เรื่องของเรื่องคือ เรายื่นกู้ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก โดยธนาคารแจ้งในเวบไซต์ว่าวงเงินอยู่ที่ 10% ของราคาบ้าน บ้านเราราคาอยู่ที่ 2.8-2.9 ล้าน แต่ธนาคารอนุมัติวงเงินมาที่ 30,000 บาท โดยอ้างว่าราคาประเมินอยู่ที่ 2.8 ล้านบาท เลยได้เท่านี้ มันใช่หรอ นี่ยังไม่ถึง 2% เลย ระหว่างดำเนินเรื่องเราต้องวิ่งไปวิ่งมาเพราะเจ้าหน้าที่บอกข้อมูลไม่ครบ เอาประเมินเข้าก่อนเช็คเอกสาร โทรถาม Call Center ก็ปัดไปให้สาขา โทรถามสาขาก็ปัดให้ประเมิน โทรถามประเมินก็ปัดให้ธนาคาร ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ และให้ข้อมูลที่สมเหตุสมผลเลย คุณทำกับลูกค้ามากี่รายแล้ว ช่วยปรับปรุงระบบเน่าๆของคุณให้มันพัฒนาขึ้นทีเถอะ
ไทม์ไลน์คร่าวๆที่เราพอจำได้ประมาณนี้
>>>ต้นเดือนธันวาคม 63 - สืบเนื่องจากเราได้เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนไปยื่นสินเชื่อบ้านเพิ่มสุข เพื่อกู้ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ประเมินจากรายได้และภาระจากเอกสารพร้อมทั้งให้เรากรอกข้อมูล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถกู้ได้ประมาณ 150,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาประเมิน แต่เราสามารถยื่นขอกู้ในวงเงินที่มากขึ้นได้เพราะฐานรายได้ค่อนข้างเยอะ เราจึงตกลงและกรอกแบบฟอร์มพร้อมเอกสาร ยื่นกู้ในวงเงิน 265,000 บาท
>>>อีกสามวันถัดมา เจ้าหน้าที่ประเมินเข้าประเมินบ้าน ชำระเงินไป 1,900 บาท ซึ่งตอนแรกทางบริษัทประเมินจะขอเก็บ 2,800 บาท เราไม่ยอมเพราะเราหาข้อมูลมาแล้วว่าถ้าวงเงินต่ำกว่า 300,000 บาทจะจ่ายที่ยอด 1,900 บาท สรุปเราต้องเป็นคนอธิบายเองว่าเรากู้ไม่ถึงยอด และไม่จำเป็นต้องชำระที่ 2,800 บาท เจ้าหน้าที่งงๆ โทรกลับไปมาแต่สุดท้ายก็เก็บเราอยู่ที่ 1,900 บาท
>>>>อีกประมาน 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่โทรให้เราชำระดอกเบี้ยคงค้างประมาณ 6,800 บาทและค่างวดบ้านอีก 1 งวด ซึ่งเราถูกหักจากบัญชีเงินเดือนชำระไปแล้ว เหตุผลคือ เราเคยเข้ามาตรการที่ 8 ซึ่งตอนนั้นเราก็งงๆๆ
>>>> เราลางานเพื่อไปสอบถามรายละเอียดที่ ธอส สาขาบ้านบึง ตอนแรกเจ้าหน้าที่บอกปัดให้ไปถามที่ สัตหีบที่ทำเรื่อง จนเราต้องขึ้นเสียงและบอกว่าบ้านอยู่ตรงนี้จะให้ไปสัตหีบเพื่ออะไรคะ อีกอย่าง ประเมินเข้าแล้วทำไมยังต้องชำระดอกเบี้ยอะไรอี จริงๆน่าจะเข้าขั้นตอนเตรียมอนุมัติแล้ว จนท จึงอธิบายกรณีที่เราเคยขอพักชำระดอกเบี้ย เราต้องชำระดอกคงค้างก่อนยื่นสินเชื่อตัวอื่น เราจึงเข้าใจและยอมชำระไปตามที่ จนท แจ้ง
>>>อีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมา เจ้าหน้าที่คนเดิมโทรแจ้ง ว่าให้ชำระดอกเบี้ยของอีกหลังที่พนัสภายใน 31 ธันวาคม 63 (โทรมาเย็นวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่ ธนาคารปิด) เนื่องจากเรามีกู้บ้านสองหลัง (แล้วทำไมไม่บอกตรูแต่แรก) เราก็โอนจ่ายเพราะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เจ้าหน้าที่ แจ้งว่าไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ แต่ต้องรออัตราดอกเบี้ยของปี 2564 หลังจากชำระครบทั้งสองงวด
>>>>อีกประมาน 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอนมุติวงเงินที่ 30,000 บาท เราโทรถามเจ้าหน้าที่ก็บ่ายเบี่ยง แจ้งว่าเป็นที่ราคาประเมินแต่รายได้เราไม่มีปัญหา เราไม่ยอมและพยายามโทรเคลียร์ แต่เจ้าหน้าที่ก็บ่ายเบี่ยงไม่รับสาย และอ้างแต่บริษัทประเมิน
เราโมโหมากที่เจ้าหน้าที่ปั่นหัวเราขนาดนี้ แล้วสุดท้ายประเมินมาแบบ เอิ่มมมมม ถ้าหักค่างวด ค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ยที่เราต้องชำระก่อน เราจะได้วงเงินอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ถามหน่อยเถอะคะ ธอส เค้าทำงานกันแบบนี้จริงๆหรือคะ
สิ่งที่เราสงสัยมากที่สุดคือ
1. เจ้าหน้าที่ไม่มีศักยภาพในการประเมินวงเงินกู้ให้ใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจก่อนทำธุรกรรมหรือคะ
2. ราคาประเมินบ้านมันต่ำกว่าการประเมินครั้งแรกได้ด้วยหรอคะ โดยเฉพาะในตัวเมืองจังหวัดชลบุรี?
3. แล้วสินเชื่อเพิ่มสุขนี่ โฆษณาไว้ว่าได้ 10% ของราคาบ้าน ถ้าอย่างต่ำๆ 5% จาก 2.8 ล้านก็ต้อง 140,000 บาท แต่คุณอนุมัติมา 30,000 บาท แบบนี้ไม่ต้องให้เราเสียเวลาขนาดนี้หรอกค่ะ ไล่เราไปทำบัตรเครดิตเถอะ
4. บริษัทเรามี สวัสดิการธอส เราผ่านบ้านมาเกิน 1 ปี และรายได้เราเพียงพอที่จะยื่นกู้ เราสงสัยมากว่าทำไมเราได้วงเงินเท่านี้ ?
5. ทำไมธนาคารส่งคนมาประเมินบ้านก่อนตรวจสอบเอกสาร ว่าลูกค้าติดอะไรหรือไม่
6. ทำไม Call Center แจ้งว่าให้ร้องเรียนได้ แต่พอโทรไปร้องเรียน บอกว่าอยู่ที่การจัดการในสาขา
เราได้สอบถามเพื่อนที่ทำงานธนาคารรัฐวิสาหกิจ เพื่อนเรายังบอกว่าแปลกมากเลย ปกติไม่มีนะแบบนี้
ฝาก ธอส ติดต่อกลับเราด้วยนะคะ เพราะเราไม่ยอมและจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด ทุกเอกสาร หลักฐาน ทุกสายที่เราโทรคุยและสอบถามเราได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด
มีใครเคยโดน ธอส สาขาสัตหีบหรือสาขาอื่นมั่วข้อมูล มารวมกันตรงนี้
ไทม์ไลน์คร่าวๆที่เราพอจำได้ประมาณนี้
>>>ต้นเดือนธันวาคม 63 - สืบเนื่องจากเราได้เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนไปยื่นสินเชื่อบ้านเพิ่มสุข เพื่อกู้ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ประเมินจากรายได้และภาระจากเอกสารพร้อมทั้งให้เรากรอกข้อมูล เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถกู้ได้ประมาณ 150,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาประเมิน แต่เราสามารถยื่นขอกู้ในวงเงินที่มากขึ้นได้เพราะฐานรายได้ค่อนข้างเยอะ เราจึงตกลงและกรอกแบบฟอร์มพร้อมเอกสาร ยื่นกู้ในวงเงิน 265,000 บาท
>>>อีกสามวันถัดมา เจ้าหน้าที่ประเมินเข้าประเมินบ้าน ชำระเงินไป 1,900 บาท ซึ่งตอนแรกทางบริษัทประเมินจะขอเก็บ 2,800 บาท เราไม่ยอมเพราะเราหาข้อมูลมาแล้วว่าถ้าวงเงินต่ำกว่า 300,000 บาทจะจ่ายที่ยอด 1,900 บาท สรุปเราต้องเป็นคนอธิบายเองว่าเรากู้ไม่ถึงยอด และไม่จำเป็นต้องชำระที่ 2,800 บาท เจ้าหน้าที่งงๆ โทรกลับไปมาแต่สุดท้ายก็เก็บเราอยู่ที่ 1,900 บาท
>>>>อีกประมาน 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่โทรให้เราชำระดอกเบี้ยคงค้างประมาณ 6,800 บาทและค่างวดบ้านอีก 1 งวด ซึ่งเราถูกหักจากบัญชีเงินเดือนชำระไปแล้ว เหตุผลคือ เราเคยเข้ามาตรการที่ 8 ซึ่งตอนนั้นเราก็งงๆๆ
>>>> เราลางานเพื่อไปสอบถามรายละเอียดที่ ธอส สาขาบ้านบึง ตอนแรกเจ้าหน้าที่บอกปัดให้ไปถามที่ สัตหีบที่ทำเรื่อง จนเราต้องขึ้นเสียงและบอกว่าบ้านอยู่ตรงนี้จะให้ไปสัตหีบเพื่ออะไรคะ อีกอย่าง ประเมินเข้าแล้วทำไมยังต้องชำระดอกเบี้ยอะไรอี จริงๆน่าจะเข้าขั้นตอนเตรียมอนุมัติแล้ว จนท จึงอธิบายกรณีที่เราเคยขอพักชำระดอกเบี้ย เราต้องชำระดอกคงค้างก่อนยื่นสินเชื่อตัวอื่น เราจึงเข้าใจและยอมชำระไปตามที่ จนท แจ้ง
