ทริปตามหาลมหนาว 7 อุทยานแห่งชาติจังหวัดน่าน ฉลอง 10 ขวบน้ององุ่น (มิตรภาพเพื่อนใหม่ วันที่ 3)

เพี้ยนฮัลโหลเพี้ยนฮัลโหลเพี้ยนฮัลโหลเพี้ยนฮัลโหล
สวัสดีเรากลับมาแล้ว มาต่อวันที่สามกันเถอะ
เพี้ยนดีออกเพี้ยนดีออกเพี้ยนดีออกเพี้ยนดีออก
               เช้าวันที่ 29 เช้านี้เริ่มมีหมอกให้เห็นแล้ว แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก อุณหภูมิ ก็ยัง อยู่ที่ ยี่สิบกว่า ไม่หนาวเท่าไหร่ แค่เย็นๆ 

เพี้ยนหืมเพี้ยนหืมเพี้ยนหืมเพี้ยนหืม
               ผมก็เลยออกเดินเล่น สำรวจโลกที่อุทยานแห่งนี้ซะหน่อย ที่นี่มีกิจกรรมนอกจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีกอย่างคือ ล่องแก่ง ที่ลำน้ำว้า (ที่แม่จริมจัดอยู่ในลำน้ำว้าตอนล่าง) มีจุดถ่ายรูปที่ต้องมา คือ สะพานสลิงข้ามน้ำว้า 





เพี้ยนชอบเพี้ยนชอบเพี้ยนชอบเพี้ยนชอบ
                เช่นเคย หลังเดินสำรวจโลกแล้ว ผมก็ต้องมา ต้มน้ำชงกาแฟเพื่อชงดื่ม เมื่อคืนผมนั่งนึกดูเล่นๆว่าผมต้องต้มน้ำชงกาแฟดื่มทุกเช้า ทุกวันตลอดทริปนี้ มันก็คงเป็นเหมือนพิธีบูชายัญแสงเช้าของผม ผมเลยกำหนดว่า ทุกเช้าในทริปนี้ผมต้อง ต้มน้ำชงกาแฟ และให้มันเป็นธรรมเนียมของผมเอง เรียกมันว่า พิธีบูชายัญแสงแรกของวัน หลังจากต้มน้ำชงกาแฟดื่มด่ำกับกาแฟและบรรยากาศของผม

                เสร็จแล้วผมก็เริ่มเก็บข้าวของ เพื่อเตรียมตัวเดินทางวันนี้ต่อไป หลังเก็บของเสร็จก็ทำกิจประจำวันและเริ่มออกเดินทาง โดยปลายทางของผมวันนี้ คือ อุทยานแห่งชาติขุนน่าน ที่ อ.บ่อเกลือ ก่อนถึงปากทางเข้าหมู่บ้านสะปัน แหล่งท่องเที่ยวที่หลายๆคนชอบไป ผมออกเดินทางออกมาจากอุทยานแห่งชาติแม่จริมเพื่อไปอุทยานแห่งชาติขุนน่าน วันนี้ผมเลือกไปทางอ.สันติสุข - บ่อเกลือ เพื่อแวะจุดชมวิวทางโค้งหมายเลข 3 หลังจากตั้งเส้นทางใน GPS เสร็จก็ออกเดินทาง เส้นทางจากแม่จริมมาสันติสุข มีการซ่อมถนนเป็นบางช่วง แต่โดยส่วนใหญ่ถือว่าดี ลาดยางตลอดทาง เว้นแค่ช่วงที่ซ่อมทาง หรือ ทำทางขยายทาง จากอุทยานผมวิ่งมาจนถึงตัวอำเภอแม่จริม ก็แวะกดเงินสดติดตัว ที่ตู้ ATM และแวะเติมน้ำมัน เต็มถังอีก 70 บาท จากนั้นก็มุ่งหน้า อำเภอสันติสุข เพื่อไปทางโค้งหมายเลข 3 บ่อเกลือ จากนั้นวิ่งมาได้ถึงแถวตัวอำเภอสันติสุขก็เลยแวะพักรถ พอดีเจอร้านซ่อมมอเตอร์ไซเล็กๆ ก็เลยแวะให้ช่างที่ร้านตั้งโซ่เช็คลมยางให้ พร้อมหาข้าวกิน ตรงนี้นั่งกินข้าวเหนี่ยวไก่ย่าง กับน้ำอ้อย หมดเงินไป 65 บาท กับมื้อนี้ ส่วนค่าตั้งโซ่ที่ร้านไม่ได้คิดเงิน ก่อนมุ่งหน้า บ่อเกลือ เพื่อไปจุดชมวิว ทางโค้งหมายเลข 3 จากนั้นก็มุ่งหน้าไปตาม GPS
เพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊น

เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์
                 และแล้วผมก็มาถึงจุดชมวิวทางโค้งหมายเลข 3 จุดที่เป็นไฮไลของจังหวัดน่านอีกที่นึง แน่นอนผมก็ไม่พลาดที่จะจอดถ่ายรูป และ เก็บบรรยากาศอีกเช่นเคย ตรงนี้ผมเจอพี่ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้างทางที่เก้าอี้สนามพร้อมกล้องถ่ายรูปกับเลนส์อันโต ก็นั่งดูพี่เขาถ่ายรูปอยู่สักพักก็เลยอาศัยความหน้ามึนส่วนตัวเข้าไปถามและชวนพี่เขาพูดคุย จึงรู้ว่าพี่เขาชื่อ จ่อย เป็นช่างภาพ และ แอดมิน เพจ MotoFoto โมโตโฟโต้ แกจะมานั่งเก็บภาพบรรยากาศ ผู้คน ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ทางโค้งหมายเลข 3 หรือ เส้นเขาค้อ หรือไม่ก็ไปถ่ายภาพ บรรยากาศการแข่งขันวิ่งเทรล ตามทัวส์นาเม้นต่างๆ ใครที่เคยขับ หรือเคยขี่ผ่านไปตรงนี้แล้ววันนั้น เห็นว่ามีคนนั่งดักถ่ายรูปอยู่ คุณลองไปดูในเพจพี่เขาได้ อาจมีรูปคุณอยู่ในเพจพี่เขาก็ได้ 
รูปนี้พี่จ่อยเป็นคนถ่ายให้ตอนผมมาถึงจุดชมวิว ก่อนจะเดินไปนั่งคุยกับแก แกปรับสีนิดหน่อยแล้วให้เป็นที่ระลึกมิตรภาพที่เจอกันวันนี้




เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์เพี้ยนลาเวนเดอร์
                หลังจากนั่งพูดคุย สนทนากันอยู่พักใหญ่ ผมก็ขอตัวแยกย้ายมุ่งหน้า ตามทางผมต่อเพื่อไปปลายทาง อช.ขุนน่าน ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปมาเรื่อยๆ



