ฮัลโหลว เดือนธันวาคม
ปีนี้เวลาผ่านไปไวมาก โควิดทำชีวิตเราเปลี่ยนไปจริงๆ
ยิ่งอายุปีนี้ขึ้นเลข3แล้ว วิธีการแต่งหน้า/การบำรุงผิวดูแลตัวเองก็ต้องเปลี่ยนไป
อย่างแรกเลยคือ อายุขึ้นเลข 3 เปลี่ยนจากคนหน้ามันเป็นคนหน้าแห้ง!
ทุกสิ่งที่มีคำว่า ควบคุมความมัน ถูกกำจัดออกไปจากชั้นวางสกินแคร์
มาดูกันเลยว่าเราใช้อะไรแล้วชอบที่สุดในปีนี้บ้าง
https://daisy.jeban.com/playlist/51
กดลิงค์นี้ได้ถ้าชอบอ่านแบบสั้นๆ
มาเริ่มที่สกินแคร์
Toner : Lancome Tonique comfort
ตัวนี้เพิ่งมาชอบปีนี้ เพราะหน้าแห้งกระทันหัน หันไปเจอตัวนี้กะว่าใช้แก้ขัด อ่าวสรุปดีเฉยเลย
Pre serum : Sulwhasoo First care/Lancome Advanced genifique
SWS ใช้มาไม่นับขวดแล้ว ปีนี้แอบนอกใจไปหาลังโคมนิดนึง แต่ยังชอบ sws มากกว่า เพราะ Lancome มีซิลิโคน ถ้าวันไหนอยากลงวิตซี มันจะ ball up เป็นขุย ฉะนั้นต้องตั้งสติ
eye cream : Vichy
เอาจริงๆทาไปงั้นๆล่ะ เอาความชุ่มชื้นอย่างเดียว มันไม่เห็นผลใดๆเลย
Serum : Dermartlogy Ageless gen1ใครตามมาดามเกรียนคงรู้จักดี ไอเท็มแรกของการเสริมชั้นผิว ใช้มา3ขวดแล้ว รู้สึกได้ว่าผดแพ้ต่างๆไม่ค่อยขึ้นละ ยังไม่เคยใช้สูตร2 เลยบอกไม่ได้ว่าต่างกันยังไง
Whitening : Panpuri lotus defense/Dr.Barbara Sturm Brightening serum
ยังคงบ้าความขาวสว่างกระจ่างใส ใช้สองตัวนี้สลับกัน คิดว่า maintain ได้ดี
Booster : DDC skin booster(N/A)/Dr.Barbara Sturm Anti pollution drop
ช่วงครึ่งปีหลังบ้าการทำ cocktail skincare คือหยดนู่นนี่นั่นผสมกัน DDC นี่ตามมาจากบล็อกพี่มดCinnamongal ฟีลว่าอยากหาอะไรทาเพิ่มที่เนื้อไม่หนักไป เอาไปผสมๆกับอย่างอื่นได้ เลยสั่งมาลองดู มี HA ,B3 คือโอเคละ รอยสิวดูจางๆค่ะ ส่วนของคุณหมอ Sturm เอาไว้ป้องกันการแพ้หน้ากากอนามัย ไม่รู้มันออกฤทธิ์ยังไง แต่ใช้แล้ว สุดแนวที่หน้ากากเสียดสีไม่ค่อยขึ้นเเฮะ
Moisture : Skyn iceland cooling daily lotion
ตัวนี้เย็นๆ เบาๆ ทาแล้วได้กลิ่นลูกอมมายมิ้น 555
Sunscreen : COFFRET D'OR Makeup Base UV 02
ตัวนี้ขุดเจอในกรุ เลยงัดมาใช้ ทาเดี่ยวๆก้อรอด ตบคุชชั่นต่อก้อรอด
Secret weapon : Dr.Barbara Sturm glow drop
เคล็ดลับความหน้าใสอมชมพูสุขภาพดี
Face scrub&peeling : Hanyul red bean peeling(N/A)/The Ordinary AHA30%+BHA2% Peeling solution/Dr.Dennis Gross Alpha Beta Extra Strength Daily peel
เค้าบอกว่าเราควรผลัดผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จัดไปค่ะ
face mask : Beauty Diary white/black pearl whitening mask
บอกแล้วว่าชอบความสว่างกระจ่างใส ตัวนี้คือที่1ในใจ ในราคาที่เรารับได้ถ้าต้องใช้ต่อเนื่อง สีขาว/ดำไม่มีผล เพราะผลลัพธ์เท่ากัน
Acne : Benzac 5%/111skin anti blemish line
เบนแซคไม่ต้องพูดกันอ่ะเนอะ ส่วน 111skin นี้เอาไว้ผสมในcocktail ตอนสิวบุก กลิ่นจะออกแนวน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ทาแล้วไม่แสบสิว แต่สิวยุบ อเมซิ่งสุด ตัวmask เค้าก้อดี เอาไว้ใช้เวลาสิวบุกพร้อมกันหลายเม็ด
Calming : Dr.Barbara Sturm Calming Serum
สำหรับวันที่ผิวแดง เห่อ แพ้อะไรมา โบกตัวนี้ค่ะ ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีเลย
สำหรับยุคโควิด จุดประสงค์หลักในการแต่งหน้า คือ รองพื้นและลิปสติกไม่ติดแมส
เคยทำกระทู้ลิปไม่ติดแมสไปแล้วน้า กดดูได้เลยจ้า
https://www.jeban.com/topic/298158
Primer : The Primer Kanebo
ทุกคนนน ตัวนี้เพิ่งมาพบกันได้สองเดือน แต่ขึ้นแท่นไปแล้ว มัดความทุกที่สุดทุกอย่างเข้าด้วยกัน ราคาก้อแรงเช่นกัน แต่ยอม
Foundation : Koh Gen Do Maifanshi Moisture Foundation
ตัวนี้มีนานแล้ว ขุดกรุมาเช่นกัน หน้าแห้งง่ะ ใช้พวกคุมมันต่างๆไม่ได้เลย ตัวนี้เนื้อมา แต่เนียน ผิวสวยมากๆๆๆๆๆ
Cushion : Hera black
ตัวนี้ฮิตกันมาตั้งแต่ต้นๆปี ไม่มีได้ไง คุชชั่นไม่ติดแมสที่แท้ทรู
Loose Powder : Chanel Poudre Universelle Libre
วนกลับมาหาน้องเค้าอีกครั้ง แต่รอบนี้ใช้แปรงแตะนิดเดียวแล้ววนๆ เมื่อก่อนใช้พัฟคิดว่าหน้าหนาไปหน่อย
Press powder : Charlotte Tilsbury Air Brush Flawless Finish
ปรงแตะนิดเดียววนๆก้อสวยแล้ว อยากจะพกไปเติมแต่ตลับน้องแอบบอบบางเหลือเกิน แปรงก้อต้องพกแยก เนี่ยยยยยยย
Eyebrow : Excel powder and pencil eyebrow ex/ Canmake coloring eyebrow
Excel คือดินสอสามตอน ของดีไม่ต้องพูดกันเยอะเนอะ 555 ราคาที่cosme ไทยแรงมากแม่ ดีนะตุนไว้เยอะ
canmake ไปขุดกรุมาตอนอยากปัดคิ้วตั้งๆ ซึ่งขนคิ้วไม่เคยให้ความร่วมมือใดๆ 555 แต่ย้อมขนคิ้วได้ดีเลยแหละ

Concealer : Hourglass
ดีแบบไม่มีอะไรมาเทียบได้ แค่เลือกสีให้ถูก อย่าเชื่อบีเอมาก 555
ปกปิด ติดทน ลงใต้ตาไม่แห้ง/แตก
Undereye powder : ByTerry Hyaluronic hydra powder
เอามาเซ็ตใต้ตา เนื้อนุ่ม ลื่นนนนนนน ตัวช่วยไม่ให้คอนซีลเลอร์แคร๊กระหว่างวัน
Eyeshadow : JSM colorpiece eyeshadow Prism/Nude
Nude เรามีครบทุกสีอ่ะ เหมาะกับคนขี้เกียจแต่งตาอย่างเรามาก เอานิ้วป้ายๆยังสวย
Eyeliner :
