เมืองแมนแชมป์!เปิดตัวเลข 'เรือ, ผี' ช็อปสนั่นติดตัวแดงมากสุด
CIES Football Observatory เว็บไซต์วิเคราะห์ฟุตบอลชื่อดัง เปิดเผยผลสำรวจการทำธุรกิจซื้อขายนักเตะช่วงตลาด 10 หนที่ผ่านมา พบว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ติดลบตัวแดงมากที่สุด
การศึกษาดังกล่าวเป็นการนับรวมการซื้อขายนักเตะของลีกระดับท็อป 5 ประเทศของยุโรป ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2016 เป็นต้นมา โดยข้อมูลจะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าแต่ละสโมสรจ่ายเงินซื้อนักเตะและได้เงินจากการขายมากเท่าไร
อันดับหนึ่งที่ติดลบมากที่สุดคือทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่จ่ายเงินมหาศาล 1006 ล้านยูโร และขายนักเตะได้เงิน 375 ล้านยูโร หมายความว่าพวกเขาติดลบกว่า 631 ล้านยูโร แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะมีน้ำมันของอาบูดาบี หนุนหลังอยู่
อันดับสองคือเพื่อนบ้านอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินซื้อนักเตะไปรวมเบ็ดเสร็จ 832 ล้านยูโร และได้เงินกลับมาเพียง 246 ล้านยูโร เท่ากับขาดทุนไปทั้งหมด 586 ล้านยูโรด้วยกัน
บาร์เซโลน่า คือทีมถัดมาระเบิดคลังซื้อนักเตะมากมาย 1171 ล้านยูโร และขายได้มา 700 ล้านยูโร ตามมาด้วยปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีตัวเลขหักลบขาดทุนที่ 455 ล้านยูโร ขณะที่อินเตอร์ มิลาน ติดลบตัวแดง 386 ล้านยูโร
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เอฟเวอร์ตัน และแอสตัน วิลล่า ตามมาติดๆ ที่อันดับ 6 และ 7 มียอดติดลบ 346 และ 339 ล้านยูโรตามลำดับ ส่วนเอซี มิลาน ติดลบที่ 311 ล้านยูโร ขณะที่เชลซี ซื้อไปกว่า 968 ล้านยูโร แต่ขายกลับได้มากถึง 660 ล้านยูโร ทำให้มีตัวแดงเพียง 308 ล้านยูโร
ถัดมาคือ อาร์เซน่อล ที่อยู่ในตำแหน่งท็อป 10 ขาดทุนไป 299 ล้านยูโรจากการขายนักเตะ 289 ล้านยูโร และเสียเงินซื้อใหม่ 588 ล้านยูโร
ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อยุ่อันดับที่ 23 จ่ายเงินไปกว่า 603 ล้านยูโร แต่ขายนักเตะเอาเงินคืนมาได้ 474 ล้านยูโร ทำให้ติดลบตัวแดงเพียง 129 ล้านยูโร น้อยกว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือฟูแล่ม เสียอีก
แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือ เรอัล มาดริด อยู่อันดับที่ 29 บนตาราง ยอดซื้อขายติดลบเพียงแค่ 91 ล้านยูโรเท่านั้น เรียกว่าน้อยกว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงคริสตัล พาเลซ ในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
รายละเอียดของแต่ละสโมสรตามลิ้งค์ด้านล่าง
https://football-observatory.com/IMG/sites/b5wp/2020/wp324/en/
cr : www.soccersuck.com
แมนซิตี้-แมนยูติดท็อป! เปิด10ทีมยุโรปยอดติดลบซื้อขายนักเตะมากสุดตั้งแต่ปี2016
เปิดลิสต์ท็อป 10 อันดับทีมในยุโรปที่มียอดติดลบในการซื้อ-ขายนักเตะมากสุดนับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เป็นต้นมา โดยสองยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ติดท็อปอันดับต้นๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก่อนที่ไว้รัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดนั้นตลาดซื้อ-ขายนักเตะในยุโรปมักจะมีบิ๊กดีลที่มีมูลค่ามหาศาลให้แฟนๆได้เห็นอยู่ตลอดแทบทุกช่วง โดยเฉพาะบรรดาทีมเงินถุงเงินถังที่ใช้เงินเสริมทัพเพื่อไล่ล่าความสำเร็จ แต่บรรดาทีมเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำกำไรได้จากการขายนักเตะออกไปเทียบเท่ากับตอนที่ได้มาเช่นกัน
วันนี้เราจะพาไปดูว่ามีทีมไหนบ้างที่ติดท็อปอันดับต้นๆที่มียอดค่าใช้จ่ายติดลบในการซื้อ-ขายนักเตะนับตั้งแต่ปี 2016 มากที่สุด
เริ่มตั้งแต่ แมนฯ ซิตี้ ที่ครองแชมป์ใช้เงินเสริมทัพมากที่แม้จะไม่ได้ใช้เงินเสริมทัพมากสุดในยุโรปในด้วยจำนวน 883 ล้านปอนด์ (ประมาณ 36,295 ล้านบาท) ดึงสตาร์ดังเข้ามามากมายอาทิ รูบน ดิอาส, แฟร์ราน ตอร์เรส, โรดรี้, เลรอย ซาเน่, จอห์น สโตนส์, อิลคาย กุนโดกัน, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบร์นาโด้ ซิลวา, เอแดร์ซอน และ ริยาดมาห์เรซ
อย่างไรก็ตามเมื่อนำไปรวมกับยอดขายนักเตะที่พวกเขาปล่อยออกไปนั้นอยู่ที่เพียง 329 ล้านปอนด์ นั่นจึงทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ต้องขาดทุนจำนวน 554 ล้านปอนด์ (ประมาณ 22,772 ล้านบาท)
แน่นอนว่าด้วยเงินทุนมากมายจากกลุ่มทุนของอาบู ดาบี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรได้เข้ามาเปลี่ยนแปลง แมนฯ ซิตี้ ในการกลายเป็นทีมระดับหัวแถวของพรีเมียร์ลีก รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงหลายปีหลังสุด ซึ่งอาจไม่ได้ทำให้ทีมมีปัญหาเรื่องการเงินเท่าไหร่นัก
ในขณะที่ทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตามมาเป็นอันดับสองที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันนั้นพวกเขาเสียเงินไปถึง 790 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) ในการดึงสตาร์ดังทั้ง ปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู, เนมานย่า มาติช, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อาร์รอน วาน บิสซาก้า และ เฟร็ด
กระนั้นก็ดี "ปีศาจแดง" สามารถขายนักเตะได้จำนวนเงินมากกว่า แมนฯ ซิตี้ ที่จำนวน 215 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,837 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อหักลบจากนักเตะที่ซื้อมาแล้วทำให้พวกเขาขาดทุนไป 515 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,169 ล้านบาท)
ส่วนอันดับสามนั้นตกเป็นของสโมสรในลา ลีกา สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ขาดทุนในเรื่องการซื้อขายนักเตะถึง 413 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,976 ล้านบาท) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินที่กำลังย่ำแย่ที่สุดของยักษ์ใหญ่แดงกระทิงดุ
"เจ้าบุญทุ่ม" ใช้เงินเสริมทัพแล้วมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ เซ็นสัญญาดกับดาวดังทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่, มัลคอม, อาร์ตูร์, เฟรงกี้ เดอ ยอง และ อาร์ตูโร่ วิดัล แต่ยังสามารถฟันกำไรจากการขายนักเตะไปทั้งสิ้น 614 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25,238 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามเวลานี้ บาร์เซโลน่า ก็ยังมีหนี้สิ้นท่วมท้นราว 720 ล้านยูโร (ประมาณ 26,142 ล้านบาท)
ขณะที่อันดับถัดมาหนีไม่พ้น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่รั้งอันดับ 4 โดยมียอดขาดทุน 400 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,442 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะพวกเขาจัดการทุ่มซื้อ เนย์มาร์ ด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 2017 และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ในอีก 12 เดือนต่อมา เป็นผลทำให้มียอดค่าใช้จ่ายทะลุ 748 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,746 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงมียอดขาดดุลที่เยอะเพราะได้ค่าตัวจากการปล่อยนักเตะไปเพียง 349 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,345 ล้านบาท) เท่านั้น
อันดับต่อมาเป็น อินเตอร์ มิลาน ที่ขึ้นมาติดท็อปชาร์จ 5 อันดับแรก ใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะไปที่จำนวน 748 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,746 ล้านบาท) โดยเฉพาะการดึงตัว โรเมลู ลูกากู มาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยราคา 80 ล้านยูโร ในปี 2019 แต่กลับขายนักเตะได้เพียง 243 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,988 ล้านบาท) เท่านั้น ทำให้สโมสรมียอดติดลบที่จำนวน 338 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,893 ล้านบาท)
ปิดท้ายทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์เข้ามาติดท็อป 1 ใน 7 นั่นก็คือ แอสตัน วิลล่า น้องใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยใช้เงินเสริมทัพไปถึง 356 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,633 ล้านบาท) โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาที่เสริมทัพแข้งหลายราย โอลลี่ วั้ตกินส์ กองหน้ามาจาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 28 ล้านปอนด์
แน่นอนด้วยสถานะภาพที่ไม่ได้เป็นทีมบิ๊กเนมที่มีสตาร์ดังมากมาย ซึ่งทำให้พวกเขาขายนักเตะรวมไปได้เพียงแค่ 59 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,425 ล้านบาท) เท่านั้น
และทำให้สโมสรมียอดขาดดุลที่จำนวน 297 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,208 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตามหาก "สิงห์ผงาด" สามารถขาย แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ที่มีค่าตัวประเมิณสูงสุดในทีมในราคาเกือบ 100 ล้านปอนด์ ออกไปได้นั้นอาจทำให้สโมสรมียอดติดลบน้อยลงได้
cr : www.siamsport.co.th
เมืองแมนแชมป์!เปิดตัวเลข 'เรือ, ผี' ช็อปสนั่นติดตัวแดงมากสุด & เปิด 10 ทีมยุโรปยอดติดลบซื้อขายนักเตะมากสุดตั้งแต่ปี 2016
CIES Football Observatory เว็บไซต์วิเคราะห์ฟุตบอลชื่อดัง เปิดเผยผลสำรวจการทำธุรกิจซื้อขายนักเตะช่วงตลาด 10 หนที่ผ่านมา พบว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่ติดลบตัวแดงมากที่สุด
การศึกษาดังกล่าวเป็นการนับรวมการซื้อขายนักเตะของลีกระดับท็อป 5 ประเทศของยุโรป ตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2016 เป็นต้นมา โดยข้อมูลจะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าแต่ละสโมสรจ่ายเงินซื้อนักเตะและได้เงินจากการขายมากเท่าไร
อันดับหนึ่งที่ติดลบมากที่สุดคือทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่จ่ายเงินมหาศาล 1006 ล้านยูโร และขายนักเตะได้เงิน 375 ล้านยูโร หมายความว่าพวกเขาติดลบกว่า 631 ล้านยูโร แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะมีน้ำมันของอาบูดาบี หนุนหลังอยู่
อันดับสองคือเพื่อนบ้านอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินซื้อนักเตะไปรวมเบ็ดเสร็จ 832 ล้านยูโร และได้เงินกลับมาเพียง 246 ล้านยูโร เท่ากับขาดทุนไปทั้งหมด 586 ล้านยูโรด้วยกัน
บาร์เซโลน่า คือทีมถัดมาระเบิดคลังซื้อนักเตะมากมาย 1171 ล้านยูโร และขายได้มา 700 ล้านยูโร ตามมาด้วยปารีส แซงต์-แชร์กแมง มีตัวเลขหักลบขาดทุนที่ 455 ล้านยูโร ขณะที่อินเตอร์ มิลาน ติดลบตัวแดง 386 ล้านยูโร
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เอฟเวอร์ตัน และแอสตัน วิลล่า ตามมาติดๆ ที่อันดับ 6 และ 7 มียอดติดลบ 346 และ 339 ล้านยูโรตามลำดับ ส่วนเอซี มิลาน ติดลบที่ 311 ล้านยูโร ขณะที่เชลซี ซื้อไปกว่า 968 ล้านยูโร แต่ขายกลับได้มากถึง 660 ล้านยูโร ทำให้มีตัวแดงเพียง 308 ล้านยูโร
ถัดมาคือ อาร์เซน่อล ที่อยู่ในตำแหน่งท็อป 10 ขาดทุนไป 299 ล้านยูโรจากการขายนักเตะ 289 ล้านยูโร และเสียเงินซื้อใหม่ 588 ล้านยูโร
ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อยุ่อันดับที่ 23 จ่ายเงินไปกว่า 603 ล้านยูโร แต่ขายนักเตะเอาเงินคืนมาได้ 474 ล้านยูโร ทำให้ติดลบตัวแดงเพียง 129 ล้านยูโร น้อยกว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือฟูแล่ม เสียอีก
แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือ เรอัล มาดริด อยู่อันดับที่ 29 บนตาราง ยอดซื้อขายติดลบเพียงแค่ 91 ล้านยูโรเท่านั้น เรียกว่าน้อยกว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงคริสตัล พาเลซ ในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
รายละเอียดของแต่ละสโมสรตามลิ้งค์ด้านล่าง
https://football-observatory.com/IMG/sites/b5wp/2020/wp324/en/
cr : www.soccersuck.com
แมนซิตี้-แมนยูติดท็อป! เปิด10ทีมยุโรปยอดติดลบซื้อขายนักเตะมากสุดตั้งแต่ปี2016
เปิดลิสต์ท็อป 10 อันดับทีมในยุโรปที่มียอดติดลบในการซื้อ-ขายนักเตะมากสุดนับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2016 เป็นต้นมา โดยสองยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ติดท็อปอันดับต้นๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก่อนที่ไว้รัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดนั้นตลาดซื้อ-ขายนักเตะในยุโรปมักจะมีบิ๊กดีลที่มีมูลค่ามหาศาลให้แฟนๆได้เห็นอยู่ตลอดแทบทุกช่วง โดยเฉพาะบรรดาทีมเงินถุงเงินถังที่ใช้เงินเสริมทัพเพื่อไล่ล่าความสำเร็จ แต่บรรดาทีมเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำกำไรได้จากการขายนักเตะออกไปเทียบเท่ากับตอนที่ได้มาเช่นกัน
วันนี้เราจะพาไปดูว่ามีทีมไหนบ้างที่ติดท็อปอันดับต้นๆที่มียอดค่าใช้จ่ายติดลบในการซื้อ-ขายนักเตะนับตั้งแต่ปี 2016 มากที่สุด
เริ่มตั้งแต่ แมนฯ ซิตี้ ที่ครองแชมป์ใช้เงินเสริมทัพมากที่แม้จะไม่ได้ใช้เงินเสริมทัพมากสุดในยุโรปในด้วยจำนวน 883 ล้านปอนด์ (ประมาณ 36,295 ล้านบาท) ดึงสตาร์ดังเข้ามามากมายอาทิ รูบน ดิอาส, แฟร์ราน ตอร์เรส, โรดรี้, เลรอย ซาเน่, จอห์น สโตนส์, อิลคาย กุนโดกัน, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบร์นาโด้ ซิลวา, เอแดร์ซอน และ ริยาดมาห์เรซ
อย่างไรก็ตามเมื่อนำไปรวมกับยอดขายนักเตะที่พวกเขาปล่อยออกไปนั้นอยู่ที่เพียง 329 ล้านปอนด์ นั่นจึงทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ต้องขาดทุนจำนวน 554 ล้านปอนด์ (ประมาณ 22,772 ล้านบาท)
แน่นอนว่าด้วยเงินทุนมากมายจากกลุ่มทุนของอาบู ดาบี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรได้เข้ามาเปลี่ยนแปลง แมนฯ ซิตี้ ในการกลายเป็นทีมระดับหัวแถวของพรีเมียร์ลีก รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงหลายปีหลังสุด ซึ่งอาจไม่ได้ทำให้ทีมมีปัญหาเรื่องการเงินเท่าไหร่นัก
ในขณะที่ทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตามมาเป็นอันดับสองที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันนั้นพวกเขาเสียเงินไปถึง 790 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) ในการดึงสตาร์ดังทั้ง ปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู, เนมานย่า มาติช, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อาร์รอน วาน บิสซาก้า และ เฟร็ด
กระนั้นก็ดี "ปีศาจแดง" สามารถขายนักเตะได้จำนวนเงินมากกว่า แมนฯ ซิตี้ ที่จำนวน 215 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,837 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อหักลบจากนักเตะที่ซื้อมาแล้วทำให้พวกเขาขาดทุนไป 515 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,169 ล้านบาท)
ส่วนอันดับสามนั้นตกเป็นของสโมสรในลา ลีกา สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า ที่ขาดทุนในเรื่องการซื้อขายนักเตะถึง 413 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,976 ล้านบาท) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินที่กำลังย่ำแย่ที่สุดของยักษ์ใหญ่แดงกระทิงดุ
"เจ้าบุญทุ่ม" ใช้เงินเสริมทัพแล้วมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ เซ็นสัญญาดกับดาวดังทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่, มัลคอม, อาร์ตูร์, เฟรงกี้ เดอ ยอง และ อาร์ตูโร่ วิดัล แต่ยังสามารถฟันกำไรจากการขายนักเตะไปทั้งสิ้น 614 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25,238 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามเวลานี้ บาร์เซโลน่า ก็ยังมีหนี้สิ้นท่วมท้นราว 720 ล้านยูโร (ประมาณ 26,142 ล้านบาท)
ขณะที่อันดับถัดมาหนีไม่พ้น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่รั้งอันดับ 4 โดยมียอดขาดทุน 400 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,442 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะพวกเขาจัดการทุ่มซื้อ เนย์มาร์ ด้วยค่าตัวสถิติโลกในปี 2017 และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ในอีก 12 เดือนต่อมา เป็นผลทำให้มียอดค่าใช้จ่ายทะลุ 748 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,746 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงมียอดขาดดุลที่เยอะเพราะได้ค่าตัวจากการปล่อยนักเตะไปเพียง 349 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,345 ล้านบาท) เท่านั้น
อันดับต่อมาเป็น อินเตอร์ มิลาน ที่ขึ้นมาติดท็อปชาร์จ 5 อันดับแรก ใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะไปที่จำนวน 748 ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,746 ล้านบาท) โดยเฉพาะการดึงตัว โรเมลู ลูกากู มาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยราคา 80 ล้านยูโร ในปี 2019 แต่กลับขายนักเตะได้เพียง 243 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,988 ล้านบาท) เท่านั้น ทำให้สโมสรมียอดติดลบที่จำนวน 338 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,893 ล้านบาท)
ปิดท้ายทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์เข้ามาติดท็อป 1 ใน 7 นั่นก็คือ แอสตัน วิลล่า น้องใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยใช้เงินเสริมทัพไปถึง 356 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,633 ล้านบาท) โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาที่เสริมทัพแข้งหลายราย โอลลี่ วั้ตกินส์ กองหน้ามาจาก เบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 28 ล้านปอนด์
แน่นอนด้วยสถานะภาพที่ไม่ได้เป็นทีมบิ๊กเนมที่มีสตาร์ดังมากมาย ซึ่งทำให้พวกเขาขายนักเตะรวมไปได้เพียงแค่ 59 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,425 ล้านบาท) เท่านั้น
และทำให้สโมสรมียอดขาดดุลที่จำนวน 297 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,208 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตามหาก "สิงห์ผงาด" สามารถขาย แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ที่มีค่าตัวประเมิณสูงสุดในทีมในราคาเกือบ 100 ล้านปอนด์ ออกไปได้นั้นอาจทำให้สโมสรมียอดติดลบน้อยลงได้
cr : www.siamsport.co.th