พอดีเห็นว่า ผมน่าจะเอารีวิวซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ที่เพิ่งฉายจบ ที่ลงไว้ในกระทู้รวม
https://pantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 66 Run On 16 EP EP ละประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที Netflix
เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่อยู่นอกสายตามาก่อน แต่พอโผล่มาใน Netflix ประกอบกับ ชินเซคยอง นางเอกสุดสวยที่มักจะโดนคนบ่นเรื่องการแสดง ก็เลยเกิดความสงสัยอยากรู้ว่า จะเป็นอย่างไร ก็เลยเริ่มดูตั้งแต่เข้าฉายช่วงแรก
ผลคือ ติดเช่นเคย ไม่ได้ติดหนึบมากขนาดตัว Top อย่าง Mr. Queen แต่ก็ตามดูมาเรื่อยๆทุกสัปดาห์ และพบว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่มีของพอสมควร ค่อนข้างแปลกจากเรื่องอื่นๆ พูดง่ายๆคือ ติส ไม่ธรรมดา
เรื่องราวว่าด้วยอาชีพที่เราไม่คุ้นเคยแน่ๆ พระเอกเป็นนักวิ่งแข่งขันระยะสั้น นางเอกเป็นนักแปลซับไตเติ้ลหนังและล่าม และครอบครัวพระเอกก็ไม่ธรรมดา พี่สาวเป็นนักกอล์ฟมือ 1 แม่เป็นนักแสดงหนังดังระดับประเทศ พ่อเป็น สส. ที่กำลังจะมีสิทธิ์เป็นประธานาธิบดี จึงกลายเป็นเรื่องแนวแชโบลและชนชั้น
พอดูไป เริ่มชอบความแปลกของบทสนทนา ทั้งนางเอกพระเอก ออกแนวแปลกๆครับ ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของทั้ง 2 คนที่ไม่ค่อยจะปกติ (จริงๆนางรองก็แปลก) ทำให้บทสนทนาในเรื่องนี้เวลาคุยกัน มันจะบันเทิงมากๆ ดูมาก็หลายเรื่อง ไม่ค่อยเจอบทสนทนาอะไรแบบนี้
ต่อมา เรื่องราวควรจะเป็นแนวแข่งขันของนักวิ่งตามชื่อเรื่องและอาชีพของพระเอก แต่ดูเหมือนเรื่องราวไม่ได้ไปโฟกัสประเด็นนั้นซะเฉยๆ กลายร่างเป็นเรื่องแนวรักๆ หวานๆ ดราม่าพอประมาณ ผิดคาดอีกแล้ว
พอยิ่งดูไป ดูรายละเอียด เรื่องนี้เหมือนเน้นเรื่องของภาพยนตร์พอสมควร ใช่ครับ เพราะนางเอกเป็นนักแปลซับไตเติ้ล จึงมีการพูดถึงหนังเรื่องนั้น เรื่องนี้ พูดถึงคำพูดต่างๆในหนัง และเลยไปจนถึงมีฉากหนังซ้อนในซีรีส์ก็หลายช่วง
และที่เจ๋งที่สุด ถ้าคุณชอบดูซีรีส์ที่มีคู่รองเด่นๆ บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ผิดหวัง คู่รองเรื่องนี้เด่นมากครับ (ซูยอง SNSD เล่นกับคังแทโอ) ช่วงท้ายๆผมรู้สึกอย่างกับดูคู่หลัก มีเนื้อเรื่องของตัวเอง มีกระทั่งเพลงประกอบของตัวเอง มีหลายเพลงด้วย มีโปสเตอร์แยกเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ หวนให้นึกถึงคู่รองใน Beauty Inside อันโด่งดังเลยทีเดียว
