เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับปัญหาโลกแตกที่เข้าใจได้ยากสุดๆ และมีความหมายที่ไม่แน่นอนด้วย ทำให้ไม่รู้และยากที่จะเข้าถึงกับเพลงแนว EDM วันนี้ผมเลยจะมาแชร์ประสบการณ์และความรู้เท่าที่ผมเข้าใจและได้ทำเพลงแนวนี้มาเป็นเวลานาน เพราะเพลงแนวนี้สำหรับผมและอาจจะใครหลายๆ คนก็ใช้เวลานานในการเข้าใจมัน หรือบางคนไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเพลงแนว EDM มันเป็นยังไง วันนี้ผมเลยจะมาบอกกันครับ ขอไม่ลงลึกมากนะครับ เดี๋ยวจะงงกันสะก่อน 555555
**หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยอย่างสูงด้วยครับ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวและข้อมูลบางส่วนที่ได้ศึกษามาครับ**
สำหรับผมคำว่า EDM หรือ Electronic Dance Music เนี่ยมันไม่ใช่แนวเพลงนะครับ แต่มันคือชื่อที่ไว้ใช้เรียกกลุ่มเพลงที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงซะมากกว่า เพราะว่าเพลงแนวที่ใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงเนี่ยมันก็มีมากมาย แต่ไม่ได้จัดเป็น EDM ก็มีเช่นกันครับ คล้ายๆ กับเพลงแนวยอดฮิตอย่างเพลง Rock ถามว่าเพลงร็อคมันใช่แนวเพลงรึเปล่า ให้ตอบบ้านๆ มันก็ใช่แหละครับ แต่ว่าเพลงที่เวลาศิลปินเขาออกมาเขาไม่ได้เขียนแค่ว่ามันเป็นเพลงร็อค แต่อาจจะเป็น Pop Rock, Punk, Metal อะไรก็ว่ากันไป ร็อค เป็นแค่ชื่อที่ใช่เรียกรวมๆ เพลงแนวนี้มากกว่าครับ เหมือนกับ EDM เลยไม่ต่างกัน
มาต่อกันว่าเพลงแนว EDM เนี่ยมันมีลักษณะยังไง อะไรที่เป็นเอกลัษณ์ เพลงแนวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าทำจากอะไรที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงก็เป็น EDM ไปสะหมด อย่างเพลงของ Justin Bieber เขาก็ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงเช่นกันกัน แต่ไม่ใช่ EDM สะหน่อย โดยเพลงพวก EDM เนี่ยจริงๆ แล้วจะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันมากในแต่ละแนว แต่ที่ทุกๆ แนวเนี่ยมีแน่ๆ และฟังแล้วเนี้ยแหละ คือ EDM จะมีดังนี้ครับ
-
จะมีท่อนฮุคหรือท่อน Chorus ที่ทำให้ฟังติดหูได้ง่าย ทำให้เมโลดีจากเพลงเนี่ย มันวนๆ อยู่ในหัวเราเนี่ยแหละ คล้ายๆ เพลงป๊อปเลย
-
แน่นอนทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียง แต่จะเอาเครื่องดนตรีมาใส่ก็ไม่ผิดนะ แต่ฟังโดยรวมจะต้องเป็นเครื่องสังเคราะห์เสียง
-
ส่วนใหญ่จะไม่มีเนี้อร้อง แต่หากมีเนี้อร้องท่อนฮุคก็ยังคงคอนเซ็ปเดิมคือ เป็นเมโลดีติดหู (ท่อนฮุคต้องไม่มีเนี้อนะ มีแต่ทำนอง)
-