ODBO นี่คือถูกและดีที่แท้ทรู ค้นพบมาจากการไปเรียนแต่งหน้าเจ้าสาว และครูแนะนำสิ่งนี้มา ชอบมาก ติดทน ไม่แพนด้า เขียนอินเนอร์ได้ทั้งตาเลย เนื้อไม่แข็งไปด้วย ไม่ต้องเหลา
Tarte คือดินสอสีเนื้อ ที่เอาไว้เขียนขอบตาล่าง ทำให้ดูแบ๊ว เคล็ดลับเราเลย
Browit นี่โดนตกมาคลิปน้องฉัตร พบว่ามันดีมาก ด้านที่เป็นชิมมเมอร์ก้อสวย แต่เนื้อหนึบไปนิดนึง ทาต้องลงแบบฝุ่นทับ แต่ด้านไลเนอร์สีน้ำตาลคือดี เราเลิกเขียนสีดำไปเลย คือลงอินเนอร์สีดำ แล้ววาดสีน้ำตาลทับ ตาจะละมุนกว่า
Mascara : Merrezca Pro Mascara/Lancome Gradiose
ต้นปีชอบLash paradise แต่กลางปีมาพ่ายแพ้สองตัวนี้ คอมโบ้ที่เริ่ดมาก
ปัดเมอเรซก้าก่อนเป็นฐาน เพิ่มคสามหนาได้มาก ยาวได้นิดหน่อย จากนั้นปัดลังโคมทับเพื่อช่วยความยาว และติดทน
Eyelash Curler : Surratt Relevee Lash Curler
เมื่อก่อนเคยรักใครไม่สนใจ now and ever คือ ซูแรต เท่านั้น ถ่างได้กว่างกว่าทุกตัวที่เคยใช้มา เก็บขนตาได้หมด หัวจรดท้าย
ไม่ชอบแค่มันสีดำด้าน พอดำ มันจะมองไม่เห็นชัดว่าขนตาเข้ามาลึกหรือยัง แล้วมาวัสดุเนื้อด้าน แล้วมือเราเลอะไปจับ มันเห็นชัด ต้องขยันเช็ดบ่อยๆ 555
Blush on :
Clinique cheek pop
ชอบทุกสี มีเกือบครบแหละเอาจริงๆ สีมันดูเบาๆ แต่บิ้วได้ แล้วติดทนด้วย
ชอบสุดคือ melon pop
Iconic london sheer blush
บลัชครีมที่ชอบที่สุดในปีนี้ สีบางๆ ใช้นิดเดียวแต่ติดทนมากๆๆๆๆๆๆ สีที่ชอบคือ fearless flush ชมพูอมม่วง ทาแล้วดูสุขภาพดี
Bronzer : Chanel - Soleil Tan De Chanel
ทุกคนรู้จักแหละเนอะ ปีนี้หันมาบ้าเนื้อครีม เพราะมันลงแล้วเกลี่ยได้จนกว่าจะพอใจ พอลงแบบฝุ่นบางทีมันพลาดแล้วแก้ยาก
Hi-light : Hourglass Diffused
ตัวนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเนอะ บางคนลงทั้งหน้า แต่เราว่ามากไป 555 เอามาลงแค่จุดแสงตกกระทบพอ ไหนๆปีนี้ไม่ได้แต่งหน้าจัดๆอยู่แล้ว เอาลุคธรรมชาติก้อตัวนี้แหละค่ะ
Lip : Clarins water lip tint
ตัวชนะเลิศจากกระทู้ทดสอบของเรา ทาเป็นเบสแล้วลงสีอื่นทับก้อได้ หรือทาเดี่ยวๆก้อได้เช่นกัน เลิศ ของมันต้องมี
Setting Spray : D Program allerbarrier mist
ทำให้เครื่องสำอางติดทน แถมปกป้องผิวจากมลภาวะได้ด้วย
A Year 2020 review เมคอัพ+สกินแคร์ ในดวงใจ
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะปีนี้เวลาผ่านไปไวมาก โควิดทำชีวิตเราเปลี่ยนไปจริงๆ
ยิ่งอายุปีนี้ขึ้นเลข3แล้ว วิธีการแต่งหน้า/การบำรุงผิวดูแลตัวเองก็ต้องเปลี่ยนไป
อย่างแรกเลยคือ อายุขึ้นเลข 3 เปลี่ยนจากคนหน้ามันเป็นคนหน้าแห้ง!
ทุกสิ่งที่มีคำว่า ควบคุมความมัน ถูกกำจัดออกไปจากชั้นวางสกินแคร์
มาดูกันเลยว่าเราใช้อะไรแล้วชอบที่สุดในปีนี้บ้าง
https://daisy.jeban.com/playlist/51
กดลิงค์นี้ได้ถ้าชอบอ่านแบบสั้นๆ
มาเริ่มที่สกินแคร์
Toner : Lancome Tonique comfort
ตัวนี้เพิ่งมาชอบปีนี้ เพราะหน้าแห้งกระทันหัน หันไปเจอตัวนี้กะว่าใช้แก้ขัด อ่าวสรุปดีเฉยเลย
Pre serum : Sulwhasoo First care/Lancome Advanced genifique
SWS ใช้มาไม่นับขวดแล้ว ปีนี้แอบนอกใจไปหาลังโคมนิดนึง แต่ยังชอบ sws มากกว่า เพราะ Lancome มีซิลิโคน ถ้าวันไหนอยากลงวิตซี มันจะ ball up เป็นขุย ฉะนั้นต้องตั้งสติ
eye cream : Vichy
เอาจริงๆทาไปงั้นๆล่ะ เอาความชุ่มชื้นอย่างเดียว มันไม่เห็นผลใดๆเลย
Serum : Dermartlogy Ageless gen1ใครตามมาดามเกรียนคงรู้จักดี ไอเท็มแรกของการเสริมชั้นผิว ใช้มา3ขวดแล้ว รู้สึกได้ว่าผดแพ้ต่างๆไม่ค่อยขึ้นละ ยังไม่เคยใช้สูตร2 เลยบอกไม่ได้ว่าต่างกันยังไง
Whitening : Panpuri lotus defense/Dr.Barbara Sturm Brightening serum
ยังคงบ้าความขาวสว่างกระจ่างใส ใช้สองตัวนี้สลับกัน คิดว่า maintain ได้ดี
Booster : DDC skin booster(N/A)/Dr.Barbara Sturm Anti pollution drop
ช่วงครึ่งปีหลังบ้าการทำ cocktail skincare คือหยดนู่นนี่นั่นผสมกัน DDC นี่ตามมาจากบล็อกพี่มดCinnamongal ฟีลว่าอยากหาอะไรทาเพิ่มที่เนื้อไม่หนักไป เอาไปผสมๆกับอย่างอื่นได้ เลยสั่งมาลองดู มี HA ,B3 คือโอเคละ รอยสิวดูจางๆค่ะ ส่วนของคุณหมอ Sturm เอาไว้ป้องกันการแพ้หน้ากากอนามัย ไม่รู้มันออกฤทธิ์ยังไง แต่ใช้แล้ว สุดแนวที่หน้ากากเสียดสีไม่ค่อยขึ้นเเฮะ
Moisture : Skyn iceland cooling daily lotion
ตัวนี้เย็นๆ เบาๆ ทาแล้วได้กลิ่นลูกอมมายมิ้น 555
Sunscreen : COFFRET D'OR Makeup Base UV 02
ตัวนี้ขุดเจอในกรุ เลยงัดมาใช้ ทาเดี่ยวๆก้อรอด ตบคุชชั่นต่อก้อรอด
Secret weapon : Dr.Barbara Sturm glow drop
เคล็ดลับความหน้าใสอมชมพูสุขภาพดี
Face scrub&peeling : Hanyul red bean peeling(N/A)/The Ordinary AHA30%+BHA2% Peeling solution/Dr.Dennis Gross Alpha Beta Extra Strength Daily peel
เค้าบอกว่าเราควรผลัดผิวอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จัดไปค่ะ
face mask : Beauty Diary white/black pearl whitening mask
