เกริ่นก่อนว่า เราไม่ใช่แฟนคลับของบิวกิ้นพีพี หรือแม้แต่ซีรีส์วาย
ปรกติแล้วจะชาชินกับการดูซีรีส์หรือละครที่เป็นชายหญิงเท่านั้น
แต่เพราะ "แปลรักฉันด้วยใจเธอ" ถูกสร้างในนามของนาดาว บางกอก
ค่ายคุณภาพที่สร้างนักแสดงและซีรีส์ออกมาระดับปรากฏการณ์และเป็นกระแสทั้งสิ้น
แถมยังได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง พี่บอส - นฤเบศ กูโน จาก Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ และ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน
ที่สำคัญคือส่วนตัวชอบ น้องโรเล็กซ์ - จิรายุส ขาวใบไม้ อยู่แล้ว และดีใจที่น้องได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้กลับมาแสดงอีก
ก็เลยตัดสินใจที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้ และตัดสินใจเดินทางไปงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ที่ CTW อีกด้วย
ซีรีส์เรื่องนี้สามารถเรียกแขกได้ตั้งแต่เพลงประกอบ "กีดกัน" ที่ปล่อยออกมา
ขับร้องโดยบิวกิ้น และแต่งโดยพี่โอม Cocktail
ตอนฟังครั้งแรกยอมรับว่า มันต้องขนาดนี้เลยนะ เล่นใหญ่มากอะ
ประเด็นของเพลงทำให้เรานึกถึงความรักที่มีอุปสรรคมากมาย
เล่นเรื่องโชคชะตาที่ทำให้ไม่ได้รักกัน ให้อารมณ์คู่กรรมหรือแต่ปางก่อนไปอีก
จนกระทั่งเทรลเลอร์ถูกปล่อยออกมาเลยถึงบางอ้อว่าทำไมต้องเป็นเพลงนี้
บท
พอลองเปิดใจดูในวันแรกที่ฉายสดทางไลน์ทีวีเลยพบว่าซีรีส์เรื่องนี้ตีหัวเราเข้าบ้าน
ที่มหัศจรรย์มากคือสามารถโน้มน้าวให้เราเชื่อได้ว่าสองคนนี้เคยเป็นเพื่อนรักและเกลียดกันจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 มีความแมสและเข้าถึงได้ง่ายจนทำให้ตีหัวผู้ชมเข้าบ้านได้ไม่ยาก
แต่พอมาตอนที่ 2 สัมผัสได้ว่าซีรีส์พยายามเล่าอย่างละเมียดขึ้น คือค่อย ๆ เล่าแต่ละเอียด
ตอนที่ 3 นี่ได้กลิ่น Call Me By Your Name มาตลอดทั้งตอนเลย มันใช่มาก
แถมเลิฟซีนตอนท้ายนี่คือศิลปะที่สุดยอดมากของการเล่าเรื่อง
ส่วนตอนที่ 4 คือความบ้าคลั่งที่ทำให้เราเหมือนนั่งรถไฟเหาะ
นอกจากนั้นยังใส่ sub plot เข้าไป plot อีกที เช่นตอนที่ 2 ที่ต้องการจะสื่อคำว่าแปลไม่ออก
แล้วสุดท้าย ซีรีส์ก็สามารถควบคุมประเด็นของการแปลไม่ออกได้จริง ๆ
เชิงสัญลักษณ์
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่บทและแกนหลักของเรื่องเท่านั้น
แต่ยังโดดเด่นในด้านการใส่นัยยะเข้าไป และเชิงสัญลักษณ์มากมายให้ได้ขบคิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช่น การเดินทะลุไปถึงศาลเจ้าของตัวละครเอก ที่ต่อให้วิธีนั้นไม่ถูกต้อง แต่ก็จะไปด้วยกัน
หรือการเปรียบให้หนังสือจีนของเต๋เป็นหัวใจของเขาเอง
หนังสือจีนที่ถูกกรรไกรตัดคำศัพท์ออกไปจนดูไม่ออกแล้วว่ามันเคยเป็นหนังสือ
ก็เปรียบกับหัวใจของเต๋ที่ถูกแบ่งออกไปจนดูไม่เป็นหัวใจอีกแล้ว
นั่นคือการแบ่งใจให้ตาลแล้วโดนย่ำยี พอแบ่งให้ม๊ะกับโก๊หุ้นก็ทำให้ทั้งสองผิดหวัง
พอแบ่งให้โอ้เอ๋วก็โดนประชดประชันเรื่องสละสิทธิ์การสอบ เรียกว่าเต๋กำลังใจสลายของจริง
การแสดง
บิวกิ้น
ต้องบอกตรง ๆ ว่าตอนแรกเฉย ๆ กับหน้าตาบิวกิ้นมาก คือน่ารัก แต่ไม่ได้หล่อมาก
ที่ชอบบิวกิ้นคือชอบเสียงและตอนร้องเพลงมากกว่า แต่พอมาดูเรื่องนี้
โห บิวกิ้นโคตรมีเสน่ห์เลยว่ะ น้องเก่งจังเลยในด้านการแสดงอารมณ์ดราม่า
ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลแบบไม่ห่วงหล่อ และดูจริงมาก จนน้ำตาของน้องทำให้พี่น้ำตาไหล
พีพี
น้องเป็นอีกคนที่ถ่ายทอดอารมณ์ของ LGBTQ+ ได้ดี ตอนร้องไห้ก็น่าสงสารจับใจ
เหมือนว่าสูญเสียทุกอย่างในชีวิต และรับส่งเลิฟซีนกับบิวกิ้นได้ดีมาก
ขอชื่นชมว่าสองคนนี้เก่งมากในการทำให้เราร้องไห้ออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ดู
และเก่งพอที่จะแบกเรื่องทั้งเรื่องให้ผ่านพ้นไปได้อย่างสวยงาม
ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ คือทำได้ดีในทุกภาคส่วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตาล
ที่สไมล์เล่นดีจนเราเชื่อสุดใจว่าเธอคือตาล การพัฒนาการทางด้านการแสดงของโรเล็กซ์
เพราะนี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่เห็นน้องได้ไดอะล็อคพูดเยอะขนาดนี้
หรือแม้แต่เพื่อนร่วมแก๊งโม๋เราอยู่หลก หรือครอบครัวของเต๋และโอ้เอ๋วก็ทำได้ดี
โปรดักชั่น
เรื่องงานภาพคือสิ่งที่โดดเด่นอีกเรื่องหนึ่งของซีรีส์ เพราะมีความร้อนด้วยการจัดแสง
แถมยังหาโลเคชั่นได้สวยมากจนอยากไปตามรอยที่จังหวัดภูเก็ต
ช็อตลองเทคนี่ก็สวยมากจนรู้สึกได้ว่าเรากำลังดูหนังมากกว่าซีรีส์
ยิ่งผนวกเข้ากับเพลงประกอบที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาจีน
ก็ยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพคับแก้วจริง ๆ
จากตอนแรกที่คิดว่า 5 ตอนจะน้อยไปมั้ย จะโน้มน้าวเราได้มั้ย เราจะอินมั้ย
กลายเป็นเรารักและอินกับซีรีส์เรื่องนี้หมดใจ
และเพราะ "แปลรักฉันด้วยใจเธอ" กำลังเดินทางมาถึงบทสรุปในค่ำคืนนี้
เราจึงอยากขอบคุณทีมงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทุกแคสต์การแสดงที่คุณได้สรรหามาและเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้
และขอบคุณที่นาดาว บางกอกได้ผลิตผลงานดี ๆ เรื่องเยี่ยม
ให้เราดูเห็นการเติบโตของความรักของคนสองคนโดยไม่ต้องสนว่าเขาเป็นเพศอะไร
การผ่านพ้นของช่วงวัย Coming of age และการก้าวกระโดดของซีรีส์ LGBTQ+
ให้มีระดับและมาตรฐานที่สูงที่สุดตอนนี้ในประเทศไทย
"แปลรักฉันด้วยใจเธอ" การเติบโตของความรัก การผ่านพ้นของช่วงวัย และการก้าวกระโดดของซีรีส์ LGBTQ+
ปรกติแล้วจะชาชินกับการดูซีรีส์หรือละครที่เป็นชายหญิงเท่านั้น
แต่เพราะ "แปลรักฉันด้วยใจเธอ" ถูกสร้างในนามของนาดาว บางกอก
ค่ายคุณภาพที่สร้างนักแสดงและซีรีส์ออกมาระดับปรากฏการณ์และเป็นกระแสทั้งสิ้น
แถมยังได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง พี่บอส - นฤเบศ กูโน จาก Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ และ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน
ที่สำคัญคือส่วนตัวชอบ น้องโรเล็กซ์ - จิรายุส ขาวใบไม้ อยู่แล้ว และดีใจที่น้องได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้กลับมาแสดงอีก
ก็เลยตัดสินใจที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้ และตัดสินใจเดินทางไปงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ที่ CTW อีกด้วย
ซีรีส์เรื่องนี้สามารถเรียกแขกได้ตั้งแต่เพลงประกอบ "กีดกัน" ที่ปล่อยออกมา
ขับร้องโดยบิวกิ้น และแต่งโดยพี่โอม Cocktail
