เพลงแนว EDM ตือเพลงแนวอะไรกันแน่??

เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับปัญหาโลกแตกที่เข้าใจได้ยากสุดๆ และมีความหมายที่ไม่แน่นอนด้วย ทำให้ไม่รู้และยากที่จะเข้าถึงกับเพลงแนว EDM วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ประสบการณ์​และความรู้เท่าที่ผมเข้าใจและได้ทำเพลงแนวนี้มาเป็นเวลานาน เพราะเพลงแนวนี้สำหรับผมและอาจจะใครหลายๆ คนก็ใช้เวลานานในการเข้าใจมัน หรือบางคนไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเพลงแนว EDM มันเป็นยังไง วันนี้ผมเลยจะมาบอกกันครับ ขอไม่ลงลึกมากนะครับ เดี๋ยวจะงงกันสะก่อน 555555

**หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยอย่างสูงด้วยครับ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวและข้อมูลบางส่วนที่ได้ศึกษามาครับ**

สำหรับผมคำว่า EDM หรือ Electronic Dance Music เนี่ยมันไม่ใช่แนวเพลงนะครับ แต่มันคือชื่อที่ไว้ใช้เรียกกลุ่มเพลงที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์​เสียงซะมากกว่า เพราะว่าเพลงแนวที่ใช้เครื่องสังเคราะห์​เสียงเนี่ยมันก็มีมากมาย แต่ไม่ได้จัดเป็น EDM ก็มีเช่นกันครับ คล้ายๆ กับเพลงแนวยอดฮิตอย่างเพลง Rock ถามว่าเพลงร็อคมันใช่แนวเพลงรึเปล่า ให้ตอบบ้านๆ มันก็ใช่แหละครับ แต่ว่าเพลงที่เวลาศิลปินเขาออกมาเขาไม่ได้เขียนแค่ว่ามันเป็นเพลงร็อค แต่อาจจะเป็น Pop Rock, Punk, Metal อะไรก็ว่ากันไป ร็อค เป็นแค่ชื่อที่ใช่เรียกรวมๆ เพลงแนวนี้มากกว่าครับ เหมือนกับ EDM เลยไม่ต่างกัน

มาต่อกันว่าเพลงแนว EDM เนี่ยมันมีลักษณะ​ยังไง อะไรที่เป็นเอกลัษณ์​ เพลงแนวนี้มีเอกลักษณ์​เฉพาะตัวอยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าทำจากอะไรที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์​เสียงก็เป็น EDM ไปสะหมด อย่างเพลงของ Justin Bieber เขาก็ทำจากเครื่องสังเคราะห์​เสียงเช่นกันกัน แต่ไม่ใช่ EDM สะหน่อย โดยเพลงพวก EDM เนี่ยจริงๆ แล้วจะมีลักษณะ​เด่นที่แตกต่างกันมากในแต่ละแนว แต่ที่ทุกๆ แนวเนี่ยมีแน่ๆ และฟังแล้วเนี้ยแหละ คือ EDM จะมีดังนี้ครับ

- จะมีท่อนฮุคหรือท่อน Chorus​ ที่ทำให้ฟังติดหูได้ง่าย ทำให้เมโลดีจากเพลงเนี่ย มันวนๆ อยู่ในหัวเราเนี่ยแหละ คล้ายๆ เพลงป๊อปเลย
- แน่นอนทำจากเครื่องสังเคราะห์​เสียง แต่จะเอาเครื่องดนตรี​มาใส่ก็ไม่ผิดนะ แต่ฟังโดยรวมจะต้องเป็นเครื่องสังเคราะห์​เสียง
- ส่วนใหญ่จะไม่มีเนี้อร้อง แต่หากมีเนี้อร้องท่อนฮุคก็ยังคงคอนเซ็ป​เดิมคือ เป็นเมโลดีติดหู (ท่อนฮุคต้องไม่มีเนี้อนะ มีแต่ทำนอง)
- เป็นเพลงชวนกระโดดโลดเต้น​ โยกย้าย​กันแบบ มันๆ จังหวะค่อนค้างเร็วสนุกๆ สนาน ถ้านึกภาพไม่ออกก็นึกภาพแบบ ผับหรืองานปาร์ตี้​นั้นแหละครับ แต่เพลงที่ช้า และทำนองไม่สนุกก็มีไม่ใช่น้อยเช่นกันนะครับ

