อะโหลๆ สวัสดี เรากลับมาแล้วจะเล่าวันที่สองต่อล่ะนะ
เช้าวันที่สอง ของการออกตามหาลมหนาว เช้าวัน เสาร์ ที่ 28 พฤศจิกายน ตื่นมาเช้านี้ กับอากาศที่ไม่หนาวมากนักอุณหภุมิที่ ยี่สิบกว่าๆ
ผมเลยเดินสำรวจที่นี้ซะหน่อย หลังนอนฟังเสี่ยงธารน้ำตกมาทั้งคืน ตรงที่นอนข้างธารน้ำตก แล้วก็เดินสำรวจน้ำตกที่นี้ซะหน่อย
พอเดินเข้ามาถึงตรงตัวบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 ก็ว้าวอยู่เล็กๆนะ เพราะตัวน้ำตกไหลออกมาจากหน้าผาตัด ลงมา ถ้าเป็นช่วงหน้าน้ำน่าจะสวยมาก แต่เรามาช่วงนี้ ก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่หน้าน้ำ น้ำเลยน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังมีน้ำอยู่ หลังจากนั้นก็เดินดูน้ำตกสักพัก
จากนั้นก็เดินกลับมาที่ตรงผมผูกเปลนอน เพื่อเตรียมอาหารเช้า และ ต้มกาแฟ เพราะ ยอมรับว่าผมเป็นคนติดกาแฟ ต้องดื่มทุกวัน และการที่ได้นั่งจิ๊บกาแฟร้อนๆ ดูแสงแดดอ่อนๆตอนเช้า กับอากาศเย็นๆ ธรรมชาติดีๆ นี้ คือ หนึ่งในความสุขของผมในแต่ล่ะวันแล้ว อย่างเช้าวันนี้ ผมได้นั่งต้มน้ำเอง ชงเองนั่งจิบกาแฟดูบรรยากาศรอบๆ แค่นี้ก็สุขแล้วสำหรับเช้านี้
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศแล้ว ผมก็เริ่มภารกิจของวันนี้ เริ่มเก็บที่นอน เก็บข้างของสัมภาระ และ ทำกิจธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางต่อวันนี้ ตามที่เลือกเส้นทางไว้เมื่อคืน หลังจากนั้นผมก็พร้อมเดินทาง ผมจึงออกมาตรงที่ทำการอุทยาน เพื่อชำระค่าธรรมเนียมกางเต้นท์เมื่อคืน และขอบัตรประชาชนคืน ค่าธรรมเนียมคือ ค่ากางเต้นท์ 30 บาท หลังจากนั้นผมก็เริ่มออกเดินทางในวันที่สอง ซึ้งวันนี้ ผมถึงจังหวัดน่านแน่นอน และอุทยานแห่งชาติที่แรกของน่านที่ผมเลือกคือ อุทยานแห่งชาติแม่จริม (ลำน้ำว้า) ไปกันเถอะ
ข้อดีของการใช้มอเตอร์ไซเล็กมา คือ ผมจอดถ่ายรูปตรงไหนก็ได้ เหมือนตรงนี้ทางสวยเลยต้องแวะ
ระหว่างทางผมผ่านหลักกิโลอันใหญ่ๆ หน้าโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ ภูขัด - ภูเมียง - ภูสอยดาว (๑) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กม. 56 และแน่นอน ต้องจอดเก็บความทรงจำกันหน่อย เหมือนที่ผมลงตอนที่มาในวันเดินทาง (ตามไปดูในเฟชบุ๊ก FB: ความสุขของพี่ กึ่ม หรือ IG: Boonguem O. Lusie ผมก็ได้) ขนาดปัจจุบันทางลาดยางกว่าจะมาได้ก็เหนื่อยพอดู แล้วสมัยก่อนล่ะ ถนนก็คงไม่ดีแบบนี้แน่ แล้วยังปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่อีก หลังถ่ายรูปนั่งพักได้สักพักก็ออกเดินทางต่อ
