เนื่องจากปีนี้ พี่ COVID ตัดขาดเราออกจากโลกไม่ได้เดินทางไปไหน ช่วงคริสมาสแบบนี้เลยขอหยิบเอา 1 ในทริปความทรงจำดีๆช่วงคริสมาสในปีที่แล้วมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเชื่อว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้บนเกาะอังกฤษ(แต่จริงๆอยู่สก๊อตแลนด์) น่าจะเป็น 1 ในเมืองในฝันของหลายๆคนที่ครั้งนึงอยากจะมาสัมผัสให้ได้แน่นอน
Edinburgh เป็นเมืองหลวงของ สก๊อตแลนด์ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินจาก London ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ (อารมณ์ประมาณไปเที่ยวเชียงใหม่) ซึ่งความน่ารักของเมืองนี้คือ ความผสมผสานระหว่างความ Modern ในยุคสมับใหม้ และความ Classic ที่ยังสัมผัสกลิ่นไอของยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศก่อนเครื่องลงแตะพื้น จากรูปท้องฟ้าสีตุ่นๆในหน้าหนาว น่าจะพอสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นได้ ซึ่งอุณหภูมิในวันนั้นน่าจะประมาณ 3-4 องศาเอง
ไม่ใช่เจ้าถิ่น แต่ก็ขอแวะ Check-in กับป้ายกันหน่อย
ซึ่งจากสนามบิน เราสามารถใช้บริการรถสาธารณะ หรือ Tram เข้าสู่ตัวเมืองได้เลย สนนราคาก็ประมาณ 6 ปอนด์ต่อคน (ถ้าจำไม่ผิด) ซื้อตั้วที่เครื่องได้เลยจะจ่ายเงินสด หรือ ผ่านบัตรเครดิตก็ตามสะดวก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงในเมือง ภายในตัวรถสะอาดสะอ้านมว๊ากกก อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้างจัง
เมื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าได้ซักพัก ก็ถึงเวลาออกมาตะลุย ซึ่งในรู้นั้นน่าจะประมาณแค่ 4 โมงเยน แต่ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เพราะว่าหน้าหนาวที่นู่น เวลากลางวันจะสั้นมากก 9 โมงเข้าพึ่งจะสว่าง บ่ายๆ 3 โมงกว่าๆก็มึดอีกแล้ว ดังนั้นถ้าใครจะมาต้อง Plan Activity ช่วงกลางวันให้ดี เพราะว่าแสดงอาทิตย์มีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ซึ่งการมาของเราในครั้งนี้เราจองโรงแรมในฝั่ง New Town ตรงข้ามกับ Christmas Martket พอดิบพอดี เราไปชมบรรยากาศกัน
ด้านในก็จะประดับประดาไปด้วย ต้นไม้ แสง สี เสียง ต่างๆครบซึ่งเป็นบรรยากาศที่เราอาจจะเคยเห็นในหนังตอนเด็กๆ ซึ่งแนะนำว่าต้องมาลองสัมผัสดูครับ มันน่าสนใจจรืงๆ ในตลาดก็จะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ต่างๆ ยันไปถึงของใช้ ของตกแต่งบ้านต่างๆ ให้เราได้เดินชมกัน
อันนี้คือเมนูที่ชอบมว๊ากกกกก ไส้กรอกที่ประเทศนี้อร่อยจริงๆครับ ซัดกันไปหลายอันเลย ห้ามพลาด !!
หลังจากที่เดินชมตลาดกันจนอิ่มแล้ว เราเดินข้ามฝั่งไปอีกฝั่งนึงที่เรียกว่า Old Town ที่มี 1 ใน Tourist Attraction ที่ใครมา Edinburgh ต้องไม่พลาด นั่นก็คือ Edinburgh Castel ซึ่งความพิเศษของช่วงคริสมาสก็คือ ตัวปราสาทจะถูกประดับด้วยไฟ แสง สี เสียง จัดเต็ม อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า เมืองนี้เค้าสามารถ Blend ความทันสมัย ให้เข้ากับความ Classic ได้อย่างดีมากๆทีเดียว ลืมบอกไป จะเข้าชมข้างใน ต้องซื้อตั๋วเข้าไปนะจ๊ะ เค้าจะมีเปิดให้เข้าเป็นรอบๆด้วย เนื่องจากคนเยอะมาก
บรรยากาศด้านในก็จะถูกตกแต่งด้วยไฟสีต่างๆ ประมาณนี้ ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว สนุกสนานได้ทุกวัย
เด็กน้อยกลุ่มนี้กำลังเพลินกับการแสดงแสงไฟพร้อมเพลงประกอบ เต้นกันมันส์เลย
ปิดท้ายของวันนี้ ระหว่างเดินกลับที่พักก็ไปสะดุดเข้ากับกลุ่มนี้ ซึ่งตอนแรกก็งงกันว่าเอ๊ๆๆ เค้ากำลังประท้วงอะไรกันป่าวนะ แต่จริงๆแล้วนี่คือ Silent Disco Adventure ที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ โดยคนที่จะเข้าร่วมนั้น จะได้รับหูฟังคนละอัน ซึ่งก็จะเดินกันเป็นกลุ่มตามนี้ บางช่วงก็จะพร้อมใจกันร้องเพลง บางทีก็เต้น สลับๆกัไป ซึ่งดูแล้วก็น่าสนุก และน่าสนใจดี เสียงไม่ดังรบกวนคนอื่นด้วย สนนราคาในการเข้าร่วมขบวนก็ประมาณ 15 ปอนด์ได้
