คืนวันตรุษจีน ปี 1987 ที่ฮ่องกง
หลี่เฉียว และหลี่เสี่ยวจิน สองหนุ่มสาวเปิดร้านขายเทปคาสเซ็ตเพลงของเติ้ง ลี่จวิน ศิลปินชาวไต้หวันผู้มีผลงานดัง อย่าง เถียน มี มี่ หรือ The Moon Represents My Heart
ท่ามกลางคนฮ่องกงและคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่ออกมาเดินเที่ยวอย่างคับคั่ง แม้ว่าฝนจะตก แต่ร้านขายเทปของทั้งสองคนกลับเงียบเหงา ไม่มีคนเข้าร้าน และสุดท้ายขายเทปไม่ได้เลย
หลี่เฉียว ซึ่งหลอกลวงหลี่เสี่ยวจินอยู่นานว่าเป็นคนฮ่องกง แท้จริงเธอมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มาจากทางจีนฝั่งใต้อย่างกวางโจว จึงพูดจีนกวางตุ้งแบบคนฮ่องกงได้ ต่อมาหญิงสาวได้สารภาพว่า ที่ตัดสินใจมาขายเทปเพลงของเติ้ง ลี่จวิน นั่นเพราะว่าเมื่อตรุษจีนปีที่แล้วที่กวางโจว เธอขายเทปเติ้ง ลี่จวินได้ตั้งสี่พันกว่าม้วน
แต่ทำไมที่ฮ่องกงเพลงของเติ้ง ลี่จวิน ทำไมถึงขายไม่ออก ทั้งที่นางเอกเล่าว่า คนจีนแผ่นดินใหญ่ทำมาหากินอยู่ที่ฮ่องกงเป็นจำนวนมาก
“คุณรู้ไหมในฮ่องกงมีคนจีนแผ่นดินใหญ่กี่คน หนังสือพิมพ์ลงว่าเศษหนึ่งส่วนห้าของฮ่องกงนะ เป็นคนจากเมืองจีนแทบเดินชนกันตาย …นี่คุณดูสิ ระหว่างเราก็มีคนหนึ่ง ครึ่งหนึ่งแล้วนะ” ตอนแรกหลี่เฉียวยังปิดบังสถานะว่ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่
หลี่เสี่ยวจิน ซึ่งมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ฝั่งทางเหนืออย่างเทียนจิน เขาพูดภาษาจีนกลาง ตั้งใจข้ามมาที่ฮ่องกง ซึ่งในตอนนั้น ก่อนปี 1997 ฮ่องกงอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เพื่อมาสร้างเนื้อสร้างตัว เพราะในช่วงเวลานั้นฮ่องกงเจริญกว่าที่จีนแผ่นดินใหญ่ เขาอธิบายเหตุผลที่เทปขายไม่ออกว่า
“คุณป้าบอกว่า ถ้าใครรู้ว่าคุณชอบเติ้ง ลี่จวิน เขาก็รู้ว่าคุณมาจากแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น เขาชอบ เขาก็ไม่ยอมมาซื้อหรอก”
คำถามที่น่าสนใจกว่าเทปเติ้ง ลี่จวินขายไม่ออกในตอนนี้ก็คือ สถานะของคนจีนแผ่นดินใหญ่ ในฮ่องกงยุคปลายทศวรรษ 1980 นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
คำตอบน่าจะอยู่ที่นัยการใช้ภาษาจีนกลางและจีนกวางตุ้งของหลี่เฉียว และหลี่เสี่ยวจิน ในภาพยนตร์เรื่อง Comrades : Almost a Love Story
ภาพยนตร์ Comrades : Almost a Love Story หรือเรียกแบบไทย ๆ แบบคุ้นหูในชื่อ ‘เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว’ เป็นภาพยนตร์ฮ่องกงที่กำกับโดยปีเตอร์ ชาน ออกฉายเมื่อปี 1996
