“Golden Slippers” เครื่องมือส่งจรวด NASA

ในภารกิจอวกาศของ NASA แผนการใหญ่ที่ไม่น่าคิดได้คือการจ้างกลุ่มคนงานเหมือง  ซึ่งอาจทำให้นึกถึงภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องหนึ่ง (Armageddon /1998)  แต่ย้อนกลับไปในช่วงกลางทศวรรษที่ 1960 เมื่อองค์กรอวกาศพยายามจะไปถึงดวงจันทร์  เมื่อพวกเขากำลังมองไปที่เหมืองถ่านหิน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจจากคนงานเหมืองและเครื่องมือในเหมือง

ตอนนั้น NASA เพิ่งเสร็จสิ้นการออกแบบ Saturn V ซึ่งเป็นรูปแบบของจรวดที่มีน้ำหนักเกือบ 3,000 ตันที่จะพามนุษย์คนแรกไปยังดวงจันทร์ แต่พวกเขายังไม่รู้วิธีที่จะส่งจรวดมหึมานี้จากอาคารประกอบไปยังสถานยิงจรวดขีปนาวุธได้อย่างไร

ในตอนแรกพวกเขาพูดคุยกันว่าจะขุดคลองและใช้เรือเพื่อขนส่งจรวดหนักนี้ แต่เรือบรรทุกเกี่ยวข้องกับความท้าทายทางวิศวกรรมหลายประการ เช่น วิธีการขับเคลื่อน, การบังคับเลี้ยว และการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคงสำหรับจรวดในขณะเคลื่อนที่  แต่ต่อมา ทางรถไฟคือทางเลือกที่ชัดเจนที่สุดที่ได้รับการพิจารณา โดยวิศวกรกลุ่มหนึ่งถูกส่งออกไปเพื่อศึกษากลไกการยกระดับที่ใช้โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งในคาบสมุทร Gulf

ในเดือนมกราคมปี 1962 American Machine & Foundry Company ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์สันทนาการที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ซึ่งผลิตทุกอย่างตั้งแต่อุปกรณ์ในสวนไปจนถึงเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูไปจนถึงเรือยอทช์  ได้นำเสนอแผนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้รางรถไฟร่วมกัน ซึ่งน้ำหนักของจรวดได้รับการสนับสนุนโดยเรือบรรทุกแต่การขับเคลื่อนทำได้โดยราง

รายละเอียดต่างๆถูกนำไปดำเนินการทันทีเมื่อรองหัวหน้าของ the Future Launch Systems Study Office ได้รับโทรศัพท์จาก Barry Schlenk ตัวแทนของ Bucyrus-Erie Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทำเหมือง   ซึ่ง Schlenk เคยได้ยินเกี่ยวกับปัญหาการขนส่งของ NASA และเสนอที่จะช่วยเหลือ
โดยได้ส่งรูปถ่ายโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Steamshovel ของ Bucyrus-Erie ที่ใช้ในทุ่งถ่านหินของรัฐเคนตักกี้ไปให้รองหัวหน้าดู  ซึ่งก็มียานพาหนะที่ดูเหมือนจะเหมาะกับความต้องการของ NASA โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับความสามารถและความสมดุลของน้ำหนักบรรทุกบนพื้นที่ไม่สม่ำเสมอ

A power shovel ที่ใช้ในการขุดเหมือง
Mobile Launcher Platform 3 ถูกนำออกไปโดย crawler-transporter Cr.ภาพ NASA

ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน ทีมวิศวกรจาก Launch Operations Directorate (LOD) ได้ไปที่ Paradise เมืองเล็ก ๆ ใน Muhlenberg County รัฐ Kentucky เพื่อชมการใช้เครื่องตักตีนตะขาบ Bucyrus-Erie   วิศวกรเฝ้าดูด้วยทึ่งขณะที่รถ crawler ที่หนัก 2,700 เมตริกตันหยิบถ่านหินและหินจำนวนมากขึ้นมาและพามันออกไปอย่างสง่างาม แท่นทำงานทรงตัวด้วยกระบอกสูบไฮดรอลิกที่มุมทั้งสี่และแทบจะไม่ขยับเลย ในบริเวณใกล้เคียง
พวกเขาเห็นพลั่วตีนตะขาบอีกตัวที่กำลังก่อสร้างสำหรับ บริษัทถ่านหิน Peabody Coal Company ซึ่งมีความสามารถในการรับน้ำหนักเกินกว่าน้ำหนักที่คาดไว้ของ Saturn C-5 และอุปกรณ์สนับสนุน

