ทำไมฝ้าไม่หายซักที? สาเหตุการเกิดฝ้า 🌝🌝

📌ทำไมฝ้าไม่หายซักที📌
ยาแรงสำหรับคนรักษาฝ้า



วันนี้รักจะขอให้ยาหนักๆแบบไม่อ้อมค้อมกับคนรักษาฝ้าทุกคน
เพราะถ้าไม่เข้าใจก็จะท้อถอยกับการรักษาเรื่อยไป
.
💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛
.
ข้อ 1
#เข้าใจสาเหตุของการเป็นฝ้าให้ได้ก่อน

ฝ้า กระเนี่ย
สาเหตุหลักๆมาจากการสัมผัสแดด ความร้อน อย่างต่อเนื่อง
มีแค่บางส่วนเท่านั้นแหละที่มาจากกรรมพันธุ์
จากพื้นฐานผิวเป็นแบบชาวยุโรป

เพราะฉะนั้นเช็กตัวเองให้เจอว่าสาเหตุมากจากอะไร
เพื่อที่จะหาทางเลี่ยงสาเหตุนั้นให้ได้มากที่สุด

เพราะมันจะหายยากมากหากเราไม่รู้สาเหตุของฝ้าบนหน้าเรา
.
💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛
.
ข้อ 2
#เมื่อรู้สาเหตุก็ต้องเลี่ยงเหตุเเห่งการเกิดฝ้าให้มากที่สุด

เพราะถ่ารู้แล้วว่าเกิดจากอะไร
แต่ก็ยังมีข้ออ้างเสมอๆว่า
ก็มันเลี่ยงไม่ได้
ต้องเจอแดดทั้งวัน
ต้องอยู่หน้าเตาทั้งวัน

รักบอกสั้นๆเลยว่า
ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็หายยาก

เพราะต่อให้ครีมแพงแค่ไหน
ออกฤทธิ์ดีแค่ไหน
หรือไปเลเซอร์คอร์สเป็นแสนก็แก้ไม่ได้
ถ้าไม่คิดจะเลี่ยงเหตุแห่งฝ้า

เพราะการเกิดฝ้า
เป็นระบบการป้องกันตัวเองของผิวจากความร้อนและแสงแดด
ไม่ให้ไหม้ เกรียม หรือเป็นมะเร็งผิวหนังไปซะก่อน

จึงไม่ต้องแปลกใจ
ถ้าจะให้ผิวเราเลือกระหว่างปล่อยให้ผิวขาว
กับป้องกันร่างกายเป็นอันตราย

ผิวเราจะเลือกอย่างหลังก่อนแน่นอน
ตราบใดที่ผิวยังเจอกับความเสี่ยงทุกวี่วัน
นางจะไม่มีวันหยุดสร้างเม็ดสีที่ทำให้เกิดฝ้าเด็ดขาด
.
💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛
.

ข้อ3 ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญ
#เมื่อทำร้ายตัวเองมานานก็ต้องรู้ว่า #ระยะเวลาที่ใช้รักษาก็ย่อมนานขึ้นเป็นสัดส่วนกันไป

แต่อันนี้บอกให้ในได้เลยว่า
มันจะไม่ใช่หลักปีแน่นอน
ข้อนี้รักรับประกันได้
เพราะถ้ามีการรักษาและดูแลผิวอย่างดี
ต่อให้เป็นมานานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก็ยังทำให้รอยจางลงได้ในเวลา 3 เดือน

แต่ก็ต้องก็ระวัง
พวกที่เคลมว่าเห็นผลใน 3 วัน 7 วัน
พวกนี้อันตรายมาก
ยิ่งแรง ยิ่งหายไว
ผิวก็จะยิ่งไวแดด
แล้วกลับมาเป็นซ้ำง่ายกว่าเดิม
เผลอๆหนักกว่าเดิม

อันนี้ขอแชร์จากประสบการณ์ตรงจริงๆที่เคยทำสูตรฝ้ามา
Active เจ๋งๆทั้งหลาย
จะเห็นผลชัดมากแบบไม่ใช้ทริค
ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์จริงๆ
ดังนั้นหายอ่ะหายแน่ไม่ใช่หลักปีอย่างที่คิดแน่นอน
.
💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛
.

ข้อ4
#เลือกสกินแคร์ที่มีเป็นไวท์เทนนิ่ง #แต่ก็ต้องใช้สูตรที่ให้ความชุ่มชื้นและผิวแข็งแรงด้วย

เมื่อรู้ว่าเป็นฝ้า
ก็ไม่ใช่พยายามสรรหาแต่ครีมทาฝ้าแรงๆแค่อย่างเดียวมาทา
บอกเลยว่าโอกาสพังหนักกว่าเดิมก็สูงมาก

และสิ่งหนึ่งที่คนมักไม่รู้คือ
ฝ้าที่เป็นรอยมักมาพร้อมกับผิวหนังที่เป็นผื้นแผ่นหนา
เพราะฉะนั้น
หากขาดความชุ่มชื้นที่ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม
โอกาสจะทำให้รอนยปื้นหายก็ยาก

และสิ่งที่สำคัญมากๆก็คือ
หากในบางเคสที่อยากรักษาด้วยเลเซอร์
ก็ควรบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและแข็งแรงก่อนไปเลเซอร์ด้วย
เพราะจะช่วยเสริมการรักษาให้มันดีขึ้น
ผิวไม่เสีย ไม่ไวแดดมากจนเกินไปด้วย
.
💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛
.
ข้อ5
#ทำทุกอย่ามาทั้งหมดแต่ไม่ทากันแดดก็ไม่มีประโยชน์

เพรากันแดดเรียกว่าเป็นหนึ่งในการรักษาหลักของฝ้าเลยก็ว่าได้
กันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากกการทำร้ายจาดแสงแดดโดยตรง
เมื่อแดดทำร้ายน้อยลง
ร่างกายก็ป้องกันตัวเองน้อยลง
การผลิตเม็ดสีดำๆก็น้อยลง
ฝ้าก็จางไวขึ้นมากๆ

เพราะฉะนั้น
ห้ามลืมทากันแดดเด็ดขาด

💛🧡❤️🤎🤎❤️🧡💛

ก็จบไปแล้วกับ 5 ข้อยาแรง
ที่คนเป็นฝ้าต้อง
✅เข้าใจ
✅ยอมรับ
✅และพร้อมจะปรับตัวในการดูแลฝ้า

เพราะรักเองก็ตั้งใจ พัฒนาสูตรลดรอยฝ้ากระจากแดดดีๆซักตัว
ให้คนที่ทุกข์ใจเรื่องฝ้าใช้

แต่ทั้งหมดที่รักตั้งใจทำมา
จะไม่เกิดประโยชน์เลย
ถ้าคนที่เป็นฝ้าไม่เข้าใจหลักการหายฝ้าของตัวเองซะก่อน
และไม่พร้อมจะออกจาก comfort zone ขอตัวเองซักนิสนึง

ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ก่อนน้า
เพราะรักและหวังดีจริงๆ
จึงมาบอกกันตรงๆขนาดนี้

#เภสัชกรรัก
#เป็นฝ้าไม่พักต้องรักบทความนี้แล้วนะ 😁

ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
จากความคิดเห็นที่ 1 ซึ่งเป็นความเห็นที่น่าสนใจมากๆ รักขอแชร์ไอเดียเพิ่มเติมจะได้เป็นประโยชน์กับชาวพันทิป ^^

📌สาเหตุหลักของฝ้าไม่ได้มีแค่แดดค่ะ 📌
แต่แดดเป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้ฝ้ายิ่งแย่ลง
แต่ถึงจะเป็นตัวกระตุ้นหลัก  
อย่างน้อยก็เป็นเรื่องเดียวที่เรายังเลี่ยงและป้องกันได้ดี
และการป้องกันแดดได้ดี ก็เห็นผลในเชิงประจักษ์ชัดเจน
เมื่อเทียบกับการป้องกันด้วยอย่างอื่น
.
ทำให้รักเลยเน้นข้อนี้เป็นพิเศษในบทความนี้
เพราะยังเป็นอะไรที่เราพอจะแก้ได้บ้าง
จะได้ไม่รู้สึกท้อจนเกินไปในการรักษาฝ้า
.
แต่ถ้าเป็นเรื่องของฮอร์โมนช่วงวัยทอง หรือท้อง (ในเคสผู้หญิง)
อันนี้มันเลี่ยงยากจริงๆค่ะ
(ไว้โอกาสหน้าจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน)
.
🟨🟧🟫🟫🟧🟨🟨🟧🟫🟫🟧🟨
.
📌ทีนี้ถ้าในมุมว่าเป็นฝ้าแล้วควรรักษามั้ย📌
คำตอบคือควรรักษามากๆ
เพราะการเกิดฝ้าคือการปกป้องตัวเองของร่างกาย
เพื่อไม่ให้ผิวไหม้หรือเป็นอันตรายจากแดด
.
และยิ่งถ้าร่างกายเรายังคงรู้สึกว่าผิวหนังอยู่ในโหมดอันตรายอยู่ตลอด
การเร่งผลิตเม็ดสีโอเว่อร์ๆนอกจากจะทำให้เกิดฝ้าได้
.
วันนึงเซลล์เม็ดสีเราก็อาจจะเอ๋อ
ผลิตเม็ดสีมากกว่าปกติ
และถ้าเซลล์ผิวที่มีเม็ดสีเอ๋อๆแบ่งตัวออกไปมากๆ
อาจจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งผิวหนังก็เป็นไปได้

เอาเป็นว่าถ้าเครื่องจักรทำงานหนักยังพังได้
ผิวหนังที่ทำงานหนักก็อาจจะพังและบานปลายได้เช่นกันค่า
.
เพราะฉะนั้น
ฝ้าควรรักษาและป้องกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้ว่าฝ้าบางประเภทจะไม่ได้หาย 100%
แต่เคสที่ดีที่สุดรอยฝ้าก็จางลงมาใกล้เคียงสีผิวได้
และรองพื้นเพียงเล็กน้อยก็ปิดรอยได้ค่า^^
.
🟨🟧🟫🟫🟧🟨🟨🟧🟫🟫🟧🟨
.
📌ที่นี้คนที่ไม่โดนแดดเลยทำไมเป็นฝ้า📌
การเกิดฝ้าบอกตรงๆ
บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เราเลือกไม่ได้ตั้งแต่เกิด
เพราะสาเหตุหลักบาทีก็มาจากเชื้อชาติ เพศ และวัย
.
🔸เชื้อชาติ🔸
ถ้าเป็นชาวผิวขาว (caucasian)
จะมีโอกาสการเกิดฝ้าได้มากกว่า
เหมือนที่เราเห็นๆกันว่าฝรั่งมักจะเป็นกระกันยาวๆไป
เพราะนอกจากสีผิวเค้าแล้ว
แดดแรงๆแบบไม่มีความชื้นเส้นศูนย์สูตรแบบบ้านเรา
มันคือการปิ้งดีๆนี่เอง
พอบวกกันไป
ฝ้าก็มาแบบไม่ต้องสืบ
.
🔸เพศ🔸
อันนี้คอนเฟิร์มได้เลย
จาก Textbook Skin ทั้งหลาย
ผู้หญิงยังไงก็เป็นมากกว่าผู้ชาย
ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน

เพราะฉะนั้น
ด้วยเพศเองก็เป็นได้มากกว่าอยู่แล้ว
ยิ่งเจอท้องเข้าไป หรือการทานยาคุมกำเนิด
หรือภาวะฮอร์โมนพลุ่งพล่านแบบอื่นๆ
ฝ้าก็จะถามหาได้ไวขึ้น
.
🔸วัย🔸
วัยที่เพิ่มขึ้นโอกาสการเป็นฝ้าก็เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะช่วงวัยทองที่ความเหวี่ยงฮอร์โมนสูง
และอีกปัจจัยหลักที่เกี่ยวกับวัยคือ
ระบบการดูแลร่างกายต่างเริ่มอ่อนแอลง
.
หลายคนก็พบว่ายิ่งแก่ยิ่งแพ้ง่าย
และก็เช่นกันกับความไวต่อการเป็นฝ้าด้วย
.
🟨🟧🟫🟫🟧🟨🟨🟧🟫🟫🟧🟨
.
และมาถึงข้อสุดท้าย
คือสิ่งที่รักชอบสุดในคอมเมนต์นี้
ทำไมฝ้าไม่เป็นที่หน้าผากกับปลายจมูกทั้งๆที่โดนแดดก่อนเพื่อน
.
ปัจจัยการเกิดฝ้าหลักๆ ขึ้นกับ
จำนวน ขนาด ของเซลล์ผลิตเม็ดสี (Melanocyte)
และบริเวณที่สัมผัสแดด
.
แต่สิ่งนึงที่สำคัญไม่แพ้กัน
คือ ความหนาของผิวหนัง
.
ทั้งสองจุด (หน้าผากกับจมูก)
ถือว่าเป็นส่วนที่ออกนอกหน้าไปเจอแดดมากสุดก็จริง
แต่ก็มีความหนาพิเศษ
ที่ผิวเหมือนจะเปิด mode ป้องกันตัวเองตลอดเวลา
.
นึกง่ายๆ
เวลาเราสงสัยเราก็ยื่นจมูกไปดมก่อน
เวลาเราโดนดีดหน้าผากแบบซีรีย์เกาหลี
มันก็ไม่ได้เจ็บเท่าดีดแก้ม
.
ด้วยความหนานี้แหละ
ทำให้มีการป้องกันตัวเองบางส่วน
เซลล์ผลิตเม็ดสีก็ย่อมมีขนาดและจำนวนน้อยลง
.
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นฝ้า forever นะ
เพราะไม่เป็นฝ้าแต่เป็นกระก็ได้จ้า >/////<
ก็อย่างที่เห็นกันบ่อยๆว่า
เรามักจะเจอคนเป็นกระคาดกลางหน้ากันไปเลย
.
สรุป
ถึงหน้าผากกับจมูกจะมีผิวจะหนาไว้ป้องกันตัวเอง
แต่ขอบอกว่าโอกาสเป็นฝ้าน้อยแต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็น 100%
และถึงไม่เป็นฝ้าก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นกระนะค้าา
ยังไงกันแดดก็ห้ามขาดด้วยประการทั้งปวง
.
🟨🟧🟫🟫🟧🟨🟨🟧🟫🟫🟧🟨
.
สุดท้ายยย
ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ
ถึงจะมงจะไม่ลง
แต่คำถามดีงามจนต้องมอบมงให้จริงๆ

#เภสัชกรรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่