โดยรวมหลักๆ มีเท่านี้ครับ ส่วนรายละเอียดเล็กน้อยมันเยอะมากๆ แค่นี้ก็อธิบาย​ภาพของเพลง EDM ได้แล้ว

แล้วถามว่า EDM มันมีกี่ประเภท อยากตอบตรงนี้เลยว่า มันเยอะมากๆ แบบเยอะจนนับแทบไม่ไหวและแต่ละอันถ้าไม่เซียนเพลง EDM​ จริงๆ ก็ฟังไม่ออกเลยว่าแนวอะไร เผลอๆ อาจจะมีมากกว่าที่ผมพอจะนึกออกเลยด้วยซ้ำ 5555555

1) Trance มาเริ่มกันแนวแรกเลย เพลงแนวนี้ต้นกำเนิดมาจากเยอรมัน​สไตล์​เพลงก็จะออกแนว เยอรมัน​ๆ เลย จังหวะเรียบง่ายเน้นโยกตามบีทกลองโดยส่วนใหญ่จะมี bpm อยู่ที่ 128 -​160 นะครับ

https://youtu.be/ET1-6Bef9xU

เพลงแนวนี้มันยุค 90 เลยมีสไตล์​เก่าหน่อยๆ

2) Disco เรียกได้ว่าแนวนี้ต่างจากคอนเซ็ป​ที่เพลง EDM ควรจะมีไปเยอะอยู่พอสมควร แต่จากที่หาข้อมูลมาเพลงแนวนี้จะเรียกว่าเป็นต้นกำเนิดก็อาจะได้ โดยเพลง disco จะใช้เครื่องดนตรีเป็นๆ ในการเล่นและไม่ค่อยมีท่อนติดหูเหมือนเพลงแนวอื่นๆ จริงๆ แล้วผมไม่อยากให้ disco เป็น EDM เลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นต้นกำเนิดเลยใส่มาครับ

https://youtu.be/I_izvAbhExY

ว่า trance เก่าแล้ว อันนี้เก่ากว่าอีก โดยกำเนิดประมาณยุค 70 (จะว่าไปคล้ายๆ ป๊อปอยู่นะเนี่ย 5555)

3) House เพลงแนวนี้เป็นเพลงที่ทำมาจากคนที่อยากฟังเพลงดิสโก้แต่ไม่มีโอกาส อาจจะจนหรือฐานะไม่ดีก็ว่ากันไป คนพวกนี้เลยทำเพลงแนวนี้ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์​กันในบ้าน หรือ โกดังเล็กๆ ตามชื่อแนวเลยคือ house หรือบ้านนั้นแหละครับ โดยเพลงเฮ้าส์​จะมีลักษณะเด่นเลยคือ เสียงกลองจะเรียบง่ายไม่ได้มีลูกเล่นอะไร บางท่อนมีแค่เบสดรัมเท่านั้นเอง เสียงกลองแค่กำกับจังหวะไปเท่านั้น และจะมีเสียงของ synth หรือก็คือเสียงพวกคีย์บอร์ด​ เครื่องสังเคราะห์​ นั้นแหละครับ เสียง synth จะมีทำนองที่เป็นเอกลัษณ์​ในแต่ละเพลงครับ และแต่ละท่อนส่วนใหญ่จะมีแต่ ทำนองเดียวครับ เช่น มีคอร์ดก็มีแค่คอร์ด หรือ จะมี​เมโลดี้​ก็จะมีแค่เมโลดี้​เท่านั้นล่ะครับ

https://youtu.be/e7HBypw4lhY

มันก็ไม่ต่างจากดิสโก้เลย
และแนวเฮ้าส์​เนี่ยเรียกได้ว่ามีหลากหลายแนวย่อยเลย เยอะมากๆ เช่น Future house, Bass house, Tropical house, Electro house, Progressive house และอื่นๆ อีกเยอะเลยครับ