ตัวแทนของ LOD รู้สึกประทับใจในศักยภาพของ crawlers แต่เมื่อ NASA ปิดข้อตกลงกับ Bucyrus-Erie  บริษัทMarion Power Shovel Co.ที่สร้าง crawlers ได้ทำการประท้วง  พวกเขาเรียกร้องให้ NASA ใช้การเสนอราคาแข่งขันและมอบสัญญาให้กับบริษัทใดก็ตามที่เสนอราคาต่ำสุด  ต่อมามีบริษัท อุตสาหกรรมยี่สิบสองแห่งส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมการจัดซื้อนี้  แต่มีสองข้อเสนอเท่านั้นคือ Marion ในราคา 8 ล้านดอลลาร์ และ Bucyrus-Erie ในราคา 11 ล้านดอลลาร์ ที่ NASA สนใจ

โดย Marion ชนะสัญญา แต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือกผู้จัดการที่มีความสามารถสำหรับโครงการ  พวกเขาไม่ได้เลือกคนหนึ่งจากบริษัทของแต่ละคน แต่มาจากการเห็นพ้องของบริษัททั้งหมด  โดยคนที่ได้มาจาก Bucyrus-Erie ชื่อของเขาคือ Philip Koehring  เมื่อถึงเวลาที่ Marion ได้ทำสัญญาเสร็จสิ้นในอีกสองปีต่อมาราคาของมันก็สูงขึ้นกว่า 11 ล้านดอลลาร์

 Marion ได้สร้างเครื่องลำเลียงตีนตะขาบ 2 เครื่องสำหรับ NASA แต่ละลำมีขนาด 131 ฟุตคูณ 114 ฟุต และหนัก 2,700 ตัน ซึ่งหนักพอ ๆ กับน้ำหนักบรรทุก  รถแต่ละคันมีแปดราง (สองรางในแต่ละมุม) แต่ละรางมี 57 shoeโดยแต่ละshoes มีน้ำหนัก 900 กก. วิศวกรเรียกสิ่งนี้ว่า “Golden Slippers”

ในการใช้ระบบลำแสงเลเซอร์นั้น   crawlerจะรักษาระดับของ Mobile Launcher Platform ในขณะที่มันสามารถจัดระดับความลาดชันได้มากถึงห้าองศา  ระบบเลเซอร์ชี้ตำแหน่งเป้าหมายให้ความแม่นยำที่แน่นอน  Crawlerจะเคลื่อนที่อย่างช้าๆด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 1 ไมล์ต่อชั่วโมง กำลังทั้งหมดมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า 16 ตัวที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล V16 สี่ตัว  โดย crawler-transporter (รถบรรทุกตีนตะขาบ) จะทำการขนย้าย Mobile Launch Platform  ไปตั้งอยู่ในอาคารประกอบยานพาหนะหรือที่ฐานปล่อยพร้อมด้วยกระสวยอวกาศที่อยู่บนแท่น 

Crawler-Transporter ของ NASA (Cr.https://forfun.com/Iev0)
Crawlerway ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนัก เป็นทางเดินระหว่างอาคารประกอบยานพาหนะ

สำหรับเส้นทางการเคลื่อนย้ายที่ปลอดภัยของ crawler-transporter ที่ร่วมกับวิศวกรขนส่งสินค้านี้ ได้รับการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยมีความกว้างเท่ากับทางด่วน 8 ช่องจราจรจากอาคารประกอบยานพาหนะไปยังแท่นยิงในระยะทางประมาณ 4 ไมล์  รางคู่แต่ละรางคั่นด้วยแถบมัธยฐาน (a median strip) ฐานรากประกอบด้วยทรายที่บดอัด ตามด้วยชั้นมวลรวมบดหนาหนึ่งเมตรแล้วปิดทับด้วย blacktop sealer  crawlerway นี้สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้เกิน 58,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

Crawler-transporters เป็นเครื่องจักรที่มีลักษณะเฉพาะ  เป็นยานพาหนะขนส่งทางบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตั้งแต่ปี1965 crawlers ทั้งสองที่มีชื่อเล่นว่า  “Hans” และ “Franz” ได้บรรทุกทุกอย่างตั้งแต่จรวด Saturn V ระหว่างภารกิจของอพอลโลไปจนถึงโปรแกรม Skylab และ Apollo – Soyuz

หลังจากโปรแกรมการลงจอดบนดวงจันทร์และ Skylab สิ้นสุดลง   crawlers ยังคงทำงานต่อไปโดยนำรถรับส่งอวกาศไปยังฐานปล่อยยานเป็นเวลา 30 ปี ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า NASA คาดหวังว่ายานพาหนะมหึมานี้จะให้บริการแก่โครงการ Artemis ซึ่งจะส่งผู้หญิงคนแรกและชายคนต่อไปไปยังดวงจันทร์
โดย crawler-transporter ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะได้บรรทุกจรวด Space Launch System (SLS) ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ไปอยู่บนดาวอังคารได้ในวันหนึ่ง

crawlers “Hans” และ “Franz”
Armageddon (1998 film)  วันโลกาวินาศ
Armageddon (ภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวถึงในบทความข้างต้น) เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อีกเรื่องของฮอลลีวู้ดในปี ค.ศ. 1998 โดยรัฐบาลสหรัฐฯเรียกร้องให้ช่างขุดเจาะบ่อน้ำมันและทีมงานที่มีสีสันของเขาช่วยโลกด้วยการบินไปยังดาวหางเพื่อทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เพื่อเบี่ยงเบนเส้นทางการชนกันของโลก นำแสดงโดย บรูซ วิลลิส, ลิฟ ไทเลอร์, เบน แอฟเฟล็ก, โอเวน วิลสัน, บิลลี่ บ็อบ ทอร์นตัน, ไมเคิล คลาร์ก ดันแคน, สตีฟ บูเซมี กำกับการแสดงโดย ไมเคิล เบย์ อำนวยการสร้างโดย เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์

เรื่องย่อ 
ดาวหางยักษ์ขนาดเท่ารัฐเท็กซัส กำลังพุ่งเข้าหาโลกด้วยความเร็วกว่า 20,000 ไมต์ต่อชั่วโมง เหลือเวลาเพียง 18 วันก่อนดาวหางพุ่งชนโลก มีทางเดียวที่จะหยุดหายนะวันสิ้นโลกครั้งนี้ได้ คือการฝังระเบิดนิวเคลียร์ไว้ที่แกนกลางของอุกกาบาต องค์การนาซ่าและคนทั้งโลกฝากความหวังเดียวไว้กับ แฮร์รี่ สแตมป์เพอร์และลูกทีมที่ไม่มีพื้นที่ใดบนโลกที่พวกเขาขุดเจาะไม่สำเร็จ พวกเขามีเวลา 12 วันในการฝึกหลักสูตรนักบินอวกาศเพื่อขึ้นไปทำภารกิจ สุดระทึกและอันตรายถ้าพวกเขาพลาดหมายถึงหายนะของโลก

ที่มา
- A Trip by Barge or a Trip by Rail?, NASA
- The Crawler Makes Its Debut, NASA
- The Crawler – Transporter, NASA
- Building a New Kind of Road, NASA
- Wikipedia

Cr.https://www.amusingplanet.com/2020/11/how-mining-engineers-helped-nasa-get-to.html / KAUSHIK PATOWARY
Cr.https://en.wikipedia.org/wiki/Mobile_launcher_platform
Cr.https://movie.kapook.com/armageddon

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่