ตอนฟังครั้งแรกยอมรับว่า มันต้องขนาดนี้เลยนะ เล่นใหญ่มากอะ
ประเด็นของเพลงทำให้เรานึกถึงความรักที่มีอุปสรรคมากมาย
เล่นเรื่องโชคชะตาที่ทำให้ไม่ได้รักกัน ให้อารมณ์คู่กรรมหรือแต่ปางก่อนไปอีก
จนกระทั่งเทรลเลอร์ถูกปล่อยออกมาเลยถึงบางอ้อว่าทำไมต้องเป็นเพลงนี้
บท
พอลองเปิดใจดูในวันแรกที่ฉายสดทางไลน์ทีวีเลยพบว่าซีรีส์เรื่องนี้ตีหัวเราเข้าบ้าน
ที่มหัศจรรย์มากคือสามารถโน้มน้าวให้เราเชื่อได้ว่าสองคนนี้เคยเป็นเพื่อนรักและเกลียดกันจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เชิงสัญลักษณ์
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่บทและแกนหลักของเรื่องเท่านั้น
แต่ยังโดดเด่นในด้านการใส่นัยยะเข้าไป และเชิงสัญลักษณ์มากมายให้ได้ขบคิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การแสดง
บิวกิ้น
ต้องบอกตรง ๆ ว่าตอนแรกเฉย ๆ กับหน้าตาบิวกิ้นมาก คือน่ารัก แต่ไม่ได้หล่อมาก
ที่ชอบบิวกิ้นคือชอบเสียงและตอนร้องเพลงมากกว่า แต่พอมาดูเรื่องนี้
โห บิวกิ้นโคตรมีเสน่ห์เลยว่ะ น้องเก่งจังเลยในด้านการแสดงอารมณ์ดราม่า
ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลแบบไม่ห่วงหล่อ และดูจริงมาก จนน้ำตาของน้องทำให้พี่น้ำตาไหล
พีพี
น้องเป็นอีกคนที่ถ่ายทอดอารมณ์ของ LGBTQ+ ได้ดี ตอนร้องไห้ก็น่าสงสารจับใจ
เหมือนว่าสูญเสียทุกอย่างในชีวิต และรับส่งเลิฟซีนกับบิวกิ้นได้ดีมาก
ขอชื่นชมว่าสองคนนี้เก่งมากในการทำให้เราร้องไห้ออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ดู
และเก่งพอที่จะแบกเรื่องทั้งเรื่องให้ผ่านพ้นไปได้อย่างสวยงาม
ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ คือทำได้ดีในทุกภาคส่วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตาล
ที่สไมล์เล่นดีจนเราเชื่อสุดใจว่าเธอคือตาล การพัฒนาการทางด้านการแสดงของโรเล็กซ์
เพราะนี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่เห็นน้องได้ไดอะล็อคพูดเยอะขนาดนี้
หรือแม้แต่เพื่อนร่วมแก๊งโม๋เราอยู่หลก หรือครอบครัวของเต๋และโอ้เอ๋วก็ทำได้ดี
โปรดักชั่น
เรื่องงานภาพคือสิ่งที่โดดเด่นอีกเรื่องหนึ่งของซีรีส์ เพราะมีความร้อนด้วยการจัดแสง
แถมยังหาโลเคชั่นได้สวยมากจนอยากไปตามรอยที่จังหวัดภูเก็ต
ช็อตลองเทคนี่ก็สวยมากจนรู้สึกได้ว่าเรากำลังดูหนังมากกว่าซีรีส์
ยิ่งผนวกเข้ากับเพลงประกอบที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาจีน
ก็ยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพคับแก้วจริง ๆ
จากตอนแรกที่คิดว่า 5 ตอนจะน้อยไปมั้ย จะโน้มน้าวเราได้มั้ย เราจะอินมั้ย
กลายเป็นเรารักและอินกับซีรีส์เรื่องนี้หมดใจ
และเพราะ "แปลรักฉันด้วยใจเธอ" กำลังเดินทางมาถึงบทสรุปในค่ำคืนนี้
เราจึงอยากขอบคุณทีมงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทุกแคสต์การแสดงที่คุณได้สรรหามาและเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้
และขอบคุณที่นาดาว บางกอกได้ผลิตผลงานดี ๆ เรื่องเยี่ยม
ให้เราดูเห็นการเติบโตของความรักของคนสองคนโดยไม่ต้องสนว่าเขาเป็นเพศอะไร
การผ่านพ้นของช่วงวัย Coming of age และการก้าวกระโดดของซีรีส์ LGBTQ+
ให้มีระดับและมาตรฐานที่สูงที่สุดตอนนี้ในประเทศไทย