หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
สินธร
รัชดา
ชายคา
สีลม
สวนลุมพินี
ซิลิคอนวัลเลย์
เฉลิมไทย
ชานเรือน
สยามสแควร์
ดิโอลด์สยาม
ห้องสมุด
โต๊ะเครื่องแป้ง
กล้อง
เฉลิมกรุง
พันทิป
ไร้สังกัด
มาบุญครอง
หอศิลป์
กรีนโซน
บางขุนพรหม
ก้นครัว
แกลเลอรี่
ไกลบ้าน
จตุจักร
ถนนนักเขียน
บลูแพลนเน็ต
ภูมิภาค
ราชดำเนิน
ศาลาประชาคม
ศาสนา
ศุภชลาศัย
หว้ากอ
การ์ตูน
บางรัก
พรหมชาติ
กรุงโซล
แก็ดเจ็ต
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว"เนื้อเนย"ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง-ซีฟู๊ดกระทะร้อน แค่ 199 ฿ทานได้ 7 ชั่วโมงเต็ม ในซอยรามอินทรา 40
กระทู้รีวิว
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารปิ้งย่าง
ชาบู/สุกี้ยากี้
ร้านอาหาร
วันนี้ผมแวะมาหาหลานสาวที่บ้านคุณแม่ย่านรามอินทราพี่สาวผมเลยชวนมาทานเนื้อย่างกระทะร้อนบุฟเฟ่ต์เจ้าเปิดใหม่อยู่ในซอยรามอินทรา 40 ใกล้ๆบ้านชื่อว่า "เนื้อเนย" ราคาเพียงคนละ 199 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟีลอีก 39 บาท) นั่งทานได้ไม่จำกัดเวลาตั้งแต่ 16.30-23.30 น. หรือ 7 ชั่วโมงเต็มๆ ที่สำคัญสุดเลยคือหลานสาวผมนั้นทานยากมากๆแต่เมนูโปรดที่สุดคือกุ้งกับไอศครีม (พี่สาวผมบอกว่าพามาทานทีไรก็เจริญอาหารทุกที) อีกทั้งบุฟเฟ่ต์ตั้งราคาถูกขนาดนี้ยังใช้ส่วนลดคนละครึ่งได้สูงสุด 150 บาทต่อคน นั่นเท่ากับว่าบุฟเฟ่ต์มื้อนี้รวมค่าน้ำรีฟิลจ่ายแค่ 88 บาทต่อคนเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆแต่จะมีวัตถุดิบให้ทานเยอะขนาดไหนเดี๋ยวเราต้องมาดูที่ร้านกันครับ วิธีการเดินทางมาที่ร้านหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวด้านหลังร้านมีลานจอดรถขนาดใหญ่ให้บริการ แต่ถ้าหากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะขึ้น BTS ลงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุแล้วเรียกรถตู้หรือรถประจำทางไปมีนบุรีมาลงหน้าป้ายรถเมล์ปากซอยรามอินทรา 65 แล้วเดินข้าวสะพานลอยมาก่อนจะเรียกรถเข้าไปที่ร้านตาม Google Maps หรือมาด้วยรถตู้ประจำทางขึ้นทางด่วนที่อนุสาวรีย์ชัยมาลงป้ายรถเมล์ที่เดียวกันก็ได้ หรือเรียกรถผ่านแอป/โบก Taxi มาที่ร้านเลยรวดเดียวก็สะดวกสุดๆขึ้นอยู่กับงบในการเดินทาง ส่วนพวกเราพากันเดินมาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วครับ
