อยากหนีไปให้ไกลจากพ่อ

สวัสดีค่ะ พอดีเราเคลียดมากกับเรื่ององความรู้สึกที่มีต่อพ่อ ณ ตอนนี้ อยากจะมาขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆในพันทิป

เราเองอายุ 21 โตมาในครอบครัวที่สมบูรณ์ ( คิดมาตลอดแต่อาจจะไม่ใช่ ) เราเป็นลูกสาวคนที่ 2 ของบ้าน
( แม่พึ่งมีคนที่ 3 เมื่อสิ้นปีที่แล้ว )ครอบครัวของเราทำอาชีพค้าขายรายได้ต่อวันค่อนข้างดี พ่อกับแม่เราขายของเหมือนกันแต่ขายคนละที่ ( เป็นรถเร่ขายตามหมู่บ้าน ) ตั้งแต่จำความได้พ่อแม่ก็ทะเลาะเรื่องเงินๆทองๆมาตลอดถึงขั้นตีกัน  พ่อปลูกฝังเราตั้งแต่เล็กว่าให้เราเรียนสูงๆจะได้ไม่ต้องลำบากแบบเค้า พ่อส่งเสียได้แค่ขอให้เราตั้งใจเรียน แต่พอเราเรียนอยู่ปวช. ปี 3 ( เราสอบชิงทุนเรียนฟรีได้ 100% ไม่ต้องออกค่าเทอมเลยสักนิด ค่าเทอมประมาน 2 หมื่นนิดๆ เราได้ทุนจนจบปี 3 )พ่อเริ่มมีอาการบ่นเรื่องการส่งงานรายวันให้เราไปเรียน เค้าเคยพูดว่าถ้าเราเรียนจบเค้าก็สบายมีเงินเก็บมากมายแต่ตอนนี้มีภาระคือเรา พูดเหมือนเราเป็นตัวถ่วง เค้าไม่อยากส่งเสียเราอีกต่อไป ตอนนั้นพูดตรงๆเราเสียใจมากความรู้สึกเหมือนเป็นภาระครอบครัว จนเราเรียนจบต่อ ปวส.เราไม่เอ่ยปากขอเงินครอบครัวสักบาท เราเริ่มหางานทำและส่งตัวเองเรียน เงินเดือนเราออกพ่อเริ่ทพูดถึงเงินเรา เราได้เท่าไหร่เริ่มมีอาการคิดว่าเราจะให้เงินเค้าเท่าไหร่ วันไหนเงินเราออกก็มีมาขอเราบ้าง แรกๆเราให้แต่พอหลังไม่ให้เพราะรู้ว่าพ่อเอาเงินไปซื้อเหล้าเลี้ยงเพื่อน และทะเลาะกับแม่เรื่องเงินทุกๆวันพ่อเราไม่เหลือเงินเข้าบ้านแถมเป็นหนี้ไปทั่ว จนเราเริ่มไม่ไหวกับสิ่งที่เป็นอยู่ เราเริ่มหางานใหม่ ที่อยู่ใหม่ไม่ไกลไม่ไกลพอไปหาสู่กันได้ และพักการเรียนไว้แค่นั้น แต่พ่อก็คิดว่าเราเอาเงินที่ไปเช่าอยู่มาให้เค้ามาอยู่กับเค้าไม่สุขสบายกว่าหรอ คือเราไม่เคยมีความรู้สึกว่าสุขสบายหรือว่ามันต่างจากการที่เราออกมาอยู่คนเดียวตรงไหนเลย มีความสุขและสบายใจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

หลังจากเราออกมาได้ 4-5 เดือนทุกๆครั้งที่เรากลับบ้านพ่อก็จะถามถึงแต่เรื่องเงินเดือน ถามเรื่องเงินเก็บเราบ้าง มีเงินเก็บเท่าไหร่ ตอนที่เราออกมาเงินเราแทบไม่มี ยังดีที่เรายังมีแฟนที่คบกันมา 2-3 ปีให้เราอยู่เลยได้พอมีเวลาหาเงินตั้งตัวอยู่บ้างแต่แค่พอค่ามัดจำห้องเท่านั้น