ก่อนจากกัน ขอลาไปด้วยภาพบรรยากาศระหว่างเดินทางกลับที่พัก ไว้ตอนหน้าจะมา พาไปเที่ยวนอกเมืองแถบ Highland กันบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน
: บิน-กิน-เที่ยว :
:-บิน กิน เที่ยว-: Christmas Market @ Edinburgh
Edinburgh เป็นเมืองหลวงของ สก๊อตแลนด์ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินจาก London ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ (อารมณ์ประมาณไปเที่ยวเชียงใหม่) ซึ่งความน่ารักของเมืองนี้คือ ความผสมผสานระหว่างความ Modern ในยุคสมับใหม้ และความ Classic ที่ยังสัมผัสกลิ่นไอของยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศก่อนเครื่องลงแตะพื้น จากรูปท้องฟ้าสีตุ่นๆในหน้าหนาว น่าจะพอสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นได้ ซึ่งอุณหภูมิในวันนั้นน่าจะประมาณ 3-4 องศาเอง
ไม่ใช่เจ้าถิ่น แต่ก็ขอแวะ Check-in กับป้ายกันหน่อย
ซึ่งจากสนามบิน เราสามารถใช้บริการรถสาธารณะ หรือ Tram เข้าสู่ตัวเมืองได้เลย สนนราคาก็ประมาณ 6 ปอนด์ต่อคน (ถ้าจำไม่ผิด) ซื้อตั้วที่เครื่องได้เลยจะจ่ายเงินสด หรือ ผ่านบัตรเครดิตก็ตามสะดวก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงในเมือง ภายในตัวรถสะอาดสะอ้านมว๊ากกก อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้างจัง
เมื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าได้ซักพัก ก็ถึงเวลาออกมาตะลุย ซึ่งในรู้นั้นน่าจะประมาณแค่ 4 โมงเยน แต่ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เพราะว่าหน้าหนาวที่นู่น เวลากลางวันจะสั้นมากก 9 โมงเข้าพึ่งจะสว่าง บ่ายๆ 3 โมงกว่าๆก็มึดอีกแล้ว ดังนั้นถ้าใครจะมาต้อง Plan Activity ช่วงกลางวันให้ดี เพราะว่าแสดงอาทิตย์มีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัด ซึ่งการมาของเราในครั้งนี้เราจองโรงแรมในฝั่ง New Town ตรงข้ามกับ Christmas Martket พอดิบพอดี เราไปชมบรรยากาศกัน
ด้านในก็จะประดับประดาไปด้วย ต้นไม้ แสง สี เสียง ต่างๆครบซึ่งเป็นบรรยากาศที่เราอาจจะเคยเห็นในหนังตอนเด็กๆ ซึ่งแนะนำว่าต้องมาลองสัมผัสดูครับ มันน่าสนใจจรืงๆ ในตลาดก็จะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ต่างๆ ยันไปถึงของใช้ ของตกแต่งบ้านต่างๆ ให้เราได้เดินชมกัน
อันนี้คือเมนูที่ชอบมว๊ากกกกก ไส้กรอกที่ประเทศนี้อร่อยจริงๆครับ ซัดกันไปหลายอันเลย ห้ามพลาด !!
หลังจากที่เดินชมตลาดกันจนอิ่มแล้ว เราเดินข้ามฝั่งไปอีกฝั่งนึงที่เรียกว่า Old Town ที่มี 1 ใน Tourist Attraction ที่ใครมา Edinburgh ต้องไม่พลาด นั่นก็คือ Edinburgh Castel ซึ่งความพิเศษของช่วงคริสมาสก็คือ ตัวปราสาทจะถูกประดับด้วยไฟ แสง สี เสียง จัดเต็ม อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า เมืองนี้เค้าสามารถ Blend ความทันสมัย ให้เข้ากับความ Classic ได้อย่างดีมากๆทีเดียว ลืมบอกไป จะเข้าชมข้างใน ต้องซื้อตั๋วเข้าไปนะจ๊ะ เค้าจะมีเปิดให้เข้าเป็นรอบๆด้วย เนื่องจากคนเยอะมาก
บรรยากาศด้านในก็จะถูกตกแต่งด้วยไฟสีต่างๆ ประมาณนี้ ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว สนุกสนานได้ทุกวัย
เด็กน้อยกลุ่มนี้กำลังเพลินกับการแสดงแสงไฟพร้อมเพลงประกอบ เต้นกันมันส์เลย
ปิดท้ายของวันนี้ ระหว่างเดินกลับที่พักก็ไปสะดุดเข้ากับกลุ่มนี้ ซึ่งตอนแรกก็งงกันว่าเอ๊ๆๆ เค้ากำลังประท้วงอะไรกันป่าวนะ แต่จริงๆแล้วนี่คือ Silent Disco Adventure ที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ โดยคนที่จะเข้าร่วมนั้น จะได้รับหูฟังคนละอัน ซึ่งก็จะเดินกันเป็นกลุ่มตามนี้ บางช่วงก็จะพร้อมใจกันร้องเพลง บางทีก็เต้น สลับๆกัไป ซึ่งดูแล้วก็น่าสนุก และน่าสนใจดี เสียงไม่ดังรบกวนคนอื่นด้วย สนนราคาในการเข้าร่วมขบวนก็ประมาณ 15 ปอนด์ได้
ก่อนจากกัน ขอลาไปด้วยภาพบรรยากาศระหว่างเดินทางกลับที่พัก ไว้ตอนหน้าจะมา พาไปเที่ยวนอกเมืองแถบ Highland กันบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน
: บิน-กิน-เที่ยว :