No one will love you “until” you love yourself (ไม่มีใครที่จะรักคุณ จนกว่าคุณจะรักตัวเอง)
สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคนคงจะคุ้นชิน หรือ ยินคำว่า “รักตัวเอง”(self-love) กันอยู่บ่อยๆ หลายๆคนคงสงสัยว่าแล้วใครบางที่จะไม่รักตัวเอง ใช่ค่ะ ทุกๆคนรักตัวเองหมดแต่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รักตัวเองมากพอ วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ทริปเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น
1. เป็นตัวของตัวเอง (Be yourself)
เป็นตัวของตัวเอง พูดในสิ่งที่เรารู้สึก หลายๆครั้งที่เราพูดในสิ่งที่เราไม่ได้รู้สึกเพราะว่าเรากังวลเกี่ยวกับคนอื่นว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเรา หลายๆครั้งที่เราอยากจะทำอะไรที่เราชอบแต่เรากลับไปทำอย่างอื่นแทนเพราะกลัวคำตัดสินจากคนอื่น หลายๆครั้งที่เราไม่ได้แต่งตัวในแบบที่เราอยากแต่งเพราะมันทำให้เราดูแตกต่างจากคนอื่นๆ จงใส่ใจความรู้สึกของตัวเองมากกว่าความรู้สึกของคนอื่นและอย่าสนใจมาตรฐานของสังคม เพราะในท้ายที่สุดแล้วคนที่จะอยู่เคียงข้างเราไปตลอดคือตัวเองเองเท่านั้น ทุกคนแตกต่างและมีเสน่ห์เป็นของตัวเองไม่มีใครสามารถเรียนแบบตัวเราได้ กลับกันเราก็ไม่สามารถที่จะพยายามเป็นคนอื่นได้เช่นกัน เพราะคนที่สวย/หล่อที่สุด คือคนที่เป็นตัวของตัวเอง
2. ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น (Accepting yourself)
เราเชื่อว่าทุกๆคนมีบางสิ่งบางอย่างในตัวเองที่เราไม่ชอบอยู่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรจงยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่มันเป็น เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเพียงแต่เราถูกขัดเกลาจากสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ จากมาตรฐานของสังคม เลยทำให้เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไมดีมาก ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งการเป็นคนที่แตกต่างนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก มันทำให้เรามีแบรนดเป็นของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถเรียนแบบได้ ที่หลายๆคนคิดว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบเป็นเพราะไม่ยอมรับในตัวของตัวเองจงยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่แนตัวเอง เพราะคนที่ถูกยอมรับมากที่สุด คือคนที่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
3. เติมเต็มชีวิตให้ตัวเอง (Fulfill yourself)
หลายๆคนเข้าใจผิดมาตลอดว่าในชีวิตนี้เราต้องการใครสักคนเข้ามาเติมเต็มชีวิตของเราให้สมบูรณ์แบบ แต่ความจริงแล้วไม่มีใครสามารถเติมเต็มให้ใครได้นอกจากตัวของเราเองเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มชีวิตให้ตัวเราเองได้ จงพัฒนาตัวเอง จงใช้เวลาว่างอยู่กับตัวเอง ดูแลตัวเอง พาตัวเองออกไปทานข้าว พูดคุยกับตัวเอง ให้ของขวัญตัวเอง รักและหึงหวงตัวเองให้เหมือนกับที่เรารักและหึงหวงใครคนนั้น คนโสดหลายๆคนยอมลดมาตรฐานตัวเองลงเพราะอยากมีคนเข้ามาเติมเต็มให้ตัวเอง หลายๆครั้งที่คู่รักเมื่อเลิกรากันไปมักมีอีกคนที่ไม่สามารถ Move on ได้หรือทำได้ช้า เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาให้อีกฝ่ายหนึ่งเติมเต็มให้ตลอด
