบเดินกร่างเข้าไปหานางในวังทันที เนื่องจากโอดิสซุสมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ทำให้นางเปลี่ยนกลยุทธ์หันมาใช้เลือนร่าง ล่อให้โอดิสซุสมากับนาง
โอดิสซุสใช้อุบายยื่นข้อเสนอว่า หากเปลี่ยนคนของเขาให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจะยอมเข้าไปหานางในห้องนอน ซึ่งแน่นอนว่านางยอมรับเงื่อนไข จากนั้นโอดิสซุสก็เสพสุขกับนางบนเกาะไปอีกเป็นปีๆ
ซึ่งหากจะว่ากันในมุมมองของปัจจุบัน นี่ก็คือการคบชู้สู่สาวดีๆ นั่นเอง แต่โฮเมอร์ผู้ประพันธ์อาจจะมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใดๆ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด 2 มาตราฐานในสังคมกรีกโบราณ หรือพูดอีกอย่างก็คือการสร้างค่านิยมว่าผู้หญิงต้องรักและซื่อสัตย์ต่อสามีเพียงฝ่ายเดียว
ในขณะที่ฝ่ายชายออกไปรบข้างนอก และสามารถมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิดแต่อย่างใด จากนั้นตัดฉากกลับมาที่พระราชวังบนเกาะอิธกะ เพเนโลเปศรีภรรยาหาได้เชื้อเชิญ หรือคบหากับชายใดที่หมายปองนาง แม้ว่าเหล่าชายอาจหาญบางคนจะมีรูปลักษณ์สง่างาม ชาติกำเนิดดีเยี่ยม หรือเป็นพ่อค้าเศรษฐีจากแว่นแคว้นอื่น ก็มิอาจเปลี่ยนใจนางได้
หลังจากที่เวลาผ่านล่วงเลยไป 1 ปี กว่าๆ โอดิสซุสตัดสินใจว่าพอแล้ว เพราะจุดหมายของเขามีเพียงเพเนโลปเท่านั้น พอมาถึงตรงจุดนี้จะเห็นได้ว่า โฮเมอร์พยายามเตือนสติผู้อ่านว่า โอดิสซุสก็เป็นผู้ชายเหมือนกับผู้ชายคนอื่นๆ เขาควรทำหน้าที่สามีและกษัตริย์ต่อเพเพโลเป หากเขาอยู่ที่นี่นาน เป้าหมายที่วาดหวังไว้แต่แรกก็จะค่อยๆ จางหายไปเช่นกัน
แม้ว่าการตัดสินใจของโอดิสซุสที่ว่า ‘พอแล้วนั้น’ จะหมายความว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะอยู่เสวยสุขกับเซอร์ซีหรือจะกลับไปหาเพเนโลเปได้อยู่ดี ในขณะที่เพเนโลเปมีโอกาสหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดจะมีคนอื่น
🔴 เรื่องราวความรักและภักดี
ถึงกระนั้น สิ่งที่ทำให้คู่รักคู่นี้โดดเด่นจนผมต้องขอหยิบยกมากล่าวในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้นั่นก็คือ ความไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทั้งของโอดิสซุสและเพเนโลเป แม้บางคราความหวังอาจดูริบหรี่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยให้โอกาสเพียงเล็กน้อยนี้หลุดมือไป
โอดิสซุสมีโอกาสที่จะเสวยสุขไปชั่วชีวิตได้ง่ายๆ แต่เขาก็เลือกที่จะกลับไปหาเพเนโลเป (แม้จะมีความสัมพันธ์กับแม่มดสาวเซอร์ซีไปแล้วก็ตาม) เช่นเดียวกันกับเพเนโลเปในการรอคอยการกลับมาของสามีผู้เป็นที่รักยิ่งอย่างไม่ลดละ แม้วันคืนจะยาวนานผ่านไปถึง 20 ปี ไม่ว่าผู้คนจะกล่าวว่าเขาได้ตายไปแล้ว เธอก็จะรอเพื่อเขา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหรือผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรเธอก็จะรอ
เคยมีคำกล่าวโบราณไว้ว่า
“ความรักที่ดีเริ่มต้นจากความซื่อสัตย์และภักดีเสมอ”
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองได้สวมกอดกันอย่างมีความสุข หลังจากต้องห่างหายกันไปถึง 2 ทศวรรษ!! และพวกเขาจะยังคงมีความรักให้เรื่อยไป จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต