นี้คือความรักของแม่ที่มีต่อลูกใช่มั้ยคะ.?

ขอมาระบายความในใจหน่อยค่ะ เราอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่ ม.1 แม่ไปเอาเรามาจากพ่อแล้วให้เหตุผลกับเราตอนนั้นว่า'อยากมีอนาคตที่ดีมั้ยถ้าอยากมีชีวิตที่ดีให้มาอยู่กับแม่ อยากได้อะไรแม่ก็จะหาให้' (พ่อกับแม่เราหย่ากันตั้งแต่เราอยู่ ป.5) พอเรามาอยู่กับแม่ที่มีครอบครัวใหม่บอกเลยค่ะว่าชีวิตเหมือนอยู่ในคุก สามีใหม่แม่ขีดเส้นชีวิตให้เราหมดเลยการเรียนต้องได้เกรด 3.0 ขึ้น กลับบ้านต้องตรงเวลา เสาร์-อาทิตย์ ต้องอยู่บ้านห้ามไปไหน เคยไปเล่นบ้านข้างๆละพ่อเลี้ยงกลับมาไม่เจอเรา ก็หาว่าเราเกเรบ้านตัวเองไม่ยอมอยู่ไปบ่นกับแม่แล้วแม่ก็มาด่าเรา แล้วแม่ก็สามีใหม่พ่อก็ไม่ชอบเรากับแม่ เวลาพ่อเลี้ยงกับแม่ไม่อยู่ก็พยายามหาเรื่องเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่องเล็กมาพูดแล้วบอกว่าเรากับแม่ตัวปัญหาไม่อยากให้อยู่บ้านหลังนี้พอเราเอาไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ของพ่อเลี้ยงก็ไม่พอใจบอกว่าเด็กแบบเราคบไม่ได้ แล้วปัญหาก็ตามมาค่ะไม่ว่าทำอะไรก็ผิดไปหมด แม่กับพ่อเลี้ยงทะเลาะกันแม่ก็จะเดินมาหาเราบนห้องแล้วก็มาพูดๆสาดอารมณ์ใส่เราพอระบายสิ่งที่อัดอั้นหมดก็เดินออกจากห้องเป็นแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านหลังนั้น หลังจากนั้นจากเราที่เคยมีอิสระ มีเพื่อน ตอนอยู่กับพ่อเราเป็นคนเข้ากับคนง่ายชอบคุย เรากลายเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครไม่มีเพื่อนข้างบ้านมีแต่เพื่อนที่โรงเรียนไม่ค่อยอยากคุยกับใคร กลับบ้านมาล้างจาน หุงข้าว กวาดบ้านถูบ้านเข้าห้องลงมาข้างล่างแต่ตอนกินข้าวกับอาบน้ำ แค่นั้นแล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยเพราะเวลาออกไปนอกบ้านเราจะโดนดุทันทีแล้วแม่ของพ่อเลี้ยงก็หาเรื่องมาแซะหาว่าเราไปกับผู้ชายเอาเราไปคุยกับป้าข้างบ้านทั้งๆที่เราไม่ได้ไปสุงสิงกับใครเลย ส่วนแม่ไม่เคยปกป้องเราได้แฟนแม่พูดอะไรแม่เชื่อไปหมด พอขึ้น ม.3 เราอยากเรียนสายอาชีพเราไปปรึกษาแม่เพราะรุ่นพี่ที่โรงเรียนเขามาให้คำปรึกษาน้องๆเรื่องการเรียนต่อสายตรงกับสายอาชีพ เราอยากออกจากบ้านหลังนั้นเราเลยคิดว่าเราอยากเรียนสายอาชีพเราจะได้เลือกสายที่เราถนัด อยากเรียนในสิ่งที่เราอยากเรียน พอเราไปคุยกับแม่ แม่ไปปรึกษากับพ่อเลี้ยงเขาไม่ให้เรียนพ่อเลี้ยงให้เรียนสายตรงละต้องเรียนต่อบัญชีให้เราเรียนวิทย์-คณิต เราเข้าเรียน ม.4 ต่อด้วยความไม่เต็มใจแต่ก็ต้องเรียน เรารู้จักเพื่อนใหม่เขาชอบเล่นกีตาร์ แล้วเราก็มีกีตาร์เพื่อนเราเวลาเลิกเรียนเขาจะไปนั่งที่ร้านเฮียซึ่งแกใจดีมากแล้วรับสอนกีตาร์เด็กฟรีสำหรับคนอยากเรียน เราก็เลยขอแม่ไปเรียนกีตาร์หลังเลิกเรียนร้านเฮียอยู่ในตัวเมือง เลิกเรียนก็ 5 โมงเกือบๆ 6 โมง เรามาเรียนกีตาร์ได้2วันพ่อเลี้ยงบอกไม่ต้องเรียนแล้วเอาเวลาไปอ่านหนังสือไปหาทำอะไรที่มันดีกว่านี้ เขาไม่เคยพูดตรงๆแต่จะเอาไปบ่นกับแม่แล้วแม่ก็มาด่าเรา เราก็ต้องถอดใจทั้งๆที่ตอนนั้นอยากเล่นกีตาร์เป็นมากๆ พอเราเรียนใกล้จบอีกแค่ 1 เทอม แม่บอกว่าพ่อเลี้ยงให้เรียนบัญชีถ้าไม่เรียนก็ไม่ให้เรียนต่อมหาลัย    ตอนนั้นรู้ตัวเลยว่าตัวเองไม่ไหวเพราะไม่ใช่สายของเราฝืนไปยังไงก็ไม่รอดเราก็บอกกับแม่คุยเหตุผลต่างๆ สรุปเขาไม่ให้เราเรียนต่อ จำได้ดีตอนเพื่อนๆในห้องสนุกกับการไปสอบไปเรียนในสิ่งที่อยากไป เราเจ็บสุดตอนเพื่อนถามว่าแกจะเข้าคณะอะไร ไปสอบมาหรือยัง?เราทำได้แค่ยิ้ม ไม่ได้พูดตอนกรอกประวัติตอนจบที่จะเรียนต่อช่องนั้นเราไม่ได้เขียนอะไรลงไปเลย วันจบเพื่อนมีความสุขเรากลับไม่รู้สึกอะไรเลย พอเรียนจบเราอยู่กับแม่ได้ครึ่งปี บ้านเลี้ยงก็เรียกแม่เราไปคุยเรื่องเราละบังคับให้เราหางานทำ แม่เลยเอาเราไปลองฝึกงานกับป้าข้างบ้านที่เปิดร้านอาหารแต่ลูกชายเขาเป็นคนชอบเที่ยว ชอบทิ้งร้าน จากที่เราทำแค่หน้าที่เราได้ทำทุกอย่างในร้าน มีวันหนึ่งเราทำงานแล้วเพื่อนที่เรียนจบมหาลัยเขามากินอาหารที่ร้านเราอยากเดินหนีเลยค่ะ เพื่อนถามเราไม่ได้ไปเรียนเหรอ ตอนนั้นเราไม่ได้พูดอะไรมาแต่รู้สึกสงสารตัวเองมาก เราทำงานที่ร้านนั้นมา4เดือนยอมอดทนเก็บเงินเพื่อออกมาอยู่ข้างนอก จนเรามีเงินเก็บเราขอแม่มาอยู่กับพี่สาวเราทำร้านกาแฟ แม่ก็จะโทรมาหาเราตลอดไม่ใช่เรื่องกินอยู่นะคะเรื่องเงิน