คือเราไม่ได้อยากมาว่านิทาอะไรใครนะแต่ขอพื้นที่ในการระบายความรู้สึกส่วนตัวหน่อยนะ ไม่รู้หรอกว่าใครจะเจอในรูปแบบไหนอย่างไร แต่ที่เราเจอคือคือเราไม่โอเคมากๆ
เริ่มเรื่องมีอยู่ว่าตอนนั่นเราอยู่ชั้นมัธยมต้นและวันนั่นเป็นวันเกิดของเรา และทุกๆปีที่พ่อเราว่างงานจะแวะมาหาเสมอ(เราไม่ได้อยู่กับพ่อนะ) ส่วนมากจะมาคนเดียวนะแต่ครั้งนี้มากับผญ.คนหนึ่งพ่อเราจึงบอกให้เราไหว้หวัดดีแม่สิ(แม่เลี้ยงนะ) ประมาณนี้เราก็ทำตาม ก็ยังไม่มีไรหรอกก็จะเจอนางนานๆครั้งส่วนมากก็วันเกิดเรามาพร้อมพ่อของเรา พอจะจบม.3ก็ต้องหาที่เรียนใช่มั้ยหรือใครต่อโรงเรียนเดิมก็ว่าไป แต่เราดันไม่มีสายที่ชอบเลยไม่รู้จะต่ออะไรเลยที่นี้ทางบ้านเราก็แนะนำให้ไปเรียนต่างจังหวัดอยู่กับพ่อมั้ย เราก็คิดว่าก็ดีนะโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตได้อยู่ร่วมกับพ่อ ก็เลยไม่ลังเลตกลงแต่กว่าจะถึงวันย้ายก็มีเรื่อง ทะเลาะกับย่านิดหน่อยก็เข้าใจว่านางเป็นห่วงก็เลี้ยงเรามาแต่เล็กเป็น10กว่าปี ก็ผูกพันเนอะถึงตอนอยู่ด้วยกันจะแทบไม่ได้คุยกันเลยก็ตามไอเราก็ดื้อกับแกไว้เยอะแต่คนเป็นลูกก็อยากได้อยู่กับพ่อแม่ตัวเองใช่มั้ยล้า เราเลยทะเลาะกันแต่สุดท้ายก็ไป พอถึงวันนั่นเราจัดข้าวของเรียบร้อยเอาขึ้นรถ ก็เดินทางไปที่บ้านพ่อ พอถึงก็พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนอำลากัน หลังจากวันนั่นเราก็อยู่ตามปกติพ่อแม่ลูก ก็หาที่เรียนสมัครเรียนได้เรียนสายอาชีพก็น่าจะรอดมั้งนะ😂 เวลาผ่านไปไม่นานอยู่ที่เกือบปีได้ละ ก็มีความสุขดีนะแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องทะเลาะผิดใจกันกับคนที่บ้านใหม่นี้นะ(ขอเรียกแบบนี้ละกันไม่ขอเรียกนางว่าแม่หรือมารวมเป็นคำว่าพ่อแม่งี้นะ) เอาตรงๆนะแม่เลี้ยงคนนี้ก็ใช่ว่าไม่ดีก็ดีนะทำกับข้าวอร่อยงานบ้านก็ทำแต่ทุกคนเข้าใจเรามั้ยคือมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่(ก็เหมือนที่ว่ากันว่า คนที่ใช่ไม่ต้องทำไรก็ใช่หรือถูกเสมอ แต่คนที่ไม่ใช่ทำยังไงก็ไม่ว่ะ)(ถึงเราจะชอบเงินมากขนาดไหนเอามาให้ก็ได้แค่รับแต่ไม่ได้ใจกลับไปหรอกเงินซื้อใจไม่ได้เนอะ)ก็มีหลายอย่างนะที่เราไม่ชอบในความเป็นนาง 1. นางชอบวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากเกินไป 2. ชอบคิดเองเออเอง(เข้าใจมันปกติแหละ) 3. เหมือนนางไม่รู้จักพื้นที่ส่วนบุคคล
ใครๆก็อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเรื่องส่วนตัวจริงมั้ย? ไม่มีใครไม่มีหรอก ต่อให้คนนั้นจะเป็นคนเปิดโลกกว้างแค่ไหนก็ต้องมีแหละ และเราเป็นคนชอบเก็บตัวชอบพื้นที่ส่วนตัวไม่ชอบให้มายุ่งมาถามสิ่งที่ไม่อยากบอก(ง่ายๆคืออย่า

) แต่นางคือแบบยุ่งทุกเรื่องของๆเราก็มายุ่งพอของชิ้นไหนหายหรือขาดหายไปงี้ก็มาถามว่าไปไหนคือเห้ยนั่นของเราป่ะ?คือเราจะทำไรกับมันก็ได้มั้ยอ่ะทำไมต้องยุ่ง?!
และเรื่องของพ่อลูกหรือแม่ลูกไรงี้นั่นแหละ ชีวิตครอบครัวทำไมต้องยุ่งตลอดจะคุยกันเรื่องไรไม่ได้เลยต้องรู้ทุกเรื่องจนเราแทบหมดความอดทน ปัญหาก็มีอยู่นะเราเป็นคนเก็บใช่มั้ยชอบเงียบอยู่คนเดียวโลกส่วนตัวสูง เลยไม่ค่อยชอบพูดมีอะไรเรื่องไรก็เงียบไม่บอกใครให้รู้เอง อืมนั่นแหละ แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจะเก็บเงียบๆจริงเว้ย เลยปรึกษาลุง(นางเป็นทุกอย่างให้เราจริงๆเรากล้าระบายทุกอย่างให้นางฟังคนเดียว)ก็ร้องไห้กับนางแต่ตอนนั่นที่คุยกับลุงยังไม่ได้เล่าเรื่องนางเพราะตอนนั่นทะเลาะกับพ่อเลยลืมเรื่องนั่นไป ก็หาเวลาโอกาสเล่าให้นางฟังอยู่แต่อยู่บ้านคงเล่าไม่ได้แหละเดะมีคนได้ยิน
เรารู้นะว่ามันนานมากกว่าจะรู้สึกตัวว่าที่ไหนคือที่ๆใช่สำหรับเราจริงๆ ถ้าไม่ติดโควิดปิดเมืองก็คงขอย้ายกลับ ไม่ได้สนเรื่องเรียนหรอกหาใหม่ได้ซ้ำชั้นก็ยอมแหละดีกว่าต้องทนอยู่แล้วไม่มีความสุขจริงป่ะ เรายอมและรอให้เปิดเมืองจะได้ขอฝั่งนั่นกลับ ก็หวังให้ถึงวันนั่นเร็วนะ เพราะเราไม่มีความสุขแบบจากใจจริงๆสักทีแอบร้องไห้เสียใจคนเดียวหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีใครรู้หรอก😂 #ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาชีวิตของเรานะ
ทำไมต้องทนกับสิ่งที่เราให้เราไม่มีความสุขด้วย?
เริ่มเรื่องมีอยู่ว่าตอนนั่นเราอยู่ชั้นมัธยมต้นและวันนั่นเป็นวันเกิดของเรา และทุกๆปีที่พ่อเราว่างงานจะแวะมาหาเสมอ(เราไม่ได้อยู่กับพ่อนะ) ส่วนมากจะมาคนเดียวนะแต่ครั้งนี้มากับผญ.คนหนึ่งพ่อเราจึงบอกให้เราไหว้หวัดดีแม่สิ(แม่เลี้ยงนะ) ประมาณนี้เราก็ทำตาม ก็ยังไม่มีไรหรอกก็จะเจอนางนานๆครั้งส่วนมากก็วันเกิดเรามาพร้อมพ่อของเรา พอจะจบม.3ก็ต้องหาที่เรียนใช่มั้ยหรือใครต่อโรงเรียนเดิมก็ว่าไป แต่เราดันไม่มีสายที่ชอบเลยไม่รู้จะต่ออะไรเลยที่นี้ทางบ้านเราก็แนะนำให้ไปเรียนต่างจังหวัดอยู่กับพ่อมั้ย เราก็คิดว่าก็ดีนะโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตได้อยู่ร่วมกับพ่อ ก็เลยไม่ลังเลตกลงแต่กว่าจะถึงวันย้ายก็มีเรื่อง ทะเลาะกับย่านิดหน่อยก็เข้าใจว่านางเป็นห่วงก็เลี้ยงเรามาแต่เล็กเป็น10กว่าปี ก็ผูกพันเนอะถึงตอนอยู่ด้วยกันจะแทบไม่ได้คุยกันเลยก็ตามไอเราก็ดื้อกับแกไว้เยอะแต่คนเป็นลูกก็อยากได้อยู่กับพ่อแม่ตัวเองใช่มั้ยล้า เราเลยทะเลาะกันแต่สุดท้ายก็ไป พอถึงวันนั่นเราจัดข้าวของเรียบร้อยเอาขึ้นรถ ก็เดินทางไปที่บ้านพ่อ พอถึงก็พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนอำลากัน หลังจากวันนั่นเราก็อยู่ตามปกติพ่อแม่ลูก ก็หาที่เรียนสมัครเรียนได้เรียนสายอาชีพก็น่าจะรอดมั้งนะ😂 เวลาผ่านไปไม่นานอยู่ที่เกือบปีได้ละ ก็มีความสุขดีนะแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องทะเลาะผิดใจกันกับคนที่บ้านใหม่นี้นะ(ขอเรียกแบบนี้ละกันไม่ขอเรียกนางว่าแม่หรือมารวมเป็นคำว่าพ่อแม่งี้นะ) เอาตรงๆนะแม่เลี้ยงคนนี้ก็ใช่ว่าไม่ดีก็ดีนะทำกับข้าวอร่อยงานบ้านก็ทำแต่ทุกคนเข้าใจเรามั้ยคือมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่(ก็เหมือนที่ว่ากันว่า คนที่ใช่ไม่ต้องทำไรก็ใช่หรือถูกเสมอ แต่คนที่ไม่ใช่ทำยังไงก็ไม่ว่ะ)(ถึงเราจะชอบเงินมากขนาดไหนเอามาให้ก็ได้แค่รับแต่ไม่ได้ใจกลับไปหรอกเงินซื้อใจไม่ได้เนอะ)ก็มีหลายอย่างนะที่เราไม่ชอบในความเป็นนาง 1. นางชอบวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากเกินไป 2. ชอบคิดเองเออเอง(เข้าใจมันปกติแหละ) 3. เหมือนนางไม่รู้จักพื้นที่ส่วนบุคคล
ใครๆก็อยากมีพื้นที่ส่วนตัวเรื่องส่วนตัวจริงมั้ย? ไม่มีใครไม่มีหรอก ต่อให้คนนั้นจะเป็นคนเปิดโลกกว้างแค่ไหนก็ต้องมีแหละ และเราเป็นคนชอบเก็บตัวชอบพื้นที่ส่วนตัวไม่ชอบให้มายุ่งมาถามสิ่งที่ไม่อยากบอก(ง่ายๆคืออย่า
และเรื่องของพ่อลูกหรือแม่ลูกไรงี้นั่นแหละ ชีวิตครอบครัวทำไมต้องยุ่งตลอดจะคุยกันเรื่องไรไม่ได้เลยต้องรู้ทุกเรื่องจนเราแทบหมดความอดทน ปัญหาก็มีอยู่นะเราเป็นคนเก็บใช่มั้ยชอบเงียบอยู่คนเดียวโลกส่วนตัวสูง เลยไม่ค่อยชอบพูดมีอะไรเรื่องไรก็เงียบไม่บอกใครให้รู้เอง อืมนั่นแหละ แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจะเก็บเงียบๆจริงเว้ย เลยปรึกษาลุง(นางเป็นทุกอย่างให้เราจริงๆเรากล้าระบายทุกอย่างให้นางฟังคนเดียว)ก็ร้องไห้กับนางแต่ตอนนั่นที่คุยกับลุงยังไม่ได้เล่าเรื่องนางเพราะตอนนั่นทะเลาะกับพ่อเลยลืมเรื่องนั่นไป ก็หาเวลาโอกาสเล่าให้นางฟังอยู่แต่อยู่บ้านคงเล่าไม่ได้แหละเดะมีคนได้ยิน
เรารู้นะว่ามันนานมากกว่าจะรู้สึกตัวว่าที่ไหนคือที่ๆใช่สำหรับเราจริงๆ ถ้าไม่ติดโควิดปิดเมืองก็คงขอย้ายกลับ ไม่ได้สนเรื่องเรียนหรอกหาใหม่ได้ซ้ำชั้นก็ยอมแหละดีกว่าต้องทนอยู่แล้วไม่มีความสุขจริงป่ะ เรายอมและรอให้เปิดเมืองจะได้ขอฝั่งนั่นกลับ ก็หวังให้ถึงวันนั่นเร็วนะ เพราะเราไม่มีความสุขแบบจากใจจริงๆสักทีแอบร้องไห้เสียใจคนเดียวหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีใครรู้หรอก😂 #ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาชีวิตของเรานะ