Ep.2 Lao Pai Rueay มนุษย์เงินเดือนผจญภัยในต่างแดน

กระทู้สนทนา

มนุษย์เงินเดือน พนักงานบริษัท พนักงานประจำ เที่ยวญี่ปุ่น

Ep.2 Lao Pai Rueay มนุษย์เงินเดือนผจญภัยในต่างแดน
ก่อนอื่นเลยผมต้องขอขอบคุณทุกๆท่านนะครับ ที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องราวประสบการณ์การทำงานในต่างแดนของผม ผมได้เห็นคอมเมนต์ของแต่ละท่านแล้วผมก็รู้สึกดีใจและมีกำลังใจในการเขียนกระทู้ต่อไป ซึ่งสิ่งที่ผมได้เขียนมานี้เกิดขึ้นจากการอยากเล่าเรื่อง คือ ผมคิดอะไรออกผมก็บรรยายมันออกมา ร้อยเรียงเป็นเรื่องราวบ้างไม่เป็นบ้าง แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ทำมัน ขอบคุณทุกท่านจากใจจริงๆครับ _/\_

สำหรับใครที่พลาดอีพีแรกไป สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
Ep.1 Lao Pai Rueay มนุษย์เงินเดือนผจญภัยในต่างแดน : https://pantip.com/topic/40454163

เนื่องจากบริษัทที่ผมทำงานทำงานจันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมจึงได้วางแผนเที่ยวไว้ทุกอาทิตย์เลย จะเที่ยวใกล้เที่ยวไกลก็ไม่เคยหวั่น อีกทั้งคนญี่ปุ่นที่ทำงานด้วยกันบางวันก็จะพาออกไปเที่ยวตามต่างจังหวัดด้วย ซึ่งในวันนี้ผมเดินทางไปเที่ยวเมือง Shizuoka ผมเดินทางโดยขึ้นไฮเวย์จะมีจุดจอดรถแวะพัก บอกได้เลยว่าจุดจอดรถที่ญี่ปุ่นนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันเลยครับ ผมได้แวะจุดจอดรถแล้วก็เดินสำรวจร้านค้าต่างๆ มีสินค้า ของฝากให้เลือกซื้อเต็มไปหมดเลย โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบทานขนมปังเป็นอย่างมาก พอได้ชิมของที่นี่ ต้องบอกเลยว่าอร่อยมาก ขนมปังมีความนุ่มละมุน หอม ถูกปากมากๆครับ ถ้าใครได้แวะจุดจอดรถอย่าลืมไปทานกันนะครับ (จำชื่อร้านไม่ได้แต่โดยรวมอร่อยเกือบทุกร้าน)

หลังจากแวะพักเติมพลังกันแล้วก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างสองข้างทางรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ภูเขา สีเขียวสดใสอร่ามตามากๆ ผมไม่อาจจะละสายตาจากภูเขาลูกแล้วลูกเหล่าไปได้เลย ด้วยความที่เราไปกับคนญี่ปุ่น เมื่อขับผ่านตามจุดสำคัญต่างๆเขาก็จะอธิบายประวัติความเป็นมาให้เราได้รู้เรื่องราวเหล่านั้น เข้าใจกันบ้างไม่เข้าใจกันบ้าง ก็หัวเราะ ขำขัน กันไป (เพราะทั้งผมและคนญี่ปุ่นก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ อธิบายกันจนเมื่อยมือเลยทีเดียว ฮาๆ)
แอบบอกว่าระหว่างทางเมื่อก้อนเมฆบนท้องฟ้าจางหายไปคุณฟูจิซังก็แอบมาทักทายเราด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ผมไปคือ Fuji Shiba-sakura Festival เป็นเทศกาลซากุระที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบ Shizuoka ซึ่งทางที่เราไปค่อนข้างขับรถเข้าไปลึกและทางก็ยังเป็นเดินลูกรัง แต่ด้วยความตั้งใจว่าจะมากันแล้วแม้ทางจะลำบากแค่ไหนก็ต้องไปให้ถึง แต่เมื่อไปถึงยังทางเข้าสิ่งที่ไม่อยากได้ยินก็เกิดขึ้น คือ Welcome maan เดินมาบอกว่า "ปิดเพราะซากุระล่วงหมดเเล้วเข้าไปก็จะไม่เห็นอะไร" ผมและคนญี่ปุ่นมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มที่มุมปากบ่งบอกว่า นี่เราพลาดแล้วสินะ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เราจึงเปลี่ยนแผนไปนั่งเล่นที่ทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆก็แล้วกัน ทะเลสาบที่ว่าคือ Lake Motosuko เป็นทะเลสาบขนาดเล็ก เหมาะแก่การมาแคมปิ้ง พักผ่อนกาย อากาศก็เย็นสบายดี ผมและเพื่อนคนญี่ปุ่นจึงได้นั่งคุยกันพร้อมกับดื่มน้ำเก็กฮวย (Kirin Beer)