มีเงินให้แม่ยืมมั้ย แม่หมุนเงินไม่ทัน เขามาท้วงแม่ ทุกเดือนคือส่งเดือนให้แม่อย่างต่ำเลย2,500 ส่วนตัวแม่อยู่กับพ่อเลี้ยงพ่อเลี้ยงให้เงินแม่เดือนละ8,000เพราะซื้อของทำกับข้าว แม่ก็บอกเงินไม่เคยจะบอก เราก็ให้ ทีนี้ตอนนั้นเราไม่มีรถเราก็ยืมติดรถพี่สาวไปทำงานตอนเช้าทุกวัน ตื่น.5 ทุกวัน แล้วรอไปทำงานกับพี่สาว ตอนกลับก็ต้องรอพี่ถ้าวันไหนพี่เลิกเร็วก็ได้กลับพร้อมกัน ถ้าพี่เลิกช้าก็รออีก 2 ชม.เป็นแบบนี้ตลอด ทีนี้แม่เลยยื่นขอเสนอให้เราว่าแม่จะออกรถให้แต่เราต้องเป็นคนส่งนะ เราก็โอเคพอได้รถมาเราก็ทำงานส่งเงินค่ารถจนผ่านไป1ปี  แม่ก็โทรมาเล่าให้ฟังมาร้องไห้ตลอดเรื่องพ่อเลี้ยงว่าเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ มีช่วงนึงเราปวดหัวเลยลาหยุดไปหาหมอพอกลับมาเราเครียดเรื่องเงินค่าใช้จ่าย ตอนนั้นเราดาวน์ตัวเองจนเกือบฆ่าตัวตายพี่สาวเลยพาไปหาหมอ สรุปเราเป็นโรคซึมเศร้าเจ้านายเราเขารู้เขาเลยให้เราพักผ่อนไม่ไล่เราออกแต่ให้เราลาหยุดไป 1เดือน แต่ถึงอย่างนั้นเราบอกแม่ แม่ก็ไม่สนใจจนสุดท้ายแม่กับพ่อเลี้ยงเลิกกันแม่เลยจะไปอยู่กับป้า แม่ก็ชวนเราไปอยู่ด้วยแกบอกแกเหงาเราก็เลยไปอยู่กับแม่ แม่อยากเปิดร้านอาหารน้าเราก็ช่วยหาโต๊ะหาเก้าอี้หาให้ทุกอย่างออกเงินซื้อของพร้อม พอแม่ขายได้สักพักก็เลิกขายแม่บอกขาดทุนให้ป้าขายต่อแม่จะเป็นลูกจ้างค่อยช่วยป้า เราก็เลยไม่ได้อะไร เรามาอยู่กับป้าเราต้องออกค่าเช่าครึ่งนึง ให้เงินแม่ตามปกติ  แต่ป้าจะชอบบอกว่าเราไม่เคยบอกมาช่วยอะไรป้าเลยแต่กินของที่ป้าทำขายเราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ออกมาช่วยถูบ้านกวาดบ้าน แต่วันหยุดจะให้เราออกไปนั่งเฝ้าร้านก็ไม่ไหวเราทำงานทุกวัน วันหยุดเราก็อยากพัก เราทำงาน ตื่นตี5ทุกวัน เลิกงาน6โมงเย็น ถ้ามีโอทีก็ 2 ทุ่มบางทีกลับมาเราก็หลับ พอเราไม่ค่อยออกมาช่วงวันหยุดป้าก็จะบ่นเราว่าไม่ช่วยไม่อะไรเลยสักอย่าง ตอนนั้นเราไม่ได้เอาของที่ป้าทำขายมาทำกินแต่ซื้อสำเร็จรูปมากินเองเพราะเราไม่สบายใจเวลาแกพูด ทีนี้แม่เราก็ไปติดผู้ชาย ที่ร้านป้าจะมาแค่ช่วง9โมงเช้า-5โมงเย็นก็กลับแล้วเรากับแม่จะนอนที่ร้าน ทุกครั้งที่ป้ากลับไปแม่ก็จะทำกับข้าวเตรียมไปหาแฟนข้างนอกไปแบบตลอดจนป้าจับได้ วันนั้นแม่โดนป้าบ่นไม่ใช่เรื่องทำของไปให้แต่เป็นเรื่องที่ป้าไม่อยากให้แม่ไปสุงสิงกับคนที่อยู่ใกล้ๆพ่อเลี้ยง ป้าไม่อยากให้แม่กลับไปให้เขานินทาแม่ก็ร้องไห้ตัดพ้อว่าชีวิตแม่ไม่ได้ดีเหมือนป้าดีพร้อมเหมือนป้าแล้วมาโทษเราว่าเราไม่ออกมาคุยกับแม่แม่เลยเหงาเลยหาคนในเฟสคุยแล้วไปหาเขา คือตัวเรากลับบ้านมาแม่ก็ไม่อยู่แล้วแม่มีโรคประจำตัวแค่ 1 ทุ่มแม่เราก็นอนแล้วถ้าไม่ได้ไปหาแฟนเราเลยคิดว่าเป็นความผิดเราเหรอเราไม่พูดอะไรแค่เดินไปกอดแม่แค่นั้น พอสองอาทิตย์ต่อมาแม่ก็อยากย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเราก็ตามใจแม่ถ้าแม่อยู่แล้วไม่มีความสุข พอแม่ย้ายออกจากป้าก็ไปผิดใจกับป้าจนป้าเรียกเราไปคุยเรื่องแม่เกือบ 2 ชม. เราก็เหนื่อยนะที่ต้องมาเจอปัญหาที่แม่สร้างเอง   พอเราย้ายออกมาอยู่กับแม่ แม่ก็ไม่อยู่อยู่ห้องเลยไปอยู่กับแฟนเกือบตลอดอาทิตย์ เราก็ไม่ได้พูดไม่ได้อะไรปล่อยให้แกทำสิ่งที่อยากทำไป มีช่วงนึงเราเปลี่ยนงานแล้วได้เงินเดือนแรกเราอยากพาแม่ไปเที่ยวแต่แม่จะไปกับแฟนเราเลยให้แม่ไปครึ่งนึงของเงินเดือน เดือนนั้นพอแม่กลับจากเที่ยวกับแฟนแม่บอกไม่มีเงินแล้วนะ เรามองแม่แต่ไม่ได้พูดอะไร ทุกๆเดือนเราจะให้เงินแม่ตลอด ค่าห้องค่าใช้จ่ายเราออกค่ากินเราออก แต่แม่ก็บอกไม่เคยพอทั้งๆที่แม่ไม่ได้ใช้จ่ายค่าอะไรเลยเราให้แม่3,000ต่อเดือน แล้วแม่ก็อยากลองไปหางาน พอได้งานทำงานก็บอกเงินไม่พอใช้ทั้งๆที่เราก็ออกค่าใช้จ่ายปกติ พอติดเรื่องโควิดเราก็ได้หยุดงานสุดท้ายก็ต้องออก เราก็กลายเป็นคนว่างานแม่เราก็เร่งให้เราไปหางานซึ่งตอนนั้นไม่มีคนรับแน่นอนเพราะโควิดมันระบาดหนักมาก แม่ก็บ่นเราแบบนั้นแบบนี้ตลอดที่เราไม่มีงานทำเราเอาเงินเก็บตัวเองมาใช้ส่งงวดรถ จ่ายค่าห้อง พอเราไปลงทะเบียนได้เงินมาเดือนแรกแม่ก็ขอยืมไปใช้หนี้ที่ยืมมา 3 เดือนเงินประกันสังคมเราไม่ได้จับเลยเดียวก็มีค่านู่นค่านี้ของแม่ตลอด พอโควิดหายเราก็ไปสมัครงานร้านขายของแล้วงานมันหนักมาก ทำงาน12.ช.