คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
อ่านจบแล้ว อยากกอดคุณขึ้นมาทันที กอดๆๆๆๆๆๆ

ก่อนอื่นเลยนะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะ เข้าใจอารมณ์ที่คุณกำลังประสบพบเจอ
คนที่คบกันมาเป็นสิบปี แน่นอนว่าความผูกพันธ์มันก็ต้องเยอะ ในทุก ๆ สถานที่ ในทุก ๆ ภาพจำ ล้วนมีแฟนเก่าอยู่ในนั้น
ไม่ง่ายเลยที่จะลืมและก้าวผ่านไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือ คุณเป็นคนที่จิตใจดี คุณไม่ระรานแฟนเก่าคุณ คุณยินดีและต้องการ
ให้เค้าและคนใหม่มีความสุข แม้ตัวเองจะทุกข์ใจแค่ไหนก็ตาม จงเชื่อให้พลังความดีของตัวเอง
การจะก้าวผ่านไปช้าหรือเร็ว มันอยู่ที่ว่า คุณรักตัวเองมากแค่ไหน เพราะในอดีตที่ผ่านมา คุณเอาตัวเองไปฝากไปกับแฟนเก่า
ในทุก ๆ จังหวะของชีวิต คุณเหมือนเงาที่ตามตัวเค้าอยู่ตลอด คุณไม่เคยได้ออกมายืนข้าง ๆ แฟนเก่าคุณนะ คุณเป็นเพียงแค่เงา
คุณต้องตระหนักให้ได้ว่า แท้จริงแล้ว คุณเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้นะ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวและแฟนเก่าคุณก็ไม่ได้สำคัญ
มากไปกว่าใคร ๆ เค้าก็แค่คน ๆ หนึ่ง ที่เดินเข้ามาในชีวิตคุณเมื่อ 12 ปีก่อน
ให้คุณมองกลับไปที่อดีตว่า ถ้าวันนั้นไม่ได้เจอกับแฟนเก่า ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ คุณอาจจะยังเป็นคนโสดที่มีความสุข
แต่เพราะอดีตมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ไง คุณเลยต้องทำใจและยอมรับมัน ถ้าเราถามว่าตลอด 12 ปีที่ผ่านมา คุณมีความสุขไหม
เราเชื่อว่าคุณมีความสุขมาก ๆ ดังนั้น อดีตสำหรับคุณไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย มันคือช่วงเวลาที่มีความสุข และนั้นแหละคือเหตุผลว่า
ทำไมในทุก ๆ ที่ที่คุณไป จะมีภาพแฟนเก่าอยู่ด้วยเสมอ เพราะคุณกำลังยึดติดกับความสุขในอดีต แต่เพราะคุณจับต้องมันไม่ได้ไง
คุณก็เลยเสียใจ ทุกข์ใจ และร้องไห้ไปกับมัน
เราไม่ห้ามคุณนึกถึงอดีตหรอกนะ เพราะตอนนี้ ภาพในอดีตคือสิ่งเดียวที่คุณยึดจับไว้ได้ คุณยังโอบกอดอดีตอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร
มันเป็นกระบวนการปกติที่เวลาเราทุกข์ เราต้องการแหล่งพลังงานที่ทำให้เรามีความสุข
ที่นี่ ถ้าคุณอยากจะเริ่มต้นเดินหน้า สิ่งแรกคือ หันมารักตัวเองให้ได้ก่อน บอกตัวเองในทุกวันว่า คุณมีคุณค่า คุณรักตัวเอง คุณจะทำวันนี้ให้ดี
คุณจะยิ้มให้ตัวเอง (แม้จะฝืนยิ้มก็ตาม) ช่วงแรกมันจะทำยากมาก และฝืนตัวเองมาก ๆ แต่คุณต้องยิ้มกับตัวเองที่หน้ากระจกให้ได้
แม้คุณจะต้องยิ้มด้วยน้ำตาก็ตาม คุณต้องยิ้ม มันคือข้อบังคับที่คุณต้องทำ ให้คุณกล่าวขอบคุณตัวเองและสิ่งรอบข้าง ขอบคุณแปรงสีฟัน
ขอบคุณเจลอาบน้ำ ขอบคุณอาหาร ขอบคุณอากาศ ขอบคุณเสื้อผ้า ให้คุณค่อยพิจารณาสิ่งต่าง ๆ รอบข้าง เพราะตอนนี้ใจคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้