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเรามีความสุขอยู่30% แทนที่จะทำตัวเองให้มีความสุขเพิ่มขึ้นเพื่อให้เติม100% แต่กลับรอความสุขจากคนอื่น เมื่อได้ความสุขของคนอื่นมา70% ความสุขของเราจึงมีเต็ม100% แต่ปัญหามันจะเกิดขึ้นตอนที่ เมื่อคนอื่นนั้นเดินจากเราไปและพาความสุขอีก70%ของเขาไปด้วย นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่เลิกรากัน บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเพราะว่าความทุกข์มันเราเข้ามาแทนที่ความสุขที่หายไปนั้น กลับกันถ้าเราเติมเต็มชีวิตให้ตัวเองให้เติมร้อยเมื่อคนๆนั้นจากเราไป เราก็ยังเติมอยู่ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรไป เราอาจจะเสียใจบางแต่เราจะ move on ได้ไว้ขึ้น ดังนั้นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด คือคนที่เติมเต็มชีวิตให้กับตัวเอง
4. กำหนดขอบเขตระหว่างตัวเองและคนอื่น(Set boundaries for yourself)
เป็นการกำหนดพื้นที่ระหว่างตัวเองกันคนอื่น เหมือนเป็นการที่เรากำหนดว่าใครสามารถปฏิบัติกับเราในทางใดทางหนึ่งได้มากน้อยแค่ไหน กล่าวคือการที่เราจะอนุญาตให้คนอื่นทำอะไรบางอย่างกับเราได้มากน้อยแค่ไหน หลายๆครั้งที่เราไม่กล้าที่จะพูดปฏิเสธกับคนอื่น จนทำให้ตัวเองต้องฝืนทำอะไรที่ทำให้ตัวเองไม่ชอบ ทำให้คนอื่นๆไม่ค่อยแกร่งใจเราและคิดว่าจะ”ทำ”หรือ”พูด”อะไรกับเราก็ได้ โดยที่ไม่เคารพสิทธิและศักดิศรีของเรา ดังนั้นเราต้องกลับมามองตรงนี้ เริ่มที่จะเคารพตัวเองก่อน รู้ว่าเราชอบ/ไม่ชอบอะไร รู้ว่าใครจะทำอะไรแบบไหนกับเราได้บาง เพราะคนที่ถูกแกร่งใจมากที่สุด คือคนที่เคารพตัวเอง
5. หาเวลาว่างอยู่กับตัวเองเพียงรำพังให้มากพอ (Being by yourself)
การอยู่กับตัวเองเพียงรำพังในที่นี้หมายถึง การใช้เวลาอยู่กับตัวเองโดยที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือsocial media ต่างๆ เป็นการอยู่กับตัวเองโดยโฟกัสที่ลมหายใจ พูดคุยกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง ทำงานอดิเรก ทำสิ่งที่ชื่นชอบ ใช้เวลาดูแลตัวเอง ออกไปเดินเล่น มันจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าเราต้องการอะไร มีเป้าหมายอย่างไร การอยู่คนเดียวสำหรับบางคนมันไม่ง่าย แต่ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่ใช่สำหรับเรา คนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา และที่สำคัญการจำกัดเวลาให้อยู่กับตัวเองมากขึ้นมันจะทำให้คนอื่นคิดถึงเรามากขึ้น แกร่งใจเรามากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเรามากขึ้นและจะปฏิบัติต่อเราดีขึ้น ดังนั้นถ้าอยากเป็นคนที่ถูกคิดถึงมากที่สุด ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากพอ
6. หยุดใจร้ายกับตัวเอง (Stop being so mean to yourself)
ไม่ว่าในอดีตที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายคนอื่นไว้ ล้มเหลวในการเรียนหรือการงานหรือความรัก ให้อภัยตัวเองชะ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมันคืออดีตที่จบไปแล้ว และทุกๆวินาทีที่ผ่านไปเราสามารถเริ่มต้มใหม่ได้เสมอ หลายๆคนมัวแต่ลงโทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว มันไม่มีประโยชน์ทีจะยึดติดอยู่กับมัน เราไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่เราสามารถที่จะทำอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ดีกว่าเดิมได้ พูดดีๆกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง ใจดีกับตัวเอง เอาใจใส่ตัวเอง ปลอบใจตัวเองอย่ารอคำปลอบโยนจากคนอื่น ชื่นชมตัวเองที่ผ่านแต่ละวันมาได้ มอบความรักให้กับตัวเองอย่ามัวแต่มอบมันให้กับคนอื่น อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเอง อ่อนโยนต่อตัวเองให้มากๆ เพราะคนที่คนอื่นอยากอยู่ใกล้มากที่สุด คือคนที่ไม่ใจร้ายกับตัวเอง
7. แคร์ความรู้สึกของตัวเองให้มากๆ(Take care of your feelings)