ม ได้ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่มีประกันสังคมเราทนทำได้3เดือนเราก็ออก ไปขายของกับพี่สาวแม่ก็ด่าเราใหญ่เลยๆว่าไม่มีความอดทนกับงานโตไม่ก็ไม่มีอะไร- คนแบบไปไหนไม่รอดหรอก เรามาขายของกับพี่พอดีกับส่งงวดรถหมดเราก็เลยไม่มีอะไรน่าห่วงแต่แม่จะโทรมาเรื่องเงินตลอดพอเราไม่มีให้ก็ด่า เงินเก็บที่เราฝากไว้กับแม่เกือบหมื่นมีบัตรเราก็ไปกดเงินออกมาใช้ไปเที่ยวกับแฟนแกมารู้อีกทีตอนจะใช้ว่าไม่มีแล้วเราโมโหแต่เป็นคนโกรธแล้วจะเงียบนี้เป็นสาเหตุที่เราออกมาอยู่ข้างนอกกับพี่ ส่วนค่าใช้จ่ายที่ห้องแม่ออกเองส่วนเราไม่ได้มีเงินให้แม่ใช้เหมือนแต่ก่อนแล้ว พอเราอยู่กับพี่สาวไปสักพักพี่สาวเราก็เดือดร้อนเรื่องเงินเพราเแฟนที่เลิกกันไปไม่ได้ส่งเงินมาตามที่ตกลงกันไว้บวกกับที่พี่สาวพาหลานตัวเล็กไปนอน โรงพยาบาลเกือบ5วัน พี่เราขาดรายได้แล้วก็มีค่าใช้จ่ายเงินมันไม่พอใช้ เราเลยโทรไปหาแม่จะเอารถเข้าไฟแนนซ์ แม่บอกกูไม่เอาเข้าให้เราก็บอกเหตุผลไป แม่ก็ด่าเราว่าสมน้ำหน้าหางานทำไม่เอาชอบไปลำบากกันถ้าไม่ทำงานก็กูก็ไม่เอาเข้าให้ เราก็บอกเดียวจะหางานหลังกลับไปหาพ่อที่ต่างจังหวัดสิ้นเดือนแม่เราก็ไม่เชื่อยังไงก็ไม่ช่วยบอกกับเราว่ากลัวเราไม่จ่ายค่าไฟแนนซ์มันจะเสียเครดิตแก เราเลยไปให้น้าเราช่วยคุยยังไงแม่ก็ไม่ช่วยแกบอกถ้าอยากได้จะโอนเป็นชื่อเรา เราก็โมโหมากนะตอนนั้นคือลูกต้องใช้เงินลูกเดือนร้อนทำไมไม่ช่วยบ้าง แม่บอกเราว่าแม่ไม่คบไม่เอาเราแล้วจะทำไรก็ทำเราก็บอกว่าเนี้ยเอารถเข้าไฟแนนซ์ขอแค่ให้ช่วยแค่นี้ เดียวทางนี้จ่ายเองยังไงก็จ่ายไหวแล้วหลังจากนี้จะไม่ขอให้ช่วยอะไรเลยจะไม่ยุ่งแม่ก็บอกไม่ๆจะโอนให้      คือถ้าโอนเราต้องลงถึง 6 เดือนถึงจะเอาเข้าไฟแนนซ์แต่คือเงินมันจำเป็นต้องใช้  สุดท้ายเราก็คุยกับพี่ พี่เราก็ปลงแล้วบอกว่าไม่ต้องเอาแล้ว น้าเราเห็นใจก็พยายามช่วย อยากถามว่านี้คือการแสดงความรักของแม่ที่มีให้ลูกนี้เข้าใจถูกใช่มั้ยค่ะ อันนี้เราเล่าแบบรวบรัดไม่รวมเรื่องที่เกิดขึ้นที่เราต้องเข้าไปบำบัดสุขภาพจิต ตอนนี้โดนตัดแม่ตัดลูกไปแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่