INNO IDEA vs ระเบียบองค์กร
ได้มีโอกาสไปรร.ลูก ซึ่งเป็น รร.ประถม ของรัฐบาล ท่านผอ.เล่าให้ผู้ปกครองฟังว่าค่าใช้จ่ายรร.นั้นมีมากมายและเพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะค่าไฟฟ้าก็เดือนละ 400,000 บ. แล้ว
ได้ยินดังนั้น จึงขออนุญาติเสนอไอเดียเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้รร.ไปว่า
เทคโนโลยีโซลาร์เซลส์ปัจจุบันพัฒนาไปไกลมากๆ และราคาค่อนข้างถูกลงจนน่าลงทุนแล้ว
จากค่าไฟ 400,000 บ. ข้างต้น
สามารถคำนวณเบื้องต้นแบบคร่าวๆ ได้ว่า
เราอาจลงทุนโซลาร์เซลส์ครึ่งหนึ่ง ของค่าไฟทั้งหมด
จะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 กว่าล้านบาท
รร.ไม่ต้องมีเงินก้อนมาลงทุน เพราะมีสถาบันการเงินที่พร้อมปล่อยกู้อยู่
จุดคุ้มทุนปกติจะอยู่ที่ 5-10 ปีโดยประมาณ
เราอาจคิดที่ค่าเฉลี่ย 8 ปีไว้ก่อนก็ได้
เท่ากับว่า รร.ยังจ่ายค่าไฟเดือนละ 400,000 บ. เหมือนเดิม
แต่เปลี่ยนที่จ่าย โดย
แบ่งไปจ่ายให้การไฟฟ้า 200,000 บ.
และแบ่งไปจ่ายให้ธนาคาร 200,000 บ.
พอครบ 8 ปี ผ่อนหมด รร.ก็ไม่ต้องจ่ายธนาคารแล้ว
แต่โซลาร์เซลส์ยังสามารถใช้งานได้อยู่ โดยใช้งานไปได้ 25 ปี และเสื่อมลงไปตามอายุ
แปลว่าอีกอย่างน้อย 17 ปีที่เหลือ รร.จะประหยัดค่าไฟไปได้
200,000 บ. × 12 เดือน × 17 ปี = 40 ล้านบาท
ที่สามารถ save ไปได้จากโครงการนี้ (ตัวเลขโดยประมาณ ของจริงอาจสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้)
แล้ว stakeholder ล่ะ ใครได้ใครเสีย
- รร. ประหยัดค่าไฟในระยะยาว มีเงินไปพัฒนาด้านอื่นๆ
- ธนาคารได้ดอกเบี้ย ความเสี่ยงต่ำ ถ้าเป็นธนาคารรัฐให้รร.รัฐกู้ ก็เหมือนกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา
- บริษัทโซลาร์เซลส์, supplier, คนงาน, มีรายได้ เศรษฐกิจหมุนเวียน
- การไฟฟ้า มีความมั่นคงทางพลังงาน ไม่ต้องสร้างรง.ผลิตไฟฟ้าใหม่ๆ หรือไม่ต้องซื้อไฟฟ้าจากตปท.
- กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประโยชน์แค่ไหน คงต้องลองคำนวณดูครับว่ามีรร.ของรัฐที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงๆ กี่แห่ง
- รัฐบาล คงต้องคำนวณดูครับว่ามีหน่วยงานราชการไหนที่มีการใช้ไฟฟ้าเยอะๆ ช่วงกลางวันแบบนี้
.
แต่คำตอบที่ได้รับจากท่านผอ.คือโครงการแบบนี้จะติดปัญหาเดียว ก็คือ "ระเบียบในการจัดซื้อจัดจ้าง" จึงไม่สามารถทำได้
จึงเป็นข้อเรียนรู้ที่อยากฝากทุกท่านลองพิจารณาครับ ว่าถ้าองค์กรของเรา มี inno idea อะไรดีๆ เมื่อพิจารณาแล้วมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย แต่ติดข้อจำกัดเรื่องระเบียบองค์กร
ถ้าท่านเป็นผู้บริหารควรทำอย่างไร ?