บอกแล้วว่าชอบความสว่างกระจ่างใส ตัวนี้คือที่1ในใจ ในราคาที่เรารับได้ถ้าต้องใช้ต่อเนื่อง สีขาว/ดำไม่มีผล เพราะผลลัพธ์เท่ากัน
Acne : Benzac 5%/111skin anti blemish line
เบนแซคไม่ต้องพูดกันอ่ะเนอะ ส่วน 111skin นี้เอาไว้ผสมในcocktail ตอนสิวบุก กลิ่นจะออกแนวน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ทาแล้วไม่แสบสิว แต่สิวยุบ อเมซิ่งสุด ตัวmask เค้าก้อดี เอาไว้ใช้เวลาสิวบุกพร้อมกันหลายเม็ด
Calming : Dr.Barbara Sturm Calming Serum
สำหรับวันที่ผิวแดง เห่อ แพ้อะไรมา โบกตัวนี้ค่ะ ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีเลย
สำหรับยุคโควิด จุดประสงค์หลักในการแต่งหน้า คือ รองพื้นและลิปสติกไม่ติดแมส
เคยทำกระทู้ลิปไม่ติดแมสไปแล้วน้า กดดูได้เลยจ้า https://www.jeban.com/topic/298158
Primer : The Primer Kanebo
ทุกคนนน ตัวนี้เพิ่งมาพบกันได้สองเดือน แต่ขึ้นแท่นไปแล้ว มัดความทุกที่สุดทุกอย่างเข้าด้วยกัน ราคาก้อแรงเช่นกัน แต่ยอม
Foundation : Koh Gen Do Maifanshi Moisture Foundation
ตัวนี้มีนานแล้ว ขุดกรุมาเช่นกัน หน้าแห้งง่ะ ใช้พวกคุมมันต่างๆไม่ได้เลย ตัวนี้เนื้อมา แต่เนียน ผิวสวยมากๆๆๆๆๆ
Cushion : Hera black
ตัวนี้ฮิตกันมาตั้งแต่ต้นๆปี ไม่มีได้ไง คุชชั่นไม่ติดแมสที่แท้ทรู
Loose Powder : Chanel Poudre Universelle Libre
วนกลับมาหาน้องเค้าอีกครั้ง แต่รอบนี้ใช้แปรงแตะนิดเดียวแล้ววนๆ เมื่อก่อนใช้พัฟคิดว่าหน้าหนาไปหน่อย
Press powder : Charlotte Tilsbury Air Brush Flawless Finish
ปรงแตะนิดเดียววนๆก้อสวยแล้ว อยากจะพกไปเติมแต่ตลับน้องแอบบอบบางเหลือเกิน แปรงก้อต้องพกแยก เนี่ยยยยยยย
Eyebrow : Excel powder and pencil eyebrow ex/ Canmake coloring eyebrow
Excel คือดินสอสามตอน ของดีไม่ต้องพูดกันเยอะเนอะ 555 ราคาที่cosme ไทยแรงมากแม่ ดีนะตุนไว้เยอะ
canmake ไปขุดกรุมาตอนอยากปัดคิ้วตั้งๆ ซึ่งขนคิ้วไม่เคยให้ความร่วมมือใดๆ 555 แต่ย้อมขนคิ้วได้ดีเลยแหละ
Concealer : Hourglass
ดีแบบไม่มีอะไรมาเทียบได้ แค่เลือกสีให้ถูก อย่าเชื่อบีเอมาก 555
ปกปิด ติดทน ลงใต้ตาไม่แห้ง/แตก
Undereye powder : ByTerry Hyaluronic hydra powder
เอามาเซ็ตใต้ตา เนื้อนุ่ม ลื่นนนนนนน ตัวช่วยไม่ให้คอนซีลเลอร์แคร๊กระหว่างวัน
Eyeshadow : JSM colorpiece eyeshadow Prism/Nude