บรรยากาศภายในร้านก็เหมือนกับร้านย่างเนยทั่วไปแต่มีความโปร่งโล่งสบายและอากาศถ่ายเทมากกว่า พื้นเป็นปูนเปลือยขัดมัน/โต๊ะ-เก้าอี้ทำจากไม้ไม่มีโครงเหล็กแต่ก็แข็งแรงนั่งสบายๆ มาถึงน้องพนักงานถามเลยว่าจะรับเป็นเตาย่างเนยหรือจิ้มจุ่ม (มา 4 คนขึ้นไปฟรีอีกเตามูลค่า 50 บาท) แต่วันนี้ผมมากันผู้ใหญ่ 3 เด็ก 1 ก็เลยเพิ่มเงินเป็น 2 เตาเพราะเด็กน้อยกลัวน้ำมันกระเด็น พร้อมกับอธิบายวิธีการตักอาหารและสั่งเมนูเนื้อพิเศษอย่างละเอียดเพราะที่ร้านนี้ไม่มีใบสั่งอาหารไว้ที่โต๊ะ (ใช้บริการตัวเองเกือบ 100%) พอน้องพนักงานอธิบายเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้เราเดินไปตักวัตถุดิบเองที่ห้องแอร์ติดกระจกดูสะอาดดี มีอะไรให้ทานบ้างเราไปดูในไลน์อาหารของที่ร้านพร้อมกันครับ
ก่อนอื่นเดินเข้าประตูบานเลื่อนมาก็จะพบกับจาน/ตะกร้าใส่ผัก/ถ้วยน้ำจิ้ม/ช้อนสั้น/ตะเกียบและที่สำคัญก็คือมีถุงมือพลาสติกเอาใจสายแกะกุ้งด้วย ติดกันเป็นบาร์น้ำมีตั้งแต่น้ำเปล่า-น้ำผลไม้ไปจนถึงน้ำอัดลมพร้อมถังน้ำแข็งขนาดใหญ่และแก้วพลาสติกที่เราสามารถกดน้ำแบบบริการตัวเองจะกี่แก้วก็ได้ไม่ต้องกลัวตกแตกในราคา 39 บาท
โซนแรกเป็นน้ำจิ้มที่ร้านมีให้ทานทั้งหมด 4 สูตรคือ น้ำจิ้มเนื้อเนย (สูตรพิเศษที่ไม่เหมือนใครของทางร้าน) / น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มสุกี้และน้ำจิ้มซีฟู๊ดพร้อมพริกสดกับกระเทียมสับให้เติมความเผ็ดแซ่บได้ตามใจ ต่อกันด้วยอาหารทานเล่นที่มีให้บริการทั้งหมด 12 เมนูคือ หมูมะนาว/ยำหมูยอ/ปลาไข่ทอด/ไส้กรอกอีสาน/หมูยอทอด/นักเก็ตทอด/จ๊อปู /เกี๊ยวซ่า/เฟรนซ์ฟรายส์/ปอเปี๊ยะทอด/ไก่ทอดและเนื้อแดดเดียวทอด รสชาติโดยรวมคือยำเปรี้ยวหวานเผ็ดแซ่บดีส่วนของทอดต่างๆถือว่าตามคุณภาพที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่ควรปรับปรุงอย่างเดียวก็คือไม่มีไฟอุ่นร้อนของทอดทำให้เย็นชืดไปหน่อยแนะนำว่าถ้าอยากทานแบบทอดเสร็จใหม่ควรมาตั้งแต่ร้านเปิดหน่อยจะได้ทานของทอดอร่อยๆครับ
มุมต่อไปเป็นขนมจีบกุ้งใส่ในซึ้งอุ่นร้อนๆพร้อมจิ๊กโฉ่วที่ทานแล้วเหมือนผสมเนื้อไก่ลงไปด้วยแต่รสชาตินั้นอร่อยเกินคาดและแปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ตักไปชิมส่วนตัวแนะนำมากๆครับ ต่อมาคือข้าวผัดกระเทียม/มาม่าผัดไข่/บะหมี่หยกใส่ในหม้อหุงข้าวและภาชนะอุ่นร้อนเหมือนได้ทานใหม่ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเนย/ผักกาดหอม/แครอท/กระหล่ำปลีซอย/ผักกาดขาวซอย/ข้าวโพดแบบเป็นเมล็ด/เห็ดเข็มทอง/ผักบุ้ง/เห็ดออเร็นจิหรือเห็ดนางรมหลวง/ข้าวโพดอ่อน/วุ้นเส้น/มาม่า/ไข่ไก่สดและใบโหระพาให้เอาตะกร้ามาใส่ผักที่ต้องการไปย่างเนยหรือต้มในหม้อจิ้มจุ่มได้ตามใจครับ
มุมต่อไปเป็นเนื้อหมูสไลด์พร้อมทานแบบไม่หมักมีให้เลือก 3 ส่วนคือ สันคอหมู/สันนอกหมูและสามชั้นทุกส่วนแทรกไขมันใส่ถาดสีแดงเรียงมาอย่างสวยงาม นอกจากนี้ก็มีหมูหมัก/เนื้อวัวหมัก/ลูกชิ้น/ซีฟู๊ดให้เลือกทานอีกหลายรายการเรียงเป็นถาดยาวอยู่ตรงกลางห้องวัตถุดิบนี้ จะมีอะไรให้เราตักบ้างนั้นเรามาไล่ดูไปทีละถาดกันเลยครับผม
เริ่มไล่เรียงไปจากเหล่าหมูหมักหลากหลายเมนูอย่าง หมูหมักนุ่ม/หมูหมักงา/หมูหมักหมาล่า/หมูหมักน้ำผึ้ง/หมูหมักบาร์บีคิว/หมูหมักพริกไทยดำ/หมูหมักไวน์แดง/หมูหมักเกาหลี/เบคอน/ตับหมู/เต้าหู้ไข่ไก่และปูอัด โดยหมูหมักส่วนใหญ่ของที่ร้านนี้นุ่มเด้งฉ่ำน้ำถ้าย่างนานเนื้อจะคายน้ำออกแล้วรสชาติเข้มข้นไปหน่อย (เหมาะสำหรับต้มเป็นจิ้มจุ่มมากกว่า) เบคอนคือดีงามเหมาะกับการเอามาย่างให้กรอบตับสดหวานดีรวมแล้วถือว่าคุ้มสำหรับสายไม่ทานเนื้อ
ส่วนใครที่เป็นสายเนื้อหรือซีฟู๊ดที่ร้านนี้ก็ยังมีให้ตักใส่จานไปทานที่โต๊ะได้อีกหลายรายการทั้งเต้าหู้ปลา/เต้าหู้ชีส (เต้าหู้ชีสดีมากคุณภาพไม่แพ้ร้านบุฟเฟ่ต์ระดับพรีเมี่ยม) /ไส้อ่อนหมู/เนื้อหมักนุ่ม/เนื้อหมักซอส/เนื้อหมักบาร์บีคิว/เนื้อหมักพริกไทยดำ/ไก่หมักพริกไทยดำ/ไก่เกาหลี/ไส้กรอกฮอทด็อก/ไส้กรอกไก่/มันหมู/ปลาหมึกกรอบ/ท้องปลาแซลมอน/แมงกระพรุน/ปลาหมึก/ปลาดอลลี่และกุ้งขาว เห็นว่าตอนนี้ที่ร้านกำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มกุ้งแม่น้ำมาให้ทานเป็นบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 นี้ ใครเป็นสายแกะกุ้งตัวจริงถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอนครับผม
หมดโซนอาหารที่ตักทานเองแล้วยังเหลือขนมหวานที่ร้านนี้มีแตงโมหั่นพร้อมทานกับไอศครีมอีก 4 รสชาติก็คือ นมฮอกไกโด/นมสตรอเบอรี่/ชาเขียวมัทฉะและดับเบิ้ลช็อกโกแลตชิพ โดยรสที่เราแนะนำมากที่สุดคือนมฮอกไกโดเป็นรสชาติแบบเดียวกับร้านบุฟเฟ่ต์ราคาแพง (ซึ่งหลานสาวผมตักทานแค่รสนี้อย่างเดียวเท่านั้น) นอกจากนี้ร้านเขาชื่อว่า "เนื้อเนย" เมนูที่ขึ้นชื่ออีกอย่างนึงก็คือเนื้อวัวสไลด์ที่ต้องสั่งตรงจากพนักงานเท่านั้นมี 5 เมนูก็คือเนื้อริปอาย/เนื้อติดมัน/เนื้อออสเตรเลีย/เนื้อเสือร้องไห้และเนื้อสันคอ สั่งมาลองชิมก่อนอย่างละ 1 ถาดให้มาเสิร์ฟที่โต๊ะครับผม
ตักของทุกอย่างวนไป-มาเตาก็มาพร้อมเราขอโฟกัสไปที่เนื้อวัวของที่ร้านนี้ทั้ง 5 รายการที่ชอบสุดก็คือเนื้อส่วนใบพายออสเตรเลียแทรกไขมันรสชาติเนื้อเข้มข้นทานอร่อย รองลงมาเป็นติดมัน-เสื้อร้องไห้/สันคอและริปอายที่เป็นเนื้อวัวไทยแต่กลิ่นไม่รุนแรงแบบโพนยางคำเป็นเนื้อวัวที่ทานง่ายๆรสชาติเข้มข้นปานกลางอร่อยไม่แพ้เนื้อนำเข้าครับ
วิธีการทานเนื้อดาดหรือย่างเนยก็ง่ายๆแค่ใส่เนยลงไปในกระทะที่วางอยู่บนเตาถ่านร้อนๆ แล้วก็นำเนื้อลงไปย่างจนสีสวยสุกตามต้องการ ขอแนะนำว่าให้ย่างเนื้อวัวตอนที่เตาร้อนสุดๆจะได้ความกรุบกรอบนิดๆทานอร่อยกว่าเดิม หรือจะเอาไปลวกในหม้อจิ้มจุ่มเพื่อทานแบบชาบูชาบูก็จะได้เนื้อนุ่มๆไว้ทานกับน้ำจิ้มแจ่วเป็นแจ่วฮ้อนตำรับอีสานแท้ เมื่อย่างเนื้อเสร็จแล้วก็ลงซีฟู๊ดต่างๆทั้งกุ้ง/ปลาหมึก/ท้องแซลมอนลงไปในกระทะย่างร้อนๆเพราะใช้เวลาในการย่างนานกว่า แล้วเราเอาเนื้อที่ย่างเสร็จเมื่อกี้มาชิมน้ำจิ้มสูตรต่างๆของทางร้านโดยมีให้เลือกจิ้มกันถึง 4 สูตรกันครับผม
น้ำจิ้มสูตรแรกคือสุกี้ที่ร้านทำรสชาติหวาน-เปรี้ยวคล้ายๆกับน้ำจิ้มหมูกระทะทานง่ายๆจิ้มกับอะไรก็อร่อยดีครับ สูตรต่อมาคือน้ำจิ้มแจ่วไว้ทานกับเนื้อย่างเป็นสไตล์อีสานหรือจุ่มกับเนื้อต้มเป็นแจ่วฮ้อนรสเค็มเผ็ดนัวอมหวานนิดๆ ไม่ใช่สูตรมะขามเปียกรสเปรี้ยวหวานแบบร้านอื่นๆเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานครับ น้ำจิ้มสูตรถัดมาก็คือน้ำจิ้มเนื้อเนยมีความคล้ายๆกับน้ำจิ้มบาร์บีคิวของร้านมังกรสีเขียวชื่อดังผสมกับความเป็นถั่วลิสงบดหวานๆคล้ายร้านชาบูหมาล่าจีนเพิ่มความกลมกล่อมแบบไทยด้วยพริก-กระเทียมผสมลงไปในน้ำจิ้มได้ความหวานมันอร่อยดี ส่วนน้ำจิ้มสูตรสุดท้ายคือซีฟู๊ดที่แน่นไปด้วยพริกสดกับกระเทียมมีรสเค็ม-เปรี้ยวอ่อนๆ ส่วนตัวว่าเพิ่มรสเปรี้ยวหวานหน่อยอร่อยแซ่บสะใจกว่านี้แน่นอน โดยรวมแล้วน้ำจิ้มถือว่าอร่อยเด็ดโดนใจเปลี่ยนรสชาติจิ้มกับเนื้อหมักไปได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ ปิดท้ายด้วยขนมหวานและไอศครีมกันจนอิ่มจุกก็ได้เวลาเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินที่โต๊ะเตรียมกลับกันครับ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
เนื้อเนย รามอินทรา 40
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารคาว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารปิ้งย่าง
ชาบู/สุกี้ยากี้