เป็นเพลงชวนกระโดดโลดเต้น โยกย้ายกันแบบ มันๆ จังหวะค่อนค้างเร็วสนุกๆ สนาน ถ้านึกภาพไม่ออกก็นึกภาพแบบ ผับหรืองานปาร์ตี้นั้นแหละครับ แต่เพลงที่ช้า และทำนองไม่สนุกก็มีไม่ใช่น้อยเช่นกันนะครับ
โดยรวมหลักๆ มีเท่านี้ครับ ส่วนรายละเอียดเล็กน้อยมันเยอะมากๆ แค่นี้ก็อธิบายภาพของเพลง EDM ได้แล้ว
แล้วถามว่า EDM มันมีกี่ประเภท อยากตอบตรงนี้เลยว่า มันเยอะมากๆ แบบเยอะจนนับแทบไม่ไหวและแต่ละอันถ้าไม่เซียนเพลง EDM จริงๆ ก็ฟังไม่ออกเลยว่าแนวอะไร เผลอๆ อาจจะมีมากกว่าที่ผมพอจะนึกออกเลยด้วยซ้ำ 5555555
1)
Trance มาเริ่มกันแนวแรกเลย เพลงแนวนี้ต้นกำเนิดมาจากเยอรมันสไตล์เพลงก็จะออกแนว เยอรมันๆ เลย จังหวะเรียบง่ายเน้นโยกตามบีทกลองโดยส่วนใหญ่จะมี bpm อยู่ที่ 128 -160 นะครับ
https://youtu.be/ET1-6Bef9xU
เพลงแนวนี้มันยุค 90 เลยมีสไตล์เก่าหน่อยๆ
2)
Disco เรียกได้ว่าแนวนี้ต่างจากคอนเซ็ปที่เพลง EDM ควรจะมีไปเยอะอยู่พอสมควร แต่จากที่หาข้อมูลมาเพลงแนวนี้จะเรียกว่าเป็นต้นกำเนิดก็อาจะได้ โดยเพลง disco จะใช้เครื่องดนตรีเป็นๆ ในการเล่นและไม่ค่อยมีท่อนติดหูเหมือนเพลงแนวอื่นๆ จริงๆ แล้วผมไม่อยากให้ disco เป็น EDM เลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นต้นกำเนิดเลยใส่มาครับ
https://youtu.be/I_izvAbhExY
ว่า trance เก่าแล้ว อันนี้เก่ากว่าอีก โดยกำเนิดประมาณยุค 70 (จะว่าไปคล้ายๆ ป๊อปอยู่นะเนี่ย 5555)
3)
House เพลงแนวนี้เป็นเพลงที่ทำมาจากคนที่อยากฟังเพลงดิสโก้แต่ไม่มีโอกาส อาจจะจนหรือฐานะไม่ดีก็ว่ากันไป คนพวกนี้เลยทำเพลงแนวนี้ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์กันในบ้าน หรือ โกดังเล็กๆ ตามชื่อแนวเลยคือ house หรือบ้านนั้นแหละครับ โดยเพลงเฮ้าส์จะมีลักษณะเด่นเลยคือ เสียงกลองจะเรียบง่ายไม่ได้มีลูกเล่นอะไร บางท่อนมีแค่เบสดรัมเท่านั้นเอง เสียงกลองแค่กำกับจังหวะไปเท่านั้น และจะมีเสียงของ synth หรือก็คือเสียงพวกคีย์บอร์ด เครื่องสังเคราะห์ นั้นแหละครับ เสียง synth จะมีทำนองที่เป็นเอกลัษณ์ในแต่ละเพลงครับ และแต่ละท่อนส่วนใหญ่จะมีแต่ ทำนองเดียวครับ เช่น มีคอร์ดก็มีแค่คอร์ด หรือ จะมีเมโลดี้ก็จะมีแค่เมโลดี้เท่านั้นล่ะครับ
https://youtu.be/e7HBypw4lhY
มันก็ไม่ต่างจากดิสโก้เลย
และแนวเฮ้าส์เนี่ยเรียกได้ว่ามีหลากหลายแนวย่อยเลย เยอะมากๆ เช่น Future house, Bass house, Tropical house, Electro house, Progressive house และอื่นๆ อีกเยอะเลยครับ
4)
Trap เป็นเพลงยอดนิยมเลยก็ว่าได้โดยเพลงแนวนี้จะมีสไตล์หลักๆ อยู่ที่บีทกลองครับ โดยจะเร็วและรัวเป็นพิเศษ โดนโตมาจากเพลงแนว hip hop ทำให้มีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่จะเด่นกว่าครับ โดยเพลง trap ที่ทุกคนรู้จักจริงๆ คงมาจาก DJ Snake แหละครับ โดยจะมีสไตล์หม่นหมอง ไม่ใช่เศร้านะครับ แต่จะมีเสียงเบส กลอง หรือเสียง synth ที่ค่อนข้างต่ำทำให้รู้สึกจมครับ
https://youtu.be/HMUDVMiITOU
แนวย่อยก็เยอะใช่ย่อยเลย แต่ที่ย่อยมาดังก็คือ Future Bass ครับ แต่สำหรับผม ผมคืดว่ามันไม่ควรย่อยมาจาก trap เพราะมันแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ ผมเลยให้ future bass เป็นเพลงแนวมันเองครับ
5)
Dubstep สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย คนฟัง EDM บางคนยังไม่ชอบเลย เพราะว่าเป็นสไตล์ที่แสบแก้วหูที่สุดแล้ว หรือมันก็คือ heavy metal ของ EDM นั้นแหละครับ 5555 โดยท่อนบูมๆ ของมันเนี่ย จะมีลักษณะที่ค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับบางคน เพราะจะมีเมโลดีที่ รัว เร็ว สูงแหลม แตก และที่สำคัญมีเบสที่เป็นเอกลัษณ์ เสียงเบสเหมือนเสียงหุ่นยนต์พังแหละครับ 555555 เสียงกลองจะเป็นลักษณะที่กระแทกแบบรุนแรงมากๆ ถ้าใส่หูฟังดังๆล่ะก็ รับรองเลยว่า หูแตกชัวๆ 55555
https://youtu.be/BDA_HP0eVAo
แนวย่อยมี Drumstep (กลองจะรัวกว่าและเบสจะเด่นกว่า), Chillstep
6)
Drum and Bass ตรงตัวครับไม่มีอะไรมาก คือ จะเด่นที่กลองและเบสเป็นพิเศษ กลองจะกระแทกคล้ายๆ dubstep เลย แต่จะซอฟลงมานิดนึง
https://youtu.be/QnL5P0tFkwM
แนวย่อยเยอะมากเช่น Dark core, Darkstep, Hardstep, Drumstep(ผสมจาก drum and bass กับ dubstep)
7)
Electronic เป็นแนวเบสิคแบบโปรๆ เลยครับ แนวนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นแนวที่อยากทำแบบไหนก็ตามสบายครับ ฟังแบบชิวๆ ได้ทุกอารมณ์ครับ ไม่มีอะไรเด่นพิเศษ อาจจะเด่นในท่อนดรอปก็ก็ว่าได้
https://youtu.be/tua4SVV-GSE
แนวย่อยส่วนใหญ่จะไปผสมกับแนวอื่นๆ ครับ เช่น Elecro house, Electro swing, Electro light
8)
Glitch Hop เป็นแนวที่อธิบายยากพอๆ กับ electronic เลยครับ เรียกได้ว่าอาศัยความชำนาญในการฟังล้วนๆ เลยครับ แต่ว่าจะมีเอกลักษณ์เลยคือ เสียง synth หรือเสียงท่อนดรอป จะมีลักษณะที่เป็นการดันเสียงขึ้นหรือลง หรือจะเป็นการที่ท่อนดรอปติดๆ ขัดๆ ไม่ต่อเนื่อง ประมาณนี้ครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าจริงๆ แล้ว glitch hop เกืดจากการที่เครื่องสังเคราะห์มันผืดพลาดและขับเสียงออกมาเพี้ยน และคนทำชอบ เลยเกิดขึ้นมา
https://youtu.be/J2X5mJ3HDYE
9)
