เรื่องสั้น ความรัก

กระทู้สนทนา
เครดิตรูปภาพ https://siamrath.co.th/n/117042
 𝓛𝓸𝓿𝓮    ความรัก
 

ใต้ร่มไม้ซุ้มต้นเฟื่องฟ้าที่ใช้ปลูกมาเพื่อเป็นร่มให้โต๊ะม้าหินอ่อน
ข้างอาคารในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
 
นักศึกษาชายสองคนนั่งอยู่กับนักศึกษาสาวหนึ่งคน
กำลังทำงานกลุ่มในปีสุดท้ายของการศึกษา
หากแต่ถ้าดูลักษณะท่าทางก็พอจะรู้ว่าปฏิสัมพันธ์ 
ระหว่างทั้งสามเป็นอย่างไร
 
 
สุริยา นั่งฝั่งเดียวกับ จันทรา 
ส่วนฝั่งตรงข้าม
ก็คือเมฆา ที่นั่งก้มหน้าดูงานที่โต๊ะ
 
ส่วนทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกำลังหยอกล้อกันอยู่ตามประสาคู่รักในคณะและสาขาเดียวกัน
ทั้งสามคนเหลือโปรเจกต์ชิ้นสุดท้ายที่ต้องส่ง
เพื่อจะได้สำเร็จการศึกษาในเทอมสุดท้ายของปีการศึกษานี้
 
“ตกลงจะแบ่งกันไปทำส่วนไหนกันบ้าง ?” เสียงจากเมฆา หรือ เมฆ 
พูดขึ้นเพื่อพยายามเรียกความสนใจ
ทั้งคู่หยุดหยอกกันแล้วหันมาบอกด้วยสีหน้ากำลังมีความสุขว่า
 
“งานฐานรากกับส่วนตัวอาคาร เรากับจันทร์ จะไปทำเอง เป็นสองส่วนที่ต้องคำนวณร่วมกันอยู่แล้ว” สุริยาเอ่ยมา
ขณะที่กำลังเล่นกับแฟนสาวที่ทำหน้างอเพราะโดนหยอกแรงไปหน่อย
 
“ได้ งั้นส่วนโครงหลังคาซึ่งเป็นงานออกแบบส่วนแรกที่จะถ่ายน้ำหนักลงมาที่ด้านล่าง 
เราจะรีบไปทำมาให้เสร็จไม่เกินวันมะรืน
เสร็จแล้วจะเอาค่าน้ำหนักมาให้ออกแบบ เสา ผนัง และฐานราก
เผื่อจะได้มีเวลาเหลือมากหน่อย”
รีบพูดตัดบทด้วยเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงาน 
 
เจ้าของเสียงชายหนุ่มหน้าตาคม 
ผิวเข้มตามแบบนักศึกษาที่มีพื้นฐานชีวิตมาจากความยากลำบากในวัยเด็ก
ตั้งใจเรียนจนผลักดันตัวเองให้ได้ทุนมาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
 
หน้าตาท่าทางก็ไม่เชิงว่าจะไม่น่าดู  
ตามลักษณะออกจะไปทางหน้าตาคมเข้มดีเสียด้วยซ้ำไป
 แต่เป็นเพราะท่าทางเคร่งขรึมจริงจัง 
เลยยังไม่มีใครกล้าเข้ามาให้ความสนใจนักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธาปีสุดท้าย
ที่ผลการเรียนจัดได้ว่าอยู่ในระดับต้นๆของสาขาคนนี้
แม้จะเป็นคณะยอดนิยมของสาวๆในมหาวิทยาลัยมากกว่าสาขาอื่นก็ตาม
 
 
“งั้นอีกสองวันเราเอาค่าน้ำหนักที่เลือกวัสดุที่ใช้ตามแบบคือเมทัลชีท 
รวมทั้งประมาณค่าแรงและค่าวัสดุในการก่อสร้างส่วนโครงหลังคาอาคารทั้งหมด
มาให้ที่คณะนะ  ที่เหลือนายกับจันทร์ก็ไปจัดการต่อ
แล้วเอางานมารวมตรวจทานกันอีกที
จะได้ส่งไม่เกินอาทิตย์หน้าก่อนสอบปลายภาค” เมฆสรุป
 
“ได้ๆ เอาตามนั้น” หนุ่มสุริยา หน้าตาดีผิวขาวด้วยเป็นลูกคนที่มีฐานะ 
มีความพร้อมทุกด้านกว่านักศึกษาคนอื่นๆ นั่งอยู่กับสาวหน้าตาสวย
แต่อยากมาเรียนในสายวิศวกรรมเพราะนิสัยส่วนตัวออกจะเป็นสาวลุยๆ 
 
จันทราหรือ จันทร์ เป็นนักศึกษาสาวเพียงไม่กี่คนในคณะ ที่มาเรียนสายงานก่อสร้าง
เนื่องด้วยธุรกิจทางบ้านเป็นเครือข่ายร้านขายวัสดุระดับภาค 
หวังจะไปใช้ความรู้กลับไปช่วยกิจการทางบ้านเมื่อเรียนจบ 
ด้วยความน่ารักสดใส จนได้รับเลือกเป็นดาวสาขา
สุดท้ายก็ได้สุริยาที่มีความเพียบพร้อมมาเป็นแฟน
เหมือนสำนวนของไทยเมื่อเทียบสิ่งที่เหมะสมกันว่า 
สุริยันย่อมอยู่คู่ควรกับจันทราก็เป็นได้
 

คุยเสร็จก็ลุกเก็บแบบอาคารที่เป็นโปรเจกต์สุดท้ายม้วนใส่กระบอกใส่เอกสาร ลุกเดินออกไป
 
สุริยาเอ่ยขึ้นลอยๆตามหลังว่า “จริงจังตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลยเมฆเนี่ย 
ทำตัวแบบนี้สาวๆคนไหนมาจีบก็หงายหลังกลับไปทุกราย”
พูดด้วยความคิดเป็นห่วงเพื่อนด้วยสุจริตใจ 
 
ยังไงก็เรียนกันมาตั้งสี่ปี ออกไปฝึกงานภาคสนามก็ไปด้วยกัน
 
เป็นคนเอาจริงเอาจังกับชีวิตเพราะภูมิหลังไม่ได้สบายเหมือนตัวเอง
 
ตัวสุริยาเองเกิดมาไม่ต้องดิ้นรนมากนัก แต่เขาเองก็ไม่เคยดูถูกเพื่อนเลยแม้แต่สักครั้ง
 
อะไรที่พอจะช่วยได้ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์หรือค่าเดินทางไปฝึกงานเขาก็ได้ช่วยเหลือตลอด 
 

จนใกล้จะจบในไม่กี่เดือนนี้
ว่าไปก็เหมือนเป็นการช่วยเหลือตัวเองไปในตัวด้วย
เพราะเขาเป็นลูกคนมีฐานะ ติดความสบาย 
ก็ได้เพื่อนคนนี้ช่วยติวและทำงานด้วยกันหลายชิ้นจนผ่านมาได้
เพราะความขยันของ เมฆ นี่เอง 
ทั้งยังมาได้แฟนหน้าตาดี และเหมาะสมกันเหมือนชีวิตในฝันจริงๆ
 

คล้อยหลังจากที่เดินออกมา 

ภาพแห่งความหลังเมื่อสี่ปีก่อนก็ลอยขึ้นมาในใจชายหนุ่มที่ดูเฉยชา
แต่ว่าหัวใจกำลังรู้สึกบางอย่างไม่สามารถบอกใครได้
 
ภาพของเขาอยู่ในชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยม
ซื้อมาจากเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพียงชุดเดียว 
 
หน้าตาเปื้อนแป้ง ลิปติกและสีผสมอาหารเต็มหน้าตา 
เพราะถูกรุ่นพี่มาทำการรับน้องตามแบบชาวเกียร์ 
ตามประเพณีรับน้องสาขาในวันแรกที่คณะวิศวกรรรมศาสตร์ 
 
เขาเป็นคนนิ่งๆก็เลยโดนแกล้งมากกว่าคนอื่นหน่อย
แต่เรื่องแค่นี้เขาเข้าใจและทนได้สบายๆ 
จนมาถึงช่วงพักตอนบ่าย
กำลังจะเดินไปล้างหน้าเพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญในตอนเย็น 
 

พลันมีเสียงใสๆดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เธอๆ เอานี่ไปสิ เช็ดแป้งให้หมดก่อน ถึงจะล้างหน้าได้สะดวก เราเตรียมมาหลายผืนแบ่งกัน”

หันกลับไปมอง
ก็เหมือนกับมีใครมาเปิดม่านความรู้สึก
ที่ไม่เคยเปิดใจรับใครมาก่อน
ทำให้ใจเขาเต้นแรงกว่าปกติ
 
หน้าตาสดใสยิ้มยื่นผ้าเช็ดหน้าขนหนูผืนเล็กมาให้ 
ป้ายชื่อที่ห้อยด้วยสายคล้องที่รุ่นพี่ทำมาให้เขียนไว้ว่า “จันทร์”

มันอาจจะเป็นเหมือน 𝙛𝙞𝙧𝙨𝙩 𝙞𝙢𝙥𝙧𝙚𝙨𝙨𝙞𝙤𝙣
แปลเป็นไทยได้อาจจะหมายถึงความทรงจำครั้งแรกที่เจอ
จนทำให้ฉันต้องจดจำเธอไปจนตาย

หรืออะไรก็ตามแต่ 
ตั้งแต่วันนั้น จันทร์ หรือ จันทรา 
ก็ได้ลอย เข้ามาอยู่ในความทรงจำของเขา 
โดยไม่เคยเลือนหายจากห้วงความคิดได้อีกเลย
 

ได้เรียนด้วยกันในสาขา 
ตั้งแต่วิชาพื้นฐานตามรหัสนักศึกษาแยกตามสาขาวิชา
จนเข้าวิชาเฉพาะทางตั้งแต่ปีสองก็อยู่กลุ่มเดียวกันตลอด

แอบเฝ้ามองดูห่างๆ โดยที่เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
ด้วยความแตกต่างทั้งทางฐานะ และ สังคม 
ทำให้ต้องก้มหน้าเวลาที่เดินผ่านหรือเข้าใกล้ 
แต่สาวเจ้าก็มิวายทักทายให้ตลอดเพราะเป็นคนจิตใจดี
 
 

และนี่ก็อีกคนหนึ่ง สุริยา 
 
 
“ว่าไง เมฆ งานคำนวณวิชา SOIL ENGINEERเสร็จหรือยัง?” 
เสียงเดินมาจากข้างหลังของสุริยาเพื่อนร่วมสาขาคนนี้นี่เอง
 
เพื่อนคนนี้นิสัยดี ร่าเริง ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดกับชีวิต 
แต่ก็มีความจริงใจอย่างที่สุด 

อาศัยช่วยเหลือเขาทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ
แม้แต่กระทั่งเคยให้เครื่องคิดเลขราคาแพงที่อ้างว่าไม่ได้ใช้แล้วเพราะอยากได้รุ่นใหม่กว่า
 
 
หรือว่าที่แท้จริงสงสารเรา
 
ที่บางครั้งยังต้องไปยืมเครื่องคนอื่นตอนทำงานหรือสอบเพราะยังเก็บเงินซื้อไม่ได้
 
 
อุปกรณ์เขียนแบบสมัยก่อนแม้กระทั้งกระดาษ ดินสอ ปากกายังซื้อมาเผื่อให้ตลอด
ออกไปฝึกงานก็มาขออยู่ร่วมกลุ่ม ออกค่าใช้จ่ายเดินทาง
 
แม้กระทั่งค่าอาหารเวลาไปนอกสถานที่แทบจะทุกครั้ง

โดยไม่เคยแสดงออกว่าเป็นการดูถูกเขาเลย
 
“เมฆ ไม่ต้องออกหรอก  พวกเราพอมีออกกันเองได้ นายเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นที่จำเป็นเถอะ” พูดแบบนี้ทุกครั้ง

ที่มีการออกค่าใช้จ่ายในการทำงานกลุ่มซึ่งส่วนที่เป็นของเขา สุริยาจะออกแทนให้เสมอ
 

แต่เจ้าตัวไม่เคยคิดว่าเขาเป็นภาระเลย กลับให้ความสนิทสนมด้วยความถูกชะตาหรืออย่างไรก็ไม่รู้ได้
 

“เสร็จแล้ว จะดูเลยไหม?” ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่าคำตอบที่กลับมาจะเป็นแบบไหน 
เพราะเขาทำเสร็จตั้งนานแล้วและรู้ใจว่าเพื่อนหมายถึงอะไร

“รู้ทันจริงๆ ขอดูตัวอย่างไปปรับค่า  factor of safety อีกนิดนะ 
เดี๋ยวอาจารย์จะดูออกว่าค่าผลการคำนวณมันจะเหมือนกันเกินไป”
เสียงเพื่อนตอบมาพร้อมหยิบรายงานเข้าไปเปิดดู
และทำส่วนของตัวเองต่อให้เสร็จทันส่งในเวลาที่กำหนด
 

ที่จริงเขาเองได้รับการยอมรับจากทุกคนในสาขาอยู่แล้ว
เพราะเป็นคนเรียบร้อย ขยัน เอาจริงเอาจัง 
แต่ออกจะเก็บตัวไปหน่อย
 
สำหรับสุริยาแม้แต่เรื่องส่วนตัวเมื่อเรียนในคลาสเดียวกันมาเกือบสี่ปี
ตั้งแต่แยกสาขาทำให้คุยกันได้ทุกเรื่อง
 
นับเป็นเพื่อนที่สนิทใส่ใจดูแล ไม่เคยแสดงทีท่ารังเกียจ
เพียงคนเดียวได้ช่วยดูแลเขาเสมอมา
คือ สุริยา นี่เอง
 
 

บ่ายวันหนึ่ง 

ขณะทำแลปทดสอบการเซตตัวของคอนกรีต 
สุริยาก็เดินเข้ามาตบไหล่แอบเอ่ยใกล้ๆตัวเขาว่า 
“เมฆ เราว่าจะไปขอเป็นแฟนกับจันทร์ กลัวคนมาจีบไปก่อนนายว่าจะดีไหม?”
 
นิ่ง

อึ้ง

พูดไม่ออก
 
 
ได้แต่ก้มหน้า พูดออกไปทั้งๆที่ใจยังสั่นๆว่า  “ก็แล้วแต่นาย”
ตายังมองดูเครื่องสั่นของคอนกรีตพร้อมจับเวลา เพื่อให้ได้ตรงตามปริมาตรที่กำหนด
 

เท่าที่ดู จันทร์เอง ก็ไม่มีใครกล้ามาจีบเพราะเป็นสาวสวยในสาขาเพียงไม่กี่คน 
ด้วยต้องขลุกกับเพื่อนชายเกือบ 95% ของจำนวนนักศึกษาในสาขา
 และเพื่อนในสาขาบางคนก็ไปจีบสาวคณะอื่นกันบ้างแล้ว

 
“โอเค ถ้านายว่าอย่างนั้นเดี๋ยวเราเดินหน้าลุยเลยนะ ดูเหมือนว่าจันทร์ก็ยังไม่ชอบใครอยู่เหมือนกัน” 
 

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด 
 
สุริยาได้คบหากับจันทราจริงๆ 

เขาเองเสียอีกที่ควรจะยินดีด้วยเพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็เป็นคนที่เหมาะสมกัน 
 

และ
 
เป็นคนทั้งคู่ที่เขารัก 
 
ถึงแม้จะเป็น 
 
ความรักคนละแบบก็ตาม
 
 
 

กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 
เสียงโทรศัพท์ที่หอดังขึ้นในวันสุดท้ายของการปิดภาคการศึกษา
เพื่อนๆออกไปฉลองกันหมด 
มีแต่เขาเท่านั้นที่กำลังเก็บของ
เพื่อจะกลับไปที่บ้านเกิดพร้อมเริ่มต้นอาชีพวิศกรอย่างเต็มตัว
 

ใครกันโทรมาเวลานี้ ?

เหลือบดูนาฬิกา เกือบห้าทุ่ม คนในหอแทบจะไม่มีใคร
อาจจะพูดได้ว่าทั้งหอ เหลืออาจจะเขาอยู่เพียงคนเดียว

รับสายแล้วปลายเสียงดังขึ้นมา 
“เมฆ ช่วยด้วย สุริยาเป็นอะไรไม่รู้” เสียงนี้เขาจำได้ทันที  

เสียงของจันทรา
 
รีบกรอกสายกลับไปอย่างร้อนรนเพราะเป็นคนของสำคัญของเขาทั้งคู่
“เกิดอะไรขึ้น แล้วตอนนี้อยู่กันที่ไหน?” พยายามตั้งสติแล้วถามออกไป

 
“พอดี จันทร์ออกมาฉลองเรียนจบกับ ยา(ชื่อเล่นของสุริยา) 
กำลังจะกลับ 
พอจะขึ้นรถ จู่ๆ ยา เขาก็หมดสติล้มลงไปเลย
โทรหาใครก็ไม่มีใครรับ เมฆรีบมานะเรากำลังไปที่โรงพยาบาล..........”

 
“ได้ๆ เดี๋ยวเราจะรีบไป ทำใจดีๆไว้    ยา ต้องไม่เป็นอะไร รอเราแป๊บเดียว”
 
วางสาย ละมือจากการเก็บของที่อยู่ตรงหน้า
 

วิ่งออกไปหน้าหอ 

คว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนที่เป็นรถส่วนกลางของเพื่อนสาขาทิ้งไว้ให้ใช้ที่หอ
 
ทุกหอมักจะมีรถใช้งานของเพื่อนที่สนิทกัน 
แอบซ่อนกุญแจไว้หน้าหอเอาไว้ให้เพื่อนๆไว้ใช้
ไม่ต้องกลัวรถหาย 
เพราะจะมีแค่เพื่อนเท่านั้นที่รู้ว่าเก็บลูกกุญแจไว้ตรงไหน 
ไขกุญแจแล้วสตาร์ทขี่ออกไปอย่างร้อนรน

 
 
 
 
ที่โรงพยาบาล

จันทรายืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน 
ยืนร้องไห้ตัวสั่น
ตามองเข้าไปในช่องกระจกที่มีเจ้าหน้าที่กำลังทำงานแข่งกับเวลาอยู่ข้างใน
 
“หมอเขาว่า อย่างไรบ้าง?” เสียงถามอย่างเป็นกังวล เพราะเพิ่งเดินทางมาถึง

 
ร่างของจันทรายืนนิ่ง 

เหมือนไม่ได้ยินเสียงที่ถาม 

แล้วจู่ๆก็ทรุดลงไปหน้าห้องฉุกเฉินตรงนั้นเอง

 
“หมอ หมอ ช่วยด้วยครับ มีคนเป็นลม” เสียงเมฆตะโกนขึ้นพร้อมพุ่งร่างเข้าไปหาคนที่เขารักที่อยู่ข้างหน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่