Nude เรามีครบทุกสีอ่ะ เหมาะกับคนขี้เกียจแต่งตาอย่างเรามาก เอานิ้วป้ายๆยังสวย
Eyeliner :
ODBO นี่คือถูกและดีที่แท้ทรู ค้นพบมาจากการไปเรียนแต่งหน้าเจ้าสาว และครูแนะนำสิ่งนี้มา ชอบมาก ติดทน ไม่แพนด้า เขียนอินเนอร์ได้ทั้งตาเลย เนื้อไม่แข็งไปด้วย ไม่ต้องเหลา
Tarte คือดินสอสีเนื้อ ที่เอาไว้เขียนขอบตาล่าง ทำให้ดูแบ๊ว เคล็ดลับเราเลย
Browit นี่โดนตกมาคลิปน้องฉัตร พบว่ามันดีมาก ด้านที่เป็นชิมมเมอร์ก้อสวย แต่เนื้อหนึบไปนิดนึง ทาต้องลงแบบฝุ่นทับ แต่ด้านไลเนอร์สีน้ำตาลคือดี เราเลิกเขียนสีดำไปเลย คือลงอินเนอร์สีดำ แล้ววาดสีน้ำตาลทับ ตาจะละมุนกว่า
Mascara : Merrezca Pro Mascara/Lancome Gradiose
ต้นปีชอบLash paradise แต่กลางปีมาพ่ายแพ้สองตัวนี้ คอมโบ้ที่เริ่ดมาก
ปัดเมอเรซก้าก่อนเป็นฐาน เพิ่มคสามหนาได้มาก ยาวได้นิดหน่อย จากนั้นปัดลังโคมทับเพื่อช่วยความยาว และติดทน
Eyelash Curler : Surratt Relevee Lash Curler
เมื่อก่อนเคยรักใครไม่สนใจ now and ever คือ ซูแรต เท่านั้น ถ่างได้กว่างกว่าทุกตัวที่เคยใช้มา เก็บขนตาได้หมด หัวจรดท้าย
ไม่ชอบแค่มันสีดำด้าน พอดำ มันจะมองไม่เห็นชัดว่าขนตาเข้ามาลึกหรือยัง แล้วมาวัสดุเนื้อด้าน แล้วมือเราเลอะไปจับ มันเห็นชัด ต้องขยันเช็ดบ่อยๆ 555
Blush on :
Clinique cheek pop
ชอบทุกสี มีเกือบครบแหละเอาจริงๆ สีมันดูเบาๆ แต่บิ้วได้ แล้วติดทนด้วย
ชอบสุดคือ melon pop
Iconic london sheer blush
บลัชครีมที่ชอบที่สุดในปีนี้ สีบางๆ ใช้นิดเดียวแต่ติดทนมากๆๆๆๆๆๆ สีที่ชอบคือ fearless flush ชมพูอมม่วง ทาแล้วดูสุขภาพดี
Bronzer : Chanel - Soleil Tan De Chanel
ทุกคนรู้จักแหละเนอะ ปีนี้หันมาบ้าเนื้อครีม เพราะมันลงแล้วเกลี่ยได้จนกว่าจะพอใจ พอลงแบบฝุ่นบางทีมันพลาดแล้วแก้ยาก
Hi-light : Hourglass Diffused
ตัวนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเนอะ บางคนลงทั้งหน้า แต่เราว่ามากไป 555 เอามาลงแค่จุดแสงตกกระทบพอ ไหนๆปีนี้ไม่ได้แต่งหน้าจัดๆอยู่แล้ว เอาลุคธรรมชาติก้อตัวนี้แหละค่ะ
Lip : Clarins water lip tint
ตัวชนะเลิศจากกระทู้ทดสอบของเรา ทาเป็นเบสแล้วลงสีอื่นทับก้อได้ หรือทาเดี่ยวๆก้อได้เช่นกัน เลิศ ของมันต้องมี
Setting Spray : D Program allerbarrier mist
ทำให้เครื่องสำอางติดทน แถมปกป้องผิวจากมลภาวะได้ด้วย