ตอนนี้มีใครกำลังอยู่สถานะเดียวกับเราบ้างคะ เราขอเล่าชีวิตเรื่องราวของเราก่อนนิดนึงนะคะ เราเป็นสาวโสดค่ะ ดูแลชีวิตตัวเองมาตั้งแต่ ม.5 เพราะแม่เสียและพ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ย้ายไป ตปท. เราดูแลชีวิตตัวเอง ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ ปวส. โดยไม่ได้เดือดร้อนหรือขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวมา 17 ปีแล้วค่ะ เราใช้ชีวิตแบบอยู่คนเดียวมาจนชิน และ มีความสุขมาก เรามีเงินเก็บจากการขายของออนไลน์ มีเงินเหลือมากพอที่จะไปเที่ยว ตปท. ได้ เรารู้สึกพอใจชีวิตแบบนี้มากๆ จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้ พี่เขยเราได้เสียชีวิตลงกะทันหันจากโรคมะเร็ง ชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป เพราะพี่สาวของเราต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่หอด้วยกัน ความเหนื่อยใจและท้อใจต่างๆก็ตามเข้ามา แรกๆหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพี่เขย พี่สาวก็ได้รับเงินประกันที่พี่เขยทำไว้มาก้อนนึง พออยู่ได้สบายๆโดยไม่กระทบอะไรกับเรา แต่ด้วยความที่พี่สาวมีลูกสาวอีก 2 คน คนโต 14 คนเล็ก 8 ขวบ (อยู่คนละจังหวัด) เวลาช่วงปิดเทอมก็ต้องลงมาหาพี่สาวเรา ซึ่งถ้ามาอยู่ด้วยกันที่หอแล้วนั้นมันไม่ได้ คับแคบมากๆ พี่สาวกับเราเลยไปหาบ้านเช่าใหม่เพื่อที่จะได้สะดวกๆเวลาที่ลูกเขามา บ้านเช่าใหม่ดีมากมี 2 ชั้น มี 2 ห้อง กว้างขวาง โดยตกลงกันว่า เราจ่ายค่าบ้าน พี่สาวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แรกๆหลานๆก็ลงมาเที่ยวมาอยู่กันแค่ไม่กี่วัน เราก็พอทนได้เพราะเรารักหลานอยู่แล้ว แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่เดือน ลูกของพี่สาวคนโตมีปัญหากับเพื่อนๆจนหลานอยากย้ายโรงเรียน เขาขอมาอยู่ด้วย เราเห็นใจหลานมากๆเลยยอมให้เขามาอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็ต้องหาที่เรียนใหม่ให้กับเขาด้วย พอวันย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันจริงๆลูกสาวคนเล็กของพี่สาวก็ขอย้ายตามด้วย เราก็โอเค คิดว่าอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันดีแล้ว เราใช้เวลาหลายเดือนมากในการปรับตัวที่ต้องอยู่ร่วมกับจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้น ปรับอารมณ์ ปรับนิสัยหลายๆอย่าง มีบ้างที่ทะเลาะกันแต่ก็ผ่านมาได้ ทุกข์-สุข วนลูปแบบนี้มา 8 เดือน หายนะเริ่มมาสู่เราเต็มรูปแบบแล้ว 55++ หายนะนั่นคือ วันที่พี่สาวของเราออกจากงานเพราะพิษโควิดบวกกับเงินหมด จากที่เราช่วยกันก็พอปะคับปะคองกันไปได้ กลับกลายเป็นเราตอนนี้ที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพียงคนเดียว เราเครียดมากๆ เราต้องดึงส่วนของเงินเก็บมาใช้จ่ายดูแลเขาซึ่งก็ใกล้หมดเต็มที่แล้ว จากเคยขายของออนไลน์มีรายได้ที่ดีก็ลดลงเพราะกำลังซื้อคนน้อย เราไม่อยากผลักไสพวกเขา อยากให้อยู่ด้วยกัน แต่หลายครั้งหลายคราว พวกเขาเหมือนไม่เห็นใจเราเลย ทั้งๆที่เราแบกรับภาระอยู่คนเดียว เราเคยอยู่คนเดียวสบายๆก็ต้องมาแบกรับอะไรก็ไม่รู้ เราเคยคิดอยากให้แยกย้ายกันไป เราก็ทำไม่ได้ ตอนนี้พี่สาวเราได้เริ่มงานใหม่เราก็ดีใจคิดว่าเขาจะได้มีรายได้มาช่วยเหลือเราบ้าง แต่เขาก็คิดจะเอาเงินไปใช้หนี้ของตัวเขาอย่างเดีบวเลย ซึ่งเราเคยพูดแล้วว่าใช้เดือนเว้นเดือนได้ไหม จะได้มาช่วยเราบ้าง แต่เขากลับกลัวเสียเครดิต บอกไม่ได้ ซึ่งเราเสียใจมาก ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็ของเขากับลูกเขาทั้งนั้น เราเป็นน้าทำไมต้องมาแบกรับอะไรแบบนี้ด้วย หลายครั้งเราอยากระเบิด อยากหนีออกไปอยู่คนเดียว จะได้หลุดพ้นอะไรตรงนี้ไปซะที แต่เราก็ทำไม่ได้ เรามองหน้าหลานเราก็ทิ้งเขาไม่ลงแล้ว เราเลยไม่รู้จะทำยังไง จะต้องจัดการเปลี่ยนความคิดตัวเองแบบไหน ที่จะอยู่ร่วมกันกับพวกเขาได้อย่างมีความสุข
แบกรับภาระคนเดียว ??? ต้องเข้มแข็งขนาดไหนคะ 🥲🥲
ตอนนี้มีใครกำลังอยู่สถานะเดียวกับเราบ้างคะ เราขอเล่าชีวิตเรื่องราวของเราก่อนนิดนึงนะคะ เราเป็นสาวโสดค่ะ ดูแลชีวิตตัวเองมาตั้งแต่ ม.5 เพราะแม่เสียและพ่อก็ไปมีครอบครัวใหม่ย้ายไป ตปท. เราดูแลชีวิตตัวเอง ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ ปวส. โดยไม่ได้เดือดร้อนหรือขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวมา 17 ปีแล้วค่ะ เราใช้ชีวิตแบบอยู่คนเดียวมาจนชิน และ มีความสุขมาก เรามีเงินเก็บจากการขายของออนไลน์ มีเงินเหลือมากพอที่จะไปเที่ยว ตปท. ได้ เรารู้สึกพอใจชีวิตแบบนี้มากๆ จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้ พี่เขยเราได้เสียชีวิตลงกะทันหันจากโรคมะเร็ง ชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป เพราะพี่สาวของเราต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่หอด้วยกัน ความเหนื่อยใจและท้อใจต่างๆก็ตามเข้ามา แรกๆหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพี่เขย พี่สาวก็ได้รับเงินประกันที่พี่เขยทำไว้มาก้อนนึง พออยู่ได้สบายๆโดยไม่กระทบอะไรกับเรา แต่ด้วยความที่พี่สาวมีลูกสาวอีก 2 คน คนโต 14 คนเล็ก 8 ขวบ (อยู่คนละจังหวัด) เวลาช่วงปิดเทอมก็ต้องลงมาหาพี่สาวเรา ซึ่งถ้ามาอยู่ด้วยกันที่หอแล้วนั้นมันไม่ได้ คับแคบมากๆ พี่สาวกับเราเลยไปหาบ้านเช่าใหม่เพื่อที่จะได้สะดวกๆเวลาที่ลูกเขามา บ้านเช่าใหม่ดีมากมี 2 ชั้น มี 2 ห้อง กว้างขวาง โดยตกลงกันว่า เราจ่ายค่าบ้าน พี่สาวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แรกๆหลานๆก็ลงมาเที่ยวมาอยู่กันแค่ไม่กี่วัน เราก็พอทนได้เพราะเรารักหลานอยู่แล้ว แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่เดือน ลูกของพี่สาวคนโตมีปัญหากับเพื่อนๆจนหลานอยากย้ายโรงเรียน เขาขอมาอยู่ด้วย เราเห็นใจหลานมากๆเลยยอมให้เขามาอยู่ด้วยกัน ซึ่งก็ต้องหาที่เรียนใหม่ให้กับเขาด้วย พอวันย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันจริงๆลูกสาวคนเล็กของพี่สาวก็ขอย้ายตามด้วย เราก็โอเค คิดว่าอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันดีแล้ว เราใช้เวลาหลายเดือนมากในการปรับตัวที่ต้องอยู่ร่วมกับจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้น ปรับอารมณ์ ปรับนิสัยหลายๆอย่าง มีบ้างที่ทะเลาะกันแต่ก็ผ่านมาได้ ทุกข์-สุข วนลูปแบบนี้มา 8 เดือน หายนะเริ่มมาสู่เราเต็มรูปแบบแล้ว 55++ หายนะนั่นคือ วันที่พี่สาวของเราออกจากงานเพราะพิษโควิดบวกกับเงินหมด จากที่เราช่วยกันก็พอปะคับปะคองกันไปได้ กลับกลายเป็นเราตอนนี้ที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพียงคนเดียว เราเครียดมากๆ เราต้องดึงส่วนของเงินเก็บมาใช้จ่ายดูแลเขาซึ่งก็ใกล้หมดเต็มที่แล้ว จากเคยขายของออนไลน์มีรายได้ที่ดีก็ลดลงเพราะกำลังซื้อคนน้อย เราไม่อยากผลักไสพวกเขา อยากให้อยู่ด้วยกัน แต่หลายครั้งหลายคราว พวกเขาเหมือนไม่เห็นใจเราเลย ทั้งๆที่เราแบกรับภาระอยู่คนเดียว เราเคยอยู่คนเดียวสบายๆก็ต้องมาแบกรับอะไรก็ไม่รู้ เราเคยคิดอยากให้แยกย้ายกันไป เราก็ทำไม่ได้ ตอนนี้พี่สาวเราได้เริ่มงานใหม่เราก็ดีใจคิดว่าเขาจะได้มีรายได้มาช่วยเหลือเราบ้าง แต่เขาก็คิดจะเอาเงินไปใช้หนี้ของตัวเขาอย่างเดีบวเลย ซึ่งเราเคยพูดแล้วว่าใช้เดือนเว้นเดือนได้ไหม จะได้มาช่วยเราบ้าง แต่เขากลับกลัวเสียเครดิต บอกไม่ได้ ซึ่งเราเสียใจมาก ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็ของเขากับลูกเขาทั้งนั้น เราเป็นน้าทำไมต้องมาแบกรับอะไรแบบนี้ด้วย หลายครั้งเราอยากระเบิด อยากหนีออกไปอยู่คนเดียว จะได้หลุดพ้นอะไรตรงนี้ไปซะที แต่เราก็ทำไม่ได้ เรามองหน้าหลานเราก็ทิ้งเขาไม่ลงแล้ว เราเลยไม่รู้จะทำยังไง จะต้องจัดการเปลี่ยนความคิดตัวเองแบบไหน ที่จะอยู่ร่วมกันกับพวกเขาได้อย่างมีความสุข