Hardstyle ถึงชื่อจะบอกว่าเป็น สไตล์ที่ยาก แต่ไม่ได้ยากหรอกครับ 555555 ลักษณะเด่นเลยคือ มีเบสและ ท่อนดรอปที่เอกลักษณ์มากๆ แค่ฟังก็รู้ได้เลย ก็คือ ท่อนดรอปจะไม่มีกลอง แต่จะเป็นเสียงเบสแตกๆ ผสมกับสแนร์ กำกับจังหวะ แค่นั้นแหละครับ
https://youtu.be/5TInD6WcMWY
10) ขอปิดท้ายกันด้วย
Future Bass ที่เอามาเพราะว่าเป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันไม่ควรเป็นแนวย่อยของ trap เลย มันแตกต่างกันมากๆ เลยเอาออกมาครับ โดย future bass มีลักษณะเด่นอยู่ที่ เสียง synth และเสียงเบสครับ เสียง synth จะดังและซ่าๆ ครับ ส่วนเบสจะแตกและดังเป็นพิเศษ ส่วนกลองจะคล้ายๆ trap แต่ไม่รัว และเพลงจะมีความนัวมากๆ ฟังอาจจะหลอนๆได้ และอาจไม่รู้ว่ามีทำนองอะไรบ้างในท่อนๆ เดียว และส่วนใหญ่ท่อนฮุคเพลงจะหยุดในท่อนที่เสียงสแนร์ดังหรือก็คือท่อนที่ 3 ของห้องแหละครับ
https://youtu.be/pWr1zrw7ZKw
หรือหากไม่มีเสียง synth มีแต่เสียงเบสแตกๆ ก็คือ FutureBass เหมือนกันครับ เช่น
https://youtu.be/ALZHF5UqnU4
โดยหลักๆ ขอเพียงเท่านี้ครับ เพลง EDM มันเยอะมากจริงๆ เยอะจนนับไม่ไหว และแนวใหม่ๆ ที่เกิดใหม่ ก็เยอะมากเลย หากอยากรู้เจาะแต่ละแนวจริงกระทู้นร้คงไม่ไหว ของฝากท้ายเกี่ยวกับข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ของค่ายเพลง EDM ดังๆ อย่าง NCS ครับ โดยสังเกตุวง Spectrum ของเขาจะมีสีที่แตกต่างกันโดนสีนั้นจะบอกถึงแนวเพลงครับ มีดังนี้
แดง: Drumstep
ส้ม: Indie Dance/Synthpop
เหลือง: แนว House ต่างๆ/Electro
เขียว: Trap/Future Bass
สีมิ้นท์: Glitch Hop
สีฟ้าเขียว หรือสี cyan นั้นแหละครับ: Chillstep/Melodic Dubstep
น้ำเงิน: Dubstep
ม่วง: Future House/Future Bounce
ชมพู: Drum and Bass
ขาว: Hardstyle/Electronic และ สไตล์แบบ ผสมๆกันครับ
ดำ: อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่คิดว่ามี 3 อย่างที่น่าเป็นไปได้เกี่ยวแนวเพลงสีนี้คือ
- ผสมๆ กัน
- เป็นแนวใหม่ ที่ยังไม่มีชื่อ
- คนใส่ก็อาจจะไม่รู้จริงๆ ว่าคือแนวอะไรกันแน่ 555
เพราะที่ผมฟังมีแต่แปลกๆ ทั้งนั้นเลยครับ แต่ที่น่าเป็นไปได้คือ แนวใหม่ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าแต่ละสไตล์มันไม่ได้ย่อยมาจากอะไรหรือมีต้นกำเนิดมาจากอันไหนหรอกครับ ผมคิดว่าแต่บะสไตล์มันก็มีเอกลักษณ์ของมันที่อันอื่นไม่มีอยู่แล้วแน่นอน แต่ถ้าพวกที่พ่วงคำมาจากต้นกำเนิดก็มาจากต้นกำเนิดนั้นแหละ อย่าไปแยกเขา เช่น electro house, bass house, drumstep ประมาณนี้ครับ อาจเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ ขอบคุณมากครับ
เพลงแนว EDM ตือเพลงแนวอะไรกันแน่??
**หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยอย่างสูงด้วยครับ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวและข้อมูลบางส่วนที่ได้ศึกษามาครับ**
สำหรับผมคำว่า EDM หรือ Electronic Dance Music เนี่ยมันไม่ใช่แนวเพลงนะครับ แต่มันคือชื่อที่ไว้ใช้เรียกกลุ่มเพลงที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงซะมากกว่า เพราะว่าเพลงแนวที่ใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงเนี่ยมันก็มีมากมาย แต่ไม่ได้จัดเป็น EDM ก็มีเช่นกันครับ คล้ายๆ กับเพลงแนวยอดฮิตอย่างเพลง Rock ถามว่าเพลงร็อคมันใช่แนวเพลงรึเปล่า ให้ตอบบ้านๆ มันก็ใช่แหละครับ แต่ว่าเพลงที่เวลาศิลปินเขาออกมาเขาไม่ได้เขียนแค่ว่ามันเป็นเพลงร็อค แต่อาจจะเป็น Pop Rock, Punk, Metal อะไรก็ว่ากันไป ร็อค เป็นแค่ชื่อที่ใช่เรียกรวมๆ เพลงแนวนี้มากกว่าครับ เหมือนกับ EDM เลยไม่ต่างกัน
มาต่อกันว่าเพลงแนว EDM เนี่ยมันมีลักษณะยังไง อะไรที่เป็นเอกลัษณ์ เพลงแนวนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่นะครับ ไม่ใช่ว่าทำจากอะไรที่ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงก็เป็น EDM ไปสะหมด อย่างเพลงของ Justin Bieber เขาก็ทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียงเช่นกันกัน แต่ไม่ใช่ EDM สะหน่อย โดยเพลงพวก EDM เนี่ยจริงๆ แล้วจะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันมากในแต่ละแนว แต่ที่ทุกๆ แนวเนี่ยมีแน่ๆ และฟังแล้วเนี้ยแหละ คือ EDM จะมีดังนี้ครับ
- จะมีท่อนฮุคหรือท่อน Chorus ที่ทำให้ฟังติดหูได้ง่าย ทำให้เมโลดีจากเพลงเนี่ย มันวนๆ อยู่ในหัวเราเนี่ยแหละ คล้ายๆ เพลงป๊อปเลย
- แน่นอนทำจากเครื่องสังเคราะห์เสียง แต่จะเอาเครื่องดนตรีมาใส่ก็ไม่ผิดนะ แต่ฟังโดยรวมจะต้องเป็นเครื่องสังเคราะห์เสียง
- ส่วนใหญ่จะไม่มีเนี้อร้อง แต่หากมีเนี้อร้องท่อนฮุคก็ยังคงคอนเซ็ปเดิมคือ เป็นเมโลดีติดหู (ท่อนฮุคต้องไม่มีเนี้อนะ มีแต่ทำนอง)
- เป็นเพลงชวนกระโดดโลดเต้น โยกย้ายกันแบบ มันๆ จังหวะค่อนค้างเร็วสนุกๆ สนาน ถ้านึกภาพไม่ออกก็นึกภาพแบบ ผับหรืองานปาร์ตี้นั้นแหละครับ แต่เพลงที่ช้า และทำนองไม่สนุกก็มีไม่ใช่น้อยเช่นกันนะครับ
โดยรวมหลักๆ มีเท่านี้ครับ ส่วนรายละเอียดเล็กน้อยมันเยอะมากๆ แค่นี้ก็อธิบายภาพของเพลง EDM ได้แล้ว
แล้วถามว่า EDM มันมีกี่ประเภท อยากตอบตรงนี้เลยว่า มันเยอะมากๆ แบบเยอะจนนับแทบไม่ไหวและแต่ละอันถ้าไม่เซียนเพลง EDM จริงๆ ก็ฟังไม่ออกเลยว่าแนวอะไร เผลอๆ อาจจะมีมากกว่าที่ผมพอจะนึกออกเลยด้วยซ้ำ 5555555
1) Trance มาเริ่มกันแนวแรกเลย เพลงแนวนี้ต้นกำเนิดมาจากเยอรมันสไตล์เพลงก็จะออกแนว เยอรมันๆ เลย จังหวะเรียบง่ายเน้นโยกตามบีทกลองโดยส่วนใหญ่จะมี bpm อยู่ที่ 128 -160 นะครับ
https://youtu.be/ET1-6Bef9xU
เพลงแนวนี้มันยุค 90 เลยมีสไตล์เก่าหน่อยๆ
2) Disco เรียกได้ว่าแนวนี้ต่างจากคอนเซ็ปที่เพลง EDM ควรจะมีไปเยอะอยู่พอสมควร แต่จากที่หาข้อมูลมาเพลงแนวนี้จะเรียกว่าเป็นต้นกำเนิดก็อาจะได้ โดยเพลง disco จะใช้เครื่องดนตรีเป็นๆ ในการเล่นและไม่ค่อยมีท่อนติดหูเหมือนเพลงแนวอื่นๆ จริงๆ แล้วผมไม่อยากให้ disco เป็น EDM เลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นต้นกำเนิดเลยใส่มาครับ
https://youtu.be/I_izvAbhExY
ว่า trance เก่าแล้ว อันนี้เก่ากว่าอีก โดยกำเนิดประมาณยุค 70 (จะว่าไปคล้ายๆ ป๊อปอยู่นะเนี่ย 5555)
3) House เพลงแนวนี้เป็นเพลงที่ทำมาจากคนที่อยากฟังเพลงดิสโก้แต่ไม่มีโอกาส อาจจะจนหรือฐานะไม่ดีก็ว่ากันไป คนพวกนี้เลยทำเพลงแนวนี้ขึ้นมาเพื่อสังสรรค์กันในบ้าน หรือ โกดังเล็กๆ ตามชื่อแนวเลยคือ house หรือบ้านนั้นแหละครับ โดยเพลงเฮ้าส์จะมีลักษณะเด่นเลยคือ เสียงกลองจะเรียบง่ายไม่ได้มีลูกเล่นอะไร บางท่อนมีแค่เบสดรัมเท่านั้นเอง เสียงกลองแค่กำกับจังหวะไปเท่านั้น และจะมีเสียงของ synth หรือก็คือเสียงพวกคีย์บอร์ด เครื่องสังเคราะห์ นั้นแหละครับ เสียง synth จะมีทำนองที่เป็นเอกลัษณ์ในแต่ละเพลงครับ และแต่ละท่อนส่วนใหญ่จะมีแต่ ทำนองเดียวครับ เช่น มีคอร์ดก็มีแค่คอร์ด หรือ จะมีเมโลดี้ก็จะมีแค่เมโลดี้เท่านั้นล่ะครับ
https://youtu.be/e7HBypw4lhY
มันก็ไม่ต่างจากดิสโก้เลย
และแนวเฮ้าส์เนี่ยเรียกได้ว่ามีหลากหลายแนวย่อยเลย เยอะมากๆ เช่น Future house, Bass house, Tropical house, Electro house, Progressive house และอื่นๆ อีกเยอะเลยครับ
4) Trap เป็นเพลงยอดนิยมเลยก็ว่าได้โดยเพลงแนวนี้จะมีสไตล์หลักๆ อยู่ที่บีทกลองครับ โดยจะเร็วและรัวเป็นพิเศษ โดนโตมาจากเพลงแนว hip hop ทำให้มีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่จะเด่นกว่าครับ โดยเพลง trap ที่ทุกคนรู้จักจริงๆ คงมาจาก DJ Snake แหละครับ โดยจะมีสไตล์หม่นหมอง ไม่ใช่เศร้านะครับ แต่จะมีเสียงเบส กลอง หรือเสียง synth ที่ค่อนข้างต่ำทำให้รู้สึกจมครับ
https://youtu.be/HMUDVMiITOU
แนวย่อยก็เยอะใช่ย่อยเลย แต่ที่ย่อยมาดังก็คือ Future Bass ครับ แต่สำหรับผม ผมคืดว่ามันไม่ควรย่อยมาจาก trap เพราะมันแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ ผมเลยให้ future bass เป็นเพลงแนวมันเองครับ
5) Dubstep สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลย คนฟัง EDM บางคนยังไม่ชอบเลย เพราะว่าเป็นสไตล์ที่แสบแก้วหูที่สุดแล้ว หรือมันก็คือ heavy metal ของ EDM นั้นแหละครับ 5555 โดยท่อนบูมๆ ของมันเนี่ย จะมีลักษณะที่ค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับบางคน เพราะจะมีเมโลดีที่ รัว เร็ว สูงแหลม แตก และที่สำคัญมีเบสที่เป็นเอกลัษณ์ เสียงเบสเหมือนเสียงหุ่นยนต์พังแหละครับ 555555 เสียงกลองจะเป็นลักษณะที่กระแทกแบบรุนแรงมากๆ ถ้าใส่หูฟังดังๆล่ะก็ รับรองเลยว่า หูแตกชัวๆ 55555
https://youtu.be/BDA_HP0eVAo
แนวย่อยมี Drumstep (กลองจะรัวกว่าและเบสจะเด่นกว่า), Chillstep
6) Drum and Bass ตรงตัวครับไม่มีอะไรมาก คือ จะเด่นที่กลองและเบสเป็นพิเศษ กลองจะกระแทกคล้ายๆ dubstep เลย แต่จะซอฟลงมานิดนึง
https://youtu.be/QnL5P0tFkwM
แนวย่อยเยอะมากเช่น Dark core, Darkstep, Hardstep, Drumstep(ผสมจาก drum and bass กับ dubstep)
7) Electronic เป็นแนวเบสิคแบบโปรๆ เลยครับ แนวนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นแนวที่อยากทำแบบไหนก็ตามสบายครับ ฟังแบบชิวๆ ได้ทุกอารมณ์ครับ ไม่มีอะไรเด่นพิเศษ อาจจะเด่นในท่อนดรอปก็ก็ว่าได้
https://youtu.be/tua4SVV-GSE
แนวย่อยส่วนใหญ่จะไปผสมกับแนวอื่นๆ ครับ เช่น Elecro house, Electro swing, Electro light
8) Glitch Hop เป็นแนวที่อธิบายยากพอๆ กับ electronic เลยครับ เรียกได้ว่าอาศัยความชำนาญในการฟังล้วนๆ เลยครับ แต่ว่าจะมีเอกลักษณ์เลยคือ เสียง synth หรือเสียงท่อนดรอป จะมีลักษณะที่เป็นการดันเสียงขึ้นหรือลง หรือจะเป็นการที่ท่อนดรอปติดๆ ขัดๆ ไม่ต่อเนื่อง ประมาณนี้ครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าจริงๆ แล้ว glitch hop เกืดจากการที่เครื่องสังเคราะห์มันผืดพลาดและขับเสียงออกมาเพี้ยน และคนทำชอบ เลยเกิดขึ้นมา
https://youtu.be/J2X5mJ3HDYE
9) Hardstyle ถึงชื่อจะบอกว่าเป็น สไตล์ที่ยาก แต่ไม่ได้ยากหรอกครับ 555555 ลักษณะเด่นเลยคือ มีเบสและ ท่อนดรอปที่เอกลักษณ์มากๆ แค่ฟังก็รู้ได้เลย ก็คือ ท่อนดรอปจะไม่มีกลอง แต่จะเป็นเสียงเบสแตกๆ ผสมกับสแนร์ กำกับจังหวะ แค่นั้นแหละครับ