cr. ศิษย์โรงปูน
https://www.facebook.com/107443367532747/posts/231578311785918/ 
แชร์ความรู้ Solar Cell กับการบริหารธุรกิจ
ได้มีโอกาสไปรร.ลูก ซึ่งเป็น รร.ประถม ของรัฐบาล ท่านผอ.เล่าให้ผู้ปกครองฟังว่าค่าใช้จ่ายรร.นั้นมีมากมายและเพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะค่าไฟฟ้าก็เดือนละ 400,000 บ. แล้ว
ได้ยินดังนั้น จึงขออนุญาติเสนอไอเดียเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้รร.ไปว่า
เทคโนโลยีโซลาร์เซลส์ปัจจุบันพัฒนาไปไกลมากๆ และราคาค่อนข้างถูกลงจนน่าลงทุนแล้ว
จากค่าไฟ 400,000 บ. ข้างต้น
สามารถคำนวณเบื้องต้นแบบคร่าวๆ ได้ว่า
เราอาจลงทุนโซลาร์เซลส์ครึ่งหนึ่ง ของค่าไฟทั้งหมด
จะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 กว่าล้านบาท
รร.ไม่ต้องมีเงินก้อนมาลงทุน เพราะมีสถาบันการเงินที่พร้อมปล่อยกู้อยู่
จุดคุ้มทุนปกติจะอยู่ที่ 5-10 ปีโดยประมาณ
เราอาจคิดที่ค่าเฉลี่ย 8 ปีไว้ก่อนก็ได้
เท่ากับว่า รร.ยังจ่ายค่าไฟเดือนละ 400,000 บ. เหมือนเดิม
แต่เปลี่ยนที่จ่าย โดย
แบ่งไปจ่ายให้การไฟฟ้า 200,000 บ.
และแบ่งไปจ่ายให้ธนาคาร 200,000 บ.
พอครบ 8 ปี ผ่อนหมด รร.ก็ไม่ต้องจ่ายธนาคารแล้ว
แต่โซลาร์เซลส์ยังสามารถใช้งานได้อยู่ โดยใช้งานไปได้ 25 ปี และเสื่อมลงไปตามอายุ
แปลว่าอีกอย่างน้อย 17 ปีที่เหลือ รร.จะประหยัดค่าไฟไปได้
200,000 บ. × 12 เดือน × 17 ปี = 40 ล้านบาท
ที่สามารถ save ไปได้จากโครงการนี้ (ตัวเลขโดยประมาณ ของจริงอาจสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้)
แล้ว stakeholder ล่ะ ใครได้ใครเสีย
- รร. ประหยัดค่าไฟในระยะยาว มีเงินไปพัฒนาด้านอื่นๆ
- ธนาคารได้ดอกเบี้ย ความเสี่ยงต่ำ ถ้าเป็นธนาคารรัฐให้รร.รัฐกู้ ก็เหมือนกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา
- บริษัทโซลาร์เซลส์, supplier, คนงาน, มีรายได้ เศรษฐกิจหมุนเวียน
- การไฟฟ้า มีความมั่นคงทางพลังงาน ไม่ต้องสร้างรง.ผลิตไฟฟ้าใหม่ๆ หรือไม่ต้องซื้อไฟฟ้าจากตปท.
- กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประโยชน์แค่ไหน คงต้องลองคำนวณดูครับว่ามีรร.ของรัฐที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงๆ กี่แห่ง
- รัฐบาล คงต้องคำนวณดูครับว่ามีหน่วยงานราชการไหนที่มีการใช้ไฟฟ้าเยอะๆ ช่วงกลางวันแบบนี้
.
แต่คำตอบที่ได้รับจากท่านผอ.คือโครงการแบบนี้จะติดปัญหาเดียว ก็คือ "ระเบียบในการจัดซื้อจัดจ้าง" จึงไม่สามารถทำได้
จึงเป็นข้อเรียนรู้ที่อยากฝากทุกท่านลองพิจารณาครับ ว่าถ้าองค์กรของเรา มี inno idea อะไรดีๆ เมื่อพิจารณาแล้วมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย แต่ติดข้อจำกัดเรื่องระเบียบองค์กร
ถ้าท่านเป็นผู้บริหารควรทำอย่างไร ?
cr. ศิษย์โรงปูน
https://www.facebook.com/107443367532747/posts/231578311785918/