ผ่านไปไม่นานเจ้าของบ้านที่เช้าอยู่เริ่มไม่โอเคที่พ่อเริ่มพาเพื่อนมาบ้านมากินสังสรรค์ ( บ้านเราย้ายบ่อยมากสาเหตุมาจากพ่อเป็นหลักเปิดเพลงกินเหล้าร้องเพลงเสียงดังพอเค้ามาเตือนๆไม่พอใจก็ย้ายไปเรื่อยๆ ) จากบ้านสู่สลัม ใช่ค่ะตอนนี้บ้านเราอยู่เป็นสลัมเป็นแค้มคนงานก่อสร้าง คือเข้าใจความรู้สึกเราไหมคะ ครั้งแรกที่ไปเจอบ้านน้ำตาเราตกในรู้สึกอย่างร้องไห้แต่น้ำตาไม่ไหล ส่วนแม่เราก็ด่าพ่อค่ะด่าแต่ไม่ได้ห้ามจริงจังหรือทำอะไรเด็ดขาดพ่อเราเคยตัวมาตลอด ทุกครั้งที่กลับบ้านเราแทบจะไม่อยากอยู่บ้านมันร้อนมันอบอ้าวทำให้เราคิดว่าอะไรมันทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ มันเป็นความคิดที่รู้อยู่แล้วว่าคือพ่อ

จุดแตกหักความรู้สึกของเราตอนนี้ คือพ่อทวงบุญคุณเรา พ่ออยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดบ้านเกิดเราไม่ห้ามและยินดีด้วยซ้ำแต่ที่เราไม่โอเคคือพ่อบอกว่าเราต้องส่งเงินให้พ่อทุกเดือนเป็นเงินจำนวนนึง ซึ่งเราคิดว่าถ้าเราให้ไปเราแทบไม่เหลืออะไรเลย ความคิดของเราตอนนี้คือถ้าเราให้เราต้องให้ถึงเมื่อไหร่ ถ้าเราให้เราไม่สามารถซื้ออะไรได้เลยนอกจากค่าข้าวและค่าห้อง เรามีหลายสิ่งอย่างที่เราไม่เคยได้และอยากได้มานาน( เราแทบไม่เคยได้อะไรจากพ่อแม่ ทุกครั้งที่ขอแม่ก็จะต่อว่าเรา แต่แม่เอาเงินไปให้พ่อเล่นการพนันได้ ) พอถึงจุดที่เราหาเงินได้เรากลับไม่สามารถนำมาใช้ในสิ่งที่เราอยากได้บ้าง พ่อถามว่าเรามีปัญญาสร้างเสาบ้านได้สักต้นหรือยัง “ทีกูยังส่งเรียนได้ทำไมถึงส่งให้บ้างประมาณนี้” เราอึ้งมาก บวกกับความคิดหลายอย่างมันหนักหน่วงมากตอนนี้หลายเดือนแล้วที่เราไม่ได้คุยกับพ่อและเราตัดปัญหาในเรื่องนี้คือนานๆจะกลับไปหาครอบครัว ( จริงๆเราไม่อยากไปไม่เลยสักนิดแต่ที่เราไปเราคิดถึงน้องสาว แม่พึ่งมีน้องเมื่อสิ้นปีที่แล้วตอนนี้กำลังน่ารัก )คือตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราคิดมากไปถึงขั้นไหนแล้ว บางครั้งเราเคลียดถึงขั้นไปฝัน คิดจนเคลียดบ้างครั้งร้องไห้ก็มีค่ะ เราคิดว่าครอบครัวคือหมอนรองรับเราได้ดีที่สุด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่และมันไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ

เราออกมาอยู่ข้างนอกไม่มีแม้แต่ใครโทรถามว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่เคยมีใครทักหรือโทรมาจนตอนนี้เวลาร่วมปีกว่า มีแต่แม่มาทักยืมเงินเรา เราส่งเงินให้เกือบทุกเดือนจำนวนไม่มากแต่ให้ตามกำลัง ส่วนพี่สาวเราพึ่งกลับมาอยู่กับพ่อแม่ช่วงโควิดก่อนหน้านี้พี่สาวอยู่ตปท.กับแฟนและมีลูก 2 คน เนื่องจากโควิดทำให้พี่สาวกลับไปไม่ได้ แฟนเค้าก็ไม่ได้ร่ำรวยไม่ได้มีเงินมาพอที่จะให้เช่าบ้านเป็นหลังเนื่องจากพิษโควิดรายได้ประจำไม่มี แถมรายได้เสริมยังหายาก พี่สาวชอบบอกว่าพ่อกับแม่ชอบบอกให้พี่สาวขอเงินแฟนของเค้าบอกว่าป่วยเพื่อที่จะเอาเงินซึ่งเราเป็นคนฟังจากพี่เองยังรู้สึกรับไม่ไหว แฟนเค้าส่งเงินมาให้พี่สาวกับลูกพี่สาวเราก็เอาไปซื้อพวกของใช้เด็ก ( พี่สาวมีลูกสาว 2 คน อีกคน 1 ขวบ อีกคนยังไม่ 3 ขวบดี ) แม่ก็มาใช้ด้วยบางทีแพมเพิทต่างๆรวมถึงนม บางทีพี่สาวก็ไม่ไหวไม่มีรายได้ก็มาบ่นกับเราบ้าง พี่สาวเรามีแฟนกี่คนพ่อกับแม่ให้แต่งทุกคน ขนาดคลกันยังไม่ถึง 3 เดือนก็ให้ผูกข้อไม้ข้อมือ

ส่วนเราพอเห็นแบบนี้ก็ไม่เปิดตัว ไม่แนะนำแฟนให้ที่บ้านรู้จัก( ยกเว้นพี่สาว )แฟนเราดีไม่เคยเบียดเบียนเงินเราแถมซัพพอทเราเกือบทุกอย่าง พ่อกับแม่ก็มีถามๆพี่บ้างแต่พี่ก็ไม่อยากให้เราต้องไปเป็นแบบเค้า
มีอยู่ครั้งนึงพ่อถามพี่สาวอีกพี่สาวเลยบอกว่ามันจะคบใครก็ปล่อยให้มันคบกันเถอะอย่าไปอะไรเลยมันโตแล้วหาเงินได้และไม่เคยมาเดือดร้อน ส่วนพ่อเราตอบกลับว่ามีแล้วก็ต้องมาขอมาทำให้ถูกต้อง แต่เรารับรู้ถึงความถูกต้องที่ไม่ถูกต้องที่พ่อพูด พ่อแค่อยากได้เงินเท่านั้น

บางครั้งเราเคลียดก่อนจะหลับเรามีแวบที่มันคิดเราร้องไห้บ่อย เราร้องไห้กับแฟนบ่อยมาก เหม่อที่จะคิดเรื่องแบบนี้บ่อย เราเริ่มเห็นครอบครัวคนอื่นมีความสุขแล้วอิจฉา ร้องไห้เป็นบางครั้งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับพ่อและแม่มาก

ตอนนี้เราไม่อยากที่จะเข้าไปบ้านถ้าไม่มีน้องคงไม่เข้าไปจริงๆ เราไม่มีความทางจำที่มีความสุขเลยสักนิดมันคิดแทบไม่ออก ที่ผ่านมาเราไม่เคยทำให้ท่านผิดหวังเลยแต่มีเหตุการณ์ที่เรารู้สึกว่าเราเกลียดพ่อที่สุดคือพ่อไล่ให้เราไปผูกคอตาย ตอนปี 2 เราเลิกเรียน 16:40 ถึงบ้าน 2 ทุ่มเพราะเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้างตามประสาเพราะเข้าบ้านไปก็เบื่อที่จะต้องเจอเสียงพ่อแม่คุยกันเรื่องเงินๆทองๆ

เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกับความคิดเราตอนนี้บ้างไหมคะ เราแย่มากเลยใช่ไหมคะที่คิดแบบนี้ เราทนไม่ไหวจริงๆเราเหมือนคนเก็บกด จนเคยคิดถึงขั้นว่าเราไม่อยากมีพ่อแล้วค่ะ

ถ้าเราพิมงงๆตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่