เชิญมาถกเพื่อหาคำตอบเรื่องบัว สาม หรือ สี่ เหล่ากันครับ

กระทู้คำถาม
ผมขอบอกก่อนเลยผมไม่ชำนาญด้านพระไตรปิฎก และยังเป็นบุคคลที่มีกิเลสเต็มจิตเรื่องที่ถกกันนี้เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ๆหรือบอกในสิ่งที่ตนคิดเพื่อเผยเป็นวิทยาทาน จุดประสงค์ผมไม่ได้จะโจมตีใคร แต่คุยในเชิงวิชาการหรือวิเคราะห์ด้วยเหตุผล สำหรับคนไหนที่จะมาถกด้วยโปรดให้เกียรติกันด้วยนะครับ ไม่ใช่ทะเลาะกันแต่ถกเชิงวิชาการนะครับ

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ผมขออนุญาตไม่เอามาลงนะครับขอตัดเอาประเด็นเลยครับ
ผู้ถาม: พุทธวจนทำไมจาบจ้วงพระเถระแรงจัง ไหนผมขอถามความรู้เรื่องจิต เรื่องธรรมเบื้องต้นหน่อยครับ จิตเป็นอย่างไร อาการอย่างไร อุปาทานขันธ์ห้า คืออะไร อะไรคือธรรม อะไรคือจิตรับรู้ รับรู้ผ่านอะไร  ส่วนเรื่องบัวสามเหล่า กับบัวสี่เหล่านั่น ลองเปิดใจค้นคว้า อ่านเยอะๆนะครับ
ผู้ถูกถาม:  เมื่อเราตรวจดูโลกด้วยพุทธจักขุอยู่ เราได้เห็นสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีธุลีในดวงตา เล็กน้อย บ้าง มีมากบ้าง ผู้มีอินทรีย์แก่กล้าบ้าง อ่อนบ้าง มีอาการดีบ้าง เลวบ้าง อาจสอนให้รู้ ได้ง่ายบ้าง ยากบ้าง และบางพวกเห็นโทษในปรโลก โดยความเป็นภัยอยู่ก็มี   เปรียบเหมือนในหนอง บัวอุบล บัวปทุม บัวบุณฑริก  (๑)ดอกบัว บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ ยังจมอยู่ในน้ำ  (๒)บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ ตั้งอยู่เสมอพื้นน้ำ  (๓)บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ โผล่ขึ้นพ้นน้ำ อันน้ำไม่ถูกแล้ว มีฉันใด  ราชกุมาร ! เราได้เห็นสัตว์ทั้งหลายเป็นต่าง ๆ กันฉันนั้น.  บาลี. ม.ม. ๑๓/๔๖๓/๕๑๑. ตรัสแก่โพธิราชกุมาร. (ปาสราสิสูตร มู.ม. ก็มี)
ผู้ถาม:  แต่ละบัวมีความหมายว่าอย่างไร
ผู้ถูกถาม: ...ดอกบัว 3 เหล่า  1) บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ ยังจมอยู่ในน้ำ… เปรียบเหมือนมนุษย์ ที่ยังไม่พ้นบ่วงกรรม ยังต้องวนเวียนในสังสารวัฏ ยังไม่อาจรู้แจ้งในธรรมของตถาคต และเป็นกลุ่มใหญ่สุด เปรียบเหมือนดินในผืนปฐพีทั้งโลก    2) บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ ตั้งอยู่เสมอพื้นน้ำ… เปรียบเหมือนผู้ได้เข้ามาสดับในธรรม เห็นสัจจะบางอย่าง เช่นอนิจจัง มีความศรัทธาตถาคต เริ่มต้นจาก สัทธานุสารี ธัมมานุสารี โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี (ไม่นับอรหันต์) ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย เปรียบเหมือนเศษดินปลายเล็บ เทียบกับดินในมหาปฐพี    3) บางเหล่า เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ โผล่ขึ้นพ้นน้ำ อันน้ำไม่ถูกแล้ว… เปรียบเหมือนบุคคลผู้หลุดพ้น พ้นจากอาสวะโดยสิ้นเชิง อันทุกข์ไม่ถูกต้องแล้ว เป็นผู้ดับเย็น เข้าถึงนิพพาน คือพระอรหันต์    ..... บัวใต้โคลน ไม่มีในคำสอนของพระศาสดา เป็นการบัญญัติกันเองของสาวก เรียกว่าอรรถกถา นี่คือการทำลายพุทธศาสนา ที่ทรงตรัสไว้ว่า ห้ามบัญญัติเพิ่ม ห้ามเพิกถอน ให้ศึกษาใน สิกขาบท ของพระองค์เท่านั้น
ผู้ถาม: แสดงว่าตถาคตพูดขัดกันหรือครับ? กับบุคคล 4 จำพวก
ผู้ถูกถาม: พระพุทธเจ้าอุปมาเรื่องความแก่-อ่อน ของอินทรีย์ ของมนุษย์ 3 จำพวก ว่า เหมือน บัว 3 เหล่า ไม่ใช่ 4 เหล่า แต่อรรถกถา แต่งเพิ่ม และพระไทยก็ไปให้ความสนใจ แปลออกมา กลายเป็นตำราการศึกษาของนักธรรมทั้งหลาย และ เป็นตำราวิชาพุทธศาสนาของกระทรวงศึกษา.. ตถาคตไม่ได้พูดขัดกัน
ผู้ถาม: ในความหมายของบัวสามเหล่าที่ท่านพูดก็เข้าท่านะครับ แต่เหตุใดพระพุทธเจ้าถึงเปรียบเทียบอินทรีย์แก่-อ่อนของมนุษย์ขณะนั้นครับ การสอนง่าย สอนง่ายบ้างยากบ้าง สอนยาก เหล่านี้สามารถบรรลุธรรมในอัตภาพนั้นๆได้ไหมครับ หรือเหล่าไหนไม่สามารถบรรลุธรรมในชาตินั้นได้
...ตอนนี้รอให้ผู้ถูกถามมาตอบ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่