เถียน มี มี่ฯ ตั้งชื่อลำลองของภาพยนตร์ตามชื่อเพลงของเติ้ง ลี่จวิน ในวันนี้มีอายุประมาณ 25 ปีแล้ว แต่ความคลาสสิกของภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องนี้ข้ามยุคข้ามสมัย เทียบเคียงกันกับความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งสอง นั่นคือ ‘หลี่เสี่ยวจิน’ (หลี่ หมิง) และ ‘หลี่เฉียว’ (จาง ม่านอวี้) ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลจากจีนแผ่นดินใหญ่สู่เกาะฮ่องกงสู่นิวยอร์ก ข้ามกาลเวลาจากวันแรกสู่การรู้จักกันครบรอบสิบปี แต่ความรู้สึกความรักที่มีตั้งแต่แรกเจอยังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ห่างหายไปไหน
นอกเหนือจากเรื่องราว ‘ความรัก’ ของคนทั้งสอง หลายองค์ประกอบในหนังมันคือการบอกเล่าถึง ‘ภาวะทันสมัย’ ที่ฮ่องกงมี กับ ‘ภาวะล้าหลัง’ แบบที่จีนแผ่นดินใหญ่ถูกมอง ณ ขณะนั้น
จีนแผ่นดินใหญ่เพิ่งผ่านพ้นห้วงเวลาการปฏิวัติวัฒนธรรมช่วงปี 1966-1976 และก้าวสู่ ‘นโยบาย 4 ทันสมัย’ ในปี ค.ศ. 1978 สมัยเติ้ง เสี่ยวผิง กับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ 4 เรื่อง ได้แก่ การเกษตร การอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการป้องกันประเทศ
ในช่วงเวลายุคกลางทศวรรษ 1980 ในระบบเศรษฐกิจ จีนเริ่มเลี้ยวจากคอมมิวนิสต์สู่แนวทางทุนนิยม แต่การวางระบบอุตสาหกรรมของประเทศยังเพิ่งเริ่มตั้งไข่ โดยเริ่มต้นวางแผนเขตเศรษฐกิจที่กวางโจว เมืองที่หลี่เฉียวจากมานั่นเอง ก่อนที่จะวางระบบอุตสาหกรรมเต็มกำลังบนพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศในช่วงเวลาต่อมา
เนื้อหาของ Comrades: Almost a Love Story เริ่มต้นที่ช่วงเวลานั้น
1 มีนาคม 1986 คือวันที่หลี่เสี่ยวจินเหยียบย่างมาที่เกาะฮ่องกง พร้อมด้วยคำบรรยายในจดหมายถึงแฟนสาวที่จีนแผ่นดินใหญ่ เขามีคนรักอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะมาพบกับหลี่เฉียวที่ฮ่องกง
ถึงเสี่ยวถิงที่รัก
“ความจริงฮ่องกงก็ไกลนะ ที่นี่ผิดกับเทียนจินมาก ผู้คนเยอะ รถแยะ มีตึกสูงมากมาย หัวขโมยเยอะด้วย”
นี่คือคำบรรยายเป็นภาษาจีนกลางในจดหมายเพื่อสื่อว่าฮ่องกงเจริญกว่าจีนมาก ๆ การค้าขายคึกคักกว่าที่จีนแผ่นดินใหญ่
ภาพลักษณ์ฮ่องกงที่นำเสนอผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ในช่วงแรก จึงเหมือนการสร้างภาพของ ‘ความทันสมัย’ ผ่านองค์ประกอบรอบข้างในฮ่องกง อย่างเช่น ถนน ตึกรามบ้านช่อง แมคโดนัลด์ สถาบันสอนภาษาอังกฤษ การเล่นหุ้น ไปจนถึงเครื่องดื่มไวตาซอย หลี่เฉียวเคยบอกว่า เธอเป็นคนฮ่องกงเพราะดูทีวีฮ่องกง ดื่มไวตาซอย (ไวตาซอย เป็นนมถั่วเหลืองแบรนด์ฮ่องกง)
ซึ่งผลักให้ภาพของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงเวลานั้น กลายเป็นภาพที่ ‘เชย’ ‘ล้าหลัง’ และ ‘ไม่ทันสมัย’ เท่าฮ่องกง
"Comrades : Almost a Love Story" เถียนมีมี่ ภาษาจีน และความรักของสหาย