https://youtu.be/5TInD6WcMWY
10) ขอปิดท้ายกันด้วย Future Bass ที่เอามาเพราะว่าเป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มันไม่ควรเป็นแนวย่อยของ trap เลย มันแตกต่างกันมากๆ เลยเอาออกมาครับ โดย future bass มีลักษณะเด่นอยู่ที่ เสียง synth และเสียงเบสครับ เสียง synth จะดังและซ่าๆ ครับ ส่วนเบสจะแตกและดังเป็นพิเศษ ส่วนกลองจะคล้ายๆ trap แต่ไม่รัว และเพลงจะมีความนัวมากๆ ฟังอาจจะหลอนๆได้ และอาจไม่รู้ว่ามีทำนองอะไรบ้างในท่อนๆ เดียว และส่วนใหญ่ท่อนฮุคเพลงจะหยุดในท่อนที่เสียงสแนร์ดังหรือก็คือท่อนที่ 3 ของห้องแหละครับ
https://youtu.be/pWr1zrw7ZKw
หรือหากไม่มีเสียง synth มีแต่เสียงเบสแตกๆ ก็คือ FutureBass เหมือนกันครับ เช่น
https://youtu.be/ALZHF5UqnU4
โดยหลักๆ ขอเพียงเท่านี้ครับ เพลง EDM มันเยอะมากจริงๆ เยอะจนนับไม่ไหว และแนวใหม่ๆ ที่เกิดใหม่ ก็เยอะมากเลย หากอยากรู้เจาะแต่ละแนวจริงกระทู้นร้คงไม่ไหว ของฝากท้ายเกี่ยวกับข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ของค่ายเพลง EDM ดังๆ อย่าง NCS ครับ โดยสังเกตุวง Spectrum ของเขาจะมีสีที่แตกต่างกันโดนสีนั้นจะบอกถึงแนวเพลงครับ มีดังนี้
แดง: Drumstep
ส้ม: Indie Dance/Synthpop
เหลือง: แนว House ต่างๆ/Electro
เขียว: Trap/Future Bass
สีมิ้นท์: Glitch Hop
สีฟ้าเขียว หรือสี cyan นั้นแหละครับ: Chillstep/Melodic Dubstep
น้ำเงิน: Dubstep
ม่วง: Future House/Future Bounce
ชมพู: Drum and Bass
ขาว: Hardstyle/Electronic และ สไตล์แบบ ผสมๆกันครับ
ดำ: อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่คิดว่ามี 3 อย่างที่น่าเป็นไปได้เกี่ยวแนวเพลงสีนี้คือ
- ผสมๆ กัน
- เป็นแนวใหม่ ที่ยังไม่มีชื่อ
- คนใส่ก็อาจจะไม่รู้จริงๆ ว่าคือแนวอะไรกันแน่ 555
เพราะที่ผมฟังมีแต่แปลกๆ ทั้งนั้นเลยครับ แต่ที่น่าเป็นไปได้คือ แนวใหม่ครับ
ส่วนตัวผมคิดว่าแต่ละสไตล์มันไม่ได้ย่อยมาจากอะไรหรือมีต้นกำเนิดมาจากอันไหนหรอกครับ ผมคิดว่าแต่บะสไตล์มันก็มีเอกลักษณ์ของมันที่อันอื่นไม่มีอยู่แล้วแน่นอน แต่ถ้าพวกที่พ่วงคำมาจากต้นกำเนิดก็มาจากต้นกำเนิดนั้นแหละ อย่าไปแยกเขา เช่น electro house, bass house, drumstep ประมาณนี้ครับ อาจเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะครับ ขอบคุณมากครับ