เดินทางมาถึงตอนจบของซีรีส์ Start-Up เป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นซีรีย์ยอดเยี่ยมของปี 2020 อีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับพาร์ทธุรรกิจ อาจจะดรอปลงกว่าช่วงครึ่งแรก อย่างที่หลายคนกล่าวถึง
แต่ในส่วนของพาร์ทความสัมพันธ์ของตัวละคร ซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว
ทุกตัวละครถูกเชื่อมโยงกันหมด เหตุที่เกิดขึ้นใน EP ก่อนหน้า ถูกเชื่อมโยงมาถึงผลใน EP ถัดไปเสมอ
และทุกปมถูกคลี่คลาย ไม่ปล่อยให้คนดูอย่างพวกเราคาใจ

จากวันนั้น วันที่สายลมเริ่มพัดผ่าน มือใหญ่ ๆ ขอโดซานนี่แหละ ที่เขาพยายามสุดชีวิต
"เพื่อทำเรื่องเข้าใจผิดให้กลายเป็นจริง"
จนวันนี้ โดซานได้กลายเป็นกล่องดนตรีแสนสวยงามของดัลมีได้อย่างภาคภูมิ
โดซาน เป็นถ้วยรางวัลของดัลมี เป็นศักดิ์ศรีของดัลมี เป็นความฝันของดัลมี เป็นความสบายใจของดัลมี เป็นปีกของดัลมี
"ในฐานะโดซานตัวจริง"

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ดัลมีชอบโดซาน อาจเป็นเพราะโดซานมีหลาย ๆ อย่างคล้ายกับพ่อของดัลมี
เพราะทั้งโดซานและพ่อของดัลมีนั้นต่าง "แล่นเรือโดยไร้แผนที่"
ในการทำอะไรสักอย่าง พวกเขามีความมุ่งมั่น แม้จะโดนคนรอบข้างดูถูก ก็ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค และพุ่งชนไปกับมัน
"อย่าเอาความคิดเห็นของคนอื่น มาเป็นความจริงของคุณ"

ทั้ง 2 ตัวละครเหมือนมีความสัมพันธ์พิเศษแบบพี่น้อง จริง ๆ 
-จีพยองเลือกใช้ชื่อโดซานเพื่อเขียนในจดหมาย เพราะเห็นความอบอุ่นของครอบครัวที่เขาไม่เคยได้รับ
ใน EP.15 จีพยองก็ได้มากินข้าวกับครอบครัวของโดซาน ครอบครัวที่เขามองในโทรทัศน์เมื่อ 18 ปีที่แล้ว
-โดซาน เมื่อพบกับจีพยองครั้งแรก เขาก็จำได้ทันที เพราะเขาตัดบทสัมภาษณ์ของจีพยองเก็บไว้
สำหรับโดซานแล้ว จีพยองเป็นเหมือนเศรปาที่พาโดซานเดินไต่เขาหิมาลัย
-ทั้งสองตัวละครนี้ต่างคอยเกื้อหนุนกัน ด้วยความที่จีพยองเป็นคนที่มีกำแพงสูง ทำให้เขาไม่มีแม้แต่เพื่อนเลยสักคน
ด้วยโขคชะตาหรืออะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เขากับโดซานได้พบเจอกัน จากหลาย ๆ เหตุการณ์ทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น
-การที่ทั้งสองต่างต้องการครอบครองหัวใจของดัลมี ทำให้เกิดการขับเคี้ยวกันอย่างเมามัน
แต่ลึก ๆ แล้วทั้งสองก็รักกันแบบพี่น้องแหละ จีพยองเมมชื่อโดซานในโทรศัพท์ว่าหลังค่อม โดซานก็จะให้ถั่วดำเชื่อมซอสจีพยองกลับบ้าน
-ฉากของทั้งคู่ใน EP.16 ถือเป็นฉากที่ตั้งตารอคอยเลย การที่ทั้งคู่ต่างขอบคุณกันและกัน ได้ปลดล๊อคกันแล้ว สุดท้ายก็ได้จับมือกัน ร่วมกันทำธุรกิจ
จีพยองก็ไม่เหงาแล้วเน้อ ได้น้องชายเพิ่มมากอีกหนึ่งคน