เรื่องใกล้ตัวที่เรามักจะมองข้ามไป
ก่อนนอนให้บอกตัวเองว่า "ฉันทำได้" "ฉันผ่านมันไปได้" "ฉันเข้มแข็ง" "ฉันรักตัวเอง" พูดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหลับ เหมือนนับแกะก่อนนอน
คุณต้องเริ่มสร้างพลังงานด้านบวกให้ตัวเอง ปรับกระบวนการของจิตใต้สำนึกและตามความรู้สึกของตัวเองให้ทัน ถ้าคุณจะร้องไห้ก็ให้ร้องได้
แต่ต้องเรียกสติกลับมาด้วย ต้องรู้ว่าตอนนี้กำลังร้องไห้นะ ไม่ใช่เดินไปร้องไห้ไป สติลอยไปที่ไหนก็ไม่รู้ กว่าจะตามกลับมาเล่นเอาเหนื่อย
ค่อย ๆ ฝึกจิตของตัวเอง
ตอนนี้เราไม่แนะนำให้คุณเริ่มต้นคุยกับคนใหม่ ไม่ใช่เพราะคุณสร้างกำแพงไว้สูงนะ เพราะในความจริงคุณไม่มีกำแพงอะไรกั้นไว้เลย
คุณแค่ยืนอยู่อีกด้านของประตู มีคนมาเคาะแต่คุณไม่ยอมเปิดให้เค้าเข้ามา มันก็แค่นั้นเอง เพราะคุณไม่พร้อมที่เปิดใจรับคนใหม่
ไม่ใช่เพราะกำแพงสุง มันต่างกันนะ ระหว่างคำว่า "ประตู" กับ "กำแพง" ไม่มีกำแพงสำหรับกรณีของคุณ มีแค่ประตูที่ยังไม่ได้เปิดออก
ถึงเวลาที่จะกลับมาสร้างคุณค่าให้ตัวเองให้ได้ก่อน เป็นเรื่องสำคัญประการแรกที่คุณจะต้องทำให้ได้ เพราะถ้าคุณรักตัวเองได้เมื่อไร
คุณจะมองเห็นอีกด้านของประตู คุณจะสามารถใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องเป็นเงาตามใคร คุณจะดำเนินชิวิตต่อไปแม้จะมีภาพแฟนเก่าเข้ามา
เพราะคุณยอมรับในตัวเองได้แล้ว รักตัวเองเป็นแล้ว นี่แหละคือ เกาะป้องกันคุณและทำให้คุณก้าวเดินต่อไปได้
เราขอเป็นกำลังใจให้ เราตั้งใจมาก ๆ ที่จะถ่ายทอดคำพูดออกมาให้ความเห็นนี้ เพราะเราเชื่อมั่นว่า คุณทำได้ และคุณจะทำมันได้ดีด้วย
ขอให้โชคดี

ก่อนอื่นเลยนะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะ เข้าใจอารมณ์ที่คุณกำลังประสบพบเจอ
คนที่คบกันมาเป็นสิบปี แน่นอนว่าความผูกพันธ์มันก็ต้องเยอะ ในทุก ๆ สถานที่ ในทุก ๆ ภาพจำ ล้วนมีแฟนเก่าอยู่ในนั้น
ไม่ง่ายเลยที่จะลืมและก้าวผ่านไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือ คุณเป็นคนที่จิตใจดี คุณไม่ระรานแฟนเก่าคุณ คุณยินดีและต้องการ
ให้เค้าและคนใหม่มีความสุข แม้ตัวเองจะทุกข์ใจแค่ไหนก็ตาม จงเชื่อให้พลังความดีของตัวเอง
การจะก้าวผ่านไปช้าหรือเร็ว มันอยู่ที่ว่า คุณรักตัวเองมากแค่ไหน เพราะในอดีตที่ผ่านมา คุณเอาตัวเองไปฝากไปกับแฟนเก่า
ในทุก ๆ จังหวะของชีวิต คุณเหมือนเงาที่ตามตัวเค้าอยู่ตลอด คุณไม่เคยได้ออกมายืนข้าง ๆ แฟนเก่าคุณนะ คุณเป็นเพียงแค่เงา
คุณต้องตระหนักให้ได้ว่า แท้จริงแล้ว คุณเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้นะ คุณไม่ได้อยู่คนเดียวและแฟนเก่าคุณก็ไม่ได้สำคัญ
มากไปกว่าใคร ๆ เค้าก็แค่คน ๆ หนึ่ง ที่เดินเข้ามาในชีวิตคุณเมื่อ 12 ปีก่อน
ให้คุณมองกลับไปที่อดีตว่า ถ้าวันนั้นไม่ได้เจอกับแฟนเก่า ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ คุณอาจจะยังเป็นคนโสดที่มีความสุข
แต่เพราะอดีตมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ไง คุณเลยต้องทำใจและยอมรับมัน ถ้าเราถามว่าตลอด 12 ปีที่ผ่านมา คุณมีความสุขไหม
เราเชื่อว่าคุณมีความสุขมาก ๆ ดังนั้น อดีตสำหรับคุณไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย มันคือช่วงเวลาที่มีความสุข และนั้นแหละคือเหตุผลว่า
ทำไมในทุก ๆ ที่ที่คุณไป จะมีภาพแฟนเก่าอยู่ด้วยเสมอ เพราะคุณกำลังยึดติดกับความสุขในอดีต แต่เพราะคุณจับต้องมันไม่ได้ไง
คุณก็เลยเสียใจ ทุกข์ใจ และร้องไห้ไปกับมัน
เราไม่ห้ามคุณนึกถึงอดีตหรอกนะ เพราะตอนนี้ ภาพในอดีตคือสิ่งเดียวที่คุณยึดจับไว้ได้ คุณยังโอบกอดอดีตอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร
มันเป็นกระบวนการปกติที่เวลาเราทุกข์ เราต้องการแหล่งพลังงานที่ทำให้เรามีความสุข
ที่นี่ ถ้าคุณอยากจะเริ่มต้นเดินหน้า สิ่งแรกคือ หันมารักตัวเองให้ได้ก่อน บอกตัวเองในทุกวันว่า คุณมีคุณค่า คุณรักตัวเอง คุณจะทำวันนี้ให้ดี
คุณจะยิ้มให้ตัวเอง (แม้จะฝืนยิ้มก็ตาม) ช่วงแรกมันจะทำยากมาก และฝืนตัวเองมาก ๆ แต่คุณต้องยิ้มกับตัวเองที่หน้ากระจกให้ได้
แม้คุณจะต้องยิ้มด้วยน้ำตาก็ตาม คุณต้องยิ้ม มันคือข้อบังคับที่คุณต้องทำ ให้คุณกล่าวขอบคุณตัวเองและสิ่งรอบข้าง ขอบคุณแปรงสีฟัน
ขอบคุณเจลอาบน้ำ ขอบคุณอาหาร ขอบคุณอากาศ ขอบคุณเสื้อผ้า ให้คุณค่อยพิจารณาสิ่งต่าง ๆ รอบข้าง เพราะตอนนี้ใจคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้
เรื่องใกล้ตัวที่เรามักจะมองข้ามไป
ก่อนนอนให้บอกตัวเองว่า "ฉันทำได้" "ฉันผ่านมันไปได้" "ฉันเข้มแข็ง" "ฉันรักตัวเอง" พูดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหลับ เหมือนนับแกะก่อนนอน
คุณต้องเริ่มสร้างพลังงานด้านบวกให้ตัวเอง ปรับกระบวนการของจิตใต้สำนึกและตามความรู้สึกของตัวเองให้ทัน ถ้าคุณจะร้องไห้ก็ให้ร้องได้
แต่ต้องเรียกสติกลับมาด้วย ต้องรู้ว่าตอนนี้กำลังร้องไห้นะ ไม่ใช่เดินไปร้องไห้ไป สติลอยไปที่ไหนก็ไม่รู้ กว่าจะตามกลับมาเล่นเอาเหนื่อย
ค่อย ๆ ฝึกจิตของตัวเอง
ตอนนี้เราไม่แนะนำให้คุณเริ่มต้นคุยกับคนใหม่ ไม่ใช่เพราะคุณสร้างกำแพงไว้สูงนะ เพราะในความจริงคุณไม่มีกำแพงอะไรกั้นไว้เลย
คุณแค่ยืนอยู่อีกด้านของประตู มีคนมาเคาะแต่คุณไม่ยอมเปิดให้เค้าเข้ามา มันก็แค่นั้นเอง เพราะคุณไม่พร้อมที่เปิดใจรับคนใหม่
ไม่ใช่เพราะกำแพงสุง มันต่างกันนะ ระหว่างคำว่า "ประตู" กับ "กำแพง" ไม่มีกำแพงสำหรับกรณีของคุณ มีแค่ประตูที่ยังไม่ได้เปิดออก
ถึงเวลาที่จะกลับมาสร้างคุณค่าให้ตัวเองให้ได้ก่อน เป็นเรื่องสำคัญประการแรกที่คุณจะต้องทำให้ได้ เพราะถ้าคุณรักตัวเองได้เมื่อไร