>>>อีกหนึ่งอาทิตย์ถัดมา เจ้าหน้าที่คนเดิมโทรแจ้ง ว่าให้ชำระดอกเบี้ยของอีกหลังที่พนัสภายใน 31 ธันวาคม 63 (โทรมาเย็นวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงปีใหม่ ธนาคารปิด) เนื่องจากเรามีกู้บ้านสองหลัง (แล้วทำไมไม่บอกตรูแต่แรก) เราก็โอนจ่ายเพราะไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินก้อน เจ้าหน้าที่ แจ้งว่าไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ แต่ต้องรออัตราดอกเบี้ยของปี 2564 หลังจากชำระครบทั้งสองงวด
>>>>อีกประมาน 2 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอนมุติวงเงินที่ 30,000 บาท เราโทรถามเจ้าหน้าที่ก็บ่ายเบี่ยง แจ้งว่าเป็นที่ราคาประเมินแต่รายได้เราไม่มีปัญหา เราไม่ยอมและพยายามโทรเคลียร์ แต่เจ้าหน้าที่ก็บ่ายเบี่ยงไม่รับสาย และอ้างแต่บริษัทประเมิน
เราโมโหมากที่เจ้าหน้าที่ปั่นหัวเราขนาดนี้ แล้วสุดท้ายประเมินมาแบบ เอิ่มมมมม ถ้าหักค่างวด ค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ยที่เราต้องชำระก่อน เราจะได้วงเงินอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ถามหน่อยเถอะคะ ธอส เค้าทำงานกันแบบนี้จริงๆหรือคะ
สิ่งที่เราสงสัยมากที่สุดคือ
1. เจ้าหน้าที่ไม่มีศักยภาพในการประเมินวงเงินกู้ให้ใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจก่อนทำธุรกรรมหรือคะ
2. ราคาประเมินบ้านมันต่ำกว่าการประเมินครั้งแรกได้ด้วยหรอคะ โดยเฉพาะในตัวเมืองจังหวัดชลบุรี?
3. แล้วสินเชื่อเพิ่มสุขนี่ โฆษณาไว้ว่าได้ 10% ของราคาบ้าน ถ้าอย่างต่ำๆ 5% จาก 2.8 ล้านก็ต้อง 140,000 บาท แต่คุณอนุมัติมา 30,000 บาท แบบนี้ไม่ต้องให้เราเสียเวลาขนาดนี้หรอกค่ะ ไล่เราไปทำบัตรเครดิตเถอะ
4. บริษัทเรามี สวัสดิการธอส เราผ่านบ้านมาเกิน 1 ปี และรายได้เราเพียงพอที่จะยื่นกู้ เราสงสัยมากว่าทำไมเราได้วงเงินเท่านี้ ?
5. ทำไมธนาคารส่งคนมาประเมินบ้านก่อนตรวจสอบเอกสาร ว่าลูกค้าติดอะไรหรือไม่
6. ทำไม Call Center แจ้งว่าให้ร้องเรียนได้ แต่พอโทรไปร้องเรียน บอกว่าอยู่ที่การจัดการในสาขา
เราได้สอบถามเพื่อนที่ทำงานธนาคารรัฐวิสาหกิจ เพื่อนเรายังบอกว่าแปลกมากเลย ปกติไม่มีนะแบบนี้
ฝาก ธอส ติดต่อกลับเราด้วยนะคะ เพราะเราไม่ยอมและจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด ทุกเอกสาร หลักฐาน ทุกสายที่เราโทรคุยและสอบถามเราได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด