[ความเดิม] เพื่อแสวงหาเจได แล้วฝากฝังเบบี้โยดาไว้, ดิน จาร์ริน เลยพยายามตามหาพวกพ้องแมนดาโลเรี่ยนคนอื่นๆ ที่เหลือรอดจากการล้างบางของพวกจักรวรรดิเพียงไม่มาก ท่ามกลางกาแล็คซี่แสนกว้างใหญ่ (เพราะหวังใจจะได้เบาะแสเจไดจากพี่น้องชาวแมนดาลอร์ด้วยกัน)
เขายอมรับงานแปลกๆ อย่างการพาเอเลี่ยนกบสตรีขึ้นยาน เดินทางผ่านห้วงอวกาศด้วยความเร็วต่ำกว่าแสง เพื่อพาหล่อนพร้อมกับไข่ที่ยังมิได้ผสม ไปพบคู่ครองของแม่หญิงกบ ณ ดวงจันทร์ของดาวทราสค์
เนื่องจากมันคือเงื่อนไขที่ต้องผ่าน หากอยากให้คุณพี่กบของแม่หญิงยอมเปิดปาก บอกข้อมูลแมนดาโลเรี่ยน
การเดินทางพบอุปสรรคจนสภาพยาน 'ใบมีดโกน' ของพระเอกพังยับ แต่นายช่างแมนโดก็ปะผุให้มันพอขยับได้ แล้วรีบขับไปต่อยังจุดหมายของภารกิจ
[สปอยล์] แม้พระเอกหย่อนใบมีดโกนลงท่าจอดยานอย่างขาดความสวยงาม เนื่องจากสภาพแสนบุโรทั่งของพาหนะคู่ใจ
แต่ทั้งเด็ก, เขา, ผู้จ้างวาน ก็ถึงที่หมายในสภาพครบ 32 ทุกคน
แม่หญิงได้เจอกับคู่บุพเพสันนิวาสของหล่อนสมปรารถนา
หมอนั่นขอบคุณพระเอกเป็นภาษากบพร้อมชี้โบ๊ชี้เบ๊ว่า เคยเห็นแมนดาโลเรี่ยน ณ โรงเตี๊ยม อันตั้งอยู่ไม่ห่างไกลเท่าไรนัก
โดยขณะเดียวกัน มีสตรีลึกลับคนหนึ่งแอบเฝ้ามองเหตุการณ์ อย่างดูน่าสงสัยพิกล
จาร์รินจ่ายเงินเอเลี่ยนหน้าปลาทอง (มอน คาลามารี่/Mon Calamari) แถวนั้นแลกกับการซ่อมแซมใบมีดโกน ก่อนรุดสู่โรงเตี๊ยมแล้วซื้อข้อมูลแทนอาหาร
ผู้ดูแลร้านจึงติดต่อเอเลี่ยนหน้าปลาหมึก (ชาวควอร์เรน/Quarren) ซึ่งอาสาจะพาพระเอกไปเจอแมนดาโลเรี่ยนคนอื่น ด้วยเรือลากอวนของตัวเอง
ชาวควอร์เรนบอกว่าจ่ายตังค์มา แล้วข้าจะให้เจ้านั่งเรือ ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงจุดที่พวกแมนดาโลเรี่ยนอยู่กันละ
ระหว่างเดินทางมันก็ว่าง ควอร์เรนเลยชวนพระเอกดูโชว์ให้อาหารสัตว์ร้ายในเรือ เพื่อความบันเทิงของเด็กน้อยที่สปีชีส์เดียวกับโยดา
ก่อนอาศัยชั่วขณะที่พระเอกการ์ดตก ผลักเบบี้โยดาตกน้ำให้เจ้าตัวอันตราย มามาคอร์ (Mamacore) งาบเด็กเข้าปาก
พระเอกตกใจรีบโดดลงไปช่วยโดยไม่ทันคิด จึงติดกับ, โดนพรรคพวกบนเรือลากอวนของควอร์เรนตัวแสบ ปิดกรงขังไว้ใต้วารี
พระเอกคับขันหนัก เพราะถ้าเสียเวลากลั้นหายใจไปช่วยเด็กจากมามาคอร์ ก็ไม่มีทางกลับขึ้นมาสูดอากาศอย่างเพียงพอได้ทัน
หากยังมีลูกกรงด้านบน กับแก๊งค์นักเลงควอร์เรนคอยขวาง มิให้ขึ้นจากน้ำเช่นนี้
ในนาทีชีวิตนั่นเอง ที่ผู้สวมเกราะเบสคาร์/โลหะอันทั้งทนทานและล้ำค่าของชาวแมนดาลอร์ 3 คน เหาะจากฟากฟ้ามาต่อสู้กับแก๊งค์อันธพาล (ซึ่งหวังฆ่าพระเอกเพื่อเอาเบสคาร์ไปขาย)
แก๊งค์ควอร์เรนจอมแสบกลายเป็นฝ่ายถูกฆ่าตาย (ไม่ก็โดนผลักตกทะเล) ยกเรือ
โบ-คาธาน ครีซ (Bo-Katan Kryze) กับพรรคพวก ช่วยเหลือทั้งจาร์รินและเบบี้โยดาสำเร็จ
