คือผมไปทำธุระที่สมุทรปราการมาวันที่25ธันวาคมซึ่งช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่โควิดกำลังระบาดอีกรอบ ตอนแรกผมก็ไม่อยากไปหรอกเลยบอกแม่ว่าไว้วันอื่นได้ไหมแม่บอกไม่ได้ต้องมา ผมก็เลยจำใจต้องไป พอทำธรุเสร็จก็เตรียมกลับบ้านวันที่31ธันวาคม แล้วมันเหลืออีกหลายวันกว่าโรงเรียนจะเปิดผมเลยถามแม่ไปว่า "แม่ขอไปตรวจโควิด-19ไหนๆก็เหลืออีกตั้งหลายวัน เพราะยังไงเราก็ไปพท.เสี่ยงมา ก็ควรจะรับผิดชอบต่อส่วนรวมหน่อย จะได้สบายใจทั้งตัวเองและคนใกล้ตัว" แต่สิ่งที่แม่ตอบผมคือ "อย่ามาปัญญาอ่อน มันจะติดได้ยังไง ออกไปทำธุระแค่ไปหาหมอที่คลินิก ที่เหลือก็อยู่แต่บ้าน อย่าโตแต่ตัวได้ไหม" ผมก็นิ่งไปแปปนึงก็เลยตัดสินใจเออเชื่อแม่ก็ได้วะ แต่พอรร.เปิดผมรู้สึกไม่สบายใจมากๆกลัวตัวเองติดแต่ไม่ออกอาการแล้วไปแพร่เชื้อใส่คนอื่น วันต่อมาผมเลยตัดสินใจหนีมาตรวจเองที่รพ. แล้วค่อยบอกแม่ เพราะถึงบอกก่อนแม่ก็ไม่ยอมให้มาและคงโดนด่าเละกว่าเดิม พอผมโทรไปบอกแม่ว่ามาตรวจโควิดนะ แม่ด่าผมมาไม่ยั้งเลย ไม่ถามถึงความรู้สึกของผมซักคำว่าการที่โดนมองเหมือนเป็นตัวประหลาดมันรู้สึกแบบไหน แต่ละคำที่ด่าคือเหมือนผมไม่ใช่ลูกเค้า พูดออกมาง่ายๆว่าจะไปแคร์ทำไม คือถ้าผมรู้ตัวว่าตัวเองไม่เป็นผมก็ไม่แคร์หรอก แต่นี่คือผมก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองปลอดภัย100%หรือป่าว แล้วมาด่ากันแบบนี้มันใช่หรอ? แล้วหมอให้นอนรพ.เลยบอกที่บ้านไม่ต้องเป็นห่วงดูแลตัวเองได้ แต่เค้าก็ไม่ฟังด่ากลับมาอย่างเดียวทั้งวนเรื่องเมื่อวานทั้งเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวก็เอามารวมด้วย แล้วก็ส่งของใช้มาให้พร้อมกับมาด่าว่าเป็นไหมว่าทำตัวเป็นภาระคนอื่นเค้าแค่ไหน ทั้งๆที่ก็บอกไปแล้วว่าดูแลตัวเองได้ การที่ผมเกิดมามันดีแล้วจริงๆหรอหรือผมไม่ควรเกิดมาหล่ะ? เมื่อก่อนเคยเชื่อว่าครอบครัวคือเซฟโซนที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ผมไม่มีความคิดแบบนั้นในหัวเลย
แค่มาตรวจโควิด-19ผิดมากเลยหรอ?