สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ที่บอกว่า "ทุกคนเป็นหนี้ตกคนละไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท" เอาตัวเลขนี้มาจากไหนครับ ในเมื่อโครงการคนละครึ่งเฟส1 รัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ถ้าเอาคำว่า"ทุกคน"มาใช้ต้องหมายถึงคนไทยทั้งประเทศ 66ล้านคน ซึ่งพอเอาไปหารงบประมาณที่ใช้จะเท่ากับเป็นหนี้เพิ่มมา 300บาทต่อคน ต่อให้รวมโครการเงินกู้ทั้งโครงการกว่า2ล้านๆบาท ก็ยังไม่ถึง 12ล้านบาทตามที่อ้างมา
มาม่ามี 72 รส ถูกใจ, ซาลาเปาน้อยของพี่หมู ถูกใจ, Lord of Skeleton ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2964456 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 936116 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1612572 ถูกใจ, natpsw ถูกใจ, romanista ถูกใจ, saipaniiz ถูกใจ, Tamจัง ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
คนละครึ่งกับแสงสว่างที่ปลายอุโมง
ข้อกังขาหลายๆ อย่างว่าเราจะใช้หนี้อย่างไรคิดว่าจะเป็นเงื่อนไขต่อไปที่รัฐบาลจะต้องแก้ปัฐหาอย่างระมัดระวังกันต่อไป
โครงการคนละครึ่งและอื่นๆ ถือว่าเป็นการดึงความสนใจจากประชาชนให้หันมาจับจ่ายแบบไม่ต้องใช้เงินสด สมมุติว่าถ้ารัฐประกาศตูมออกมาว่าเราเลิกใช้เงินสดกันเถอะและให้มาจับจ่ายผ่านมือถือกัน รับประกันเกือบ 100% ว่าประชาชนจะลุกฮือขึ้นมาทันที และก็จะตั้งคำถามต่างๆ ออกมาอย่างมากมายไม่จบไม่สิ้น
รัฐยอมเป็นหนี้นับแสนล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด และถ้าระบบสมบูรณ์และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับแบบค่อยๆ ปรับตัว (ไม่ได้บังคับ) เราก็จะใช้จ่ายแบบไม่ต้องพกเงินสดกันอีกต่อไป ปัญหาจี้ชิงทรัพย์ก็จะไม่เกิดขึ้นเพราะจะทำอะไรเราก็อยู่ในการดูแลของระบบทั้งหมด
ขึ้นต่อไปที่รัฐจะต้องปรับใหม่คือการชะลอการเกษียรอายุการทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนออกไปอีก จาก 60 เป็น 70 ปี เพราะในอีก 20-30 ปีข้างหน้าจะมีผู้สูงอายุว่างงานถึง 30 ล้านคนขึ้นไป (พวกเราในเวลานี้นี่แหละ) และจะเป็นหนี้ก้อนโตที่จะมากกว่าเวลานี้ถึง 30 เท่า และจะเป็นหนี้ที่จะไม่สามารถชดใช้ได้เลยเพราะเราจะมีประชากรที่อยู่ในวัยทำงานแค่ 40 ล้านคนและอีกราว 30 ล้านคนตกงาน ก็เท่ากับว่าเรามีบุคคาการที่อยู่ในเกณฑ์ทำงานได้แค่ 30-40% ของประชาการทั้งประเทศ