ตามลำดับจากซ้ายไปขวา: คอสคา รีฟส์ (Koska Reeves), โบ-คาธาน, แอ็กซ์ วูฟส์ (Axe Woves)
เมื่ออุณหภูมิของเรื่องร้อนลดลง, โบ-คาธานกับพรรคพวกถอดหมวกออก เพราะหวังเริ่มบทสนทนาแบบเห็นหน้าค่าตากัน
แต่นั่นดันทำให้จาร์รินของขึ้น เนื่องจากการกระทำของทั้ง 3 ขัดกับจารีตห้ามถอดหน้ากากซีซั้วของแมนดาโลเรี่ยน ที่เขายึดถือ
โบ-คาธาน ผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายในบ้านตระกูลครีซจึงตระหนัก ว่าจาร์รินคือบุตรแห่งกลุ่มผู้เฝ้ามอง (Child of the Watch)
อันหมายถึงสมาชิกของกลุ่มที่เป็นลัทธิย่อย ซึ่งแตกตัวออกจากแมนดาลอร์กระแสหลัก
The Watch ศรัทธาในรากเหง้าดั้งเดิมของศาสนา เลยแยกกันอยู่กับพวกแมนดาโลเรี่ยนทั่วไป และเป้าหมายคือฟื้นฟูวิถีโบร่ำโบราณให้รุ่งโรจน์ชัชวาลใหม่อีกคำรบ
จาร์รินสะบัดบ็อบใส่โบ-คาธาน เพราะไม่ไว้ใจ... เขาไม่เคยทราบมาก่อน ว่าหลักศรัทธาของตัวเองเป็นของเฉพาะกลุ่มจัด
แต่เมื่อพี่น้องของควอร์เรนที่ตายบนเรือตามรังควานเขา แล้วโบ-คาธานกับพรรคพวกอุตส่าห์ถ่อมาช่วยอีกครั้ง
จาร์รินจึงเปิดใจยอมรับฟัง เรื่องที่ทายาทบ้านครีซ อยากให้เค้ารับรู้
ทายาทครีซเล่าว่า ทราสค์คือตลาดมืด ซึ่งสิ่งของมากมายของชาวแมนดาลอร์ (ที่เคยโดนจักรวรรดิยึดหน้าด้านๆ) จะถูกส่งต่อไปขายทอดตลาด
เธอกับพรรคพวกเลยทำตัวเป็น 'โจรสลัด' ไล่ตบเอาสินทรัพย์แมนดาลอร์คืน มาพักนึงแล้ว
โบ-คาธาน กำลังพยายามรวบรวมทั้งแมนดาโลเรี่ยนและอาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะหวังจะทวงคืนดาวบ้านเกิดและฟื้นฟูอารยธรรมของลัทธินักสู้
เธอชวนจาร์รินมาเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ระยะยาว แต่พระเอกสนแค่เรื่องหาเจได เธอเลยยื่นข้อเสนอแบบม้วนเดียวจบให้
คือเขาต้องช่วยทำภารกิจ ปล้นชิงสินค้าบนยานขนส่งของจักรวรรดิลำนึง เพื่อแลกกับข้อมูลของเจไดคนที่เธอรู้จัก
จาร์รินจึงยอมตอบแทน ความเกื้อกูลจากโจรสลัด ด้วยประการฉะนี้ (และระหว่างคาวบอยอวกาศออกลุย เบบี้โยดาก็ถูกเอาไปฝากไว้กับสามีภรรยากบ)
ภารกิจปล้นสินค้าดำเนินไปด้วยดีอยู่สักพัก เนื่องจากบนยานขนส่งมีแค่ทัพสตอร์มทรูเปอร์ธรรมดาๆ ที่เป็นมือปืนเป้าสะอาดระดับตำนาน
ทว่าตอนยึดคลังอาวุธสำเร็จ, โบ-คาธาน ดันเผยว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือการ 'ยึดยาน' ของจักรวรรดิทั้งลำ
มันทำให้จาร์รินหัวเสียพอควร เพราะเกินกว่าที่ตกลงกัน
อย่างไรก็ตาม เขาทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาช่วยโบ-คาธานต่อ เนื่องจากขืนงอนแบบซี้ซั้ว คงชวดข้อมูลเจไดเป็นแม่นมั่น
ฝั่งกัปตันยานจักรวรรดิ เมื่อทราบว่ายานจะโดนยึด ก็รายงานสถานการณ์ฉุกเฉินแก่มอฟฟ์กิเดียน เพื่อขอกำลังเสริม
แต่เมื่อฟังรายงานจากกัปตันเสร็จ กิเดียนกลับประเมินว่าควรทำลายยานทิ้งเสีย เพื่อมิให้ตกไปอยู่ในมือของโจรสลัด
กัปตันพยายามพลีชีพไปพร้อมกับยาน ทว่าทีมแมนโดขัดขวางทัน
โบ-คาธานไม่ฆ่ากัปตัน แล้วถามหาที่อยู่ของมอฟฟ์กิเดียน กับกระบี่แสงสีดำ
กัปตันเฉลยแค่กระบี่ดำอยู่กับกิเดียน แต่ไม่ยอมพาไปหากิเดียนซะให้ยาก
เขาฆ่าตัวตายด้วยความหวาดกลัวต่อกิเดียน จนโบ-คาธานสูญเสียโอกาสที่จะเข้าถึงตัวอริ
โบ-คาธานลองชวนพระเอกเข้าปาร์ตี้อีกหน แต่ยังคงได้รับการปฏิเสธ เลยแจ้งว่าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกได้นะเออ แล้วเผยข้อมูล 'อาโซก้า ทาโน่' ให้ฟัง
นายจงไปที่เมืองคาโลดัน (Calodan) บนคอร์วัส (Corvus) ดาวแห่งไพรวัน และบอกเจไดคนนั้นว่าโบ-คาธานส่งมาซะ
พระเอกรับเด็กคืนจากสามีภรรยากบ และบ่นอุบอิบเรื่องที่มอน คาลามารี่ ซ่อมใบมีดโกนได้ไม่ดีเท่าไหร่ ก่อนขับยานไปหาเจไดคนที่โบ-คาธานแนะนำ
[วิจารณ์] หลังจากยืดมา 2 ตอน บทจะเข้าเรื่องก็เข้าทันที แบบค่อนข้างมีเซอร์ไพรส์
ถึงจะได้ข่าวโบ-คาธาน (ซึ่งเคยมีบทในอนิเมชั่นซีรีส์ The Clone Wars กับ Rebels หลายตอน) ล่วงหน้า
แต่ไม่นึกว่าจะโผล่มาเร็วขนาดนี้ (ยังไม่ถึงครึ่งทางของซีซั่น)
แถมพรรคพวกที่เป็นผู้หญิงของหล่อน ดันเป็นฝ่ายเห็นพระเอกแถวท่าจอดยานก่อน แล้วบุกมาช่วยตอนคับขันอีก
ด้านมุกตลกนี่ก็ใช้ได้ ไม่เหมือนตอนก่อน ที่ตลกร้ายจนชวนกุมขมับ
สมกับเป็นเมืองท่า, อาหารทะเลเขาต้องกินสดๆ กัน มันถึงจะอร่อยเหาะสินะ
ตอนนี้ยาวแค่ราว 30 นาที สั้นกว่าปกตินิด แต่ทั้งเนื้อหาและคุณภาพจัดเต็ม
นอกจากซีนที่ต้องมีเพื่อเล่าเรื่องหรือเรียกเสียงฮาบ้าง ทุกอย่างก็มุ่งตรงไปสู่จุดหมายเน้นๆ
คิวบู๊ของทีมโบ-คาธานกับพระเอก ค่อนข้างลีลาดี และดูเพลินทีเดียว
ข้อเสียนี่ผมเดาเอาเองว่า สำหรับคนที่ไม่รู้จักโบ-คาธาน น่าจะยังสงสัยว่าหล่อนเป็นใคร มีความสำคัญตรงไหน? อยู่ดี
แม้ในตอนนี้จะบอกให้ทราบคร่าวๆ ผ่านบทสนทนาหลายประโยคแล้ว แต่การที่ทางผู้สร้างไม่ทำฉากย้อนหลัง เล่าเรื่องตัวละครแบบลงรายละเอียด
ก็อาจทำให้จับใจความไม่ทัน, หรือรู้สึกข้อมูลของหล่อนไม่ค่อยกระจ่างชัดนัก
แต่อย่างว่า สารพัดวีรกรรมของเธอในอนิเมชั่นซีรีส์ มันใช่ว่าจะมีความสำคัญต่อเนื้อหาตอนนี้มากนัก
เรื่องการเมืองของชาวแมนดาลอร์ หรือประวัติของโบ-คาธาน ส่วนที่เกี่ยวกับกิเดียน, อาโซก้า หรือดาร์คเซเบอร์ (กระบี่ดำ) ก็รอเล่าโอกาสอื่นได้
แถมเผลอๆ ควรเก็บงำไว้ก่อนอย่างนี้แหละ เพื่อให้ซีรีส์มีปริศนา รักษาความน่าติดตามชมไว้
[ปล.] ถึงเลิกออกทะเลไวกว่าที่เคยเดาไว้ แต่ก็น่าจะยังไม่เจอลูกศิษย์อนาคินตอนหน้า
พระเอกคงต้องไปทำงานพิเศษหาลำไพ่ (เพราะตอนนี้ควักกระเป๋าหลายรอบซะ) หรือไม่ก็ซ่อมใบมีดโกนก่อนอะนะ
เห็นสภาพยานปัจจุบันแล้ว กลัวเฮียเค้าเดินทางไม่ถึงเป้าหมายเป็นบ้า
[Spoil+Review] The Mandalorian S2 Ep.3 >>ความเกื้อกูลจากโจรสลัด