มีปัญหาหนักใจค่ะ ชวนคุยแก้เครียด
เราเป็นพนักงานออฟฟิตทั่วไป ฐานะก็ทั่วๆ ไป เงินเดือนจริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่าน้อยจนเกินไปนะคะแต่ปัญหาอยู่ที่ว่ารู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในบ้านมันช่างสูงจัง
คือที่บ้านอยู่ด้วยกันหมด เรากับพี่ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านทั้งค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่ากินค่าน้ำไฟ ข้าวของทุกอย่าง แต่ไม่ได้ให้เงินพ่อแม่ใช้ส่วนตัวค่ะ เพราะพ่อมีบำนาญที่พอหาร 2 กับแม่แล้วยังเยอะกว่าเงินที่เราเหลือใช้ส่วนตัวแต่ละเดือนซะอีก
ปัญหาคือเค้ามักจะมายืมเงินเราอยู่ตลอด สิ้นเดือนยืมเท่านี้ พอเงินออกคืน ปลายเดือนยืมมากกว่าเก่า ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ได้คืน เงินที่เราเอามาให้เค้ายืมได้ก็เป็นเงินที่เราเก็บเองทั้งนั้น ครอบครัวเราไม่ได้มีสมบัติอะไรให้เราก็เริ่มเก็บเงินเพื่อเอาไว้ใช้ชีวิตตอนแก่ได้บ้าง เพราะคงไม่มีลูกมีหลานหรือมีใคร น่าจะตายแห้งๆ อยู่ในบ้านคนเดียว
สิ่งที่ทำให้เราเครียดคือมันเหมือนเค้าไม่เข้าใจ เค้าเห็นเรามีเงินเก็บก็บอกว่าเค้าไม่เคยมีเงินเท่านี้เลยนะ แล้วเค้าก็คงคิดว่าเรารวยมาก (ทั้งที่จริงๆ เงินมันไม่ได้เยอะเลย) เราเคยบอกเค้าว่า ค่าใช้จ่ายในบ้านอ่ะ ลดลงได้มั้ย (เราจ่ายให้กองกลางครอบครัวเกินครึ่งของเงินเดือน) เค้าก็เอาแต่พูดว่าก็ไม่รู้จะไปลดตรงไหนมันจำเป็นทั้งนั้น เราก็บอกว่า อย่างของที่กินอ่ะ ซื้อธรรมดาๆ ได้มั้ย เค้าก็บอกว่าอยากให้กินของดีๆ (ยกตัวอย่างนะคะ เค้าเคยซื้อลูกชิ้นปลาที่ห่อนึงมีไม่ถึง 10 เม็ดแต่ราคาร้อยกว่าบาทมาทำแกงจืด ซึ่งหม้อนึงสำหรับ 4 คนห่อเดียวคงไม่พอ ละผักก็ออกแกนิกหมด หมูก็ออแกนิก ทุกอย่างคือดี แต่เราว่ามันเกินตัวไปหน่อย)
สุดท้ายเราก็ทำใจวาค่าใช้จ่ายในบ้านว่าคงลดไม่ได้แล้ว คุยดีๆ ก็แล้ว คุยโมโหก็แล้ว ร้องไห้ก็แล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำตาของพ่อแม่เหมือนกัน (โคตรอกตัญญูเลยใช่มั้ยคะ) เราคิดว่าเครียดไปก็เท่านั้น ถ้าเรายังพอเบียดบังส่วนตัวได้อยู่ไม่ลำบากถึงขั้นต้องไปเก็บผักบุ้งกินก็โอเค ปล่อยวาง
แต่มันก็ยังมีปัญหาอีก คือเค้ามายืมเงินเราอีก ทั้งที่เราจ่ายให้แทบจะทุกอย่างแล้ว ค่ากิน ถ้าเค้ากินของที่ซื้อมาในบ้านก็ไม่ต้องจ่าย ค่ารถต่างๆ เราก็ออกหมด ทั้งซ๋อมบำุรุง ค่าน้ำมัน ประกันบลาๆ ในขณะที่เรานั่งรถเมย์ก็ต้องมีส่วนค่าเดินทางอยู่ทุกวัน แต่เค้าไม่ว่าจะไปไหนเหนือใต้ออกตกก็ไม่ต้องจ่ายส่วนนี้แล้ว เราไม่เข้าใจว่าทำไมการใช้เงินของเค้าถึงไม่สิ้นสุด หลายๆ ครั้งที่เค้าอยากได้อะไรใหม่ เค้าก็จะมาพูดๆ แย่บๆ ว่าซื้อให้ได้ป่าว คือถ้ามันเป็นของจำเป็นเราก็ซื้อให้ กัดฟันผ่อนกันไปกับพี่อยู่แล้ว แต่พอเป็นของที่เราคิดว่าไม่จำเป็น เราก็ยืนย้นเสียงแข็งว่าไม่ซื้อให้ สุดท้ายถ้าเค้าอยากได้จริงๆ เค้าก็จะซื้อเอง ผ่อนเอง ซึ่งเราไม่ว่า แต่พอต้องผ่อนของ กลายเป็นว่าเงินไม่พอใช้ ก็มายืมเราอยู่ดี และเราไม่เคยได้คืนเป็นก้อน เค้าจะผ่อนจ่ายเสมอ แต่ไม่เคยใช้ครบก็มายืมอีก จนเราเหนื่อยใจละพูดไปว่า ยกหนี้ให้ แต่ต่อไปไม่ให้ยืมแล้วมามากกว่า 2 ครั้ง
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่ใจแข็ง ก็นั่นพ่อนั่นแม่อะคะ พอเห็นเค้าซึม บางทีน้ำตาไหล เราก็รู้สึกแย่มากๆ
หลายๆ ทีก็น้อยใจว่าทำไมเค้าถึงทนให้เรารู้สึกแย่ได้นะ ที่ว่าพ่อแม่รักลูกเสมอมันจริงรึป่าวนะ
ทั้งๆ ที่เราเคยพูดแล้วว่า เราต้องเก็บเงินนะ ถ้าเรามีโอกาสได้แก่ก็ไม่มีลูกมาเลี้ยงแบบพ่อแม่ตอนนี้นะ แล้วพ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีสมบัติให้ แล้วยังไม่ช่วยเก็บอีก แก่ไปจะทำยังไง เค้าก็เอาแต่เงียบแล้วทำหน้าซึม
เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แล้วเราก็ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย แต่หลายๆ ครั้งเราก็คิดว่า เอาเงินทั้งหมดที่มีออกมาให้เค้าเลยดีมั้ยนะ ถอนประกันที่มีออกมาให้เค้า แล้วก็ตายๆ ไปซะ เพราะยังไงชีวิตนี้ก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรอยู่แล้ว ทุกวันนี้อยู่เพื่ออะไรยังไม่รู้เลย ไม่มีมุมสบายใจในชีวิตแม้กระทั่งคนในครอบครัว
เรารู้ว่าสุดท้ายมันก็คงแก้ไรไม่ได้ เค้าก็คงยังคงไม่เข้าใจอยู่อย่างงั้น เราเองก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองไป
เรารู้ว่าพ่อแม่รักเรานะคะ เค้าเลี้ยงดูเรามาอย่างดี ดูแลเรามาอย่างดี แต่หลายๆ อย่างที่เค้าทำ ก็ทำให้เราไม่แน่ใจมากๆ เหมือนกัน
ถ้าใครเข้ามาอ่านก็ขอบคุณที่ให้โอกาสได้ระบายนะคะ
พ่อแม่ใช้เงินมากไปหรือเราอกตัญญู
เราเป็นพนักงานออฟฟิตทั่วไป ฐานะก็ทั่วๆ ไป เงินเดือนจริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่าน้อยจนเกินไปนะคะแต่ปัญหาอยู่ที่ว่ารู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในบ้านมันช่างสูงจัง
คือที่บ้านอยู่ด้วยกันหมด เรากับพี่ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านทั้งค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่ากินค่าน้ำไฟ ข้าวของทุกอย่าง แต่ไม่ได้ให้เงินพ่อแม่ใช้ส่วนตัวค่ะ เพราะพ่อมีบำนาญที่พอหาร 2 กับแม่แล้วยังเยอะกว่าเงินที่เราเหลือใช้ส่วนตัวแต่ละเดือนซะอีก
ปัญหาคือเค้ามักจะมายืมเงินเราอยู่ตลอด สิ้นเดือนยืมเท่านี้ พอเงินออกคืน ปลายเดือนยืมมากกว่าเก่า ทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ได้คืน เงินที่เราเอามาให้เค้ายืมได้ก็เป็นเงินที่เราเก็บเองทั้งนั้น ครอบครัวเราไม่ได้มีสมบัติอะไรให้เราก็เริ่มเก็บเงินเพื่อเอาไว้ใช้ชีวิตตอนแก่ได้บ้าง เพราะคงไม่มีลูกมีหลานหรือมีใคร น่าจะตายแห้งๆ อยู่ในบ้านคนเดียว
สิ่งที่ทำให้เราเครียดคือมันเหมือนเค้าไม่เข้าใจ เค้าเห็นเรามีเงินเก็บก็บอกว่าเค้าไม่เคยมีเงินเท่านี้เลยนะ แล้วเค้าก็คงคิดว่าเรารวยมาก (ทั้งที่จริงๆ เงินมันไม่ได้เยอะเลย) เราเคยบอกเค้าว่า ค่าใช้จ่ายในบ้านอ่ะ ลดลงได้มั้ย (เราจ่ายให้กองกลางครอบครัวเกินครึ่งของเงินเดือน) เค้าก็เอาแต่พูดว่าก็ไม่รู้จะไปลดตรงไหนมันจำเป็นทั้งนั้น เราก็บอกว่า อย่างของที่กินอ่ะ ซื้อธรรมดาๆ ได้มั้ย เค้าก็บอกว่าอยากให้กินของดีๆ (ยกตัวอย่างนะคะ เค้าเคยซื้อลูกชิ้นปลาที่ห่อนึงมีไม่ถึง 10 เม็ดแต่ราคาร้อยกว่าบาทมาทำแกงจืด ซึ่งหม้อนึงสำหรับ 4 คนห่อเดียวคงไม่พอ ละผักก็ออกแกนิกหมด หมูก็ออแกนิก ทุกอย่างคือดี แต่เราว่ามันเกินตัวไปหน่อย)