หลังถ่ายรูปนั่งพักได้สักพักก็ออกเดินทางต่อ มาตามทางสักพักก็เจอน้ำตกสอยดาวตรงทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ผมก็แค่แวะลงไปเดินเล่นถ่ายรูปตรงน้ำตกข้างทางขึ้นอยู่อีกสักพักแล้วค่อยออกเดินทางต่อ
จากนั้นผมมุ่งหน้ามาทาง อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ เพื่อไปจุดกางเต้นท์ ภูแลลาว ตาม GPS หนึ่งในหมายที่จะไปแวะวันนี้ พอออกจากภูสอยดาวมา ถึงแถวน้ำปาด ผมเริ่มมองหาปั้ม และร้านข้าวจนเจอร้านข้าวก่อนจึงเลี้ยวแวะทานข้าวก่อน เพราะเราสามารถถามคนในพื้นที่ในร้านได้ว่าปั้มอีกไกลไหม พอไปถึงหลังจากหาที่จอดรถได้แบบมั่งคง ก็เลยเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ เส้นมาม่าพิเศษ สองห่อ ตอนสั่งหิวมาก พอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ หน้าแทบมืด ชามเบ้อเร้อ กินเกือบไม่หมด ซึ้งร้านนี้ ผมก็ได้เจอ พี่ธันวา เพื่อนรวมโต๊ะกินก๋วยเตี๋ยวชมวิวหลักล้านด้วยกัน พี่ธันวา เป็นไกส์นำเที่ยวท้องถิ่น ทำทั่วส์ท้องถิ่นเชิงอนุรักษ์ พูดคุยกันถึงรู้ว่าวิวหลังร้านที่เรานั่งกันอยู่สวยมาก ร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนแก และมีจุดชมวิวข้างๆตรงผมนั่งกินถึงต้องกับร้องว้าววววววว
ร้านนี้ชื่อร้าน เบิ่งภู ดูดาว อยู่ริมถนนตรง บ้านห้วยมุ่น อ.น้ำปาด อุตรดิตถ์ ถ้าใครผ่านไปอย่าลืมแวะนะแค่นั่งกินกาแฟเย็นชมวิวก็ฟินแล้ว หลังกินก๋วยเตี๋ยวพูดคุยกับพี่ธันวา แกก็เลี้ยงกาแฟเย็นผมอีกแก้ว ก่อนแยกย้ายกัน ผมก็นั่งชมวิวอีกพักจึงออกเดินทางต่อ เพราะถามที่ร้านแล้วปั้มอีกไกลไหมและคำตอบ คือ ไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรเองก็ถึงปั้มแล้วเลยจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้ไป 50 บาท
และพอออกมาจากร้านมาเติมน้ำมันอีก 70 บาท เต็มถังแล้วมุงหน้าภูแลลาว ตามเส้นทางใน GPS
วิวตรงที่มองจากในปั้ม
เดี๋ยวมาต่อให้นะ
ทริปตามหาลมหนาว 7 อุทยานแห่งชาติจังหวัดน่าน ฉลอง 10 ขวบน้ององุ่น (ระหว่างทาง วันที่ 2)
จากนั้นก็เดินกลับมาที่ตรงผมผูกเปลนอน เพื่อเตรียมอาหารเช้า และ ต้มกาแฟ เพราะ ยอมรับว่าผมเป็นคนติดกาแฟ ต้องดื่มทุกวัน และการที่ได้นั่งจิ๊บกาแฟร้อนๆ ดูแสงแดดอ่อนๆตอนเช้า กับอากาศเย็นๆ ธรรมชาติดีๆ นี้ คือ หนึ่งในความสุขของผมในแต่ล่ะวันแล้ว อย่างเช้าวันนี้ ผมได้นั่งต้มน้ำเอง ชงเองนั่งจิบกาแฟดูบรรยากาศรอบๆ แค่นี้ก็สุขแล้วสำหรับเช้านี้