เมื่อเรานั่งพักผ่อนกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านโบราณ Iyashi no Sato ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปชมภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งสมัยก่อนในหมู่บ้านแห่งนี้ทำอาชีพเกษตรกรรม ในปี ค.ศ. 1966 เกิดเหตุการดินถล่มทับหมู่บ้าน ทางการญี่ปุ่นจึงได้สร้างแบบบ้านดังเดิมนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่อบำรุงรักษาและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ระหว่างทางเราจะเห็นการปลูกแปลงผักและนาข้าวเป็นระยะๆ ภายในหมู่บ้านนั้นเองก็จะมีของที่ระลึก ภาพวาดซามูไร หรือมีให้เช่าชุดซามูไรเพื่อถ่ายภาพด้วย

หลังจากที่ผมเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณ Iyashi no Sato เราเดินทางกันต่อไปยังถ้ำน้ำแข็ง Narusawa Ice Cave ตั้งอยู่ทางตะวันออกของป่า aokigahara เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบของภูเขาไฟฟูจิ จึงได้รับความนิยมอย่างมาก ก่อนจะลงไปยังถ้ำไกด์นำเที่ยวก็ได้อธิบายประวัติความเป็นมาให้เราทราบแล้วก็แจกอุปกรณื Safety คือ หมวก helmet ให้เราเพื่อป้องกันหัวเราไปกระแทกกับก้อนหินหรือก้อนน้ำแข็ง เมื่อผมเดินไปตรงบริเวณทางลงไปยังถ้ำน้ำแข็งผมก็รู้สึกได้ถึงความเย็นที่มาสัมผัสตัวผม (อ่านมิเตอร์ตอนนั้นได้ที่ 0 องศา) และทางลงไปถ้ำเป็นราวจับไม้ไผ่ ขั้นบันไดนั้นก็จะชุ่มช้ำน้ำอยู่ตลอดเวลา ทำให้เวลาที่เดินลงไปต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ข้างล่างถ้ำนั้นก็จะเป็นทางกว้างแล้วบีบแคบลงจนระหว่างทางต้องมุดมอบกับพื้นแล้วคลานต่ำ ใครที่เป็นคนกลัวในที่แคบก็จะไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่พอผ่านเข้าไปบริเวณโถงของถ้ำแล้ว ต้องบอกเลยว่า มันสวยมากก้อนน้ำแข็งมีลักษณะที่ห้อยย้อยแปรลักษณะรูปร่างต่างๆ ซึ่งภาพที่ผมถ่ายมานี้แสงแฟลชของกล้องสว่างเกินไปจะปิดแฟลชก็มืดมาก จึงทำให้เห็นภาพก้อนน้ำแข็งที่ออกมาไม่ชัดเท่าไหร่ ก้อนน้ำแข็งมีลักษณะคล้าย Blue diamon เลยก็ว่าได้