งานเข้า! รับเงิน คนละครึ่ง - เราเที่ยวด้วยกัน ต้องเสียภาษีเงินได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5666814
กระทรวงการคลัง วุ่น หาช่องชงครม.ขอเว้น ยื่นภาษีเงินได้ ประชาชนที่ได้รับเงิน โครงการ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ต้องเสียภาษีเงินได้ เพราะถือเป็นรายได้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผู้บริหารของกรมสรรพากรกำลังพิจารณากรณีผู้ที่ได้รับเงินจากโครงการคนละครึ่ง จำนวน 3,000 บาท ณ สิ้นปี 2563 และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ได้รับส่วนลดค่าพักโรงแรม 40% และ คูปองค่าอาหารวันละ 600-900 บาท จะต้องคิดเป็นรายได้เพื่อยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 ที่ให้เริ่มยื่นแบบแสดงรายการภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค.2564
ขณะนี้มีผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเริ่มสอบถามเข้ามาที่กรมสรรพากรถึงความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะกังวลว่าหากไม่แจ้งรายได้ในส่วนนี้เพื่อเสียภาษีจะถูกเบี้ยปรับเงินเพิ่มย้อนหลังได้
“ผู้บริหารของกรมสรรพากรกังวลเรื่องนี้อย่างมาก เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง และได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เพราะตามหลักการแล้วรายได้จากโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ต้องยื่นแบบแสดงเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี หากเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2563 จะต้องยื่นแบบในต้นปี 2564 แต่หากเป็นรายได้ในปี 2564 เช่น คนละครึ่งเฟส 2 ที่ได้ 3,500 บาท ก็จะต้องยื่นในปี 2565” รายงานข่าว ระบุ
ทั้งนี้ ผู้บริหารของกรมสรรพากร จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับนาย
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร หากจะให้มีการยกเว้นภาษีก็ต้องมีการนำเรื่องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบโดยด่วน เพราะการยื่นภาษีเงินได้ของปี 2563 ได้เริ่มขึ้นแล้ว และมีคนที่ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 กว่า 10 ล้านคน และระยะที่ 2 อีก 5 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีกจำนวนมาก
ป้ายโผล่ กลางเมือง-ตลาดดังลำปาง ตั้งคำถาม ไม่ปิดห้าง แต่ปิดกาด พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อน
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5665003
ป้ายโผล่ กลางเมือง-ตลาดดังลำปาง ตั้งคำถามปิดตลาด แต่ไม่ปิดห้าง ชาวบ้านโพสต์ครวญ การข่าวรัฐ ทำคนตื่นกลัว ไม่เดินกาด พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อน
หลัง จ.ลำปาง มีคำสั่งจังหวัดลำปางที่ 1/2564 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคและการแพร่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 อีก 14 วัน ขยายเวลาไปตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.64 จนถึง 18 ม.ค.64
โดยสถานที่เสี่ยงที่ต้องปิด คือ 1.สนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ,2.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สนุ้กเกอร์ บิลเลียด หรือที่มีลักษณะเดียวกัน ,3.สถานบันเทิงและร้านคาราโอเกะ ,4.ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต และ 5.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้
ส่วน ตลาดคนเดิน ตลาดนัด ตลาดนัดชุมชน ให้ดำเนินการได้ เว้นแต่มีผู้ค้ามาจากพื้นที่หลายแห่ง ซึ่งไม่สามารถควบคุมถิ่นที่อยู่ได้
ในส่วนของสถานศึกษา สถาบันกวดวิชาต่างๆ ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯ สำนักพุทธฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ หากควบคุมไม่ได้ให้ผู้มีอำนาจพิจารณาปิดสถานศึกษาชั่วคราวและรายงานให้ทราบทันที
สำหรับ ศูนย์เด็กเล็กและผู้สูงอายุต่างๆให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯและ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นฯ รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งดังกล่าว ปรากฎว่าในพื้นที่มีเสียงวิพากาษ์วิจารณ์ และตั้งคำถามถึงประกาศดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
โดย เพจ
พิราบขาวเพื่อมวลชน ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า
ด่วน ! ป้ายโผล่ ณ ข่วงนครและกาดกองต้า "ปิดตลาดได้ปิดห้างไม่ได้" ประชาชนจะทำมาหากิน แต่รัฐบาลสั่งห้าม แล้วประชาชนจะดำรงชีวิตได้อย่างไร เพราะ ไวรัสระบาดได้ทุกที่ ทำไมบรรทัดฐานถึงไม่เท่าเทียมกัน
ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามถึงการข่าวของรัฐ ที่ทำให้คนไม่กล้าไปเดินตลาด สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก
https://www.facebook.com/freedomTULP/posts/228507605404051