เพี้ยนชอบเพี้ยนชอบเพี้ยนชอบเพี้ยนชอบ
                จนถึงบ้านบ่อหลวง ที่ บ่อเกลือ แวะวนไปขี่รถเล่น ในบ่อเกลือซักแปป ก่อนแวะมาทานข้าวและซื้อของเพิ่ม ตรงร้านใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงใกล้ทางแยกที่จะเลี้ยวไป อ.ปัว ถ้าเราวิ่งมาจาก โค้งเลข 3 หรือ ทางจาก อ.สันติสุข ผมก็แวะซื้อของเพิ่ม และทานข้าวที่ร้านตามสั่งตรงนี้อีกพักนึง หลังจากทานเสร็จผมจ่ายค่าอาหารและเสบียงที่ซื้อเพิ่มไป 178 บาท และถามหาปั้มน้ำมัน แถวนี้มีแต่เป็นปั้มหลอด ผมเลยเติมไปอีก 56 บาทเพราะที่นี้ขายลิตรล่ะ 28 บาท (แต่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงถ้าราคาน้ำมันมันขยับ ขึ้น หรือ ลงเยอะๆ แต่ปกติเฉลี่ย 28 บาท/ลิตรวันที่ผมเติม) ตอนที่ผมกำลังจะออกจากร้านพี่ผู้ชายเจ้าของร้านได้บอกว่าฝนกำลังตกบนเขาทาง อช.ดอยภูคา ถ้าฝนตกมาเรื่อยๆ ถึงทางนี้ คืนนี้ถึงพรุ่งนี้หนาวมากแน่ๆ ผมก็ยิ้มแล้วตอบไปว่า “ผมก็มาหาลมหนาวนี่แหละพี่ทริปนี้” จากนั้นผมก็ขี่รถมุ่งหน้าทางหมู่บ้านสะปัน เพราะอช.ขุนน่าน อยู่ก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 3 กิโล พอถึงอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ผมก็ติดต่อ จนท.ตรงป้อมทางเข้าอุทยาน จ่ายค่าธรรมเนียม ก็มี ค่ารถ ค่าเข้า และค่ากางเต้นท์ รวม 80 บาท จากนั้นผมก็ ขี่รถไปสำรวจหาที่เพื่อจะกางเต้นท์
                 ระหว่างที่ผมเดินสำรวจ หาที่เหมาะ ผมได้เจอ สองสามีภรรยา คู่หนึ่งที่เขากางเต้นที่นี่เหมือนกัน สามีเป็นชาวอังกฤษ และภรรยาเป็นคนไทย ชื่อพี่นิด กับ พี่พอล ก็คุยสนทนากันเล็กน้อยก่อน ผมขอตัวเพื่อไปกางเต้นท์ แล้วจะแวะมาคุยด้วยอีกครั้ง ระหว่างผมกำลังจะกางเต้นท์ ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาที่ อช.ผมก็เลยยังไม่ได้กางเต้นท์ แต่เดินไปติดต่อ จนท.ขอไปกางเต้นท์ตรงบริเวณ โรงอาหารเพราะเต้นท์ผมพื้นมันมีรูรั่ว ถ้ากางที่ลาน กลัวน้ำเข้าเต้นท์ ถึงจะมีแผ่นกราวชีทปูรองก็เถอะ จนท.ก็อนุญาต แต่แค่ให้รีบเก็บก่อนเจ็ดโมงเช้าเพื่อที่แม่บ้านจะได้เข้าทำงานได้สะดวก ผมก็รับปากและ ย้ายของเข้าไปกางเต้นท์ตรงลานข้างโต๊ะกินข้าวในโรงอาหาร เพื่อหลบฝน ฝนตกอยู่ พักหนึ่งไม่หนัก แต่ลงเม็ดนานพอทำให้ชื้น จนท.บอกคืนนี้อากาศเย็นแน่ หลังจากนั้นผมก็จัดการกางเต็นท์ เตรียมที่นอนสำหรับคืนนี้

                หลังจากจัดของเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินไปหาเพื่อนใหม่ของผมในคืนนี้ คือ พี่พอล กับ พี่นิด ก็คุยกันอยู่พักใหญ่เลย จนพอรู้ว่าพี่พอลกับพี่นิด เดิมมีกำหนดจะไปอยู่อังกฤษกันทั้งคู่ เพราะพี่พอลขอวีซ่าถาวรให้พี่นิดเรียบร้อยแล้ว แต่เจอสถานการณ์โควิดก่อน เลยทำให้แพลนต้องเปลี่ยน ก็เลยขับรถมาเที่ยวกันสองคนจากจันทรบุรีเที่ยวอุทยานมาเรื่อยๆ จนมาเจอผมที่นี่ และคุยกันจนได้นัดกันว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะขึ้นไปปาร์ตี้ชากาแฟกันที่จุดชมวิวสะปัน ด้านบนเขาหลังลานกางเต้นท์ในอุทยาน ที่มีทางขึ้นไปตามที่เจ้าหน้าที่บอกอีกประมาณ สองกิโล จากนั้นผมก็ขอตัวกลับมาทานอาหารค่ำของผม ซึ้งผมก็มานั่งดูเส้นทางของผมต่อและ ตามกำหนดการเดิมของผม พรุ่งนี้ผมจะขึ้นไปนอนลานกางเต้นท์ บ้านห้วยโทน ที่เรียกได้ว่า คือหลังคา สะปัน แต่มีเหตุให้เปลี่ยนใจเลื่อนการขึ้นไปห้วยโทนไปอีกหนึ่งคืน ผมเลยต้องปรับเส้นทางใหม่ เป็นพรุ่งนี้ไปนอนที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาขึ้นห้วยโทน และสำหรับวันนี้ สวัสดีครับ ฝันดี
สรุปค่าใช้จ่ายวันที่ 29 
ค่าอาหารทั้งหมด 243 บาท
ค่าน้ำมัน 126 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าพักอุทยาน (อช.ขุนน่าน) 80 บาท
รวม 369 บาท ระยะทาง 114 กม.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่