# รวมเรื่องควรรู้ # ก่อนดู Wonder Woman 1984 (by Filmaneo)

หลังจากความสำเร็จในการผลิตจักรวาลภาพยนตร์ของหมู่ชนสังกัดค่ายมาร์เวล ที่ผลิตผลงานอันดัดแปลงจากคอมมิคเป็นหลัก
สตูดิโออื่นๆ ในฮอลลีวูดต่างมองตาปริบๆ แล้วความคิดสร้างหนังชุด ที่ดูโดดๆ บ้างก็ได้ 
แต่ถ้าดูทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกันหมดยิ่งดี... ก็มีตามกันออกมาอีกเป็นพรวน
โดยหนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นผลงานดัดแปลงจากคอมมิคค่ายคู่แข่งตัวฉกาจอย่างดีซี ที่วอร์เนอร์บราเธอร์สดูแลการผลิต

หนึ่งในความสำเร็จของภาพยนตร์ฮีโร่ยุคเปิดจักรวาล คือ Wonder Woman ซึ่ง 'กัล กาด็อท' รับบทตัวละครนำ อันออกฉายตามโรงหนังเมื่อค.ศ. 2017
เพราะประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์, กวาดเงิน 800 กว่าล้านดอลลาร์ทั่วโลกา จากทุนสร้างที่มีการรายงานว่าอยู่ราว ๆ 120-150 ล้าน
ชื่อผู้กำกับหญิงเจ้าของผลงาน นาม 'แพตตี้ เจนกินส์' เอง ก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้าเช่นกัน

เมื่อแรกสุด Wonder Woman ภาค 2 ถูกวางกำหนดฉายปลายปี 2019 ก่อนจะเลื่อนมาตอนเดือนมิถุนายนปี 2020 แบบที่ไม่ได้มีสาเหตุอะไรเป็นพิเศษ (คาดว่าแค่โยกหนี Joker ของค่ายเดียวกัน ให้มันห่างหน่อย)
ทว่าการระบาดของไวรัสซึ่งทุกคนทราบชื่อดีเวลานี้ ทำให้ลิขิต Wonder Woman 1984 เลื่อนมาอีกทีละนิด จนประชิดช่วงสุดท้ายของปี แต่สถานการณ์โรคภัยในอเมริกายังมิคลี่คลาย
ลงท้ายภาคต่อจึงจะเผยแพร่ทาง HBO Max โซนมะกันแบบจำกัดเวลา หลังล่วงเข้าวันคริสมาสต์, ส่วนทางประเทศไทยนั้นได้ดูในโรง 17 ธันวาฯ



ประวัติย่อของตัวละคร

ผู้หญิงมหัศจรรย์ (Wonder Woman) คือบุคคลสมมติผู้ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือของดีซีเมื่อปี 1941 
บรรดาศักดิ์ของหล่อนคือเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเทอร์มีสกีร่า, ชื่อที่ใช้เวลาแฝงตัวเป็นคนธรรมดาอยู่นอกบ้านเกิด คือไดอาน่า พรินซ์

ผู้ประดิษฐ์วันเดอร์วูแมนขึ้นคือนักเขียนและนักจิตวิทยาชาวอเมริกา นามวิลเลี่ยม โมลตัน มาร์สตัน (เขามีนามปากกาว่า Charles Moulton) กับศิลปินชื่อแฮรี่ จอร์จ ปีเตอร์ (H. G. Peter)
เอลิซาเบธ (Elizabeth) ภรรยาของมาร์สตัน กับผู้หญิงชื่อโอลีฟ เบิร์น (Olive Byrne) คือแรงบันดาลใจเรื่องบุคลิกและนิสัยของวันเดอร์วูแมน
ต่อมาตัวละครนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าเฟมินิสต์ (สตรีนิยม) ยุคต้นๆ อีกทอดหนึ่ง 

ช่วงแรกสุดจุดกำเนิดชีวิตบนหน้ากระดาษของไดอาน่า ได้รับการอธิบายว่าราชินีฮิปโพลิทา/มารดาชาวอเมซอน ปั้นดินขึ้นเป็นก้อนแล้วร้องขอเทพเจ้าบันดาลชีวิต
ก่อนนานไปจะถูกเปลี่ยนประวัติ ให้เป็นรัชทายาทอันเกิดจากซุสกับฮิปโพลิทา  ด้วยวิธีผลิตเด็กสามัญ
ไอเท็มประจำตัวหลักๆ ของไดอาน่า ได้แก่บ่วงบาศแห่งสัจจะ (Lasso of Truth) ใครโดนรัดล้วนต้องพูดความจริง, กำไลข้อมือที่มิอาจถูกทำลายหนึ่งคู่, รัดเกล้าซึ่งสะท้อนได้แม้แต่กระสุนปืน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของชาวอเมซอน

เดิมทีในคอมมิค, ประวัติวันเดอร์วูแมนจะเกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ตามช่วงของการกำเนิดตัวละครในโลกความจริง... แต่ภาพยนตร์ฉบับค.ศ. 2017 เปลี่ยนไปใช้ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ดำเนินเหตุการณ์
อนึ่งกัล กาด็อท มิใช่ผู้หญิงมหัศจรรย์คนแรกในผลงานฉบับคนแสดง 
แคธี่ ลี ครอสบี้ (Cathy Lee Crosby) กับลินดา คาร์เตอร์ (Lynda Carter) คือรุ่นพี่ของบทนี้ ในภาพยนตร์สำหรับฉายโทรทัศน์ กับซีรีส์ ตามลำดับ
 
Wonder Woman ฉบับลินดา คาร์เตอร์


อเมซอนตามตำนานกรีก

ต้นตอของเผ่านักสู้อันเป็นตำนาน เกี่ยวพันกับเทพสงครามอย่างแอรีส ผู้จีบโอทรีรา/ธิดาของยูรัส (พระพาย) แล้วได้กันจนก่อเกิดเหล่าบุตรี ที่ช่วยกันสร้างประเทศสำหรับนักรบหญิงล้วนขึ้น ท่ามกลางยุคสมัยซึ่งเชิดชูวีรบุรุษเป็นหลัก
เหล่าบุตรีของโอทรีรา/ราชินีรุ่นแรก ได้แก่ ฮิปโพลิทา (Hippolyta), แอนไทโอพี (Antiope), เมลานิปเพ (Melanippe) และเพนเธซิเลอา (Penthesilea)
โดยฮิปโพลิทาเป็นราชินีรุ่นที่ 2 ของนครเทอร์มีสกีรา (Themiscyra), เมืองตั้งอยู่แถวทะเลดำ แถบเอเชียไมเนอร์ (ณ ปัจจุบันคือตุรกี)

ว่ากันว่าชาวอเมซอนมีเพียงสตรี เนื่องจากประเพณีแถวนั้นคือหลังร่วมเตียงกับบุรุษจนตั้งท้อง ต้องสังหารทั้งพวกผู้ชายที่นอนด้วยและลูกชายทิ้งให้สิ้น เหลือเพียงเด็กหญิงพอ 
บางแหล่งก็อ้างว่าพวกหล่อนจะตัดหน้าอกข้างนึงทิ้ง เพื่อให้ยิงธนูง่ายอีกต่างหาก

เรื่องเด่นของอเมซอนตามปกรณัม ได้แก่
- ขัดแย้งกับเฮราคลีส (เฮอร์คิวลิส) จอมพลัง
- ต่อสู้กับเบลเลโรฟอน ผู้ใช้เพกาซัส/ม้ามีปีก
- ช่วยกรุงทรอยทำสงครามกับกรีก ที่มีการใช้อุบายม้าไม้โทรจันปิดฉาก

ภาพยนตร์ Wonder Woman (2017) ยังคงให้ฮิปโพลิทารั้งตำแหน่งราชินี และแอนไทโอพีเป็นน้องสาว 
แต่เมลานิปเพกับเพนเธซิเลอา บทตัวประกอบ จนดูไม่ออกว่าพวกนี้น้องๆ ราชินีตามตำนานของจริงไหม 
แถมเพนเธซิเลอา (ซึ่งตามปกรณัมแห่งทรอย มีโอกาสปะทะกับอคิลลีสผู้โด่งดัง) ดันไปตายใน Justice League ตอนแบกประตูหินค้างไว้ เพื่อเปิดช่องให้ราชินีเอามาเธอร์บ็อกซ์หนีจากสเตพเพ่นวูล์ฟ เสียแล้วด้วย 

เพนเธซิเลอา



พื้นฐานของเรื่องราว 

ณ ห้วงแห่งความเวิ้งว้างไร้สิ้นสุดนอกโลกาของดีซีฉบับหนัง มีทั้ง
- ผู้นิยมรุกรานดาวของชาวบ้าน อย่างเช่น สเตพเพ่นวูล์ฟ
- อารยธรรมคริปตอนของพวกที่เทคโนโลยีสุดจะก้าวหน้า ทว่าสูญสิ้นหลังพบจุดอิ่มตัว 
- และสมาคมโคมไฟ (Lanterns) ที่ใช้พลังจากแหวนสีเขียวปกป้องความสงบสุข ทำตัวเหมือนตำรวจอวกาศ

ส่วนดาวโลก หากอ้างอิงตามนิทานที่ฮิปโพลิทา มักอ่านให้ลูกสาวฟังก่อนนอน
ซุส/เทพเจ้าสูงสุดกับคณะ คือผู้ปกครองผืนพิภพในยุคแรกเริ่ม, ก่อนซุสจะนึกครึ้มเสก 'มนุษย์' เผ่าพันธุ์ที่รูปลักษณ์ถอดแบบจากเหล่าทวยเทพ ขึ้นมา
และเดิมทีเหล่ามนุษย์ล้วนแต่จิตใจดีงาม จนกระทั่งแอรีส/หนึ่งในคณะเทพเกิดรู้สึกริษยาหมั่นไส้พวกนี้ จึงเริ่มต้นสร้างความวายป่วง ด้วยการวางยาพิษในจิตใจของเหล่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่

มนุษย์เริ่มเข่นฆ่าพวกเดียวกันจนถึงขั้นนองเลือด ทางเทพดีเลยแก้เกมด้วยการเสกสิ่งมีชีวิตที่ใหม่กว่าขึ้นมา นั่นคือชาวอเมซอนที่ทั้งอายุยืนจัด, แข็งแกร่งชะมัด, เชื่อมั่นในความรัก แถมเป็นผู้หญิงทั้งหมดอีก
ชาวอเมซอนพาสันติมาสู่โลกได้เพียงชั่วคราว ก่อนโดนมนุษย์เหยียดเผ่าพันธุ์จับเป็นทาส
อย่างไรก็ตาม ฮิปโพลิทารวบรวมกองทัพกู้ชาติ ปลดปล่อยพวกพ้อง ก่อนเจอแอรีสเจ้าเก่าจองเวรต่อ

ฮิปโพลิทา กับแอนไทโอพี

คณะเทพเข้าปกป้องชาวอเมซอน แต่ก็โดนแอรีสไล่เจี๋ยนทีละคน จนเหลือซุสอยู่คนเดียว โดดเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบ
ซุสต้องรีดเค้นพลังเฮือกสุดท้ายซัดใส่แอรีส บีบให้อีกฝ่ายจำใจถอยหนี
แล้วสร้างเกาะเทอร์มีสกีร่า อันมาพร้อมลูกเล่นเขตแดนล่องหนล้อมรอบ ซ่อนชาวอเมซอนให้พ้นจากสายตาโลกภายนอก
โดยมอบ 'เครื่องสังหาร' เทพทิ้งไว้ก่อนตาย เพื่อให้คนข้างหลังรับมือแอรีสที่จะกลับมาเมื่อไหร่ไม่ทราบ



ไดอาน่า/เด็กผู้หญิงคนเดียวบนเทอร์มีสกีร่า ที่ฮิปโพลิทาบอกคุณลูกว่าเกิดด้วยวิธีปั้นดินแล้ววิงวอนซุส
ฟังนิทานของแม่แล้วรู้สึกอยากปกป้องดวงดาว อันเปี่ยมด้วยสิ่งสวยงาม และเป็นบุคคลที่จะใช้เครื่องสังหารเทพจัดการแอรีส
จึงฝึกฝนวิชาต่อสู้อย่างหนักหน่วงตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่... แล้วในที่สุดโอกาสทำตามเป้าหมาย ก็ไปเยือนแดนลับแลซึ่งเธอใช้ชีวิตมาตลอด

ปี 1918, สตีฟ เทรเวอร์/นายทหารและนักบินผู้เก่งกาจ ขับเครื่องบินหนีการไล่ล่าของทหารเยอรมันไปตกแถวเทอร์มีสกีร่า โดยบังเอิญ
ไดอาน่าช่วยชีวิตเขา แล้วหลังจากนั้นก็ติดตามสตีฟไปสู่โลกภายนอก เพื่อเสาะหาแอรีสและฆ่าทิ้งเสีย
เนื่องจากเธอเชื่อว่า 'สงครามโลก' เกิดจากอำนาจของเทพสงคราม และเมื่อแอรีสสิ้นลม ความสงบสุขสถาพรถาวรจะมาสู่ทั้งพิภพโดยถ้วนทั่ว

ระหว่างการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจแห่งชะตากรรม, ไดอาน่าพบรักกับสตีฟ
แต่ก็โดนบีบให้เผชิญความจริงของโลกใบนี้ และพบว่าเรื่องเล่าของมารดาหลายอย่าง เป็นแค่นิทานหลอกเด็ก แถมยังต้องลาจากกับสตีฟ ในลักษณะที่แสนเศร้า ณ ปลายทางของภารกิจ 



Wonder Woman ภาค 2

ค.ศ. 1984, ขณะสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตดำเนิน
ไดอาน่า พรินซ์ ต้องเผชิญความขัดแย้งกับอริผู้น่ากลัวทั้งสอง--แมกซ์เวลล์ ลอร์ด นักธุรกิจด้านสื่อ 
และเพื่อนหญิงผู้เปลี่ยนเป็นศัตรูภายหลัง--บาร์บาร่า แอนน์ มิเนอร์วา 
แลพบปะกับสตีฟ เทรเวอร์/คนรัก ที่ไม่รู้อีท่าไหน ถึงยังรูปลักษณ์เหมือนสมัยเจอกันตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 เปี๊ยบอยู่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่