4) Trap เป็นเพลงยอดนิยมเลยก็ว่าได้โดยเพลงแนวนี้จะมีสไตล์​หลักๆ อยู่ที่บีทกลองครับ โดยจะเร็วและรัวเป็นพิเศษ​ โดนโตมาจากเพลงแนว hip hop ทำให้มีลักษณะ​คล้ายๆ กัน แต่จะเด่นกว่าครับ โดยเพลง trap ที่ทุกคนรู้จักจริงๆ คงมาจาก DJ Snake แหละครับ โดยจะมีสไตล์​หม่นหมอง ไม่ใช่เศร้านะครับ แต่จะมีเสียงเบส กลอง หรือเสียง synth ที่ค่อนข้างต่ำทำให้รู้สึกจมครับ

https://youtu.be/HMUDVMiITOU

แนวย่อยก็เยอะใช่ย่อยเลย แต่ที่ย่อยมาดังก็คือ Future Bass ครับ แต่สำหรับผม ผมคืดว่ามันไม่ควรย่อยมาจาก trap เพราะมันแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ ผมเลยให้ future bass เป็นเพลงแนวมันเองครับ

5) Dubstep สไตล์​นี้เป็นสไตล์​ที่คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย คนฟัง EDM บางคนยังไม่ชอบเลย เพราะว่าเป็นสไตล์​ที่แสบแก้วหูที่สุดแล้ว หรือมันก็คือ heavy metal ของ EDM นั้นแหละครับ 5555 โดยท่อนบูมๆ ของมันเนี่ย จะมีลักษณะที่ค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับบางคน เพราะจะมีเมโลดีที่ รัว เร็ว สูงแหลม แตก และที่สำคัญมีเบสที่เป็นเอกลัษณ์​ เสียงเบสเหมือนเสียงหุ่นยนต์​พังแหละครับ 555555 เสียงกลองจะเป็นลักษณะ​ที่กระแทกแบบรุนแรงมากๆ ถ้าใส่หูฟังดังๆล่ะก็ รับรองเลยว่า หูแตกชัวๆ 55555

https://youtu.be/BDA_HP0eVAo

แนวย่อยมี Drumstep (กลองจะรัวกว่าและเบสจะเด่นกว่า), Chillstep​

6) Drum and Bass ตรงตัวครับไม่มีอะไรมาก คือ จะเด่นที่กลองและเบสเป็นพิเศษ กลองจะกระแทกคล้ายๆ dubstep เลย แต่จะซอฟลงมานิดนึง

https://youtu.be/QnL5P0tFkwM

แนวย่อยเยอะมากเช่น Dark core, Darkstep, Hardstep, Drumstep(ผสมจาก drum and bass กับ dubstep)

7) Electronic เป็นแนวเบสิคแบบโปรๆ เลยครับ แนวนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นแนวที่อยากทำแบบไหนก็ตามสบายครับ ฟังแบบชิวๆ ได้ทุกอารมณ์​ครับ ไม่มีอะไรเด่นพิเศษ​ อาจจะเด่นในท่อนดรอปก็ก็ว่าได้

https://youtu.be/tua4SVV-GSE

แนวย่อยส่วนใหญ่จะไปผสมกับแนวอื่นๆ ครับ เช่น Elecro house, Electro swing, Electro light

