ก็เป็นประเด็นทางการเมืองที่ยังน่าสนใจอยู่ สำหรับการเปิดสัญญาซื้อขายวัคซีนโควิดนะครับผม สถานการณ์ตอนนี้ไม่ว่าจะมองเหลี่ยมไหน ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็เสียเปรียบ
แม้จะมีโอกาสอันดี ที่จะเอาเรื่องขึ้นสภาเพื่อเฆี่ยนเสี่ยหนูและลุงตู่ ให้หลังลายเนื้ออ่อนแตกยับไปพร้อมๆ กัน แต่ดูเหมือนว่ากองพลสีส้มก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อ้ำๆ อึ้งๆ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แบ่งรับแบ่งสู้จนดูน่าขบขันเวลาถูกนักข่าวสัมภาษณ์
เหตุผลมันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายอะไร มันก็แค่เกิดจากปัญหาเดิมๆ ที่ไม่เคยแก้ได้สักที อย่างที่ผมเคยบอกเมื่อนานมากแล้ว ว่าปากของศาสดาส้มคือปัญหาใหญ่ของผู้ร่วมอุดมการณ์มาตลอด และไม่มีใครหุบปากเขาได้อีกเหมือนเคย อ้าปากเมื่อไหร่ลิ่วล้อต้องตามเก็บงานยากอยู่ร่ำไป
พูดไม่คิด...นั่นคือคำจำกัดความ
ครั้งนี้ก็เช่นกันนะครับ ผู้นำแห่งจิตวิญญาณสามนิ้วเปิดปากวิจารณ์ยับการซื้อวัคซีน เรียกร้องให้เปิดสัญญาให้ได้ เพื่อความสบายใจของตัวเอง (ซะงั้น) ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคที่กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อวาจาสิทธิ์นั้นหลุดออกมา เหล่าสาวกผู้ซื่อสัตย์ก็กระโดดตีลังกาสามตลบรับไม้ต่อทันควัน ทวิตเตอร์ต้องมา เฟสบุ๊กต้องตาม
เค้ารางของความบรรลัยก็ตีคู่มาทันทีเช่นกัน หากมองเผินๆ ประชากรสีส้มได้เฮกันสนั่นลั่นทุ่ง เพราะแน่นอนว่าการเรียกร้องให้เปิดสัญญาต้องสร้างความกระอักกระอ่วนให้ฝ่ายรัฐบาลอย่างแน่นอน คือ...มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายห้าบาทสิบบาท ใครเขาจะเปิดกันง่ายๆ มันเป็นเรื่องยากถึงยากมาก และจุดนี้แหละที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถเอามาปลุกปั่นโจมตีได้
แต่...นะครับแต่
แม้ว่าจะสามารถใช้จุดนี้กระทุ้งรัฐบาลได้ แต่ผลที่จะตามมากลับเป็นการวัดใจฝ่ายเรียกร้องอย่างจงหนักเช่นกัน เพราะถ้ามีการดันทุรังให้เปิดสัญญาจริง สิ่งแรกที่จะตามมาคืออาจมีการชะลอการส่งมอบวัคซีน แล้วประชาชนตาดำๆ ที่แย่งเงินช่วยเหลือกันอยู่ล่ะ เขาอยากได้วัคซีนใจจะขาด เขาอยากออกไปทำมาหากินปกติเหมือนเมื่อก่อน อยู่ๆ ศาสดาส้มกลับจะกลายมาเป็นต้นเหตุให้หยุดชะงักซะงั้น และหนักกว่านั้นคืออาจร้ายแรงถึงขั้นยกเลิกสัญญา
42-0 คือแผลเป็นที่ประชาชนสลักไว้กลางหน้าผากชาวสีส้มมาครั้งหนึ่งแล้วนะครับ ยังจะเอาอีกเหรอ
ทั้งหมดนี่ละครับที่ผมเรียกว่าเข้าทาง...
และฝ่ายรัฐบาลเองก็คงยิ้มมุมปากเบาๆ กางมุ้งนอนอยู่หน้าโกล รอจังหวะหวดเต็มข้อเข้าประตูสวยๆ ไปแบบหล่อๆ
เข้าทาง : ดาวดำผู้มองว่ารัฐบาลรอหวดเต็มข้อ
แม้จะมีโอกาสอันดี ที่จะเอาเรื่องขึ้นสภาเพื่อเฆี่ยนเสี่ยหนูและลุงตู่ ให้หลังลายเนื้ออ่อนแตกยับไปพร้อมๆ กัน แต่ดูเหมือนว่ากองพลสีส้มก็ยังกล้าๆ กลัวๆ อ้ำๆ อึ้งๆ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แบ่งรับแบ่งสู้จนดูน่าขบขันเวลาถูกนักข่าวสัมภาษณ์
เหตุผลมันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายอะไร มันก็แค่เกิดจากปัญหาเดิมๆ ที่ไม่เคยแก้ได้สักที อย่างที่ผมเคยบอกเมื่อนานมากแล้ว ว่าปากของศาสดาส้มคือปัญหาใหญ่ของผู้ร่วมอุดมการณ์มาตลอด และไม่มีใครหุบปากเขาได้อีกเหมือนเคย อ้าปากเมื่อไหร่ลิ่วล้อต้องตามเก็บงานยากอยู่ร่ำไป
พูดไม่คิด...นั่นคือคำจำกัดความ
ครั้งนี้ก็เช่นกันนะครับ ผู้นำแห่งจิตวิญญาณสามนิ้วเปิดปากวิจารณ์ยับการซื้อวัคซีน เรียกร้องให้เปิดสัญญาให้ได้ เพื่อความสบายใจของตัวเอง (ซะงั้น) ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคที่กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อวาจาสิทธิ์นั้นหลุดออกมา เหล่าสาวกผู้ซื่อสัตย์ก็กระโดดตีลังกาสามตลบรับไม้ต่อทันควัน ทวิตเตอร์ต้องมา เฟสบุ๊กต้องตาม
เค้ารางของความบรรลัยก็ตีคู่มาทันทีเช่นกัน หากมองเผินๆ ประชากรสีส้มได้เฮกันสนั่นลั่นทุ่ง เพราะแน่นอนว่าการเรียกร้องให้เปิดสัญญาต้องสร้างความกระอักกระอ่วนให้ฝ่ายรัฐบาลอย่างแน่นอน คือ...มันไม่ใช่สัญญาซื้อขายห้าบาทสิบบาท ใครเขาจะเปิดกันง่ายๆ มันเป็นเรื่องยากถึงยากมาก และจุดนี้แหละที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถเอามาปลุกปั่นโจมตีได้
แต่...นะครับแต่
แม้ว่าจะสามารถใช้จุดนี้กระทุ้งรัฐบาลได้ แต่ผลที่จะตามมากลับเป็นการวัดใจฝ่ายเรียกร้องอย่างจงหนักเช่นกัน เพราะถ้ามีการดันทุรังให้เปิดสัญญาจริง สิ่งแรกที่จะตามมาคืออาจมีการชะลอการส่งมอบวัคซีน แล้วประชาชนตาดำๆ ที่แย่งเงินช่วยเหลือกันอยู่ล่ะ เขาอยากได้วัคซีนใจจะขาด เขาอยากออกไปทำมาหากินปกติเหมือนเมื่อก่อน อยู่ๆ ศาสดาส้มกลับจะกลายมาเป็นต้นเหตุให้หยุดชะงักซะงั้น และหนักกว่านั้นคืออาจร้ายแรงถึงขั้นยกเลิกสัญญา
42-0 คือแผลเป็นที่ประชาชนสลักไว้กลางหน้าผากชาวสีส้มมาครั้งหนึ่งแล้วนะครับ ยังจะเอาอีกเหรอ
ทั้งหมดนี่ละครับที่ผมเรียกว่าเข้าทาง...
และฝ่ายรัฐบาลเองก็คงยิ้มมุมปากเบาๆ กางมุ้งนอนอยู่หน้าโกล รอจังหวะหวดเต็มข้อเข้าประตูสวยๆ ไปแบบหล่อๆ