อย่าสนใจความรู้สึกหรือความคิดของคนอื่นที่มีต่อเราให้มาก หลายๆคนมัวแต่กังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงถ้าเราทำแบบนั้นแบบนี้จนไม่เป็นตัวของตัวเอง จนไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ จนบางครั้งเราก็ลืมไปว่าความรู้สึกของเราก็สำคัญเหมือนกันและมันสำคัญมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป เพราะคนไม่สามารถมาใช้ชีวิตของเราได้ เราคนเดียวเท่านั้นที่สามารถกำหนดทิศทางของชีวิตเรา เราคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรู้ว่าอะไรดีกับเราหรืออะไรที่ใช่สำหรับเรา ถ้าอยากใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการจงใส่ความรู้สึกของตัวเอง เพราะคนที่มีความสุขที่สุด คือคนที่แคร์ความรู้สึกของตัวเองก่อน
8. ตั้งเป้าหมายและโฟกัส(Set your own goals)
ต้องทำให้หมั่นใจว่าเป้าหมายนั้นคือเป้าหมายของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เป็นสิ่งที่เราอยากทำเพื่อตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือคนรัก อยากเป็น อยากมี อยากทำอะไร จงตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต เพราะทุกๆคนสามารถเป็น สามารถมี สามารถทำทุกอย่างที่เราอยากเป็น อยากมี ได้หมด ไม่ว่าความฝันที่เรามีนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหน จงเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้ และอย่ายอมให้คำพูดNegative ของคนอื่นมาบั่นทอนกำลังใจในการทำเป้าหมายนั้น ดังนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จให้ตั้งเป้าหมาย โฟกัส และเชื่อว่าเราทำมันได้แน่นอน
สุดท้ายนี่เราอยากจะฝากไว้ว่า No one will love you “until” you love yourself (ไม่มีใครที่จะรักคุณ จนกว่าคุณจะรักตัวเอง)
ปล.ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนมีคำถามหรืออยากปรึกษาเป็นการส่วนตัว(หรือคอมเม้นด้านล่าง)ติดต่อมาพูดคุยด้วยกันได้นะค่ะ เรายินดีที่จะตอบทุกคำถามคะ (ig:Loveblessyouu)
ปล.2 อีกไม่กี่วันก็จะถึงปีใหม่แล้วเราขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและที่สำคัญรักตัวเองให้มากๆนะ
คำว่า ”รักตัวเองให้มากๆ” (self-love) ที่จริงแล้วมันหมายความว่ายังไง และวิธีการที่จะทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น
เป็นตัวของตัวเอง พูดในสิ่งที่เรารู้สึก หลายๆครั้งที่เราพูดในสิ่งที่เราไม่ได้รู้สึกเพราะว่าเรากังวลเกี่ยวกับคนอื่นว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเรา หลายๆครั้งที่เราอยากจะทำอะไรที่เราชอบแต่เรากลับไปทำอย่างอื่นแทนเพราะกลัวคำตัดสินจากคนอื่น หลายๆครั้งที่เราไม่ได้แต่งตัวในแบบที่เราอยากแต่งเพราะมันทำให้เราดูแตกต่างจากคนอื่นๆ จงใส่ใจความรู้สึกของตัวเองมากกว่าความรู้สึกของคนอื่นและอย่าสนใจมาตรฐานของสังคม เพราะในท้ายที่สุดแล้วคนที่จะอยู่เคียงข้างเราไปตลอดคือตัวเองเองเท่านั้น ทุกคนแตกต่างและมีเสน่ห์เป็นของตัวเองไม่มีใครสามารถเรียนแบบตัวเราได้ กลับกันเราก็ไม่สามารถที่จะพยายามเป็นคนอื่นได้เช่นกัน เพราะคนที่สวย/หล่อที่สุด คือคนที่เป็นตัวของตัวเอง
เราเชื่อว่าทุกๆคนมีบางสิ่งบางอย่างในตัวเองที่เราไม่ชอบอยู่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรจงยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่มันเป็น เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเพียงแต่เราถูกขัดเกลาจากสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ จากมาตรฐานของสังคม เลยทำให้เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไมดีมาก ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งการเป็นคนที่แตกต่างนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก มันทำให้เรามีแบรนดเป็นของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถเรียนแบบได้ ที่หลายๆคนคิดว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบเป็นเพราะไม่ยอมรับในตัวของตัวเองจงยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่แนตัวเอง เพราะคนที่ถูกยอมรับมากที่สุด คือคนที่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
3. เติมเต็มชีวิตให้ตัวเอง (Fulfill yourself)
หลายๆคนเข้าใจผิดมาตลอดว่าในชีวิตนี้เราต้องการใครสักคนเข้ามาเติมเต็มชีวิตของเราให้สมบูรณ์แบบ แต่ความจริงแล้วไม่มีใครสามารถเติมเต็มให้ใครได้นอกจากตัวของเราเองเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มชีวิตให้ตัวเราเองได้ จงพัฒนาตัวเอง จงใช้เวลาว่างอยู่กับตัวเอง ดูแลตัวเอง พาตัวเองออกไปทานข้าว พูดคุยกับตัวเอง ให้ของขวัญตัวเอง รักและหึงหวงตัวเองให้เหมือนกับที่เรารักและหึงหวงใครคนนั้น คนโสดหลายๆคนยอมลดมาตรฐานตัวเองลงเพราะอยากมีคนเข้ามาเติมเต็มให้ตัวเอง หลายๆครั้งที่คู่รักเมื่อเลิกรากันไปมักมีอีกคนที่ไม่สามารถ Move on ได้หรือทำได้ช้า เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาให้อีกฝ่ายหนึ่งเติมเต็มให้ตลอด
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเรามีความสุขอยู่30% แทนที่จะทำตัวเองให้มีความสุขเพิ่มขึ้นเพื่อให้เติม100% แต่กลับรอความสุขจากคนอื่น เมื่อได้ความสุขของคนอื่นมา70% ความสุขของเราจึงมีเต็ม100% แต่ปัญหามันจะเกิดขึ้นตอนที่ เมื่อคนอื่นนั้นเดินจากเราไปและพาความสุขอีก70%ของเขาไปด้วย นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่เลิกรากัน บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเพราะว่าความทุกข์มันเราเข้ามาแทนที่ความสุขที่หายไปนั้น กลับกันถ้าเราเติมเต็มชีวิตให้ตัวเองให้เติมร้อยเมื่อคนๆนั้นจากเราไป เราก็ยังเติมอยู่ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรไป เราอาจจะเสียใจบางแต่เราจะ move on ได้ไว้ขึ้น ดังนั้นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด คือคนที่เติมเต็มชีวิตให้กับตัวเอง
4. กำหนดขอบเขตระหว่างตัวเองและคนอื่น(Set boundaries for yourself)
เป็นการกำหนดพื้นที่ระหว่างตัวเองกันคนอื่น เหมือนเป็นการที่เรากำหนดว่าใครสามารถปฏิบัติกับเราในทางใดทางหนึ่งได้มากน้อยแค่ไหน กล่าวคือการที่เราจะอนุญาตให้คนอื่นทำอะไรบางอย่างกับเราได้มากน้อยแค่ไหน หลายๆครั้งที่เราไม่กล้าที่จะพูดปฏิเสธกับคนอื่น จนทำให้ตัวเองต้องฝืนทำอะไรที่ทำให้ตัวเองไม่ชอบ ทำให้คนอื่นๆไม่ค่อยแกร่งใจเราและคิดว่าจะ”ทำ”หรือ”พูด”อะไรกับเราก็ได้ โดยที่ไม่เคารพสิทธิและศักดิศรีของเรา ดังนั้นเราต้องกลับมามองตรงนี้ เริ่มที่จะเคารพตัวเองก่อน รู้ว่าเราชอบ/ไม่ชอบอะไร รู้ว่าใครจะทำอะไรแบบไหนกับเราได้บาง เพราะคนที่ถูกแกร่งใจมากที่สุด คือคนที่เคารพตัวเอง
5. หาเวลาว่างอยู่กับตัวเองเพียงรำพังให้มากพอ (Being by yourself)
การอยู่กับตัวเองเพียงรำพังในที่นี้หมายถึง การใช้เวลาอยู่กับตัวเองโดยที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับโทรศัพท์หรือsocial media ต่างๆ เป็นการอยู่กับตัวเองโดยโฟกัสที่ลมหายใจ พูดคุยกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง ทำงานอดิเรก ทำสิ่งที่ชื่นชอบ ใช้เวลาดูแลตัวเอง ออกไปเดินเล่น มันจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าเราต้องการอะไร มีเป้าหมายอย่างไร การอยู่คนเดียวสำหรับบางคนมันไม่ง่าย แต่ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่ใช่สำหรับเรา คนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา และที่สำคัญการจำกัดเวลาให้อยู่กับตัวเองมากขึ้นมันจะทำให้คนอื่นคิดถึงเรามากขึ้น แกร่งใจเรามากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเรามากขึ้นและจะปฏิบัติต่อเราดีขึ้น ดังนั้นถ้าอยากเป็นคนที่ถูกคิดถึงมากที่สุด ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากพอ
6. หยุดใจร้ายกับตัวเอง (Stop being so mean to yourself)
ไม่ว่าในอดีตที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรผิดพลาดไป ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายคนอื่นไว้ ล้มเหลวในการเรียนหรือการงานหรือความรัก ให้อภัยตัวเองชะ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมันคืออดีตที่จบไปแล้ว และทุกๆวินาทีที่ผ่านไปเราสามารถเริ่มต้มใหม่ได้เสมอ หลายๆคนมัวแต่ลงโทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว มันไม่มีประโยชน์ทีจะยึดติดอยู่กับมัน เราไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่เราสามารถที่จะทำอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ดีกว่าเดิมได้ พูดดีๆกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง ใจดีกับตัวเอง เอาใจใส่ตัวเอง ปลอบใจตัวเองอย่ารอคำปลอบโยนจากคนอื่น ชื่นชมตัวเองที่ผ่านแต่ละวันมาได้ มอบความรักให้กับตัวเองอย่ามัวแต่มอบมันให้กับคนอื่น อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลตัวเอง อ่อนโยนต่อตัวเองให้มากๆ เพราะคนที่คนอื่นอยากอยู่ใกล้มากที่สุด คือคนที่ไม่ใจร้ายกับตัวเอง
7. แคร์ความรู้สึกของตัวเองให้มากๆ(Take care of your feelings)
อย่าสนใจความรู้สึกหรือความคิดของคนอื่นที่มีต่อเราให้มาก หลายๆคนมัวแต่กังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงถ้าเราทำแบบนั้นแบบนี้จนไม่เป็นตัวของตัวเอง จนไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ จนบางครั้งเราก็ลืมไปว่าความรู้สึกของเราก็สำคัญเหมือนกันและมันสำคัญมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำไป เพราะคนไม่สามารถมาใช้ชีวิตของเราได้ เราคนเดียวเท่านั้นที่สามารถกำหนดทิศทางของชีวิตเรา เราคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรู้ว่าอะไรดีกับเราหรืออะไรที่ใช่สำหรับเรา ถ้าอยากใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการจงใส่ความรู้สึกของตัวเอง เพราะคนที่มีความสุขที่สุด คือคนที่แคร์ความรู้สึกของตัวเองก่อน
8. ตั้งเป้าหมายและโฟกัส(Set your own goals)
ต้องทำให้หมั่นใจว่าเป้าหมายนั้นคือเป้าหมายของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เป็นสิ่งที่เราอยากทำเพื่อตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือคนรัก อยากเป็น อยากมี อยากทำอะไร จงตั้งเป้าหมายให้กับชีวิต เพราะทุกๆคนสามารถเป็น สามารถมี สามารถทำทุกอย่างที่เราอยากเป็น อยากมี ได้หมด ไม่ว่าความฝันที่เรามีนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหน จงเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้ และอย่ายอมให้คำพูดNegative ของคนอื่นมาบั่นทอนกำลังใจในการทำเป้าหมายนั้น ดังนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จให้ตั้งเป้าหมาย โฟกัส และเชื่อว่าเราทำมันได้แน่นอน
สุดท้ายนี่เราอยากจะฝากไว้ว่า No one will love you “until” you love yourself (ไม่มีใครที่จะรักคุณ จนกว่าคุณจะรักตัวเอง)
ปล.ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนมีคำถามหรืออยากปรึกษาเป็นการส่วนตัว(หรือคอมเม้นด้านล่าง)ติดต่อมาพูดคุยด้วยกันได้นะค่ะ เรายินดีที่จะตอบทุกคำถามคะ (ig:Loveblessyouu)
ปล.2 อีกไม่กี่วันก็จะถึงปีใหม่แล้วเราขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและที่สำคัญรักตัวเองให้มากๆนะ