JJNY : 4in1 งานเข้า! เงินคนละครึ่ง-เราเที่ยวฯต้องเสียภาษี/ป้ายถามไม่ปิดห้างแต่ปิดกาด/พท.เสนอ5มาตรการ/ซีฟู้ดดังประกาศปิด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5666814
กระทรวงการคลัง วุ่น หาช่องชงครม.ขอเว้น ยื่นภาษีเงินได้ ประชาชนที่ได้รับเงิน โครงการ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ต้องเสียภาษีเงินได้ เพราะถือเป็นรายได้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผู้บริหารของกรมสรรพากรกำลังพิจารณากรณีผู้ที่ได้รับเงินจากโครงการคนละครึ่ง จำนวน 3,000 บาท ณ สิ้นปี 2563 และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ได้รับส่วนลดค่าพักโรงแรม 40% และ คูปองค่าอาหารวันละ 600-900 บาท จะต้องคิดเป็นรายได้เพื่อยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 ที่ให้เริ่มยื่นแบบแสดงรายการภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค.2564
ขณะนี้มีผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเริ่มสอบถามเข้ามาที่กรมสรรพากรถึงความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะกังวลว่าหากไม่แจ้งรายได้ในส่วนนี้เพื่อเสียภาษีจะถูกเบี้ยปรับเงินเพิ่มย้อนหลังได้
“ผู้บริหารของกรมสรรพากรกังวลเรื่องนี้อย่างมาก เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง และได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เพราะตามหลักการแล้วรายได้จากโครงการคนละครึ่ง และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ต้องยื่นแบบแสดงเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี หากเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2563 จะต้องยื่นแบบในต้นปี 2564 แต่หากเป็นรายได้ในปี 2564 เช่น คนละครึ่งเฟส 2 ที่ได้ 3,500 บาท ก็จะต้องยื่นในปี 2565” รายงานข่าว ระบุ
ทั้งนี้ ผู้บริหารของกรมสรรพากร จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร หากจะให้มีการยกเว้นภาษีก็ต้องมีการนำเรื่องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบโดยด่วน เพราะการยื่นภาษีเงินได้ของปี 2563 ได้เริ่มขึ้นแล้ว และมีคนที่ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 กว่า 10 ล้านคน และระยะที่ 2 อีก 5 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีกจำนวนมาก
ป้ายโผล่ กลางเมือง-ตลาดดังลำปาง ตั้งคำถาม ไม่ปิดห้าง แต่ปิดกาด พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อน
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5665003
ป้ายโผล่ กลางเมือง-ตลาดดังลำปาง ตั้งคำถามปิดตลาด แต่ไม่ปิดห้าง ชาวบ้านโพสต์ครวญ การข่าวรัฐ ทำคนตื่นกลัว ไม่เดินกาด พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อน
หลัง จ.ลำปาง มีคำสั่งจังหวัดลำปางที่ 1/2564 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคและการแพร่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 อีก 14 วัน ขยายเวลาไปตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.64 จนถึง 18 ม.ค.64
โดยสถานที่เสี่ยงที่ต้องปิด คือ 1.สนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ,2.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สนุ้กเกอร์ บิลเลียด หรือที่มีลักษณะเดียวกัน ,3.สถานบันเทิงและร้านคาราโอเกะ ,4.ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต และ 5.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้
ส่วน ตลาดคนเดิน ตลาดนัด ตลาดนัดชุมชน ให้ดำเนินการได้ เว้นแต่มีผู้ค้ามาจากพื้นที่หลายแห่ง ซึ่งไม่สามารถควบคุมถิ่นที่อยู่ได้
ในส่วนของสถานศึกษา สถาบันกวดวิชาต่างๆ ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯ สำนักพุทธฯ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ หากควบคุมไม่ได้ให้ผู้มีอำนาจพิจารณาปิดสถานศึกษาชั่วคราวและรายงานให้ทราบทันที
สำหรับ ศูนย์เด็กเล็กและผู้สูงอายุต่างๆให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯและ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นฯ รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งดังกล่าว ปรากฎว่าในพื้นที่มีเสียงวิพากาษ์วิจารณ์ และตั้งคำถามถึงประกาศดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
โดย เพจ พิราบขาวเพื่อมวลชน ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า
ด่วน ! ป้ายโผล่ ณ ข่วงนครและกาดกองต้า "ปิดตลาดได้ปิดห้างไม่ได้" ประชาชนจะทำมาหากิน แต่รัฐบาลสั่งห้าม แล้วประชาชนจะดำรงชีวิตได้อย่างไร เพราะ ไวรัสระบาดได้ทุกที่ ทำไมบรรทัดฐานถึงไม่เท่าเทียมกัน
ขณะเดียวกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามถึงการข่าวของรัฐ ที่ทำให้คนไม่กล้าไปเดินตลาด สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก
https://www.facebook.com/freedomTULP/posts/228507605404051