คุณจะมองเห็นอีกด้านของประตู คุณจะสามารถใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องเป็นเงาตามใคร คุณจะดำเนินชิวิตต่อไปแม้จะมีภาพแฟนเก่าเข้ามา
เพราะคุณยอมรับในตัวเองได้แล้ว รักตัวเองเป็นแล้ว นี่แหละคือ เกาะป้องกันคุณและทำให้คุณก้าวเดินต่อไปได้
เราขอเป็นกำลังใจให้ เราตั้งใจมาก ๆ ที่จะถ่ายทอดคำพูดออกมาให้ความเห็นนี้ เพราะเราเชื่อมั่นว่า คุณทำได้ และคุณจะทำมันได้ดีด้วย
ขอให้โชคดี

แสดงความคิดเห็น
(Y) แฟนที่คบกันมา12ปี ถ้าเค้าหมดรักแล้วมีคนใหม่ อยากทราบวิธีหยุดเสียใจและเปิดใจตัวเองให้ได้สักทีครับ
ผมคบกับแฟนมาสิบสองปีแล้ว กำลังจะครบ 13ปีครับ ช-ช
ที่จริงเราระแคะระคายกันมาสองปีละครับ ช่วงพ่อผมป่วยหนัก ผมเลยเป็นซึมเศร้าไปด้วย
อารมณ์ผมขึ้นๆลงๆตลอดเวลา เมื่อกลางปีที่ผ่านมาพอพ่อผมจากไป อาการซึมเศร้าผมก็พยายามประคับประคองให้ดีขึ้น รักษาจนดีขึ้น
ส่วนเรื่องแฟน ผมเองก็รู้ว่าเค้าแอบมีเด็กอีกคนเข้ามา จากเพื่อนๆที่พบเห็นแล้วเอามาบอก ถ่ายรูปมาบอก
แต่ผมก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตาไป ทำเหมือนทุกทุกที ที่เค้ามีคนอื่น เพราะที่สุดแล้วเค้าจะติดได้แล้วกลับมาที่เดิม กลับมาหาผม
แต่รอบนี้มันต่างไป แฟนที่คบกันมานาน เข้ามาบอกเลิก โดยให้เหตุผลว่าเด็กที่เค้าคบนั้นสามารถพาเค้าไปหาชีวิตที่ดีกว่าได้
เค้าไม่อยากอยู่กัยหนังสือเล่มเดิมๆ ผลลัพธ์แบบเดิม เค้าอยากมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
เค้าบอกกับผมว่า เค้าก็อยู่ที่เดิม เป็นเหมือนเดิม แต่มันไม่เหมือนเดิมน่ะสิครับ เราจะคุยจะเจอจะปรึกษากันแบบเดิมไม่ได้แล้ว
เค้าแบ่งส่วนของผมเกือบทั้งหมดไปให้เด็กคนนั้น เด็กที่เค้าไปคบ และเค้ารักเด็กคนนั้น
ทุกวันนี้เหมือนผมโดดเดี่ยวมาก
ไปทางไหนก็มีแต่หน้าเค้า ร้องไห้ทุกที่ ทุกวัน
ตอนเช้าบนเตียง ระหว่างทำงาน ร้องจนลูกน้ิง ตอนออกไปวิ่งในสวน ในMRT กลาง7/11 ร้องแบบไม่มีเสียงแต่น้ำตาไหลลงตลอดเวลา
ไม่อายใคร แต่มันเหนื่อยเหลือเกิน
ผมอยากก้าวต่อไป อยากมีความสุขและยินดีไปกับเค้าและคนใหม่ของเค้า อยากเปิดใจตัวเองให้ได้
แต่ทุกคนที่ผมเปิดใจ มีพอมีคนเข้ามา ทุกคนบอกว่าผมมีกำแพงเรื่องเค้าสูงมาก ไม่ยอมเปิดใจ จนหลายๆคนท้อที่จะคุยด้วย
อย่างตอนนี้ผมฝันถึงเค้าตลอดเวลา และผมเจ็บใจตัวเองที่ให้เค้าได้ไม่มากพอ เจ็บใจที่ทำให้เค้ามีความสุขแบบที่เค้าต้องการไม่ได้
นี่ก็ผ่านช่วงที่เค้าบอกเลิกมาจะครึ่งปีละครับ ผมยังเป็นแบบเดิม และดีไม่ดีคงหนักกว่าเดิม เพราะผมหยุดยาซึมเศร้าไป
อารมณ์ดิ่งน่ากลัวมาก ผมไม่รู้จะทำยังไงดีครับ ผมไม่อยากกลับไปกินยาที่ช่วยตัดความคิดอะไรอีกแล้ว
ผมแค่อยากยิ้มยอมรับความจริงให้ได้สักที
วิธีแก้ปัญหาผมเองก็รู้ดีว่าควรตัดใจ ผมควรทลายกำแพง
แต่คำพูดที่สวยหรูแบบนี้มันไม่ได้ทำกันง่ายๆเลยครับ
พอจะมีคำแนะนำ คำด่า รึอะไรก็ได้ ให้ผมได้ก้าวต่อไปได้มั้ยครับ