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แบ่งปัน :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว"เนื้อเนย"ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง-ซีฟู๊ดกระทะร้อน แค่ 199 ฿ทานได้ 7 ชั่วโมงเต็ม ในซอยรามอินทรา 40
บรรยากาศภายในร้านก็เหมือนกับร้านย่างเนยทั่วไปแต่มีความโปร่งโล่งสบายและอากาศถ่ายเทมากกว่า พื้นเป็นปูนเปลือยขัดมัน/โต๊ะ-เก้าอี้ทำจากไม้ไม่มีโครงเหล็กแต่ก็แข็งแรงนั่งสบายๆ มาถึงน้องพนักงานถามเลยว่าจะรับเป็นเตาย่างเนยหรือจิ้มจุ่ม (มา 4 คนขึ้นไปฟรีอีกเตามูลค่า 50 บาท) แต่วันนี้ผมมากันผู้ใหญ่ 3 เด็ก 1 ก็เลยเพิ่มเงินเป็น 2 เตาเพราะเด็กน้อยกลัวน้ำมันกระเด็น พร้อมกับอธิบายวิธีการตักอาหารและสั่งเมนูเนื้อพิเศษอย่างละเอียดเพราะที่ร้านนี้ไม่มีใบสั่งอาหารไว้ที่โต๊ะ (ใช้บริการตัวเองเกือบ 100%) พอน้องพนักงานอธิบายเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้เราเดินไปตักวัตถุดิบเองที่ห้องแอร์ติดกระจกดูสะอาดดี มีอะไรให้ทานบ้างเราไปดูในไลน์อาหารของที่ร้านพร้อมกันครับ
ก่อนอื่นเดินเข้าประตูบานเลื่อนมาก็จะพบกับจาน/ตะกร้าใส่ผัก/ถ้วยน้ำจิ้ม/ช้อนสั้น/ตะเกียบและที่สำคัญก็คือมีถุงมือพลาสติกเอาใจสายแกะกุ้งด้วย ติดกันเป็นบาร์น้ำมีตั้งแต่น้ำเปล่า-น้ำผลไม้ไปจนถึงน้ำอัดลมพร้อมถังน้ำแข็งขนาดใหญ่และแก้วพลาสติกที่เราสามารถกดน้ำแบบบริการตัวเองจะกี่แก้วก็ได้ไม่ต้องกลัวตกแตกในราคา 39 บาท
โซนแรกเป็นน้ำจิ้มที่ร้านมีให้ทานทั้งหมด 4 สูตรคือ น้ำจิ้มเนื้อเนย (สูตรพิเศษที่ไม่เหมือนใครของทางร้าน) / น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มสุกี้และน้ำจิ้มซีฟู๊ดพร้อมพริกสดกับกระเทียมสับให้เติมความเผ็ดแซ่บได้ตามใจ ต่อกันด้วยอาหารทานเล่นที่มีให้บริการทั้งหมด 12 เมนูคือ หมูมะนาว/ยำหมูยอ/ปลาไข่ทอด/ไส้กรอกอีสาน/หมูยอทอด/นักเก็ตทอด/จ๊อปู /เกี๊ยวซ่า/เฟรนซ์ฟรายส์/ปอเปี๊ยะทอด/ไก่ทอดและเนื้อแดดเดียวทอด รสชาติโดยรวมคือยำเปรี้ยวหวานเผ็ดแซ่บดีส่วนของทอดต่างๆถือว่าตามคุณภาพที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่ควรปรับปรุงอย่างเดียวก็คือไม่มีไฟอุ่นร้อนของทอดทำให้เย็นชืดไปหน่อยแนะนำว่าถ้าอยากทานแบบทอดเสร็จใหม่ควรมาตั้งแต่ร้านเปิดหน่อยจะได้ทานของทอดอร่อยๆครับ
มุมต่อไปเป็นขนมจีบกุ้งใส่ในซึ้งอุ่นร้อนๆพร้อมจิ๊กโฉ่วที่ทานแล้วเหมือนผสมเนื้อไก่ลงไปด้วยแต่รสชาตินั้นอร่อยเกินคาดและแปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ตักไปชิมส่วนตัวแนะนำมากๆครับ ต่อมาคือข้าวผัดกระเทียม/มาม่าผัดไข่/บะหมี่หยกใส่ในหม้อหุงข้าวและภาชนะอุ่นร้อนเหมือนได้ทานใหม่ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีเนย/ผักกาดหอม/แครอท/กระหล่ำปลีซอย/ผักกาดขาวซอย/ข้าวโพดแบบเป็นเมล็ด/เห็ดเข็มทอง/ผักบุ้ง/เห็ดออเร็นจิหรือเห็ดนางรมหลวง/ข้าวโพดอ่อน/วุ้นเส้น/มาม่า/ไข่ไก่สดและใบโหระพาให้เอาตะกร้ามาใส่ผักที่ต้องการไปย่างเนยหรือต้มในหม้อจิ้มจุ่มได้ตามใจครับ
มุมต่อไปเป็นเนื้อหมูสไลด์พร้อมทานแบบไม่หมักมีให้เลือก 3 ส่วนคือ สันคอหมู/สันนอกหมูและสามชั้นทุกส่วนแทรกไขมันใส่ถาดสีแดงเรียงมาอย่างสวยงาม นอกจากนี้ก็มีหมูหมัก/เนื้อวัวหมัก/ลูกชิ้น/ซีฟู๊ดให้เลือกทานอีกหลายรายการเรียงเป็นถาดยาวอยู่ตรงกลางห้องวัตถุดิบนี้ จะมีอะไรให้เราตักบ้างนั้นเรามาไล่ดูไปทีละถาดกันเลยครับผม
เริ่มไล่เรียงไปจากเหล่าหมูหมักหลากหลายเมนูอย่าง หมูหมักนุ่ม/หมูหมักงา/หมูหมักหมาล่า/หมูหมักน้ำผึ้ง/หมูหมักบาร์บีคิว/หมูหมักพริกไทยดำ/หมูหมักไวน์แดง/หมูหมักเกาหลี/เบคอน/ตับหมู/เต้าหู้ไข่ไก่และปูอัด โดยหมูหมักส่วนใหญ่ของที่ร้านนี้นุ่มเด้งฉ่ำน้ำถ้าย่างนานเนื้อจะคายน้ำออกแล้วรสชาติเข้มข้นไปหน่อย (เหมาะสำหรับต้มเป็นจิ้มจุ่มมากกว่า) เบคอนคือดีงามเหมาะกับการเอามาย่างให้กรอบตับสดหวานดีรวมแล้วถือว่าคุ้มสำหรับสายไม่ทานเนื้อ
ส่วนใครที่เป็นสายเนื้อหรือซีฟู๊ดที่ร้านนี้ก็ยังมีให้ตักใส่จานไปทานที่โต๊ะได้อีกหลายรายการทั้งเต้าหู้ปลา/เต้าหู้ชีส (เต้าหู้ชีสดีมากคุณภาพไม่แพ้ร้านบุฟเฟ่ต์ระดับพรีเมี่ยม) /ไส้อ่อนหมู/เนื้อหมักนุ่ม/เนื้อหมักซอส/เนื้อหมักบาร์บีคิว/เนื้อหมักพริกไทยดำ/ไก่หมักพริกไทยดำ/ไก่เกาหลี/ไส้กรอกฮอทด็อก/ไส้กรอกไก่/มันหมู/ปลาหมึกกรอบ/ท้องปลาแซลมอน/แมงกระพรุน/ปลาหมึก/ปลาดอลลี่และกุ้งขาว เห็นว่าตอนนี้ที่ร้านกำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มกุ้งแม่น้ำมาให้ทานเป็นบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 นี้ ใครเป็นสายแกะกุ้งตัวจริงถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอนครับผม
หมดโซนอาหารที่ตักทานเองแล้วยังเหลือขนมหวานที่ร้านนี้มีแตงโมหั่นพร้อมทานกับไอศครีมอีก 4 รสชาติก็คือ นมฮอกไกโด/นมสตรอเบอรี่/ชาเขียวมัทฉะและดับเบิ้ลช็อกโกแลตชิพ โดยรสที่เราแนะนำมากที่สุดคือนมฮอกไกโดเป็นรสชาติแบบเดียวกับร้านบุฟเฟ่ต์ราคาแพง (ซึ่งหลานสาวผมตักทานแค่รสนี้อย่างเดียวเท่านั้น) นอกจากนี้ร้านเขาชื่อว่า "เนื้อเนย" เมนูที่ขึ้นชื่ออีกอย่างนึงก็คือเนื้อวัวสไลด์ที่ต้องสั่งตรงจากพนักงานเท่านั้นมี 5 เมนูก็คือเนื้อริปอาย/เนื้อติดมัน/เนื้อออสเตรเลีย/เนื้อเสือร้องไห้และเนื้อสันคอ สั่งมาลองชิมก่อนอย่างละ 1 ถาดให้มาเสิร์ฟที่โต๊ะครับผม
ตักของทุกอย่างวนไป-มาเตาก็มาพร้อมเราขอโฟกัสไปที่เนื้อวัวของที่ร้านนี้ทั้ง 5 รายการที่ชอบสุดก็คือเนื้อส่วนใบพายออสเตรเลียแทรกไขมันรสชาติเนื้อเข้มข้นทานอร่อย รองลงมาเป็นติดมัน-เสื้อร้องไห้/สันคอและริปอายที่เป็นเนื้อวัวไทยแต่กลิ่นไม่รุนแรงแบบโพนยางคำเป็นเนื้อวัวที่ทานง่ายๆรสชาติเข้มข้นปานกลางอร่อยไม่แพ้เนื้อนำเข้าครับ
วิธีการทานเนื้อดาดหรือย่างเนยก็ง่ายๆแค่ใส่เนยลงไปในกระทะที่วางอยู่บนเตาถ่านร้อนๆ แล้วก็นำเนื้อลงไปย่างจนสีสวยสุกตามต้องการ ขอแนะนำว่าให้ย่างเนื้อวัวตอนที่เตาร้อนสุดๆจะได้ความกรุบกรอบนิดๆทานอร่อยกว่าเดิม หรือจะเอาไปลวกในหม้อจิ้มจุ่มเพื่อทานแบบชาบูชาบูก็จะได้เนื้อนุ่มๆไว้ทานกับน้ำจิ้มแจ่วเป็นแจ่วฮ้อนตำรับอีสานแท้ เมื่อย่างเนื้อเสร็จแล้วก็ลงซีฟู๊ดต่างๆทั้งกุ้ง/ปลาหมึก/ท้องแซลมอนลงไปในกระทะย่างร้อนๆเพราะใช้เวลาในการย่างนานกว่า แล้วเราเอาเนื้อที่ย่างเสร็จเมื่อกี้มาชิมน้ำจิ้มสูตรต่างๆของทางร้านโดยมีให้เลือกจิ้มกันถึง 4 สูตรกันครับผม
น้ำจิ้มสูตรแรกคือสุกี้ที่ร้านทำรสชาติหวาน-เปรี้ยวคล้ายๆกับน้ำจิ้มหมูกระทะทานง่ายๆจิ้มกับอะไรก็อร่อยดีครับ สูตรต่อมาคือน้ำจิ้มแจ่วไว้ทานกับเนื้อย่างเป็นสไตล์อีสานหรือจุ่มกับเนื้อต้มเป็นแจ่วฮ้อนรสเค็มเผ็ดนัวอมหวานนิดๆ ไม่ใช่สูตรมะขามเปียกรสเปรี้ยวหวานแบบร้านอื่นๆเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานหวานครับ น้ำจิ้มสูตรถัดมาก็คือน้ำจิ้มเนื้อเนยมีความคล้ายๆกับน้ำจิ้มบาร์บีคิวของร้านมังกรสีเขียวชื่อดังผสมกับความเป็นถั่วลิสงบดหวานๆคล้ายร้านชาบูหมาล่าจีนเพิ่มความกลมกล่อมแบบไทยด้วยพริก-กระเทียมผสมลงไปในน้ำจิ้มได้ความหวานมันอร่อยดี ส่วนน้ำจิ้มสูตรสุดท้ายคือซีฟู๊ดที่แน่นไปด้วยพริกสดกับกระเทียมมีรสเค็ม-เปรี้ยวอ่อนๆ ส่วนตัวว่าเพิ่มรสเปรี้ยวหวานหน่อยอร่อยแซ่บสะใจกว่านี้แน่นอน โดยรวมแล้วน้ำจิ้มถือว่าอร่อยเด็ดโดนใจเปลี่ยนรสชาติจิ้มกับเนื้อหมักไปได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ ปิดท้ายด้วยขนมหวานและไอศครีมกันจนอิ่มจุกก็ได้เวลาเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินที่โต๊ะเตรียมกลับกันครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น