สุดท้ายเราก็ทำใจวาค่าใช้จ่ายในบ้านว่าคงลดไม่ได้แล้ว คุยดีๆ ก็แล้ว คุยโมโหก็แล้ว ร้องไห้ก็แล้ว สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำตาของพ่อแม่เหมือนกัน (โคตรอกตัญญูเลยใช่มั้ยคะ) เราคิดว่าเครียดไปก็เท่านั้น ถ้าเรายังพอเบียดบังส่วนตัวได้อยู่ไม่ลำบากถึงขั้นต้องไปเก็บผักบุ้งกินก็โอเค ปล่อยวาง
แต่มันก็ยังมีปัญหาอีก คือเค้ามายืมเงินเราอีก ทั้งที่เราจ่ายให้แทบจะทุกอย่างแล้ว ค่ากิน ถ้าเค้ากินของที่ซื้อมาในบ้านก็ไม่ต้องจ่าย ค่ารถต่างๆ เราก็ออกหมด ทั้งซ๋อมบำุรุง ค่าน้ำมัน ประกันบลาๆ ในขณะที่เรานั่งรถเมย์ก็ต้องมีส่วนค่าเดินทางอยู่ทุกวัน แต่เค้าไม่ว่าจะไปไหนเหนือใต้ออกตกก็ไม่ต้องจ่ายส่วนนี้แล้ว เราไม่เข้าใจว่าทำไมการใช้เงินของเค้าถึงไม่สิ้นสุด หลายๆ ครั้งที่เค้าอยากได้อะไรใหม่ เค้าก็จะมาพูดๆ แย่บๆ ว่าซื้อให้ได้ป่าว คือถ้ามันเป็นของจำเป็นเราก็ซื้อให้ กัดฟันผ่อนกันไปกับพี่อยู่แล้ว แต่พอเป็นของที่เราคิดว่าไม่จำเป็น เราก็ยืนย้นเสียงแข็งว่าไม่ซื้อให้ สุดท้ายถ้าเค้าอยากได้จริงๆ เค้าก็จะซื้อเอง ผ่อนเอง ซึ่งเราไม่ว่า แต่พอต้องผ่อนของ กลายเป็นว่าเงินไม่พอใช้ ก็มายืมเราอยู่ดี และเราไม่เคยได้คืนเป็นก้อน เค้าจะผ่อนจ่ายเสมอ แต่ไม่เคยใช้ครบก็มายืมอีก จนเราเหนื่อยใจละพูดไปว่า ยกหนี้ให้ แต่ต่อไปไม่ให้ยืมแล้วมามากกว่า 2 ครั้ง
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่ใจแข็ง ก็นั่นพ่อนั่นแม่อะคะ พอเห็นเค้าซึม บางทีน้ำตาไหล เราก็รู้สึกแย่มากๆ
หลายๆ ทีก็น้อยใจว่าทำไมเค้าถึงทนให้เรารู้สึกแย่ได้นะ ที่ว่าพ่อแม่รักลูกเสมอมันจริงรึป่าวนะ
ทั้งๆ ที่เราเคยพูดแล้วว่า เราต้องเก็บเงินนะ ถ้าเรามีโอกาสได้แก่ก็ไม่มีลูกมาเลี้ยงแบบพ่อแม่ตอนนี้นะ แล้วพ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีสมบัติให้ แล้วยังไม่ช่วยเก็บอีก แก่ไปจะทำยังไง เค้าก็เอาแต่เงียบแล้วทำหน้าซึม
เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แล้วเราก็ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย แต่หลายๆ ครั้งเราก็คิดว่า เอาเงินทั้งหมดที่มีออกมาให้เค้าเลยดีมั้ยนะ ถอนประกันที่มีออกมาให้เค้า แล้วก็ตายๆ ไปซะ เพราะยังไงชีวิตนี้ก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรอยู่แล้ว ทุกวันนี้อยู่เพื่ออะไรยังไม่รู้เลย ไม่มีมุมสบายใจในชีวิตแม้กระทั่งคนในครอบครัว
เรารู้ว่าสุดท้ายมันก็คงแก้ไรไม่ได้ เค้าก็คงยังคงไม่เข้าใจอยู่อย่างงั้น เราเองก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองไป
เรารู้ว่าพ่อแม่รักเรานะคะ เค้าเลี้ยงดูเรามาอย่างดี ดูแลเรามาอย่างดี แต่หลายๆ อย่างที่เค้าทำ ก็ทำให้เราไม่แน่ใจมากๆ เหมือนกัน
ถ้าใครเข้ามาอ่านก็ขอบคุณที่ให้โอกาสได้ระบายนะคะ