พระเอก - อิมชีวาน ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาเท่าไหร่ แต่ดูจากผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ธรรมดา แต่ผมชอบที่เขาดูเป็นนักวิ่งมากครับ ฉากวิ่งดูทรงพลังเหมือนนักวิ่งระยะสั้นจริงๆ แถมยังแสดงได้แปลกอย่างที่ควรจะเป็นตามคาแรกเตอร์ของตัวละครด้วย
นางเอก - ชินเซคยอง นางเอกชื่อดัง ความสวยเหลือเฟือ ดูเพลินตา แต่หลายเรื่องก่อนหน้านี้โดนโจมตีว่าเล่นหน้าเดียวบ้าง เล่นเก่งแต่ Love Scene บ้าง ทั้งที่ใน A Girl Who Sees Smells ผมว่าเธอแสดงดีอยู่นะ แต่เรื่องนี้ ผมว่าบทเข้าทาง ด้วยบทสนทนาที่ค่อนข้างแปลกแต่เข้าปาก ก็เลยดูเป็นนางเอกที่มีลักษณะเฉพาะ ลงตัวพอดี ผมชอบครับ และการเล่นเป็นล่าม ถ้าภาษาอังกฤษไม่เจ๋งจริงคงเล่นไม่ได้ แต่ชินเซคยองเป็นนักแสดงเกาหลีที่พูดภาษาอังกฤษได้สำเนียงดีมาก ฟังเพลินเลยล่ะ จึงเหมาะแล้วกับบทนี้
Love Line - กำลังดี ดราม่าพอประมาณ แม้กระทั่งของคู่รอง (ที่บทเยอะเป็นพิเศษ) ก็น่ารักดีเช่นกัน ลงตัวครับเรื่องนี้
เพลงประกอบ - เพราะใช้ได้ แต่ชอบที่มีเพลงเฉพาะของคู่รองด้วย เจ๋งเลย
โดยรวม เป็นซีรีส์ที่ดูได้เพลินๆ ถ้าใครชอบแนวเป็นคู่ๆ ไม่ชิงรักหักสวาท เรื่องนี้รอมคอมที่ ok เลย และถ้าชอบอะไรที่มันติสๆหน่อย เรื่องนี้ก็ใช่เช่นกัน ยิ่งตอนจบ ผมชอบมาก เป็นตอนจบที่เท่พอสมควรเลยครับ ใครชอบก็ลองดูนะครับ
[CR] [Mr. Coffee รีวิว] Run On ความติสที่ลงตัวของบทสนทนา
https://pantip.com/topic/39758422
มาลงแยกไว้ต่างหากบ้าง เผื่อใครกำลังหาดูจะได้เป็นแนวทางพิจารณาครับ
รีวิวซีรีส์
เรื่องที่ 66 Run On 16 EP EP ละประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที Netflix
เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่อยู่นอกสายตามาก่อน แต่พอโผล่มาใน Netflix ประกอบกับ ชินเซคยอง นางเอกสุดสวยที่มักจะโดนคนบ่นเรื่องการแสดง ก็เลยเกิดความสงสัยอยากรู้ว่า จะเป็นอย่างไร ก็เลยเริ่มดูตั้งแต่เข้าฉายช่วงแรก
ผลคือ ติดเช่นเคย ไม่ได้ติดหนึบมากขนาดตัว Top อย่าง Mr. Queen แต่ก็ตามดูมาเรื่อยๆทุกสัปดาห์ และพบว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่มีของพอสมควร ค่อนข้างแปลกจากเรื่องอื่นๆ พูดง่ายๆคือ ติส ไม่ธรรมดา
เรื่องราวว่าด้วยอาชีพที่เราไม่คุ้นเคยแน่ๆ พระเอกเป็นนักวิ่งแข่งขันระยะสั้น นางเอกเป็นนักแปลซับไตเติ้ลหนังและล่าม และครอบครัวพระเอกก็ไม่ธรรมดา พี่สาวเป็นนักกอล์ฟมือ 1 แม่เป็นนักแสดงหนังดังระดับประเทศ พ่อเป็น สส. ที่กำลังจะมีสิทธิ์เป็นประธานาธิบดี จึงกลายเป็นเรื่องแนวแชโบลและชนชั้น
พอดูไป เริ่มชอบความแปลกของบทสนทนา ทั้งนางเอกพระเอก ออกแนวแปลกๆครับ ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของทั้ง 2 คนที่ไม่ค่อยจะปกติ (จริงๆนางรองก็แปลก) ทำให้บทสนทนาในเรื่องนี้เวลาคุยกัน มันจะบันเทิงมากๆ ดูมาก็หลายเรื่อง ไม่ค่อยเจอบทสนทนาอะไรแบบนี้
ต่อมา เรื่องราวควรจะเป็นแนวแข่งขันของนักวิ่งตามชื่อเรื่องและอาชีพของพระเอก แต่ดูเหมือนเรื่องราวไม่ได้ไปโฟกัสประเด็นนั้นซะเฉยๆ กลายร่างเป็นเรื่องแนวรักๆ หวานๆ ดราม่าพอประมาณ ผิดคาดอีกแล้ว
พอยิ่งดูไป ดูรายละเอียด เรื่องนี้เหมือนเน้นเรื่องของภาพยนตร์พอสมควร ใช่ครับ เพราะนางเอกเป็นนักแปลซับไตเติ้ล จึงมีการพูดถึงหนังเรื่องนั้น เรื่องนี้ พูดถึงคำพูดต่างๆในหนัง และเลยไปจนถึงมีฉากหนังซ้อนในซีรีส์ก็หลายช่วง
และที่เจ๋งที่สุด ถ้าคุณชอบดูซีรีส์ที่มีคู่รองเด่นๆ บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ผิดหวัง คู่รองเรื่องนี้เด่นมากครับ (ซูยอง SNSD เล่นกับคังแทโอ) ช่วงท้ายๆผมรู้สึกอย่างกับดูคู่หลัก มีเนื้อเรื่องของตัวเอง มีกระทั่งเพลงประกอบของตัวเอง มีหลายเพลงด้วย มีโปสเตอร์แยกเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ หวนให้นึกถึงคู่รองใน Beauty Inside อันโด่งดังเลยทีเดียว
พระเอก - อิมชีวาน ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาเท่าไหร่ แต่ดูจากผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ธรรมดา แต่ผมชอบที่เขาดูเป็นนักวิ่งมากครับ ฉากวิ่งดูทรงพลังเหมือนนักวิ่งระยะสั้นจริงๆ แถมยังแสดงได้แปลกอย่างที่ควรจะเป็นตามคาแรกเตอร์ของตัวละครด้วย
นางเอก - ชินเซคยอง นางเอกชื่อดัง ความสวยเหลือเฟือ ดูเพลินตา แต่หลายเรื่องก่อนหน้านี้โดนโจมตีว่าเล่นหน้าเดียวบ้าง เล่นเก่งแต่ Love Scene บ้าง ทั้งที่ใน A Girl Who Sees Smells ผมว่าเธอแสดงดีอยู่นะ แต่เรื่องนี้ ผมว่าบทเข้าทาง ด้วยบทสนทนาที่ค่อนข้างแปลกแต่เข้าปาก ก็เลยดูเป็นนางเอกที่มีลักษณะเฉพาะ ลงตัวพอดี ผมชอบครับ และการเล่นเป็นล่าม ถ้าภาษาอังกฤษไม่เจ๋งจริงคงเล่นไม่ได้ แต่ชินเซคยองเป็นนักแสดงเกาหลีที่พูดภาษาอังกฤษได้สำเนียงดีมาก ฟังเพลินเลยล่ะ จึงเหมาะแล้วกับบทนี้
Love Line - กำลังดี ดราม่าพอประมาณ แม้กระทั่งของคู่รอง (ที่บทเยอะเป็นพิเศษ) ก็น่ารักดีเช่นกัน ลงตัวครับเรื่องนี้
เพลงประกอบ - เพราะใช้ได้ แต่ชอบที่มีเพลงเฉพาะของคู่รองด้วย เจ๋งเลย
โดยรวม เป็นซีรีส์ที่ดูได้เพลินๆ ถ้าใครชอบแนวเป็นคู่ๆ ไม่ชิงรักหักสวาท เรื่องนี้รอมคอมที่ ok เลย และถ้าชอบอะไรที่มันติสๆหน่อย เรื่องนี้ก็ใช่เช่นกัน ยิ่งตอนจบ ผมชอบมาก เป็นตอนจบที่เท่พอสมควรเลยครับ ใครชอบก็ลองดูนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้