8) Glitch Hop เป็นแนวที่อธิบายยากพอๆ กับ electronic เลยครับ เรียกได้ว่าอาศัยความชำนาญในการฟังล้วนๆ เลยครับ แต่ว่าจะมีเอกลักษณ์​เลยคือ เสียง synth หรือเสียงท่อนดรอป จะมีลักษณะ​ที่เป็นการดันเสียงขึ้นหรือลง หรือจะเป็นการที่ท่อนดรอปติดๆ ขัดๆ ไม่ต่อเนื่อง ประมาณ​นี้ครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าจริงๆ แล้ว glitch hop เกืดจากการที่เครื่องสังเคราะห์​มันผืดพลาดและขับเสียงออกมาเพี้ยน และคนทำชอบ เลยเกิดขึ้นมา

https://youtu.be/J2X5mJ3HDYE

9) Hardstyle ถึงชื่อจะบอกว่าเป็น สไตล์​ที่ยาก แต่ไม่ได้ยากหรอกครับ 555555 ลักษณะ​เด่นเลยคือ มีเบสและ ท่อนดรอปที่เอกลักษณ์​มากๆ แค่ฟังก็รู้ได้เลย ก็คือ ท่อนดรอปจะไม่มีกลอง แต่จะเป็นเสียงเบสแตกๆ ผสมกับสแนร์ กำกับจังหวะ แค่นั้นแหละครับ

https://youtu.be/5TInD6WcMWY

10) ขอปิดท้ายกันด้วย Future Bass ที่เอามาเพราะว่าเป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์​เฉพาะ​ตัว มันไม่ควรเป็นแนวย่อยของ trap เลย มันแตกต่างกันมากๆ เลยเอาออกมาครับ โดย future bass มีลักษณะ​เด่นอยู่ที่ เสียง synth และเสียงเบสครับ เสียง synth จะดังและซ่าๆ ครับ ส่วนเบสจะแตกและดังเป็นพิเศษ​ ส่วนกลองจะคล้ายๆ trap แต่ไม่รัว และเพลงจะมีความนัวมากๆ ฟังอาจจะหลอนๆได้ และอาจไม่รู้ว่ามีทำนองอะไรบ้างในท่อนๆ เดียว และส่วนใหญ่ท่อนฮุคเพลงจะหยุดในท่อนที่เสียงสแนร์ดังหรือก็คือท่อนที่ 3 ของห้องแหละครับ

https://youtu.be/pWr1zrw7ZKw

หรือหากไม่มีเสียง synth มีแต่เสียงเบสแตกๆ ก็คือ Future​Bass​ เหมือนกันครับ เช่น
https://youtu.be/ALZHF5UqnU4

โดยหลักๆ ขอเพียงเท่านี้ครับ เพลง EDM มันเยอะมากจริงๆ เยอะจนนับไม่ไหว และแนวใหม่ๆ ที่เกิดใหม่ ก็เยอะมากเลย หากอยากรู้เจาะแต่ละแนวจริงกระทู้นร้คงไม่ไหว ของฝากท้ายเกี่ยวกับข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ของค่ายเพลง EDM ดังๆ อย่าง NCS ครับ โดยสังเกตุ​วง Spectrum ของเขาจะมีสีที่แตกต่างกันโดนสีนั้นจะบอกถึงแนวเพลงครับ มีดังนี้

แดง: Drumstep
ส้ม: Indie Dance/Synthpop
เหลือง: แนว House ต่างๆ/Electro
เขียว: Trap/Future Bass
สีมิ้นท์​: Glitch Hop
สีฟ้าเขียว หรือสี cyan นั้นแหละครับ: Chillstep​/Melodic Dubstep
น้ำเงิน: Dubstep
ม่วง: Future House/Future Bounce
ชมพู: Drum and Bass
ขาว: Hardstyle/Electronic และ สไตล์​แบบ ผสมๆกันครับ
ดำ: อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่คิดว่ามี 3 อย่างที่น่าเป็นไปได้เกี่ยวแนวเพลงสีนี้คือ
- ผสมๆ กัน
- เป็นแนวใหม่ ที่ยังไม่มีชื่อ
- คนใส่ก็อาจจะไม่รู้จริงๆ ว่าคือแนวอะไรกันแน่ 555
เพราะที่ผมฟังมีแต่แปลกๆ ทั้งนั้นเลยครับ แต่ที่น่าเป็นไปได้คือ แนวใหม่ครับ

ส่วนตัวผมคิดว่าแต่ละสไตล์​มันไม่ได้ย่อยมาจากอะไรหรือมีต้นกำเนิดมาจากอันไหนหรอกครับ ผมคิดว่าแต่บะสไตล์​มันก็มีเอกลักษณ์​ของมันที่อันอื่นไม่มีอยู่แล้วแน่นอน แต่ถ้าพวกที่พ่วงคำมาจากต้นกำเนิดก็มาจากต้นกำเนิดนั้นแหละ อย่าไปแยกเขา เช่น electro house, bass house, drumstep  ประมาณนี้ครับ อาจเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์​แก่ทุกคนนะครับ ขอบคุณ​มากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สงสารแนวอื่นที่โดนจับมาอยู่กับ EDM
ขนาดเจ้าพ่อ trance อย่าง dj Tiesto ยังต้องใส่หน้ากาก เปลี่ยนชื่อเป็น มาชแมลโล เพื่อเล่นเพลงแนว EDM
EDM มีความเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่ยุค 2013-2015
คำจำกัดความในไทย อาจหมายถึง อะไรก็ได้ที่แดนซ์
แต่เพลงแดนซ์ แท้ๆ กลับไม่เป็น EDM
แน่นอนว่าเพลงทุกแนวเอามาเปิดเป็น EDM ได้
แต่ไม่ได้หมานความว่าเพลงแนวนั้นคือ EDM
คุณเปิด jazz ให้เป็น EDM ได้
คุณเปิด classic ให้เป็น EDM ได้
แต่ดนตรีแนวคลาสสิค ไม่มีทางเป็น EDM ด้วยตัวมันเอง

จุดหลักของ EDM คือ loop transition drop
ดังนั้น ทางเดินคอร์ดใน EDM จะไม่ซับซ้อนไปได้ เพราะติด loop
Trasition ทำให้ high , up lifting แล้ว สร้างสรรค์การ drop ด้วย sampling

สังเกตได้ว่า ดนตรีแนวอื่น แทบไม่มี loop transition drop ในตัว
อาจจะมี dubstep ที่เน้น drop ไม่ค่อย loop แต่เน้น sampling ที่หลากหลายแทน
Trap เป็นสัดส่วนดนตรีแบบ เรกเก้ สกา ไม่เกี่ยวกับ future bass
Future bass เป็นแนวที่เน้น คอร์ดที่เล่นด้วยโน้ตเกิน4ตัว เร้นจ์กว้างเกิน 2 ออปเตป เล่นก่อนถึงห้องถัดไป ครึ่งตัวโน้ต คอร์ดอิสระ ไม่เล่นที่จังหวะเดิม
ทำให้คอร์ดของเพลงเดียวกัน เล่นได้หลากหลายคอร์ด หลากหลายจังหวะ เมื่อเน้นที่คอร์ด future bass จึงแทบจะไปอยู่กับใครก็ได้
Hard style เป็นแนวที่ชื่นชอบของกลุ่มโซเวียตเก่า เพลงเล่นรัว เร็ว จังหวะ1-2-3-4 เน้นอย่างเดียว ไม่มีเบา

ส่วนhouse แนวนี้ ตรงข้ามกับ EDM ด้วยซ้ำ ถึงhouse จะเน้น loop แต่ house ไม่ transition แล้ว drop
House เน้น sampling มาเป็นเมโลดี้ ง่ายๆ คอร์ดไม่เน้น

ผมคิดว่าเป็น แบบนี้มากกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่